นึกเสียว่าสงสาร อ้อย วงกระท้อน | น้ำตาและพรหมจรรย์ อ้อย กะท้อน |
.....ถาม ว่ารักแค่ ไหน นับเม็ดทราย ท้องทะเล ก็รู้ ลมหาย ใจ ที่มีอยู่ คือความ คิดถึงจาก ฉัน ถาม จะเจ็บแค่ ไหน หากเธอไป รักใคร สักวัน ก็ลองนับ ดูสาย ฝนพรำ นั่นคือ น้ำตาจาก ใจ ก็เลยอยาก ให้รู้ ก็เลยอยาก ให้เห็น ก่อนจะทำ ร้ายกัน กว่านี้ เพราะโลกนี้ มีเธอ เพียง คนเดียว ฉันจึง เสียเธอ ไม่ได้ ถ้าเธออยาก ทำร้าย ก็เชิญ อย่าเดิน หนีไป จากฉัน นึกเสียว่า สงสาร อย่าลงทัณฑ์ ด้วยการลา จาก ...ดนตรี.......... ....ถาม กันสักกี่ ครั้ง ก็ยัง บอกเธอ อย่างนี้ ฟ้า ทุกวันเปลี่ยน สี แต่ฉัน ไม่เคยเปลี่ยน ใจ ก็เลยอยาก ให้รู้ ก็เลยอยาก ให้เห็น ก่อนจะทำ ร้ายกัน กว่านี้ เพราะโลกนี้ มีเธอ เพียง คนเดียว ฉันจึง เสียเธอ ไม่ได้ ถ้าเธออยาก ทำร้าย ก็เชิญ อย่าเดิน หนีไป จากฉัน นึกเสียว่า สงสาร อย่าลงทัณฑ์ ด้วยการลา จาก นึกเสียว่า สงสาร อย่าลงทัณฑ์ ด้วยคำ ว่าลา ก่อน | ....ดนตรี...... .รู้ ว่าเธอไม่มีทางออก เจ็บ ช้ำใจเพราะน้ำมือเขา เสีย รู้ เสียตัวเสียเวลาเปล่า เชื่อคำ เชื่อเขาเมื่อรักเข้าตา .หวั่นกลัว มืดมัวในห้วงอารมณ์ ตรม เพราะรักลวงพิษเสน่ห์หา ดิ่งลึก จมทะเลน้ำตา เลือดเนื้อ ก่อเกิดมา ไม่ตั้งใจ .ตัดสินใจทำร้าย สาย เลือด หมอเถื่อน เฉือนเชือด ชีวิตเขา ลูกเอ๋ย โลกนี้ไม่ใช่ของเจ้า กลับไป ที่เก่า ที่เจ้ามา .ฉัน เสียใจเมื่อเธอร้องไห้ เธอ ผิดพลั้งไป เพราะไร้เดียงสา รัก เอ๋ย ไหนว่าล้ำเลอค่า แท้จริงเท่าหยดน้ำตา และพรหมจรรย์ ....ดนตรี...... .ตัดสินใจทำร้าย สาย เลือด หมอเถื่อน เฉือนเชือด ชีวิตเขา ลูกเอ๋ย โลกนี้ไม่ใช่ของเจ้า กลับไป ที่เก่า ที่เจ้ามา .ฉัน เสียใจเมื่อเธอร้องไห้ เธอ ผิดพลั้งไป เพราะไร้เดียงสา รัก เอ๋ย ไหนว่าล้ำเลอค่า แท้จริงเท่าหยดน้ำตา และพรหมจรรย์ โอ้รักเอ๋ย ไหนว่าล้ำเลอค่า แต่เธอ ต้องแลกมาด้วยพรหมจรรย์ |
บ๊ายบายบางกอก อ้อย กระท้อน | ตะวันชิงพลบ อ้อย กะท้อน |
