++++

คลิกที่ + - เพื่อเพิ่ม ลดความเร็วในการดูภาพ

===== Photo album =====
  1. รูปถ่ายของ แมงปอ ชลธิชา มาเยือนเวทีไท 18 สค.2550
  2. รูปถ่ายของ น้องเบนซ์ จูเนียร์ บนเวทีไท 18 สค.2550
  3. รูปถ่ายของไผ่ พงศธร มาออกรายการ 07 show 12 สค 50
  4. รูปถ่ายของ ก็อท จักรพันธ์, แพรวา พัชรี, ไผ่ พงศธร, รัชนก ศรีโลพันธ์, ดอกอ้อ ทุ่งทอง บนเวทีไท 11 สค.50
  5. รูปถ่ายพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  6. รูปถ่ายไหมไทย ใจตะวัน บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  7. ภาพบรรยากาศ งานมหกรรมคอนเสิรต์ "ด้วยรักแด่ครูสลา" 11 มี.ค.50

ค้นหาทุกอย่างในเวบนี้


สถิติผู้เข้าชม คน
Stats (เริ่มนับ 23 ส.ค.2550-10.00 น.)

  1. Clip Video คอนเสิร์ต เสียงอิสาน ณ เวทีไทย ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.2550
  2. clip video ไผ่ พงศธร , พี สะเดิด, แพรวา พัชรี ,ตั๊กแตน ชลดา มาออกรายการจันทร์พันดาว 10 ก.ย.2550
  3. MV 6 เพลงสุดม่วนของ หมอลำคู่เอก ปฤษณา วงศ์ศิริ & บานเย็น รากแก่น
  4. MV รวม 7 คลิปวิดีโอการแสดงสดของ ไหมไทย ใจตะวัน (สมัยอยู่เสียงอีสาน)
  5. MV ศิริพร อำไพพงษ์ โบว์รักสีดำ |

Thursday, December 31, 2009

MV คิดถึง...คิดถึง - พี สะเดิด

MV คิดถึง...คิดถึง - พี สะเดิด

Tuesday, December 29, 2009

MV หนาวงานธาตุ - ศิริพร อำไพพงษ์ อำไพพงษ์

MV หนาวงานธาตุ - ศิริพร อำไพพงษ์ อำไพพงษ์

Wednesday, December 23, 2009

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - รักสีทอง

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - รักสีทอง
http://www.youtube.com/watch?v=03tj3P5QmJc

Sunday, December 13, 2009

MV เคียงข้างสร้างฝัน : ตั๊กแตน ชลดา, ไมค์ ภิรมย์พร

MV เคียงข้างสร้างฝัน : ตั๊กแตน ชลดา, ไมค์ ภิรมย์พร
http://www.youtube.com/watch?v=1Th5yb6IqBk

MV พี สะเดิด - เอาปลาข่อน

MV พี สะเดิด - เอาปลาข่อน
http://www.youtube.com/watch?v=jLv68RmHGvA

Wednesday, December 9, 2009

MV ขอยืมคิดฮอดแนเด ้อ - ศิริพร อำไพพงษ์

MV ขอยืมคิดฮอดแนเด ้อ - ศิริพร อำไพพงษ์

Thursday, December 3, 2009

MV เหนื่อยไหมคนดื(ไมค์ ภิรมย์พร)

MV เหนื่อยไหมคนดื(ไมค์ ภิรมย์พร)
http://www.youtube.com/watch?v=r-Sr_QsEfh4

สัญญาเจ้าลืม หนู มิเตอร์

สัญญาเจ้าลืม หนู มิเตอร์
http://www.youtube.com/watch?v=JU6TFZiWmxk

Monday, November 23, 2009

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - จับเคียวเกี่ยวรุ้ง

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - จับเคียวเกี่ยวรุ้ง
http://www.youtube.com/watch?v=22FYLjItIQM

