++++

คลิกที่ + - เพื่อเพิ่ม ลดความเร็วในการดูภาพ

===== Photo album =====
  1. รูปถ่ายของ แมงปอ ชลธิชา มาเยือนเวทีไท 18 สค.2550
  2. รูปถ่ายของ น้องเบนซ์ จูเนียร์ บนเวทีไท 18 สค.2550
  3. รูปถ่ายของไผ่ พงศธร มาออกรายการ 07 show 12 สค 50
  4. รูปถ่ายของ ก็อท จักรพันธ์, แพรวา พัชรี, ไผ่ พงศธร, รัชนก ศรีโลพันธ์, ดอกอ้อ ทุ่งทอง บนเวทีไท 11 สค.50
  5. รูปถ่ายพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  6. รูปถ่ายไหมไทย ใจตะวัน บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  7. ภาพบรรยากาศ งานมหกรรมคอนเสิรต์ "ด้วยรักแด่ครูสลา" 11 มี.ค.50

ค้นหาทุกอย่างในเวบนี้


สถิติผู้เข้าชม คน
Stats (เริ่มนับ 23 ส.ค.2550-10.00 น.)

  1. Clip Video คอนเสิร์ต เสียงอิสาน ณ เวทีไทย ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.2550
  2. clip video ไผ่ พงศธร , พี สะเดิด, แพรวา พัชรี ,ตั๊กแตน ชลดา มาออกรายการจันทร์พันดาว 10 ก.ย.2550
  3. MV 6 เพลงสุดม่วนของ หมอลำคู่เอก ปฤษณา วงศ์ศิริ & บานเย็น รากแก่น
  4. MV รวม 7 คลิปวิดีโอการแสดงสดของ ไหมไทย ใจตะวัน (สมัยอยู่เสียงอีสาน)
  5. MV ศิริพร อำไพพงษ์ โบว์รักสีดำ |

Thursday, November 1, 2007

รวมเพลงของ อรวี สัจจานนท์

จักรดาวอาลัย
อรวี สัจจานนท์
G

ดวงจำปา
อรวี สัจจานนท์
B

....ดนตรี......
ลาแล้ว จักรดาว
พวกเราขอลา ไปก่อน
ลาแล้วถิ่น กินนอน
ร้าวรอน
ด้วยอาวรณ์ร้อนอาลัย
.ความ บูชา
เพียงสองปีเรียนมา ล้นใจ
เพราะได้ผล ยิ่งใหญ่
เข้มแข็งแกร่งใน ทางดี.
.ลาแล้ว จักรดาว
พวกเราขอลา ไปที
ลามิตรที่ อารีย์
คลุกคลี
ร่วมกันมาและอาจารย์.
ลา ดวงใจ
เคยผูกมิตรรักใคร่
มา นาน
แสน สุดซึ้ง ซาบ ซ่าน
ไม่ลืมนงคราญ
ความหวานเคยผ่านมา.
.ลาแล้ว จักรดาว
ด้วยเราถึงคราว อำลา
ลาหอที่ เจนตา
ขอลา
ด้วยอาลัยเหมือนใจรอน
.ลา เพียงกาย
ใจเฝ้าหวนไม่หน่าย
อา วรณ์
โถลูกน้อย ลา ก่อน
ไม่ลืมรังนอน
คอนน้อย ในจักรดาว
..
.



....ดนตรี........
โอ้ดวงจำปา เวลาซมดอก
คิดถึง บ้านซ่อง
มองเห็น หัวใจ
เฮานึกขึ้นได้
ในกลิ่นเจ้าหอม
เห็นสวน ดอกไม้
บิดา ปลูกไว้ ตั้งแต่ไดมา
เวลาหงอยเหงา
ยังซ่วย บรรเทา
ให้หายโศกา.
โอ้ดวงจำปา
คู่เคียง เฮามา
แต่ยามน้อยเอย
.กลิ่นเจ้าสำคัญ
ติดพันหัวใจ
เป็นตาฮักใคร่
แพงไว้ เซยซม
ยามเหงา เฮาดม
เอ๋ยจำปาหอม
เมื่อดมกลิ่นเจ้า
พานพบเพื่อนเก่า
ที่ได้พรากจากไป
เจ้าเป็นดอกไม้
ที่งาม วิไล ตั้งแต่ไดมา
โอ้ดวงจำปา
มาลา ขวัญฮัก
ของเรียมนี่เอย
....ดนตรี........
โอ้ดวงจำปา
บุปผาเมืองลาว
งามดังดวงดาว
ซาวลาวปลื้มใจ
เมื่อตก อยู่ใน
แดนดินลานซ้าง
เมื่อได้พลัดพราก
อดีตพลัดจาก
บ้านเกิดเมืองนอน
ข้อยจะเอาเจ้า
เป็นเพื่อนฮ่วมเหงา
เท่าสิ้นชีวา
โอ้ดวงจำปา มาลางามจริง
มิ่งเมืองลาวเอย
โอ้ดวงจำปา มาลางามจริง
มิ่งเมืองลาวเอย
..
.




น้ำตาฟ้า
อรวี สัจจานนท์
G

น้ำใจลม
อรวี สัจจานนท์
G

....ดนตรี......
..เขาบอกว่าฟ้า
ร้องไห้ออกมา เป็นน้ำฝน
อยากรู้นัก ฟ้าที่เบื้องบน
ต้องมาร้องไห้เพราะใคร
หรือฟ้าสงสาร
คนอย่างฉันถูกหลอกเรื่อยไป
ถูกเขาลวงเขาล้วงหัวใจ
เอาไปต้มยำทำแกง
.ฝนฟ้ากระหน่ำ
เสียงฟ้าคำรามดูน่า กลัว
น้ำตาฟ้าหลั่งมารดตัว
รดหัวใจฉันจนชา
ฉันคนผิดหวัง
มีเคราะห์กรรมไร้วาสนา
เขาเลยไม่รักไม่ยอมพูดจา
หลอกลวงให้ฉันต้องตรม
.ฉัน มัน คนซื่อ
ไม่เคยฝึกปรือ
ในเรื่อง ความรัก
เพิ่งเคยได้รู้
เพิ่งเคยได้ลอง
เพิ่งเคยรู้ จัก
สุดท้ายต้องมาอกหัก
ไม่รู้จะดามยังไง
.เขาบอกว่าฟ้า
ร้องไห้ออกมา ให้ฉัน
ฟ้าสงสารและคงผิดหวัง
ที่ชักนำให้ฉันพบเธอ
น้ำตาที่ไหลจากความตั้งใจ
ไม่ได้พลั้งเผลอ
ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ
ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย
....ดนตรี........
.ฉัน มัน คนซื่อ
ไม่เคยฝึกปรือ
ในเรื่อง ความรัก
เพิ่งเคยได้รู้
เพิ่งเคยได้ลอง
เพิ่งเคยรู้ จัก
สุดท้ายต้องมาอกหัก
ไม่รู้จะดามยังไง
.เขาบอกว่าฟ้า
ร้องไห้ออกมา ให้ฉัน
ฟ้าสงสารและคงผิดหวัง
ที่ชักนำให้ฉันพบเธอ
น้ำตาที่ไหลจากความตั้งใจ
ไม่ได้พลั้งเผลอ
ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ
ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย
..
.



....ดนตรี........
ลม เจ้าเอย
เจ้าช่วยเป็นพยาน
เขาเคยฝากคำหวาน
ผ่านมาให้ฟัง.
เคยพูดจาหยอกล้อ
เคยเคลียคลอไม่ห่าง
ลมพัดมาใจข้าสะท้าน
เขามาจืดจางไป.
ลม เจ้าเอย
พัดน้ำตาไปที
ความรักและความดี
ไม่อาจมัดใจ
เคยสัญญาต่อกัน
ขอรักจนไม่หายใจ
แต่เขากลับมาทำใจร้าย
ทิ้งกันไปได้ลง
.ฝาก ลมไป ช่วยตัดพ้อ
ต่อ ว่าเขาที่ลืมสัญญา
ผ่านไปกี่หน้าฝน
ลมหนาวเริ่มโชยพัดมา
ลมก็ยังพัดเตือนใจข้า
ไม่เห็นไปเตือนใจเขา
.ลม เจ้าเอย
พัดความเศร้าไปที
ใจของข้าดวงนี้
ถูกเขาข่มเหง.
วอนพัดมาอีกครั้ง
พัดคราบน้ำตาแห้งเอง
ช่วยพลัดพรากคนชอบข่มเหง
ให้หายไปจากใจฉัน
....ดนตรี.....
.ลม เจ้าเอย
พัดความเศร้าไปที
ใจของข้าดวงนี้
ถูกเขาข่มเหง.
วอนพัดมาอีกครั้ง
พัดคราบน้ำตาแห้งเอง
ช่วยพลัดพรากคนชอบข่มเหง
ให้หายไปจากใจฉัน
..
.




ปาฏิหาริย์
อรวี สัจจานนท์
C

สัญญาหน้าไฟ
อรวี สัจจานนท์
F#

....ดนตรี..........
.เมื่อเราเจอกัน
เจอกันแค่ครั้งเดียว
ก็ผูกพันเหมือน
ใกล้ชิดมานาน
บอกไม่ถูกว่าทำไม
หรือเราจะเคย
ได้เจอกันชาติก่อน
.ต่างใจตรงกัน
มองตาก็เข้าใจ
แต่คงเป็นเพียง
ได้แค่มองตา
อยากจะกอดเก็บเธอไว้
แต่พบกันเมื่อสาย
ไม่อยากจะแย่งใคร.
>น่าจะเจอกันมาตั้งนาน
ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร
อยากให้มันมีปาฏิหาริย์
ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป
จะไม่ยอมให้เราคลาดกัน
ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร
มันน่าเสียดาย
.น่าจะเจอกันมาตั้งนาน
ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร
อยากให้มันมีปาฏิหาริย์
ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป
จะไม่ยอมให้เราคลาดกัน
ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร
พบกันสายไป
มันน่าเสียดาย
ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
....ดนตรี..........
.ต่างใจตรงกัน
มองตาก็เข้าใจ
แต่คงเป็นเพียง
ได้แค่มองตา
อยากจะกอดเก็บเธอไว้
แต่พบกันเมื่อสาย
ไม่อยากจะแย่งใคร.
>น่าจะเจอกันมาตั้งนาน
ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร
อยากให้มันมีปาฏิหาริย์
ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป
จะไม่ยอมให้เราคลาดกัน
ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร
มันน่าเสียดาย
.น่าจะเจอกันมาตั้งนาน
ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร
อยากให้มันมีปาฏิหาริย์
ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป
จะไม่ยอมให้เราคลาดกัน
ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร
พบกันสายไป
มันน่าเสียดาย
ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
..
.