....ดนตรี....... เหมือนฟองสบู่ ทาถูแล้วปล่อยทิ้ง โอ้ชีวิตจริง เหมือนดังละคร เปรียบดังนก ขมิ้นเหลืองอ่อน เพิ่งตื่นจากคอนหลงฟ้าซมซาน .แถมเงินดอลล่า ราคาก็เหนื่อยล้า ต้องการแบบไหน น้องนางโรงงาน หอบกระเป๋าทรุดเซกลับบ้าน เพื่อนเก่าโรงงาน ต้องบ๊ายบาย บ๊ายบาย >ลอยเหมือนฟองสบู่ ลอยเหมือนฟองสบู่ ที่เขาถูแล้วปล่อยทิ้ง ลอยเหมือนฟองสบู่ ลอยเหมือนฟองสบู่ ที่เขาถูแล้วปล่อยทิ้ง มีไหมใครจะรักจริง จริงใจ รักไปนานๆ ....ดนตรี....... ไม่อายใครหมิ่น บินร่อนถลา ตั้งแต่ก่อนหนา ยังคอยเสมอ มาใส่ผ้าถุง ฟังทรานซิสเตอร์ กลับไปสังสรรค์ แผ่นดิน บ้านนา .บ๊ายบาย บางกอก ตอกย้ำแต่งอเงิน ไม่อยากจะเดิน เร็วจี๋แย่งใคร ลาตึกสูง นิยมแสงไฟ เมืองศิวิไลซ์ ที่หาใจไม่เจอ .จะเอาใจกายฝากไว้บ้านนา จะเอาใจกายฝากไว้บ้านนา ต้องจากไฟฟ้า ขอลาบ๊ายบาย ขอใครสักคน รักจริงหัวใจ จะไม่ไปใหนขอตายที่บ้านนา >ลอยเหมือนฟองสบู่ ลอยเหมือนฟองสบู่ ที่เขาถูแล้วปล่อยทิ้ง ลอยเหมือนฟองสบู่ ลอยเหมือนฟองสบู่ ที่เขาถูแล้วปล่อยทิ้ง มีไหมใครจะรักจริง จริงใจ รักไปนานๆ >ลอยเหมือนฟองสบู่ ลอยเหมือนฟองสบู่ ที่เขาถูแล้วปล่อยทิ้ง ลอยเหมือนฟองสบู่ ลอยเหมือนฟองสบู่ ที่เขาถูแล้วปล่อยทิ้ง มีไหมใครจะรักจริง จริงใจ รักไปนานๆ .. | ...ตะวัน สาดแสง แรงกล้า เบื้องบน เอื้ออาทรทุกแห่ง ทุกหน ความคิด ความฝัน มุ่งกัน ทุกคน อยากเจิดจ้าเหมือนดัง ตะวัน .รักโลภ โกรธหลง มั่นคง ในใจ ปิดบังดวงตามืดมัวหม่น แก่งแย่ง แข่งขัน ห้ำหั่น เชือดเฉือน ไม่มีเพื่อนมีมิตรจริงใจ ....ดนตรี....... ชีวิต ไม่พ้น ขึ้นลงก็แค่นั้น อยากจะขึ้นอย่างนั้นให้นานๆ ตะวัน ชิงพลบ ชิงตกจากฟ้า ลา จากหายไป .ความรัก เจ้าเอ๋ย ทนทุกข์ อย่างนั้น ใยต้องมาปิดบังใจตน เมื่อใจ รักกัน บอกกัน ตรงๆ ปล่อยใจเคียงคู่กันตามทาง .ชีวิต ไม่พ้น ขึ้นลงก็แค่นั้น อยากจะขึ้นอย่างนั้นให้นานๆ ตะวัน ชิงพลบ ชิงตกจากฟ้า ลา จากหายไป .ความรัก เจ้าเอ๋ย ทนทุกข์ อย่างนั้น ใยต้องมาปิดบังใจตน ตะวัน ชิงพลบ เรื่องธรรมดา ปล่อยใจเคียงคู่กันตามทาง |
น้ำตาแม่ อ้อย กะท้อน | ใต้เงาแสงไฟ อ้อย กะท้อน |