Friday, November 13, 2009

MV อย่าเปิดเพลงนั้น - ตั๊กแตน ชลดา

MV อย่าเปิดเพลงนั้น - ตั๊กแตน ชลดา
http://www.youtube.com/watch?v=JtNPR0cBLt0

หนุ่มขอนแจ่น พี สะเดิด

หนุ่มขอนแจ่น พี สะเดิด
http://www.youtube.com/watch?v=CinIg55SNMo

Monday, November 9, 2009

MV ปริญญาลูกแม่ค้า - ศิริพร อำไพพงษ์

MV ปริญญาลูกแม่ค้า - ศิริพร อำไพพงษ์

Tuesday, November 3, 2009

MV มือถือมือสอง : ไมค์ ภิรมย์พร

MV มือถือมือสอง : ไมค์ ภิรมย์พร
http://www.youtube.com/watch?v=pMe3ec_1SP4

คาราโอเกะ - จตุรทุ่ง - ปรากฏการณ์รัก - หนู มิเตอร์ หลวงไก่ บ่าววี วิด ...

คาราโอเกะ - จตุรทุ่ง - ปรากฏการณ์รัก - หนู มิเตอร์ หลวงไก่ บ่าววี วิด ...

Sunday, November 1, 2009

MV คืนนี้เมื่อปีกลาย - ต่าย อรทัย

MV คืนนี้เมื่อปีกลาย - ต่าย อรทัย

Friday, October 23, 2009

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - น้ำฝนน้ำตา

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - น้ำฝนน้ำตา
http://www.youtube.com/watch?v=MQkI2d-1mzA

Saturday, October 17, 2009

MV ยิ่งห่างยิ่งคิดฮอด - ไผ่ พงศธร

MV ยิ่งห่างยิ่งคิดฮอด - ไผ่ พงศธร

Tuesday, October 13, 2009

MV แฟนเก็บ : ตั๊กแตน ชลดา

MV แฟนเก็บ : ตั๊กแตน ชลดา
http://www.youtube.com/watch?v=_3fD_OSP9Z4

พี สะเดิด - รักคนโทรมาจังเลย

พี สะเดิด - รักคนโทรมาจังเลย
http://www.youtube.com/watch?v=CYwY0_fG-ws

Friday, October 9, 2009

MV กินข้าวนำกันเด้ ออ้าย - ศิริพร

MV กินข้าวนำกันเด้ ออ้าย - ศิริพร

Wednesday, October 7, 2009

MV แสงไฟในเศษฟืน - หลวงไก่

MV แสงไฟในเศษฟืน - หลวงไก่

Saturday, October 3, 2009

MV ยาใจคนจน(ไมค์ ภิรมย์พร)

MV ยาใจคนจน(ไมค์ ภิรมย์พร)
http://www.youtube.com/watch?v=B4urZRR1AO8

แนวหน้าลาแฟน - หนู มิเตอร์

แนวหน้าลาแฟน - หนู มิเตอร์

Thursday, October 1, 2009

MV คนไกลเบอร์เก่า - ไผ่ พงศธร & แพรวา

MV คนไกลเบอร์เก่า - ไผ่ พงศธร & แพรวา

Tuesday, September 29, 2009

MV ขอทำเพื่ออ้าย ศิริพร อำไพพงษ์

MV ขอทำเพื่ออ้าย ศิริพร อำไพพงษ์




ขอทำเพื่ออ้าย
ศิริพร อำไพพงษ์ - ขอทำเพื่ออ้าย
คำร้อง /ทำนอง สลา คุณวุฒิ
เรียบเรียง ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว


คนฮักนอกใจถามว่าใครบ่เสียใจบ้าง
เจ็บอีหยังสิเท่าทนฟังคนนินทาแฟน
แต่ที่ยังนิ่งเพราะมีสิ่งหนึ่งอยู่เหนือความแค้น
คือฮักที่ยังฝังแน่นต่ออ้ายบอกใจให้ทน

รับใครอีกคนเก็บไว้บนห้องลับใจอ้าย
ถึงจับบ่ได้ก็รู้สึกได้กลุ้มใจกังวล
ทำให้รู้ว่าหน้าที่ของแฟนอีกข้อคือทน
น้ำตาแทบมีเลือดปนเจ็บต้องทนกลืนความเสียใจ

ขอทำเพื่ออ้ายบอกใจฝึกช้ำให้ชิน
สิบ่ได้ยินถึงผู้คนนินทาแค่ไหน
บ่อยากให้เห็นก็สิบ่เห็นที่อ้ายเป็นไป
จะใช้คำว่าฮักอ้ายอธิบายกับทุกคำถาม