....ดนตรี.........
มาทวงสัญญา
จะมาทวงคำสาบาน
ถ้อยคำที่เคยพูดกัน
สัญญาไว้ว่าอย่างไร
ค่ำคืนเหน็บหนาว
เราเคยแอบอิงชิดใกล้
กระซิบคำรักหน้าไฟ
ไม่มีวันพรากจากกัน
.เมื่อไฟมอดลง
เธอคงลืมคำสัญญา
ไม่มีวี่แววกลับมา
หรือเธอไปคว้าคนใหม่
สิ่งที่เคยฝัน
ไม่เป็นไปดังตั้งใจ
ความรักก็เริ่มเลือนหาย
เหมือนไฟที่มันขาดฟืน
.ความรักคงเหมือนไฟ
ทุ่มเทใจให้เป็นเชื้อฟืน
เธอถอนความรักคืน
ฉันกลืนน้ำตา
โดนเผาไปทั้งใจ
เธอแกล้งทำร้อยเล่ห์มารยา
คนไม่จำสัญญา
ไม่อยากจะเจอ
.จบกันเสียที
อย่ามีเยื่อใยให้กัน
เลิกเจอเลิกจำเลิกฝัน
จบกันเสียแต่บัดนี้
เข็ดแล้วความรัก
ถูกคนใจดำย่ำยี
สาบานหน้าไฟอีกที
ไม่มีเธอในหัวใจ
....ดนตรี.........
จบกันเสียที
อย่ามีเยื่อใยให้กัน
เลิกเจอเลิกจำเลิกฝัน
จบกันเสียแต่บัดนี้
เข็ดแล้วความรัก
ถูกคนใจดำย่ำยี
สาบานหน้าไฟอีกที
ไม่มีเธอในหัวใจ
..
.




ลมรำเพย
อรวี สัจจานนท์
F

รักซ้อน
อรวี สัจจานนท์
C

....ดนตรี.........
จาก ไปแล้วดังลมรำเพย
โอ้ อกเอยไม่หวนกลับหลัง
ดั่ง ราตรีที่ลืมรุ้งราง
ดุจดาวที่หลงฟ้ากว้าง
ดั่งทางที่ร้างสัญจร.
จาก ไปแล้วหนอความหวังดี
คอย จู้จี้ห่วงใยไถ่ถอน
แว่นเสื้อผ้า
หยูกยา กระเซ้าเง้างอน
อยู่ตรงไหนฟูกหมอน
ไถ่ถามกับความคิดถึง.
เพียง น้ำคำกล่าวลาเข้มแข็ง
ขวัญโรยอ่อนเรี่ยวแรง
หลั่งรินร่ำลาคราหนึ่ง
จากก็เจ็บ อยู่ก็จำเจจึง
ไปเพื่อไถ่ถามถึง
ห่วงหากันอีกสักหน
.เหม่อ มองแล้วเมื่อไรจะมา
ห่วง หนักหนาว่าจะสับสน
ไต่ แสงดาวกับใครกี่คน
ไปเพื่อจะหลุดพ้น
หรือตั้งใจไปเหงา
....ดนตรี.........
เพียง น้ำคำกล่าวลาเข้มแข็ง
ขวัญโรยอ่อนเรี่ยวแรง
หลั่งรินร่ำลาคราหนึ่ง
จากก็เจ็บ อยู่ก็จำเจจึง
ไปเพื่อไถ่ถามถึง
ห่วงหากันอีกสักหน
.เหม่อ มองแล้วเมื่อไรจะมา
ห่วง หนักหนาว่าจะสับสน
ไต่ แสงดาวกับใครกี่คน
ไปเพื่อจะหลุดพ้น
หรือตั้งใจไปเหงา
..
.



....ดนตรี......
รักซ้อน ซ่อนรัก
เพิ่งประจักษ์แสนปวดใจ
ทุ่มเท รักไปเท่าไหร่
....
สิ่งที่ได้คือเขาลวงเรา
ลอยไป สู่ความหลัง
แสนประดัง ปวด ใจร้าว
เคลียคลอ เขามีคู่เคล้า
ได้แต่เอา
เสียงเพลงปลอบใจ
....ดนตรี......
รักซ้อน ซ่อนรัก
เพิ่งประจักษ์แสนปวดใจ
ทุ่มเท รักไปเท่าไหร่
....
สิ่งที่ได้คือเขาลวงเรา
ลอยไป สู่ความหลัง
แสนประดัง ปวด ใจร้าว
เคลียคลอ เขามีคู่เคล้า
ได้แต่เอา
เสียงเพลงปลอบใจ
....ดนตรี........
ลอยไป สู่ความหลัง
แสนประดัง ปวด ใจร้าว
เคลียคลอ เขามีคู่เคล้า
ได้แต่เอา
เสียงเพลงปลอบใจ
..
.




ยิ้มกลางสายฝน
อรวี สัจจานนท์
B

มารหัวใจ
อรวี สัจจานนท์
E

....ดนตรี......
เย็น ฝนพรำ
พร่างพรู สู่ พฤกษา
พรม ไม้ป่า สดใส ใน วสันต์
หัว ใจเรา
ฉ่ำชื่น เช่นดังคืนวัน
ฝัน และใฝ่
โลกใหม่ ต้องเป็นของเรา
....ดนตรี.....
ยาม ฝนหลั่ง
เมฆบัง บด ทิวเขา
ยาม เห็นเจ้า
เปียกปอน ตอนใกล้สาง
พบ คนจริง
ยิ่งยง คู่คงเส้นทาง
เห็น ผู้สร้าง
ความทรงจำ มิเลือนจากใจ
ยืน หยัดทะนง
คู่คง เส้นทางยืดเยื้อ
ยิ้ม เพื่อ
ความฝัน ใกล้บรรลุชัย
....ดนตรี.........
ยาม เห็นหน้า
ต้องตา สื่อ ความหมาย
จับมือ ทักทาย
ส่งยิ้ม กลางสายฝน
พบ ความจริง
ยิ่งหมาย มั่นใน กมล
หน ทางสู้
สู่ชัย มิไกลจากเรา
..
.



....ดนตรี........
สิ่งเดียว ที่ปราถนา
คือรักของข้า รักยิ่งสิ่งใด
กลับมีมาร ผลาญหัวใจ
เอารักข้าไป ช้ำใจสุดทน
.บาปกรรม ก่อนทำไฉน
จึงย้อนนำให้ รักเราอัปจน
ต้องสูญเสีย ให้ช้ำทน
รักเอ๋ยสร้างคน เป็นมารหัวใจ
.สาปแล้ว รักเพียงชาตินี้
ขอมีรักเดียว
มิปองข้องเกี่ยวรักใหม่
ทำบุญ กรวดน้ำไปให้
เกิดเป็นคนชาติใด
อย่าให้เสียน้ำตา
.ชาติเดียว ที่ต้องมาร้าง
มารรักเป็นก้าง ขวางในอุรา
ต้องสูญเสีย เสียน้ำตา
ชาตินี้เกิดมา มีมารหัวใจ
....ดนตรี........
.สาปแล้ว รักเพียงชาตินี้
ขอมีรักเดียว
มิปองข้องเกี่ยวรักใหม่
ทำบุญ กรวดน้ำไปให้
เกิดเป็นคนชาติใด
อย่าให้เสียน้ำตา
.ชาติเดียว ที่ต้องมาร้าง
มารรักเป็นก้าง ขวางในอุรา
ต้องสูญเสีย เสียน้ำตา
ชาตินี้เกิดมา มีมารหัวใจ
..
.



ผ้าผวยและสายลมหนาว
อรวี สัจจานนท์
E

ปีกรัก
อรวี สัจจานนท์
G

....ดนตรี.........
สาย ลมหนาว พัดมา
พา ให้กาย หนาวเย็น
สาย ลมพัด ยามเย็น
มันเสียดแทง ทุกห้วงใจ.
.กระท่อม น้อย ในท้องนา
ชายคา ที่พอ คุ้มกาย
แต่หนาว มันโหดร้าย
ยังย่างกราย มาเยี่ยมเยือน
.>ผ้าผวย เรามีน้อยผืน
กลางคืน แม่คอยย้ำเตือน
แต่หนาว มันเชือดเฉือน
และเสียด แทง ทุกห้วงใจ
.ลูกเอ๋ย แม่ก่อไฟ
ลูกจ๋า มาอิงผิงไฟ
มาอาบไอ อุ่นไฟแรงฟืน
จนกว่ากลางคืน
จะผ่านไปอีกวัน
....ดนตรี.........
ลูกเอ๋ย แม่ก่อไฟ
ลูกจ๋า มาอิงผิงไฟ
มาอาบไอ อุ่นไฟแรงฟืน
จนกว่ากลางคืน
จะผ่านไปอีกวัน
จนกว่ากลางคืน
จะผ่านไปอีกวัน
..
.



....ดนตรี........
ไกลห่างไกลแสน ไกล
แต่ดวงใจ ไม่เคยลืมเลือน
ภาพหลัง ยังคอยย้ำเตือน
เจ็บลึก ในความทรงจำ
ดาวหมื่นแสนล้านดวง
เปลี่ยวเหงา ไม่เคยชอกช้ำ
ส่วนลึก แห่งความทรงจำ
แจ่มใส แม้ในราตรี
>เป็นความรัก
รักเอย ที่เคยผูกพัน
เป็นความฝัน
ฝันเอย มิเคยเหือดหาย
ฝัน เจ้าฝัน
ฝันเอย มิเคยเสื่อมคลาย
แม้ไกลเหมือนใกล้
อุ่นไอ ซึ้งในวิญญา.
.ใจส่งใจถึงใจ
จากดวงใจ ย้อนวันเวลา
ฝากแสง ดวงดาริกา
ส่องถึง ให้กำลังใจ
กางปีกบางคลี่โอบ
อุ่นไอรัก ให้เธอสดใส
แผ่นฟ้า แผ่นดินแดนใด
ปีกรัก ทอดยาวถึงเธอ
....ดนตรี........
>เป็นความรัก
รักเอย ที่เคยผูกพัน
เป็นความฝัน
ฝันเอย มิเคยเหือดหาย
ฝัน เจ้าฝัน
ฝันเอย มิเคยเสื่อมคลาย
แม้ไกลเหมือนใกล้
อุ่นไอ ซึ้งในวิญญา.
.ใจส่งใจถึงใจ
จากดวงใจ ย้อนวันเวลา
ฝากแสง ดวงดาริกา
ส่องถึง ให้กำลังใจ
กางปีกบางคลี่โอบ
อุ่นไอรัก ให้เธอสดใส
แผ่นฟ้า แผ่นดินแดนใด
ปีกรัก ทอดยาวถึงเธอ
..
.