.หยาดเหงื่อท่วมตัว ท่วมหัว โทรมกาย เหงื่อที่รินไหล คือแรงงาน ที่ทนทำกิน ส่งเจ้าเข้าเรียน ให้พากเพียร ให้ทุกทุกสิ่ง ถึงตัวจะกิน ไม่ค่อยอิ่ม ก็ขอให้ลูกสบาย .ทนหาบของขาย เหงื่อท่วมกายไม่เคยจะท้อ ถึงแดดจะเผา จะร้อนเพียงใด ไม่เคยจะล้า เก็บเงินค่าเทอม ส่งเจ้าเรียนให้มีการศึกษา ค่าน้ำประปา รวมทั้งค่าไฟ ใกล้มาสิ้นเดือน >ช่างโชคร้าย ลูกชายทำตัวแหลกเหลว คบเพื่อนเลว มั่วสุมเสพของมึนเมา สูบกัญชา ดมทั้งกาว ทั้งกินเหล้า ทุรนทุราย ใจแทบขาด เมื่อครั้งลงแดง .หมดความหวัง หมดพลังที่จะขวนขวาย กอดลูกชาย น้ำตาไหลโรยแรงอ่อนล้า แทบสิ้นตัว สิ้นกำลังหมดความแข็งแกร่ง แม่สิ้นแรง เมื่อเจ้าสิ้นลม ล้มไปต่อหน้า .>รถไฟดนตรี/Music Train.< >ช่างโชคร้าย ลูกชายทำตัวแหลกเหลว คบเพื่อนเลว มั่วสุมเสพของมึนเมา สูบกัญชา ดมทั้งกาว ทั้งกินเหล้า ทุรนทุราย ใจแทบขาด เมื่อครั้งลงแดง .หมดความหวัง หมดพลังที่จะขวนขวาย กอดลูกชาย น้ำตาไหลโรยแรงอ่อนล้า แทบสิ้นตัว สิ้นกำลังหมดความแข็งแกร่ง แม่สิ้นแรง เมื่อเจ้าสิ้นลม ล้มไปต่อหน้า เจ้าจากไปแล้วใครเล่าใคร จะอยู่กับแม่ ดั่งฝนหล่นพรำน้ำตาแม่ไหล ..แทบเป็นสายเลือด | แอบอิงพิงเสา เสื้อขาวกระโปรงสีดำ ใต้เงาสลัวยามค่ำ ยืนรอให้เขามาหา มาไถ่มาถาม สาวงามชุดนักศึกษา ฟังเขาพูดถึงเวลา และราคาให้พอลงตัว .หนูไม่มีเงิน จะลงทะเบียนเรียนต่อ หนังสือและค่าเช่าหอ วอนขอให้พี่เมตตา สงสารเถอะเฮีย เห็นใจเถอะนะป๋าขา พ่อแม่ถูดยึดที่นา ไม่มีปัญญาจะส่งหนูเรียน >แค่อยากมีมือถือ รถหรูและอยู่คอนโด หลงค่านิยมโก้ๆ ไปตามกระแสสังคม ยอมเอาเรือนกาย เร่ขายให้เขาชื่นชม สินค้าสุดยอดนิยม ของหัวงูที่มากโลกีย์ .อย่าเลยนะสาว เสื้อขาวกระโปรงสีดำ อาจมีผีเสื้อยามค่ำ. สวมรอยเป็นนักศึกษา แอบอิงพิงเสา ใต้เงาของภาพมายา แฝงตัวมั่วขายกามา ให้เสื่อมศรัทธา สถาบัน >แค่อยากมีมือถือ รถหรูและอยู่คอนโด หลงค่านิยมโก้ๆ ไปตามกระแสสังคม ยอมเอาเรือนกาย เร่ขายให้เขาชื่นชม สินค้าสุดยอดนิยม ของหัวงูที่มากโลกีย์ .อย่าเลยนะสาว เสื้อขาวกระโปรงสีดำ อาจมีผีเสื้อยามค่ำ. สวมรอยเป็นนักศึกษา เป็นผีขนุน รู้กันว่าคือมายา ใต้เงาเสาไฟพรางตา นี่หรือศรัทธา สถาบัน |
No comments:
Post a Comment