ใครเขาประณามหมิ่นและหยามว่าโง่ก็ช่าง
เจ็บกี่ครั้งสิยังรักษาฮักเฮาให้งาม
ท่องความดีอ้ายห่อฮักเคยให้ห่มใจทุกยาม
รับมาร้อยเจ็บพันช้ำถือว่าได้ทำช้ำแทนคุณใจ

ใครเขาประณามหมิ่นและหยามว่าโง่ก็ช่าง
เจ็บกี่ครั้งสิยังรักษาฮักเฮาให้งาม
ถึงฮักโดนแบ่งอ้อมกอดโดนหารใจโดนคุกคาม
ถ้าอ้ายสุขที่ได้ทำสิยิ้มงามๆ รับความช้ำใจ

Sunday, September 27, 2009

MV มักแล้วครับ - ปอยฝ้าย มาลัยพร ม่วนโดนใจอีหลีเด้อ




เพลง : มักแล้วครับ
ศิลปิน : ปอยฝ้าย มาลัยพร
เนื้อเพลง :

อั่นผู้สาวครับ คึเป็นตาฮักแถะครับ
อั่นบ้านอยู่ไสน้อครับ ขอเว้านำแหน่เด้อครับ
อายุท่อใด๋แล้วครับ มีแฟนเล่าไปหล่ะครับ
ขอจีบซิได้บ่ครับ ขอนั่งใกล้ๆเด้อออ ครับ
โอ้ย...งาม~
อั่นผู้สาวครับ ผมบ่มีแฟนเด้อครับ
อยากมัก มักดั้ยเด้อครับ รับรองบ่ผิดหวังครับ
บ่หล่อเร้าใจเด้อครับ ลองเบิ่งกะดั้ยเด้อครับ
โอ้ยใจสิขาดแล้วครับ มามักกับผมเด้อครับ
โอ้ย...สะออน~
*ผู้สาวบ้านใด หล่ะทั้งใสทั้งแจ่ม มีแต่หม่องตะแนม ทั้งแก้ม ทั้งปาก
ตาเจ้าก็ใหญ่ หน้าอกเจ้าก็ใหญ่ หน้าผากเจ้าก็ใหญ่
ป๊าดดด มีแต่แนวใหญ่ๆ หล่ะดูดีไปหมด
ผิวพรรณของแกหล่ะขาวแก่นเอิ่นเติ่น มักแล้วคนงาม
มักเจ้าไปหมด ทุกซอกทุกมุม
โอ้ย...อยากหม่มหลืบ~
**อั่นผู้สาวครับ ขอเบอร์ได้บ่น้อครับ
อยากโทรไปเล่นนำครับ มื้อแลงว่างบ่อน้อครับ
อยากซวนเที่ยวผับดอกครับ อื่นเซ้าจั่งกลับน้อครับ
ตกลงมักกันเนาะครับ มักแล้วมักเลยเด้..ครับ~
โอ้ย...มักอีหลี่เด้เนี่ย เข้าใจบ๊?~
( ซ้ำ *, ** )

Clip video ศิริพร อำไพพงษ์ พาชิมร้านแพ 12 ราศี

ศิริพร พามาชิมอาหารริมแม่น้ำโขง
ร้าน แพ 12 ราศี จ.หนองคาย ทาง FAN TV

Wednesday, September 23, 2009

MV เหนื่อยไหมคนดี - ศิริพร &ไมค์

MV เหนื่อยไหมคนดี - ศิริพร &ไมค์
http://www.youtube.com/watch?v=4jBrboDPS0o

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - อย่าคอยวาสนา

หนู มิเตอร์ #ความรัก ความหวัง ความฝัน - อย่าคอยวาสนา
http://www.youtube.com/watch?v=JTYEpRt86Ag