อยู่นานๆได้ไหม
อรวี สัจจานนท์
F

อานนท์
อรวี สัจจานนท์
C

....ดนตรี..........
มา แล้วอยู่นานๆได้ไหม
นาน แล้วไงที่เธอไม่มา
นาน เท่าไหร่ไม่ได้สบตา
ตา ฉันสุดซึ้งยิ่งกว่าใคร
.คืน ทุกคืนนั้นช่างมืดมน
ทน ฉันทนเงียบเหงาเท่าไหร่
ลมพัด เพียงแผ่วเบา
เย็นหนาว แทบขาดใจ
เก็บความระทมขมไว้
ก็ไม่วาย เผลอนอน
ละเมอถึงเธอเรื่อยไป
.....เห็น ใจคนที่เฝ้าคิดถึง
....ดนตรี......
มา แล้วอยู่นานๆได้ไหม
เรื่อง ทุกข์ใดไม่ต้องคะนึง
ใคร ไหนอื่นอย่าพึ่งคิดถึง
เรา ซึ้งกันสองคนก็พอ
.ใย ถึงมัวเอาแต่จ้องตา
มา ซิมาอย่ามัวรั้งรอ
พร่ำรัก ให้ฉ่ำหวาน
กอดฉัน เสียให้พอ
โลกไม่หยุดรอ
เราสอง ไม่ต้องง้อ
ขอ เพียงเราอยู่คู่กัน
...ขอ สักวันที่เป็นของเรา
..
.



....ดนตรี.........
เขา คืออานนท์
ที่คน รักและ ทรงจำ
ตายเพื่อเกิด เพื่อชีวิตใหม่
คือลูกชาย ห้าว หาญ
จากบ้านมา แนวหน้า
ตามคำเพรียกขาน
เป็น ทหาร
ของกองทัพ แห่งชาติไทย
.ถือ ปืนทะนง
พุ่งตรง ต้านตี ศัตรู
มือถือปืน ยืนสู้
ต่อศัตรู ไม่ หวั่นไหว
ฝ่ากระสุนปืน
พรูพรั่ง ทั้งลูกไฟ
เหนือภูดอย
ไกลสุด สุดลำเค็ญ
.แสง ตะวันรอน
ขอบฟ้า ลับลา อาลัย
โอ้ลูกชาย ของ แม่
ต่อแต่นี้ ไม่ ได้เห็น
ฝากหัวใจ
รอยเลือด ที่ กระเซ็น
เช้า หรือเย็น
หาย ชื่น ดั่งปืนรบ
....ดนตรี.........
ปืนรบและกวี
ชีพนี้เพื่อมวลประชา
จารึกเลือด น้ำตา
บนแผ่นฟ้า และผาหิน
ศึกนี้แรง
แดงเดือด เลือด หลั่งริน
กระซิบดิน
ฝัง ฝาก จากพวกเรา
..
.




เธอรู้หรือเปล่า
อรวี สัจจานนท์
Abm

เพียงลมพัดผ่าน
อรวี สัจจานนท์
C

....ดนตรี........
อาจจะดูว่ามันนาน
ผ่านมานานล่วงเลยไป
อาจจะดูว่าหัวใจ
ของฉันมันชินและชา
ดูไม่เป็นทุกข์
เหมือนไม่เสียใจ
เหมือนคนไม่มีน้ำตา
อาจจะดูว่าดีกว่า จากวันนั้น
.....
อาจจะดูเหมือนแข็งแรง
แกร่งกว่าวันที่เธอไป
อาจจะดูเหมือนลืมง่าย
คล้ายๆไม่มีอะไร
มันไม่ใช่เลย มันไม่ใช่เลย
ยังไม่เคยลืมเลือนเธอไป
ไม่ว่านานเท่าไหร่
>เธอรู้ หรือเปล่า
ว่ามันเจ็บปวดรวดร้าว
และทรมาน
เมื่อรู้ว่าไม่มีใคร
เธอรู้หรือเปล่า
ความเหงากับความว่างเปล่า
ปวดร้าวเพียงใด
เมื่อต้องคอยแต่คน
ที่ไม่มีวันกลับมา
....ดนตรี....
มันไม่ใช่เลย มันไม่ใช่เลย
ยังไม่เคยลืมเลือนเธอไป
ไม่ว่านานเท่าไหร่
>เธอรู้ หรือเปล่า
ว่ามันเจ็บปวดรวดร้าว
และทรมาน
เมื่อรู้ว่าไม่มีใคร
เธอรู้หรือเปล่า
ความเหงากับความว่างเปล่า
ปวดร้าวเพียงใด
เมื่อต้องคอยแต่คน
ที่ไม่มีวันกลับมา
....ดนตรี....
เธอรู้ หรือเปล่า
ความเหงากับความว่างเปล่า
ปวดร้าวเพียงใด
เมื่อต้องคอยแต่คน
ที่ไม่มีวันกลับมา
..
.



....ดนตรี..........
ฉัน ไม่อยาก
กล่าวคำ ว่าอำลา
ฉัน ใช่มา โอดครวญ
หรือชวน ให้ลุ่มหลง
เพียงลมๆ
ที่พ่านเลย ก็เลยไป.
เหมือน น้ำหลาก
ล่องลง ไม่คืนหลัง
น้ำ ก็ยัง
ชุ่มเย็น เป็นสายน้ำ
ไม่เคยขาด
ไม่ไหลคืน คือความจริง
....ดนตรี..........
เรา พบกัน
มีเรื่องราว เล่ากันฟัง
เป็น เหมือนดั่ง
ภาพเขียน ที่เสกสรร
บรรยากาศ ที่ดี และจริงใจ
.แม้ ไม่มี พยาน
คำมั่น หรือสัญญา
อย่ารอ เวลา ให้ล่วงเลย
ร่างกาย จะร่วงโรย
จงโบกโบย
โผบิน แม้เหน็บหนาว
ใช่ว่าเรา
จะจากกัน นิรันดร์ไป
....ดนตรี..........
.แม้ ไม่มี พยาน
คำมั่น หรือสัญญา
อย่ารอ เวลา ให้ล่วงเลย
ร่างกาย จะร่วงโรย
จงโบกโบย
โผบิน แม้เหน็บหนาว
ใช่ว่าเรา
จะจากกัน นิรันดร์ไป
จงโบกโบย
โผบินแม้เหน็บหนาว
ใช่ว่าเรา
จะจากกัน นิรันดร์ไป
..
.




เพียงแค่ใจเรารักกัน
อรวี สัจจานนท์
D

ขอเวลาตั้งตัว
อรวี สัจจานนท์
Bbm

....ดนตรี........
เพียง อยู่ในวงแขนคุณ
อบอุ่นในหัวใจ
เพียง ได้เดินเคียงข้างคุณ
ดั่งมีพรมละมุน
.ทอดพาดวงใจ
เราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล
ที่ไม่มีใครเคยก้าวล้ำ
ข้ามผ่านพ้นไป
เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า
จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัย
คล้องใจ ทอดพาดวงใจ
เราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล
ที่ไม่มีใครเคยก้าวล้ำ
ข้ามผ่านพ้นไป
เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า
จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัย
คล้องใจ....คู่กัน
.เพียงแค่ใจเรารักกัน
บดบังความสำคัญ อื่นใด
เพียงแค่ใจเราสองใจ
เข้าใจในรักจริง
.และเรามีเพียง
งานวิวาห์เดียวดาย
ภายใต้แสงจันทร์
สุกสกาวดวงดาวแพรวพราว
นับหมื่นร้อยพัน
ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก
ที่ไม่มีพิธีใดจะ สำคัญ
.และเรามีเพียง
งานวิวาห์เดียวดาย
ภายใต้แสงจันทร์
สุกสกาวดวงดาวแพรวพราว
นับหมื่นร้อยพัน
ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก
ที่ไม่มีพิธีใดจะสำคัญ
เหนือใจ
....ดนตรี........
และเรามีเพียง
งานวิวาห์เดียวดาย
ภายใต้แสงจันทร์
สุกสกาวดวงดาวแพรวพราว
นับหมื่นร้อยพัน
ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก
ที่ไม่มีพิธีใดจะสำคัญ
.และเรามีเพียง
งานวิวาห์เดียวดาย
ภายใต้แสงจันทร์
สุกสกาวดวงดาวแพรวพราว
นับหมื่นร้อยพัน
ร่วมกันเป็นพยานแห่งรัก
ที่ไม่มีพิธีใดจะสำคัญ
เหนือใจ
..
.



....ดนตรี........
รู้ว่าเธอเปลี่ยนไป
แต่พึ่งรู้สึกตัวไม่นาน
รู้เมื่อวันที่สาย เกินไป
เมื่อมันมาสุดทาง
ไม่มีทางที่จะเริ่มใหม่
ก็จำยอมเข้าใจ อย่างนั้น
.แต่วันนี้ตอนนี้
ขอทีอย่าเอ่ยอะไร
ยังไม่ทันเตรียมใจจะฟัง
>ก็ไม่ทัน ตั้งตัว
กลัวใจรับไม่ทัน
เมื่อจะลา ร้างกัน
ขอให้ฉันทำใจ
ให้เวลานิดเดียวได้ไหม
แค่ให้พอลบเธอจากใจ
เมื่อเธอเดินลับไป
จะไม่มีน้ำตา ให้เธอ
.ขอเวลาตั้งตัว
อยากจะขอเวลาตั้งใจ
พร้อมเมื่อไรเธอค่อย
พูดจา ขอเวลาข่มใจ
ก็คงใช้เวลาไม่นาน
แล้วเราจึงจากกัน ได้ไหม
.แต่วันนี้ตอนนี้
ขอทีอย่าเอ่ยอะไร
ยังไม่ทันเตรียมใจจะฟัง
>ก็ไม่ทัน ตั้งตัว
กลัวใจรับไม่ทัน
เมื่อจะลา ร้างกัน
ขอให้ฉันทำใจ
ให้เวลานิดเดียวได้ไหม
แค่ให้พอลบเธอจากใจ
เมื่อเธอเดินลับไป
จะไม่มีน้ำตา ให้เธอ
....ดนตรี........
.แต่วันนี้ตอนนี้
ขอทีอย่าเอ่ยอะไร
ยังไม่ทันเตรียมใจจะฟัง
>ก็ไม่ทัน ตั้งตัว
กลัวใจรับไม่ทัน
เมื่อจะลา ร้างกัน
ขอให้ฉันทำใจ
ให้เวลานิดเดียวได้ไหม
แค่ให้พอลบเธอจากใจ
เมื่อเธอเดินลับไป
จะไม่มีน้ำตา ให้เธอ
เมื่อเธอเดินลับไป
จะไม่มีน้ำตาให้เธอ
..
.