Sunday, September 20, 2009

MV ผ้าขาวม้า - มนต์สิทธิ์ & ดำรงค์

MV ผ้าขาวม้า - มนต์สิทธิ์ & ดำรงค์

Saturday, September 19, 2009

MV 30 ยังแจ๋ว - ดำรงค์ วงศ์ทอง

MV 30 ยังแจ๋ว - ดำรงค์ วงศ์ทอง

MV พี สะเดิด 4 - สบตาหน้าฮ้าน

MV พี สะเดิด 4 - สบตาหน้าฮ้าน

MV เสืยงนกสะกิดใจ(ศิริพร อำไพพงษ์)

MV เสืยงนกสะกิดใจ(ศิริพร อำไพพงษ์)

Sunday, September 13, 2009

MV มีคนเหงารออยู่เบอร์นี้ : ตั๊กแตน ชลดา

MV มีคนเหงารออยู่เบอร์นี้ : ตั๊กแตน ชลดา
http://www.youtube.com/watch?v=syR58ctXhcE

พี สะเดิด 4 - ความต้องการทางแพทย์สูง

พี สะเดิด 4 - ความต้องการทางแพทย์สูง
http://www.youtube.com/watch?v=2gbi39PBuxs

จดหมายฉบับสุดท้าย - เกษม คมสันต์

จดหมายฉบับสุดท้าย - เกษม คมสันต์
http://www.youtube.com/watch?v=9Vlho8s_OHI

MV แค่โทรมาบอกว่าคิดถึง - หลวงไก่

MV แค่โทรมาบอกว่าคิดถึง - หลวงไก่

MV น้ำตาหล่นบนที่นอน - ต่าย อรทัย

MV น้ำตาหล่นบนที่นอน - ต่าย อรทัย

Saturday, September 12, 2009

MV เสียงอิสานชุดที่19

MV เสียงอิสานชุดที่19

Wednesday, September 9, 2009

MV ตลก 6 ฉาก - อี๊ด โปงลางสะออน

MV ตลก 6 ฉาก - อี๊ด โปงลางสะออน

MV เจ็บที่จริงใจ - ศิริพร อำไพพงษ์

MV เจ็บที่จริงใจ - ศิริพร อำไพพงษ์




เนื้อเพลง เจ็บที่จริงใจ
ศิริพร อำไพพงษ์ - เจ็บที่จริงใจ
คำร้อง /ทำนอง จีรณา เนียมคล้าย
เรียบเรียง ธนกร เลิศวาทิน


ฮู้อยู่ ว่าอ้ายนั้นมีหลายใจ
อดีตอ้ายมีมากมาย น้องเพียงผ่านกายมาเพิ่มจำนวน
มาเป็นกับแกล้ม ยามผู้ชายเหงาพอเว้ากันม่วน
ช้ำเจ็บบ่อาจคร่ำครวญ ก็เพราะเรานั้นง่ายเกินไป

บ่ได้ตั้งใจให้อ้ายหลูโตน
ตกกระไดพลอยโจน ซ้ำยังโดนเหยียบย่ำหัวใจ
เสียงอ้ายฮ้องด่า เธอจะมาเรียกร้องอะไร
มันตอกลิ่มกลางดวงใจ หมดเยื่อใยแล้วอ้ายบ่แคร์

รู้ตัวว่าผิด ที่คิดไปมีใจให้
ที่อ้ายตอบแทนหัวใจ ด้วยการทำลายช่างสาใจแท้
ผู้หญิงใสซื่อผ่านมือแล้วใจอ้ายบ่แคร์
คิดว่าจะเป็นรักแท้ กลับเป็นแค่ของกินในครัว

ฮู้อยู่ ว่าน้องบ่แม่นตัวจริง
อยากบอกว่าหัวใจหญิง บ่ฮักไผจริงบ่ยอมปล่อยตัว
จริงใจแล้วเจ็บ บ่อยากจะเก็บเอามาพันพัว
เฮาจบกันแล้วทูนหัว น้องยอมถอนตัวให้พ้นทางใจ

รู้ตัวว่าผิด ที่คิดไปมีใจให้
ที่อ้ายตอบแทนหัวใจ ด้วยการทำลายช่างสาใจแท้
ผู้หญิงใสซื่อผ่านมือแล้วใจอ้ายบ่แคร์
คิดว่าจะเป็นรักแท้ กลับเป็นแค่ของกินในครัว

ฮู้อยู่ ว่าน้องบ่แม่นตัวจริง
อยากบอกว่าหัวใจหญิง บ่ฮักไผจริงบ่ยอมปล่อยตัว
จริงใจแล้วเจ็บ บ่อยากจะเก็บเอามาพันพัว
เฮาจบกันแล้วทูนหัว น้องยอมถอนตัวให้พ้นทางใจ

Thursday, September 3, 2009

MV อยากเด็ดดอกฟ้า(ไมค์ ภิรมย์พร)

MV อยากเด็ดดอกฟ้า(ไมค์ ภิรมย์พร)
http://www.youtube.com/watch?v=Qp2qDxsLKf4

หนู มิเตอร์ - คาราโอเกะ - เพลง เปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนใจ

หนู มิเตอร์ - คาราโอเกะ - เพลง เปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนใจ

Friday, July 31, 2009

MV โลกของผึ้ง - เอิร์น เดอะสตาร์

MV โลกของผึ้ง - เอิร์น เดอะสตาร์

MV ครีม พิมวลัย - เบอร์เปลี่ยนไป

MV ครีม พิมวลัย - เบอร์เปลี่ยนไป
ครีม พิมวลัย - นางสาวคนใหม่ - 06 - เบอร์เปลี่ยนไป ใจเปลี่ยนแปลง


Tuesday, July 28, 2009

MV หม้ายขันหมาก-เอิร์น เดอะสตาร์

MV หม้ายขันหมาก-เอิร์น เดอะสตาร์

MV- ลึกซึ้งแต่ไม่ถึงแฟน - ครีม พิมวลัย

MV- ลึกซึ้งแต่ไม่ถึงแฟน - ครีม พิมวลัย

Saturday, July 25, 2009

MV รอทำอย่างนั้นกับเธอ : เอิร์น เดอะสตาร์

MV รอทำอย่างนั้นกับเธอ : เอิร์น เดอะสตาร์

MV บอกได้ไหมใครโทรมา-ตุ้ม จ่านกร้อง

MV บอกได้ไหมใครโทรมา-ตุ้ม จ่านกร้อง
ตุ้ม จ่านกร้อง ชุด พระเอกหน้าใหม่ในใจเธอ

Wednesday, July 22, 2009

สกู๊ปพิเศษ - ลพ บุรีรัตน์ : ขุนพลเพลงสนุก โดนใจคนไทย

สกู๊ปพิเศษ - ลพ บุรีรัตน์ : ขุนพลเพลงสนุก โดนใจคนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2552 11:40 น.


ในบรรดาครูเพลงลูกทุ่ง คนไทยต้องคุ้นเคยกับผลงานเพลงเชิงเสียดสี, อุปมา -
อุปไมย และสนุกสนาน ที่ "ครูลพ บุรีรัตน์" เอาวรรณศิลป์ "บัง"
บางเรื่องราวไว้ เช่น 30 ยังแจ๋ว, เด็กมันยั่ว, มอเตอร์ไซค์ทำหล่น,
จำใจดู, คนอกหักพักบ้านนี้ ฯลฯ

อีกทั้งครูลพยังได้ชื่อว่า เป็นนักแต่งเพลงคู่บุญของนางพญาผึ้ง -
พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพลงดังระดับตัวแม่ที่พุ่มพวงเคยขับร้องไว้จนโด่งดัง
เช่น สาวนาสั่งแฟน, อื้อฮือหล่อจัง, ห่างหน่อยถอยนิด, หนูไม่รู้,
หนูไม่เอา, ตั๊กแตนผูกโบว์, กระแซะเข้ามาซิ, ผู้ชายในฝัน, ดาวเรือง
ดาวโรย, นัดพบหน้าอำเภอ ฯลฯ
หลายครั้งที่เพลงโด่งดังเหล่านี้ถูกนำมาบันทึกเสียงใหม่ !!