ก่อนจาก
อรวี สัจจานนท์
G

กุหลาบปากซัน
อรวี สัจจานนท์
D

....ดนตรี.........
ไม่ต้องกล่าว คำลา
อาลัย ให้ใจหมอง หม่น
ไม่ต้องคิดกังวล
อาวรณ์ เมื่อตอนจากลา
ไม่ต้องโบกมือลา
น้ำตา ไม่ต้องไหล หลั่ง
เสียงกระซิบยังดัง
ซึ้งใจ ไม่เคยลืมเลือน
.จะอยู่แห่งไหน
แม้ไกล หรือ ใกล้
ขอเพียงเรามีใจ
ให้กัน เท่านั้นก็พอ
....ดนตรี.........
ไม่ต้องเอ่ย คำลา
ถึงครา ที่ต้องลา จาก
ให้ความรักยืนนาน
มั่นคง ตลอด เวลา
ก่อนจะจากมองตา
ซึ้งใจไม่ต้องเอื้อนเอ่ย
เพื่อนเอ๋ยเข้าใจ
ซึ้งใจ แม้ในดวงตา
.จะอยู่แห่งไหน
แม้ไกล หรือ ใกล้
ขอเพียงเรามีใจ
ให้กัน เท่านั้นก็พอ
และไม่ต้องเอ่ย คำลา
ถึงครา ที่ต้องลา จาก
ให้ความรักยืนนาน
มั่นคง ตลอด เวลา
ก่อนจะจากมองตา
ซึ้งใจไม่ต้องเอื้อนเอ่ย
รักเอ๋ยเข้าใจ
ซึ้งใจ แม้ในดวงตา
..
.



....ดนตรี........
แดนดินถิ่นไกล เหลือตา
อยู่สุดนภาน้ำคำชมว่าแสนงาม
หวั่นไหวใจสาว แว่วคำหวาน
วาดทิพย์วิมานคล้อยจิตตาม
ฝันเอยงดงามงาม เหนือใคร
จริงใจบ่น้อ คำชม
ย่านหลอกเพียงสม
ภิรมย์ใจแล้ว หนีไกล
ม่วนหลายคำหวาน ว่าฮักเดียว
บ่ขอข้องเกี่ยว หญิงอื่นใด
ปากตรงกับใจให้ฮักไปครอง
.โอ้ กุหลาบสวรรค์
แห่งเมืองปากซัน
ที่อ้ายฝากใจหมายปอง
ชม แล้วอย่าเมินบ่มอง
กุหลาบเคยสวยดั่งทอง
สิ้นความสาวส่องย่านเป็นธุลี
.ยามแลงค่ำลง น้ำซัน
โอ้บริพันน้ำซันไหลผ่าน ใสดี
แต่หัวใจสาว หวั่นฮักสาย
ก่อนอ้ายลาไกลย้ำอีกที
ว่าฮักอีหลีต่อสีแสงจันทร์
....ดนตรี........
.โอ้ กุหลาบสวรรค์
แห่งเมืองปากซัน
ที่อ้ายฝากใจหมายปอง
ชม แล้วอย่าเมินบ่มอง
กุหลาบเคยสวยดั่งทอง
สิ้นความสาวส่องย่านเป็นธุลี
.ยามแลงค่ำลง น้ำซัน
โอ้บริพันน้ำซันไหลผ่าน ใสดี
แต่หัวใจสาว หวั่นฮักสาย
ก่อนอ้ายลาไกลย้ำอีกที
ว่าฮักอีหลีต่อสีแสงจันทร์
..
.




กามเทพโกหก
อรวี สัจจานนท์
Eb

ต่อเวลารัก
อรวี สัจจานนท์
G

....ดนตรี..........
.เคยหลงเชื่อว่ากามเทพ
แผลงศร ตอนครั้งก่อน
ผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟัง
บอกเราว่ามีตัวตน
ใช่จะอยู่ตามลำพัง
มีหญิงบ้างชายบ้างเท่าๆกัน
.เขาร่อนเร่หาคน
ที่พลาดจากรัก
เอาศรปักรักปลูกแล้วผูกติดกัน
ก็เกิดพรั่นในดวงใจ
อยู่ที่ใดก็ตามทัน
เป็นเพราะความรักนั่น
เรียกมาหา
.วันหนึ่ง ได้เจอชายหุ่นสำอาง
เขามีทุกอย่าง
เราเริ่มรักพอได้สบตา
กาม-เทพคงส่งเขามา
ครั้นพอเราได้พูดได้จา
หลงรักเป็นบ้าไปในทันที
.แต่เขากลับลับไป
คล้ายไม่สงสาร
เป็นแผนการรึกามเทพตัวดี
ส่งคนหลอกชอบลวงเรา
ให้เราเศร้ามานานปี
กามเทพจู้จี้ โกหกเรา
....ดนตรี..........
.แต่เขากลับลับไป
คล้ายไม่สงสาร
เป็นแผนการรึกามเทพตัวดี
ส่งคนหลอกชอบลวงเรา
ให้เราเศร้ามานานปี
กามเทพจู้จี้ โกหกเรา
..
.



....ดนตรี..........
ปวด ร้าว
เฝ้าแต่ระทมซานซมฤทัย
แค่คิดจะสั่งลา
ต้องแอบสั่งลม
ขื่น ขมสิ้นดี
เกลียด ฉัน
อย่าเอาหัวใจ ไปบดขยี้
ดอกไม้ ไร้ค่านี้
ดอกหญ้ายังมี
คนที่ ปรารถนา
.>ฉันหวัง เพียงรอ
ฉันรอต่อไป
ดั่งคนที่ไร้ น้ำยา
ฉันยังไม่หลั่งน้ำตา
คิดว่าจะรอ
จึงต่อเวลา รักเธอเรื่อยไป
.เจ็บ ช้ำ
ค่ำคืนเสียงใคร
ครวญคร่ำพิไล
คือเสียงเรา สะอื้นใจ
จุดเทียนไข
มอง น้ำตาเทียน
....ดนตรี..........
.>ฉันหวัง เพียงรอ
ฉันรอต่อไป
ดั่งคนที่ไร้ น้ำยา
ฉันยังไม่หลั่งน้ำตา
คิดว่าจะรอ
จึงต่อเวลา รักเธอเรื่อยไป
.เจ็บ ช้ำ
ค่ำคืนเสียงใคร
ครวญคร่ำพิไล
คือเสียงเรา สะอื้นใจ
จุดเทียนไข
มอง น้ำตาเทียน
..
.




ดอกกระโดน ( Bm )
อรวี สัจจานนท์
Bm

คืนรัง ( Am )
อรวี สัจจานนท์
Am

พยัพ คำพันธุ์
Pro. Music
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>
ดอกกระโดน
อยู่ในพงพฤกษ์ไพร
เจ้าเป็นดอกไม้
ห่างไกลคนเหลียวมอง
ไม่มีสีสัน
บริสุทธิ์ผุดผ่อง
กระทบแสงทอง
เมื่อยามอรุโณทัย
หมู่ภมร
สะออนมาตอมหอมกลิ่น
ลิ้มรสหมดสิ้น
โบกบินทอดทิ้งเจ้าไป
เจ้ากระโดน
ไม้ป่ามีค่าไฉน
ชื่อเจ้าเลือนหาย
ดอกไม้ที่บนภูยาว
ดอกเอย เจ้าดอกกระโดน
เปรียบเช่นคน
ที่ร่วงโรยอับเฉา
มีใครบ้างหนอ
ที่เขารู้ใจเรา
ว่าสุดแสนเหงา
เหมือนเจ้าที่เฉาโรยรา
เจ้ากระโดน
เอนต้นรอฝนมาเยือน
ข้าก็เหมือน
ดั่งเจ้าที่เฝ้าโหยหา
กระโดนขาดฝน
ดั่งคนที่ทรมา
รอวันนั้นหนา
ฝนลาสั่งฟ้ามาเยือน
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>
ดอกเอย เจ้าดอกกระโดน
เปรียบเช่นคน
ที่ร่วงโรยอับเฉา
มีใครบ้างหนอ
ที่เขารู้ใจเรา
ว่าสุดแสนเหงา
เหมือนเจ้าที่เฉาโรยรา
เจ้ากระโดน
เอนต้นรอฝนมาเยือน
ข้าก็เหมือน
ดั่งเจ้าที่เฝ้าโหยหา
กระโดนขาดฝน
ดั่งคนที่ทรมา
รอวันนั้นหนา
ฝนลาสั่งฟ้ามาเยือน

สุรชัย จันทิมาธร
Pro. Music
ดนตรี..6..Bars
4...5...6>
โอ้ยอดรัก ฉันกลับมา
จากขอบฟ้าที่ไกลแสนไกล
จากโคนรุ้ง ที่เนินไศล
จากใบไม้ หลากสีสัน
ฉันเหนื่อย
ฉันเพลีย ฉันหวัง
ฝากชีวิต ให้เธอเก็บไว้
ฝากดวงใจ ให้นอนแนบรัง
ฝากดวงตาและความมุ่งหวัง
อย่าชิงชังฉันเลยยอดรัก
นานมาแล้ว เราจากกัน
โอ้คืนวัน นั้นแสนหน่วงหนัก
ดั่งทุ่งแล้ง ที่ไร้เพิงพัก
ดั่งภูสูง ที่สูงสุดสอย
โอ้ยอดรัก ฉันกลับมา
ดั่งชีวา ที่เคยล่องลอย
มาบัดนี้ ที่เราเฝ้าคอย
เจ้านกน้อยโผคืนสู่รัง
ดนตรี..9..Bars
7...8...9>
นานมาแล้ว เราจากกัน
โอ้คืนวัน นั้นแสนหน่วงหนัก
ดั่งทุ่งแล้ง ที่ไร้เพิงพัก
ดั่งภูสูง ที่สูงสุดสอย
โอ้ยอดรัก ฉันกลับมา
ดั่งชีวา ที่เคยล่องลอย
มาบัดนี้ ที่เราเฝ้าคอย
เจ้านกน้อยโผคืนสู่รัง
ฉันเหนื่อย
ฉันเพลีย ฉันหวัง


คอยลมเกี่ยวใจ ( Am )
อรวี สัจจานนท์
Am

ความรักกับสายน้ำ
อรวี สัจจานนท์
Bb

คม ทัพแสง
Pro. Music
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>>
คอยลมพัดพา
สัญญามาสู่ใจน้อง
คอยคืนทุ่งทอง
สองใจลู่ลมรัญจวน
หวนรักรำพึง
เฝ้าคิดถึง เสน่หา
จำซึ้งคำสัญญา
หากลมมาจะคืนรักนาง
คิดถึงข้าวรวง
กรุ่นทรวงไม่ห่าง
คิดถึงกองฟาง
กรุ่นกลางสายลม
ใจได้รักเธอ
ขอเจอเพียงพี่เท่านั้น
เคยกระซิบกัน
ฝังรอยร่วมเรียวเคียวคม
หวนครวญรำพึง
ให้คิดถึง ผ่าวเรือนผม
ยามไล้คลอสายลม
โอบเอวกลมอุ่นลมเว้าวอน
มองแสงเดือนนวล
ป่วนใจไหวอ่อน
มองแสงเดือนรอน
อ่อนใจให้ครวญ
ดนตรี..4..Bars
2...3...4>>>
หวงดวงฤทัย
ห่มใจคอยคู่นวล
หวงรอยรัญจวน
แนบนวลเนื้ออาทรคอย
คอยคอยสายลม
พริ้วพรมเนียนแก้มนางนั้น
คอยคืนสัมพันธ์
ฝังรอยย้ำนางกลางใจ
หวนรักรำพัน
ผ่านผิวลม ห่มใจไว้
นวลเอ๋ยเคยอุ่นไอ
อยู่สุดไกลใจคอยตั้งตา
คอยโค้งเคียวงาม
เกี่ยวตามสัญญา
คอยสายลมพา
เกี่ยวใจพี่คืน
คอยสายลมพา
เกี่ยวใจพี่คืน

....ดนตรี..........
เรือน้อยทวนน้ำมา
จะจอด ท่าไหน
หอบรักมาให้ใคร
ครวญถามเรือน้อยไป
ข้องจิต ใจนัก
ความรักกับสายน้ำ.
.ปลาสีเงินงดงาม
กระโดด เหนือน้ำ
ดูสวยงาม เป็นประกาย
วิถี ชีวิตไทย
พึ่งพาอาศัย
รักกันล้น เหลือคณา
>ข้าวในนาชะอุ่มเขียว
สายน้ำลดเลี้ยวไกลสุดตา
รักเลี้ยวลดหรือเปล่าหนา
หวั่น อุรา
ว่าสายน้ำ จะทำเล่ห์กล.
.ความรักทวนถามใจ
ว่าเป็น ไฉน
หลงใหลเล่ห์สายชล
ใครคล้อยตามเคลิ้มตน
กระเสือกกระสน
หลงวังวน จนวังเวง
....ดนตรี..........
>ข้าวในนาชะอุ่มเขียว
สายน้ำลดเลี้ยวไกลสุดตา
รักเลี้ยวลดหรือเปล่าหนา
หวั่น อุรา
ว่าสายน้ำ จะทำเล่ห์กล.
.ความรักทวนถามใจ
ว่าเป็น ไฉน
หลงใหลเล่ห์สายชล
ใครคล้อยตามเคลิ้มตน
กระเสือกกระสน
หลงวังวน จนวังเวง
..
.




ครั้งเดียวก็พอ
อรวี สัจจานนท์
G

กุหลาบปากซัน ( Bm )
อรวี สัจจานนท์
Bm

....ดนตรี..........
ในอ้อมแขน ความรัก
หวาน ใจนัก
รักมาทักทาย หัวใจ.
เพื่อนชายคือ คู่อิง
อบอวลหญิง อุ่นไอ
อยู่ใกล้ยิ่งใจหวิว หวาม
>รักคือความสดใส.
สองใจเราคล้อย ตาม.
ค่ำคืน กี่ โมงยาม
ถามทำไม นั่นกับกาลเวลา
ชี้ ชม
ดวงดาวพร่างพราว นภา
โอ้เสน่หา ครั้งเดียว ก็พอ.
.จะว่าหวาน ก็ หวาน
น้ำ ตาลขม
สองเราภิรมย์ เคล้าคลอ
ไม่ต้องมี ห้องหอ
กับดอกไม้ ช่อหวาน
รักกันสบาย
....ดนตรี..........
>รักคือความสดใส.
สองใจเราคล้อย ตาม.
ค่ำคืน กี่ โมงยาม
ถามทำไม นั่นกับกาลเวลา
ชี้ ชม
ดวงดาวพร่างพราว นภา
โอ้เสน่หา ครั้งเดียว ก็พอ.
.จะว่าหวาน ก็ หวาน
น้ำ ตาลขม
สองเราภิรมย์ เคล้าคลอ
ไม่ต้องมี ห้องหอ
ไม่ต้องรอ เหนี่ยวรั้ง
ครั้งเดียวแน่หรือ
..
.



ส.สุลิวัต
Pro. Music
ดนตรี..7..Bars
5...6...7>>>
แดนดินถิ่นไกลเหลือตา
อยู่สุดนภา
น้ำคำชมว่าแสนงาม
หวั่นไหวใจสาวแว่วคำหวาน
วาดทิพย์วิมานคล้อยจิตตาม
ฝันเอยงดงามงามเหนือใคร
จริงใจบ่น้อคำชม
ย่านหลอกเพียงสม
ภิรมย์ใจแล้วหนีไกล
ม่วนหลายคำหวาน
ว่าฮักเดียว
บ่ขอข้องเกี่ยวหญิงอื่นใด
ปากตรงกับใจให้ฮักไปครอง
โอ้ กุหลาบสวรรค์
แห่งเมืองปากซัน
ที่อ้ายฝากใจหมายปอง
ชมแล้วอย่าเมินบ่มอง
กุหลาบเคยสวยดั่งทอง
สิ้นความสาวส่องย่านเป็นธุลี
ยามแลงค่ำลงน้ำซัน
โอ้บริพันน้ำซันไหลผ่านใสดี
แต่หัวใจสาวหวั่นฮักสาย
ก่อนอ้ายลาไกลย้ำอีกที
ว่าฮักอีหลีต่อสีแสงจันทร์
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>>
โอ้ กุหลาบสวรรค์
แห่งเมืองปากซัน
ที่อ้ายฝากใจหมายปอง
ชมแล้วอย่าเมินบ่มอง
กุหลาบเคยสวยดั่งทอง
สิ้นความสาวส่องย่านเป็นธุลี
ยามแลงค่ำลงน้ำซัน
โอ้บริพันน้ำซันไหลผ่านใสดี
แต่หัวใจสาวหวั่นฮักสาย
ก่อนอ้ายลาไกลย้ำอีกที
ว่าฮักอีหลีต่อสีแสงจันทร์


ถามฟ้า
อรวี สัจจานนท์
Bb

ปรารถนาหนึ่ง
อรวี สัจจานนท์
G

....ดนตรี..........
ฉันเงยหน้ามองฟ้าไกล
อ่อนอาลัย
จึงน้อมใจ อ้อนวอน
ปรานีเถิดดาว ข้าร้าวรอน
จึงเฝ้า ขอวอน ถามไป
>ถาม จันทร์ผ่อง
ปอง รักเมฆ เสก สวรรค์
นานนิรันดร์เพียงไหน
จึงรื่นรมย์สุขใจ
ในอ้อมฟ้า.
.รัก ของเรา
เคยชิดแนบ เนาว์อุรา
เหมือน น้ำตาล หวานฉ่ำ
กลับเป็นน้ำตา....รด ใจ
....ดนตรี..........
>ถาม จันทร์ผ่อง
ปอง รักเมฆ เสก สวรรค์
นานนิรันดร์เพียงไหน
จึงรื่นรมย์สุขใจ
ในอ้อมฟ้า.
.รัก ของเรา
เคยชิดแนบ เนาว์อุรา
เหมือน น้ำตาล หวานฉ่ำ
กลับเป็นน้ำตา....รด ใจ
.รัก ของเรา
เคยชิดแนบ เนาว์อุรา
เหมือน น้ำตาล หวานฉ่ำ
กลับเป็นน้ำตา....รด ใจ
..
.



....ดนตรี..........
ปราร-ถนาหนึ่ง
ซึ่งกระซิบกับ หัวใจ
อาจไกลแสนไกล
เหลือใจคว้าเอา
รัก จึง แฝงในอก
บนโลกใบเหงา
ตรงมุมนั้นเศร้า สิ้นดี
ปักใจรักโธ่โงหัวมิขึ้น
สิเรา
เปรียบเธอเหมือนดาว
ฉัน คือธุลี
แม้ วัน ฟ้ามีตา
รู้ค่าความดี
อาจมีความหมาย
มิใช่แค่เงิน.
>ฉัน จึง ช้ำชอก
บอกใครมิได้
รักแอบเก็บไว้
เพราะว่าใจเขิน
มี ถนน ดวงดาว
ให้เธอก้าวเดิน
ฉัน จนเหลือเกิน
เดินถนนดิน.
.ปราร-ถนาหนึ่ง
ซึ้งใจรักอยู่มิจาง
ดั่งนกหลงทางไร้แรงโผบิน
รัก จึง เว้นช่องว่าง
ดาวห่างไกลดิน
ความปรารถนา มิสิ้นจากใจ
....ดนตรี..........
.ปราร-ถนาหนึ่ง
ซึ้งใจรักอยู่มิจาง
ดั่งนกหลงทางไร้แรงโผบิน
รัก จึง เว้นช่องว่าง
ดาวห่างไกลดิน
ความปรารถนา มิสิ้นจากใจ
..
.




ปาดน้ำตาให้ฉันที
อรวี สัจจานนท์
D

ผ้าผวยและสายลม ( E )
อรวี สัจจานนท์

....ดนตรี........
โอ้เธอกับฉัน
เหมือนสายลมผ่านไป
แต่มีรอยยิ้ม ข้างใน
แม้ใจ จะเจ็บเหน็บหนาว
ไร้เสียง สะอื้น
ก็ยังรื่นน้ำ ตาพราว
เห็นแสงริบหรี่ดาว
พร่างพราวนับพัน
.ก็อยากจะขัง
ขังรักเธอกับใจ
ใส่กุญแจไว้ สุขใจ
ขังเธอ ในห้วงความฝัน
รักฉันเศร้าๆ
อย่างเงาน้ำใน สระนั่น
ฉันไม่ หวาดหวั่น
มั่นรัก จริง ใจ
.>กอดฉันไว้ที
ปุยเมฆเจ้าขา อำลาไปไย
ให้ฉันซบหน้า ร้องไห้ให้สม
บอกกับเขานะ
มวลหมู่แมกไม้ สาย ลม
ฉัน ระทม
ขื่นขม ฤทัยไม่บรรเทา.
.ใกล้กันเพียงไหน
เหมือนไกลระหว่างเรา
กระจกเงาจ๋า มองเห็น
น้ำตา บนข้างแก้มไหม
ทุกๆหยาดหยด
หมดแรงที่จะ ปาดได้
ขอร้อง หน่อย
ปาดน้ำตา ให้ ฉันที
....ดนตรี........
.ใกล้กันเพียงไหน
เหมือนไกลระหว่างเรา
กระจกเงาจ๋า มองเห็น
น้ำตา บนข้างแก้มไหม
ทุกๆหยาดหยด
หมดแรงที่จะ ปาดได้
ขอร้อง หน่อย
ปาดน้ำตา ให้ ฉันที
..
.



E
สมาน แสงทอน
Pro. Music
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>>
สายลมหนาวพัดมา
พาให้กายหนาวเย็น
สายลมพัดยามเย็น
มันเสียดแทง ทุกห้วงใจ
กระท่อมน้อยในท้องนา
ชายคาที่พอคุ้มกาย
แต่หนาว มันโหดร้าย
ยังย่างกราย มาเยี่ยมเยือน
ผ้าผวยเรามีน้อยผืน
กลางคืนแม่คอยย้ำเตือน
แต่หนาว มันเชือดเฉือน
และเสียดแทง ทุกห้วงใจ
ลูกเอ๋ย แม่ก่อไฟ
ลูกจ๋า มาอิงผิงไฟ
มาอาบไอ อุ่นไฟแรงฟืน
จนกว่ากลางคืน
จะผ่านไปอีกวัน
ดนตรี..10..Bars
8...9...10>>
ลูกเอ๋ย แม่ก่อไฟ
ลูกจ๋า มาอิงผิงไฟ
มาอาบไอ อุ่นไฟแรงฟืน
จนกว่ากลางคืน
จะผ่านไปอีกวัน
จนกว่ากลางคืน
จะผ่านไปอีกวัน


ยิ้มเหงา ๆ เศร้างาม ๆ ( Eb )
อรวี สัจจานนท์
Eb

รอวันเธอใจเดียว
อรวี สัจจานนท์
C

พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Pro. Music
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>
ยิ้มเหงาเหงา
เศร้าพองามงาม
มีคนถาม ว่าเธอคือใคร
ทั้งทั้งโลกนี้
ก้าวไกลแสนไกล
เธอยังสดใส อยู่ในโลกเก่า
ยิ้มเหงาเหงา
ของคนงามงาม
คนที่แบกหาม
โลกไว้ครึ่งหนึ่ง
โลกวันนี้ แม้งามเพียงครึ่ง
ก็ครึ่งของเธอ ที่สร้างที่ทำ
เศร้างามงาม
โปรดอย่าถาม
ถึงความทรงจำ
เรื่องความพลัดพราก
จากคน ที่เธอรัก
ยิ้มเหงาเหงา
เศร้าพองามงาม
คือนิยาม
ของความทุกข์ยาก
ถ้าครึ่งโลกร้าย
ที่ฉันถางถาก
เป็นครึ่งโลกสวย
ขอมอบให้เธอ
ดนตรี..9..Bars
7...8...9>>
เศร้างามงาม
โปรดอย่าถาม
ถึงความทรงจำ
เรื่องความพลัดพราก
จากคน ที่เธอรัก
ยิ้มเหงาเหงา
เศร้าพองามงาม
คือนิยาม
ของความทุกข์ยาก
ถ้าครึ่งโลกร้าย
ที่ฉันถางถาก
เป็นครึ่งโลกสวย
ขอมอบให้เธอ

....ดนตรี........
เมื่อไหร่หนอใจ
ของเธอจะหาย เรรวน
ให้หญิงต้องครวญ
เพราะความรักคุณ ช่างรวนเร
ความรักของคุณดุจกังหัน
หมุนเปลี่ยนเวียนผัน
ดุจน้ำทะเล
รักง่ายถ่ายเทอยู่ทุกวัน
..เมื่อไหร่สายตา
ของเธอที่หวาน ซึ้งใจ
เลิกมองหญิงใด
สาวใดที่ไหน นอกจากฉัน
สายตาของคุณคุณรู้บ้างไหม
มองหญิงทีไรหัวใจสั่น
อยากให้เธอนั้น
มองฉันเพียงผู้เดียว
>อยากให้โลกนี้
ต้องพลันหยุดหมุน
อยากให้หัวใจของคุณ
หยุดปองหญิงใดมาข้องเกี่ยว
อยากให้โลกนี้
เหลือสตรีเพียงฉันผู้เดียว
จะได้ไม่ต้องแลเหลียว
หญิงอื่นใดเข้ามาผูกพัน
.เมื่อไหร่หนอใจของเธอจะเหลือ
เพียงใจเดียว
และมีรักเดียว
คนเดียวเพียงฉัน นี้เท่านั้น
จะขอมอบใจให้เธอไว้ครอง
ให้ใจเราสองประคองรักมั่น
หากถึงวันนั้นเธอมีใจเดียว
..
.




ระทมรัก
อรวี สัจจานนท์
C

รักหนอรัก
อรวี สัจจานนท์
F

....ดนตรี.....
ระหว่างความรัก
และความต้องการ
มันคือสายธาร
ศีลธรรมประจำใจ
เป็นความชอกช้ำ
กล้ำกลืนฝืนในฤทัย
แต่เหตุไฉน
ทำไมจึงต้องเป็นเรา
ใจเฝ้าแต่รักภักดีให้เธอ
ยังคงละเมอ
เพ้อไปเมื่อยามเหงา
ใครเลยจะรู้
หากเป็นเหมือนใจของเรา
คอยแต่อับเฉา
รักเราเฝ้าแต่ช้ำตรม
>โอ้ความรักเอย
สุดเฉลยใจเอยเหลือจะข่ม
ช่างเจ็บช่างช้ำปวดร้าวระบม
มันช่างขื่นขม
ตรอมตรมเปล่าเปลี่ยววังเวง
สูญสิ้นคนรักแล้วซิหนอเรา
ดูดูแล้วเศร้าช้ำใจกับตัวเอง
เมื่อนึกถึงเขา
ปวดร้าวและเหงาวังเวง
มีแต่บทเพลง
เป็นเพื่อนเกลื่อนความระทม
....ดนตรี.....
>โอ้ความรักเอย
สุดเฉลยใจเอยเหลือจะข่ม
ช่างเจ็บช่างช้ำปวดร้าวระบม
มันช่างขื่นขม
ตรอมตรมเปล่าเปลี่ยววังเวง
สูญสิ้นคนรักแล้วซิหนอเรา
ดูดูแล้วเศร้าช้ำใจกับตัวเอง
เมื่อนึกถึงเขา
ปวดร้าวและเหงาวังเวง
มีแต่บทเพลง
เป็นเพื่อนเกลื่อนความระทม
..
.



....ดนตรี.....
รักหนอรักไม่จริง
ถูก ทอดทิ้งใจหาย
รักหนอรักกลับกลาย
สิ้น สลายกลายขม
รักหนอรักต้องตรม
สุดระทม ขมขื่น.
..รักหนอรักไม่รอ
เฝ้า งอนง้อรอฝืน
รักหนอรักไม่คืน
ชื่น เป็นช้ำกำสรวล
เราหนอเราเฝ้าครวญ
เมื่อรักรวน ลับล่วง.
.>เธอหนอเธอขยี้ รัก
และภักดีของฉันหวัง
กลายมลายเหมือนฝัน
ฝันลวง
ใจหนอใจภักดี
ฉันพลีให้เธอทั้งดวง
โดนรักลวงทั้งทรวง
แหลกแล้วเอย
.ลืมหนอลืมเท่าไร
เจ็บเพียงไหนใจเอ๋ย
ลืมมิลืมได้เลย
โปรดอย่าเย้ยผู้แพ้
ใจหนอใจอ่อนแอ
ไม่ผันแปร รักเธอ
>เธอหนอเธอขยี้ รัก
และภักดีของฉันหวัง
กลายมลายเหมือนฝัน
ฝันลวง
ใจหนอใจภักดี
ฉันพลีให้เธอทั้งดวง
โดนรักลวงทั้งทรวง
แหลกแล้วเอย
.ลืมหนอลืมเท่าไร
เจ็บเพียงไหนใจเอ๋ย
ลืมมิลืมได้เลย
โปรดอย่าเย้ยผู้แพ้
ใจหนอใจอ่อนแอ
ไม่ผันแปรรักเธอ
ไม่ผันแปรรักเธอ
ฮื่อ ฮือ ฮื้อ ฮือ ฮือ
..
.




หัวใจกระดาษ ( Eb )
อรวี สัจจานนท์
Eb

อายเข็มนาฬิกา ( Bbm )
อรวี สัจจานนท์
Bbm

ดนตรี 6 Bars..4...
5...6 จากหัวใจที่ บริสุทธิ์
ขาวปานประดุจ กระดาษสีสำลี
เธอเอาไปขีด เธอเอาไปคลี่
เขียนด้วย หมึกอย่างดี
เป็นวลีว่ารักจริงใจ
กระดาษเนื้อใจ ฉันเปื้อนไปหมด
เพราะเมื่อเธอจด
พลาดผิดก็กาฆ่าไป
แล้วหาคำอื่น เขียนขึ้นมาใหม่
ล้วนถ้อยคำลวงใจ
ให้เคลิ้มไป ทุกวี่ทุกวัน
ถ้า อักษรทุกคำมีค่า
คงเป็นตำรา หรือเอกสารสำคัญ
ความคงอยู่ คงชั่วนิรันดร์
แต่นี่เป็นคำลวงกัน
ค่าของมัน จึ่งไม่มี
จากหัวใจที่ เคยสะอาด
ต้องมาฉีกขาด
เกรอะกรัง คราบรอยราคี
จะหันหาใหม่ ให้ใครปรานี
เขาคงไม่ใยดี
เพราะหัวใจ ไม่มีราคา
ดนตรี 5 Bars..3...
4...5 จากหัวใจที่ เคยสะอาด
ต้องมาฉีกขาด
เกรอะกรัง คราบรอยราคี
จะหันหาใหม่ ให้ใครปรานี
เขาคงไม่ใยดี
เพราะหัวใจ ไม่มีราคา
.


สลา คุณวุฒิ
Pro. Music
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>
บ่อยากสบตา
กับนาฬิกาที่ฝาห้อง
เพราะเข็มมันฟ้อง
ว่าน้องนั้นถูกลืมใจ
เข็มสั้นเข็มยาว
เดินเท้าและก้าวอย่างใด
ถ้าเป็นแต่ก่อนแต่ไร
ตัวอ้ายจะต้องมาถึง
ผู้ใด๋ฉุดดึง
วันนี้อ้ายจึงบ่มาใกล้
คำหวานฝากไว้
สุดท้ายอ้ายบ่คำนึง
ห้องเก่าเคยเคียง
เหลือเพียงแต่รอยฝังตรึง
พออ้ายหมดความคิดถึง
น้องจึงต้องหมดความหมาย
อายน้องอายเข็มนาฬิกา
พออ้ายบ่มา
เหมือนนาฬิกาสงสัย
เข็มยาวชี้หน้า
เข็มสั้นจิ้มตรงแผลใจ
ถามว่าอ้ายหลบไปไส
ทำไมถึงบ่มาหา
บ่กล้าสบตา
กับนาฬิกาที่ฝาห้อง
เพราะเข็มคอยฟ้อง
ว่าน้องนั้นหมดเวลา
นาฬิกาเรือนเก่า
ที่แขวนติดไว้ข้างฝา
ยังคงเดินตรงเวลา
แต่อ้ายนั่นหนาบ่ตรงต่อใจ
ดนตรี..8..Bars
6...7...8>>
บ่กล้าสบตา
กับนาฬิกาที่ฝาห้อง
เพราะเข็มคอยฟ้อง
ว่าน้องนั้นหมดเวลา
นาฬิกาเรือนเก่า
ที่แขวนติดไว้ข้างฝา
ยังคงเดินตรงเวลา
แต่อ้ายนั่นหนาบ่ตรงต่อใจ


สองเรา
อรวี สัจจานนท์
C

รักไร้บำเรอ
อรวี สัจจานนท์
Bb

....ดนตรี........
เมื่อยามหนาว บอกกับฉัน
จะก่อไฟอิงกันให้พ้น ฤดู
จะนำฝนพรั่งพรู
ให้ใบไม้ผลิ ช่อหวาน.
ด้วยแรงรัก จากปีกนก
จะโบกโบยบินไปในรัต
ติกาล
ยิ่งกว่านานเท่านาน
ผ่านดาว และเมฆ
เฉกเช่นนกเพล.
.ร่าเริงใครเลยจะเหมือน
สองเรา
แนบเนาว์ไปในเวิ้งฟ้า
วังเวง
กรวดทรายใช่ว่า
จะมีแสง สีเอง
ทรายสวย
เพราะได้ แรงแสงตะวัน
.อีกประเดี๋ยว ก็จะเช้า
ตื่นลืมตามีเราชั่วนิจ
นิรันดร์
จะร่วมเรียงเคียงกัน
ไม่เคย ไหวหวั่น
ตราบฉันรักเธอ
....ดนตรี..........
.ร่าเริงใครเลยจะเหมือน
สองเรา
แนบเนาว์ไปในเวิ้งฟ้า
วังเวง
กรวดทรายใช่ว่า
จะมีแสง สีเอง
ทรายสวย
เพราะได้ แรงแสงตะวัน
.อีกประเดี๋ยว ก็จะเช้า
ตื่นลืมตามีเราชั่วนิจ
นิรันดร์
จะร่วมเรียงเคียงกัน
ไม่เคย ไหวหวั่น
ตราบฉันรักเธอ
จะร่วมเรียงเคียงกัน
ไม่เคย ไหวหวั่น
ตราบฉันรักเธอ
..
.



....ดนตรี..........
แก้วบางๆ นี้หัวใจเรา
เกือบจะร้าว ฉานแล้วซิเออ
ซื่อตรงที่จะรักเธอ
ตลอดไป
เชื่อใจหรือเขารักเธอจริง
ยิ่งกว่าฉันเป็นไปไม่ได้
ไม่ถึงครึ่ง ของหัวใจ
ฉันรักเธอ
.ชื่นใจนักรักร้อยเรียงคำ
เอ่ยลำนำหวานล้ำละเมอ
ก็อยากวานเธอ
ทบทวน อีกที
ดั่งจันทราทิ้งฟ้าเกลือกดิน
เปื้อนมลทิน เป็นรอยธุลี
ชอกช้ำนานเกือบทั้งปี
เป็นเพราะใคร
>ฉัน จะไม่โหยหา ลมหวน
หรือ หลงรัญจวนอาลัย
เล่ห์ความรัก วกวน
หลอกฉัน เสียจนสะใจ
ฝันเพลินไป วิมาน ลมๆ.
.เกลียดเธอนักรักไร้บำเรอ
จ้วงจาบเธอหลงใหลอาจม
หากเขาตรม
แต่ฉันตาย เลือกใคร
แต่วันนี้ฉันรู้ความจริง
ไม่ประวิง รัญจวนหวนให้
ตราบนี้ฟ้ากั้นหัวใจ คนละฟาก
....ดนตรี........
>ฉัน จะไม่โหยหา ลมหวน
หรือ หลงรัญจวนอาลัย
เล่ห์ความรัก วกวน
หลอกฉัน เสียจนสะใจ
ฝันเพลินไป วิมาน ลมๆ.
.เกลียดเธอนักรักไร้บำเรอ
จ้วงจาบเธอหลงใหลอาจม
หากเขาตรม
แต่ฉันตาย เลือกใคร
แต่วันนี้ฉันรู้ความจริง
ไม่ประวิง รัญจวนหวนให้
ตราบนี้ฟ้ากั้นหัวใจ คนละฟาก
..
.




น่ารัก
อรวี สัจจานนท์
Bb

ถามใจเธอดูก่อน ( Db )
อรวี สัจจานนท์
Db

....ดนตรี........
น่ารักเมื่อเธออยู่ใกล้
หวานหวานละมัย
นี่แหละใจของเธอ
ซ่อนใจฉันไม่กล้าเสนอ
เกรงว่าฉันจะเก้อ
เธอรักก่อนได้ไหม
หากรักบอกมาค่อยค่อย
ขวัญฉันจะลอย
ลิ่วไปไกลแสนไกล
โธ่เอ๋ยขวัญมันคงหวั่นไหว
ยามที่เห็นเธอใกล้
ใจฉันสั่นละเมอ
ยิ่งคิดบางครั้งฉันก็
ท้อใจด้วยจนหนทาง
รักเอ๋ยช่วยเผยใจพราง
เปิดทางให้บ้าง
สร้างสะพานรัก
ทอดไว้ให้ใจฉันข้าม
แล้วฉันจะตาม
ติดเธอไปทุกทาง
บ่ายเย็น เช้าสายยามรุ่งสาง
มอบใจรักเคียงข้าง
จะไม่สร่างรักเธอ
....ดนตรี........
ยิ่งคิดบางครั้งฉันก็
ท้อใจด้วยจนหนทาง
รักเอ๋ยช่วยเผยใจพราง
เปิดทางให้บ้าง
สร้างสะพานรัก
ทอดไว้ให้ใจฉันข้าม
แล้วฉันจะตาม
ติดเธอไปทุกทาง
บ่ายเย็น เช้าสายยามรุ่งสาง
มอบใจรักเคียงข้าง
จะไม่สร่างรักเธอ
..
.



ดนตรี 4 ห้อง..2...
3...4 ถามใจเธอดูก่อน
ถามใจเธอดูก่อน
ก่อนที่จะรักฉัน
ถามดูให้แน่ใจ
แน่ใจค่อยบอกกัน
เอาอย่างนั้น ดีกว่า
สำหรับฉัน ฉันถามดูแล้ว
หลายครั้งหลายคราว
แน่ใจมั่นใจ ชายใดไม่ปรารถนา
ไม่รักใครเกิน ไปกว่าเธอ
พร้อมให้เธอ พิสูจน์หัวใจ
ของฉันได้เสมอ
ไม่มีปัญหาใด
หวั่นใจตรงที่เธอ
กลัวว่า จะไม่รักฉันจริง
ดนตรี 4 ห้อง..2...
3...4 ถามใจเธอดูก่อน
ถามใจเธอดูก่อน
ก่อนที่จะรักฉัน
ถามดูให้แน่ใจ
แน่ใจค่อยบอกกัน
เอาอย่างนั้น ดีกว่า
สำหรับฉัน ฉันถามดูแล้ว
หลายครั้งหลายคราว
แน่ใจมั่นใจ ชายใดไม่ปรารถนา
ไม่รักใครเกิน ไปกว่าเธอ
พร้อมให้เธอ พิสูจน์หัวใจ
ของฉันได้เสมอ
ไม่มีปัญหาใด
หวั่นใจตรงที่เธอ
กลัวว่า จะไม่รักฉันจริง
.



ยิ่งกว่าฆาตกร(Cm)
อรวี สัจจานนท์
Cm

เรณูยังหนาว
อรวี สัจจานนท์
C

....ดนตรี..........
ฉันยอมทิ้งร่าง ลงคุกเข่า.คร่ำครวญ
โปรดอย่าด่วนคิดตัดรอน
แต่เธอผลักไสมิได้อาทร
ต่อคำวอน ขอความเมตตา
....ดนตรี..........
แล้วยังหยามเหยียด
เปรียบฉันเช่น..เดนคน
ลืมความสุขล้น ผ่านมา
อิ่มเอมรสหวาน ซ่านในวิญญา
สิ้นปรารถนา แล้วมาหมางเมิน
....ดนตรี..........
ฉัน.ทำ ทุกอย่าง.เพื่อเธอ
ด้วยความรักเธอ เหลือเกิน
เธอกลับบอกฉันว่า ไม่ได้เชิญ
ชอกช้ำใดเกิน หลงเพลินบูชา
ฉันจึงคิดว่า เธอยิ่งกว่า.ฆาตกร
ทำการยอกย้อน เข่นฆ่า
โอ้ใจไฉน ไร้ความเมตตา
กลับตัดใจฆ่า แม้รู้ว่า.ฉันรักเธอ
....ดนตรี..........
ฉัน.ทำ ทุกอย่าง.เพื่อเธอ
ด้วยความรักเธอ เหลือเกิน
เธอกลับบอกฉันว่า ไม่ได้เชิญ
ชอกช้ำใดเกิน หลงเพลินบูชา
ฉันจึงคิดว่า เธอยิ่งกว่า.ฆาตกร
ทำการยอกย้อน เข่นฆ่า
โอ้ใจไฉน ไร้ความเมตตา
กลับตัดใจฆ่า แม้รู้ว่าฉัน.รัก.เธอ

....ดนตรี..........
เรณูนคร ถิ่นนี้ที่เคยใฝ่ฝัน
ความรักสัมพันธ์
ก่อนนั้น เคยคลอเคียงใกล้
ครั้งเที่ยวชมงาน
พระธาตุพนม จำได้ไหม
หลายปี ที่ร้างแรมไกล
แล้วทำไม พี่ลืมอีสาน.
เราเคยสัมพันธ์
ก่อนนั้นเป็นเพียงความหลัง
ลืมแล้วหรือยัง
เมื่อครั้ง สัญญาหมายมั่น
พี่อยู่เมืองกรุง
เฟื่องฟุ้งลืมคำ ที่เคยผูกพัน
น้องยัง ไม่ลืมคำมั่น
สุดหวั่นไหว ก่อนลา
.ผ้าผวยร้อยผืน
ไม่ชื่นเหมือนรักจากพี่
หน้าหนาวคราวนี้
ไม่มี พี่สุดเหว่ว้า
ป่านนี้ พี่คง จะสุขอุรา
ลืมแล้วสาวชาวนา
ไม่กลับมา นคร พนม.
เย็นลมเหมันต์
ผ่านผัน อีกปีแล้วหนอ
หลอกให้หลงรอ
อีกหนาวปานใดเหลือข่ม
แม้นพี่ไม่มา
นมัสการ พระธาตุพนม
ขอเพียง ฝากใจตามลม
อย่าลืมสาว เรณู
....ดนตรี..........
เย็นลมเหมันต์
ผ่านผัน อีกปีแล้วหนอ
หลอกให้หลงรอ
อีกหนาวปานใดเหลือข่ม
แม้นพี่ไม่มา
นมัสการ พระธาตุพนม
ขอเพียง ฝากใจตามลม
อย่าลืมสาว เรณู
..
.




เพื่อเธอที่รัก
อรวี สัจจานนท์
Bb

หลักไม้เลื้อย (F)
อรวี สัจจานนท์
F

....ดนตรี.........
..>>>ม่านประเพณี
ที่กั้นขวากขวาง ยังมีหนทาง
เปิดทางให้สักหน
ทำนบหัวใจ ยากไร้ก็ไม่ทานทน
ถ้าเราสองคน
จะมีเหตุผลก็ชมชิดได้
ห่างไกลเพียงไหนก็ไม่อาจพ้น
มือเราสองคน
เอื้อมคว้ามาอิงแอบไว้
แต่เราสองคน
สุดคิดเลือกทำตามใจ
พบกัน สายไป
จึงต้องห้ามใจทั้งๆสุดรัก
ศีลธรรม เหนือสิ่งอื่นใด
แย่งของรักใคร บาดใจนัก
ยอมช้ำอุรา ใช่ฉันจะสิ้นรัก
ฉันยอม อกหัก
เพื่อเธอที่รัก ชื่นใจ
สู้ทนดับไฟสวาทดวงนั้น
ก็ยังเหลือควัน
คิดถึงคิดถึง ไม่วาย
คิดถึงเหลือเกิน
ป่านนี้เธอคงร้องไห้
เสียดายเสียดาย
ฉันไม่อาจช่วยซับหยาดน้ำตา
....ดนตรี.............
..>>>สู้ทนดับไฟสวาทดวงนั้น
ก็ยังเหลือควัน
คิดถึงคิดถึง ไม่วาย
คิดถึงเหลือเกิน
ป่านนี้เธอคงร้องไห้
เสียดายเสียดาย
ฉันไม่อาจช่วยซับหยาดน้ำตา...



....ดนตรี..........
เพราะเธอเหมือนหลัก ไม้ตั้งตรงนั่น
ไม้เลื้อยอย่างฉัน ได้พันอาศัย
ขาดเธอเหมือนขาด หลักชีวิตไป
ก้าวเดินทางใด ขาดความมั่นใจแน่นอน
เพราะเธอเหมือนสร้อย พระห้อยคอนั่น
คุ้มครองป้องกัน ภูตภัยหลอกหลอน
ขาดเธอหัวอก หวั่นไหวสั่นคลอน
แม้ยามจะนอน ประสาทยังหลอนตัวเอง
กลับ.มา หาฉันเถิดนะคนดี
มาปลอบชีวี ฉันให้หายวังเวง
ฉันเหมือนพิณ ขึ้นสายรอเธอบรรเลง
ดีดเป็นเพลง ฟังชื่นฉ่ำอุรา
ขอวอนเดือนเด่น และดาวลอยลิบ
ช่วยเตือนกระซิบ ให้เธอกลับมา
อยู่ชิดเคียงข้าง ดั่งคำสัญญา
คิดถึงเจียนบ้า ปรี่มว่าจะขาดใจ
....ดนตรี..........
ขอวอนเดือนเด่น และดาวลอยลิบ
ช่วยเตือนกระซิบ ให้เธอกลับมา
อยู่ชิดเคียงข้าง ดั่งคำสัญญา
คิดถึงเจียนบ้า ปริ่มว่าจะขาดใจ
ฮือ...ฮือ...ฮือ
ฮือ...ฮือ...ฮือ
ฮือ......


ส่วนเกิน(F)
อรวี สัจจานนท์
F

สาวสะอื้น
อรวี สัจจานนท์
C

....ดนตรี..........
มองดาวเดือน ที่ลอยล้นเกลื่อน.นภา
ลมโบกพริ้วโชยมา ใจผวาลอยเลื่อน
ระทมระทวย ระทึกฤทัยไร้เพื่อน
ใจนึกอยากเป็นเดือน
มีดาวล้อมเกลื่อนรอบกาย
มองดู.ตัวเรา
แสนจะว่างเปล่าเดียวดาย
น่าอายขวยเขิน
ป่านนี้เขานอน ชิดเนื้อนวลชวนเชิญ
แต่เราส่วนเกิน เขาคงเมินให้คอย
...มนต์อันใดมัดใจเราให้ ใฝ่หา
ใจก็รู้ดีว่า นี่แหละหนาปมด้อย
คนมีภรรยาเขาหรือจะมา ได้บ่อย
เราก็เฝ้าแต่คอย ดวงใจละห้อยคอยหา
อาดูรเดียวดาย เขาคงจะหน่ายไม่มา
หรือว่า..ทำเมิน เมื่อยามนิทรา
หอมภรรยาคุณเพลิน ปล่อยให้ส่วนเกิน
หอมหมอนเพลินแทนคุณ
....ดนตรี..........
มนต์อันใดมัดใจเราให้ ใฝ่หา
ใจก็รู้ดีว่า นี่แหละหนาปมด้อย
คนมีภรรยาเขาหรือจะมา ได้บ่อย
เราก็เฝ้าแต่คอย ดวงใจละห้อยคอยหา
อาดูรเดียวดาย เขาคงจะหน่ายไม่มา
หรือว่า..ทำเมิน เมื่อยามนิทรา
หอมภรรยาคุณเพลิน ปล่อยให้ส่วนเกิน
หอมหมอนเพลิน แทนคุณ

.....ดนตรี......
โอ้ ตัวเราคิดไปชวนเศร้า
ใจหนักหนา บ้านอยู่เขา
ลำเนาพนา แดนดงป่า
เราเกิดมาอาภัพยิ่ง
เมื่อมีชาย หมายปอง ปองมั่น
ทำให้หวั่นใจหญิง
ขอฝากรัก แต่มักไม่จริง
ยังเกรงกริ่ง
นึกกลัวจริง ๆ น้ำใจผู้ชาย
เราเป็นหญิงชาวเขาป่าดง
ชายประสงค์เพียงหลงรูปกาย
ได้ชม พอสมใจก็หน่าย
ความหวานคลาย
กลับกลายเป็นรอยน้ำตา
เจ็บและอาย เหมือนคนใจง่าย
ใครเขาไม่นำพา หญิงเช่นเรา
อับเฉาเกิดมา ไร้ราคา
หัวใจวาจา ยังซื่อสัตย์เอย
เราเป็นหญิงชาวเขาป่าดง
ชายประสงค์เพียงหลงรูปกาย
ได้ชม พอสมใจก็หน่าย
ความหวานคลาย
กลับกลายเป็นรอยน้ำตา
เจ็บและอาย เหมือนคนใจง่าย
ใครเขาไม่นำพา หญิงเช่นเรา
อับเฉาเกิดมา ไร้ราคา
หัวใจวาจา ยังซื่อสัตย์เอย


ศัตรูหัวใจ(F)
อรวี สัจจานนท์
F

รักที่เลือกไม่ได้(G)
อรวี สัจจานนท์

....ดนตรี..........
มีรักทั้งที ก็มีศัตรูหัวใจ
มีรักทำไม เมื่อใจต้องทรมาน
ฉันปัญญาชน ใช่เป็นแต่เช่นคนพาล
เมื่อความรักมันต้องการ
จะประหารใครช่างมัน
โลกลวงหรือคน
หลอกคนให้เดินหลงทาง
โลกหรือคนสร้าง ให้เกิดแก่ดวงชีวัน
แล้วใครบัญชา รักมาให้เกิดกับฉัน
แล้วใครกัน ทำลายฉันให้ยับเยิน
ในโลกคนลวง
ใจฉันถูกลวงจากความรัก
ในโลกความรัก ฉันถูกหักใจเหลือเกิน
สิ่งที่เหลือ คือความจริงให้ฉันเผชิญ
คือความยับเยิน
คือความยับเยิน แก่ใจฉัน
มีรักทั้งที ต้องมีศัตรูหัวใจ
มีรักทำไม เมื่อใจไม่จริงใจกัน
รักกันทำไม ผลาญใจแทบสิ้นชีวัน
ทำไมฉัน จึงต้องมีศัตรูหัวใจ
....ดนตรี..........
มีรักทั้งที ต้องมีศัตรูหัวใจ
มีรักทำไม เมื่อใจไม่จริงใจกัน
รักกันทำไม ผลาญใจแทบสิ้นชีวัน
ทำไมฉัน จึงต้องมีศัตรูหัวใจ
..จบ..BO 1997....



....ดนตรี..........
ฉันเกิดมาแล้ว ก็เหมือนกับคนทั้งหล้า
มีปรารถนา และมีหัวใจ
ฉันก็เหมือนหญิง ทั่วไป
หมายมอบกายและดวงใจ
ให้คนที่ฉัน ใฝ่ปอง
ฉันไม่ได้รักผู้ชายคนนี้ สักหน่อย
แม้แต่สักน้อย ไม่เคยเหลียวมอง
ฉันต้องให้เขาเคียงครอง
ทั้งที่ไม่รักไม่ปอง
เหมือนอยู่กรงทอง แต่นองน้ำตา
..โอ้.รัก ที่เลือกไม่ได้
เจ็บปวดดวงใจ แสนทรมาน
ด้วยมีรัก ที่ได้ไม่ปรารถนา
รักที่ศรัทธา ..มิได้ดังใจ
หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝัน เคียงคู่
ได้โปรดจงรู้ ฉันตรมหัวใจ
เขาอาจพรากฉัน เพียงกาย
มิอาจพรากรักไปได้
แม้ชีพสลาย จะรักแต่เธอ
....ดนตรี..........
..โอ้.รัก ที่เลือกไม่ได้
เจ็บปวดดวงใจ แสนทรมาน
ด้วยมีรัก ที่ได้ไม่ปรารถนา
รักที่ศรัทธา ..มิได้ดังใจ
หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝัน เคียงคู่
ได้โปรดจงรู้ ฉันตรมหัวใจ
เขาอาจพรากฉัน เพียงกาย
มิอาจพรากรัก ไปได้
แม้ชีพสลาย จะรัก แต่เธอ


2 comments:

  1. ชอบค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ReplyDelete
  2. อยากได้เนื้อเพลง ผู้แพ้รัก..หวงรักด้วยค่ะ

    ReplyDelete