ครูวิเชียร คำเจริญ (ลพ บุรีรัตน์) มีงานเพลงที่ประพันธ์ไว้ราว
3,000 เพลง และเพลงยอดนิยมของครู จำนวน 200 เพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม
แกรมมี่ฯ ถือครองลิขสิทธิ์ในการดูแลอยู่
ทั้งนี้ครูได้โอนลิขสิทธิ์งานดนตรีกรรม (เนื้อร้องและทำนอง)
ให้แก่แกรมมี่ฯ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2545

ผลงานล่าสุดคือ "ดวงจันทร์กลางดวงใจ พุ่มพวง ดวงจันทร์"
ของแกรมมี่ โกลด์ที่นำนักร้องหญิงต่างค่ายหลายคนมาร่วมกันร้องเพลงของพุ่มพวง
ดวงจันทร์ที่เคยสร้างชื่อไว้ ในโครงการนี้
นอกจากจะใช้เพลงของครูลพทั้งหมดแล้ว
ยังได้เชิญครูลพมาร่วมงานส่วนควบคุมการผลิต ในขั้นตอนการขับร้องของศิลปิน
รวมทั้งให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเพลงและเรื่องพุ่มพวง ดวงจันทร์
สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ และก่อนหน้านี้คือ งานเพลง "พุ่มพวงในดวงใจ 1-4"
โดยใหม่ เจริญปุระ และ "เพลงของแม่" โดย เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์

วันนี้ ... เรานัดหมายกับครูวิเชียร คำเจริญ ที่บ้านพัก
หมู่บ้านสี่ไชยทอง แจ้งวัฒนะ 24

พื้นเพของครูลพ เป็นคนบ้านบางมะยม อ. ท่าวุ้ง จังหวัด ลพบุรี
เมื่อจบการศึกษา ชั้นปีที่ 3 จากโรงเรียนการช่างลพบุรี แผนกช่างตัดผม
เริ่มต้นจากการประกอบอาชีพช่างตัดผม และฝึกชกมวย ด้วยนิสัยชอบฟังเพลง
และรักการร้องเพลง จึงเริ่มประกวดร้องเพลง แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
จนเมื่อปี 2502 วงดนตรี กรุงเทพแมมโบ ของบังเละ
วงษ์อาบูมาไปเปิดการแสดงที่ลพบุรี จึงได้เข้าไปติดต่อขอสมัครเป็นนักร้อง
และมีโอกาสเดินทางเข้ากรุงเทพฯในครั้งนั้น แต่เนื่องจากครูลพ
บุรีรัตน์เสียงไม่ดีเมื่อเทียบกับคนอื่นในวง
จึงไม่ได้ร้องเพลงอย่างที่ตั้งใจไว้ อยู่กรุงเทพฯ
เพียงปีเดียวก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จังหวัดลพบุรี

แม้จะไม่ได้เป็นนักร้อง แต่เมื่อเห็นเพื่อนคนหนึ่งแต่งเพลง
จึงได้คิดแต่งบ้าง เพลง "กอดหมอนนอนเพ้อ" เป็นงานเพลงแรกของวิเชียร
คำเจริญ ต่อมาเพลงนี้ ทูล ทองใจ นำไปขับร้อง

"อาณาจักรใจมอบไว้ให้คุณ ตราบโลกหยุดหมุน ผมยังรักคุณมั่นคง
ตราบฟ้าสูญสิ้น พื้นดินสลายดับลง แต่รักฉันมั่นคง ดับลงพร้อมกับชีวา"

อีกเพลงหนึ่งที่ทูล ทองใจ ได้ขับร้องไว้คือ "เรือนหอสีฟ้า"

พลังของเด็กหนุ่มในครั้งนั้น อยู่ลพบุรีได้ไม่นาน ปี 2505
ก็กลับเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง
ครูลพตระเวนสมัครเป็นนักร้องกับวงดนตรีชื่อดังในยุคนั้น เช่น
วงมุกดาพันธ์(ครูพยงค์ มุกดา) , วงสมบัติเจริญ (สุรพล สมบัติเจริญ)
และวงดุริยางค์ทุ่งมหาเมฆก็ไม่มีใครอ้าแขนรับ สุดท้ายวิเชียร
คำเจริญตัดสินใจเบนเข็มจากนักร้องเป็นนักแต่งเพลง
โดยไปสมัครเป็นลูกศิษย์ของครูไพบูลย์ บุตรขัน ในปี 2505

"ผมเดินเข้าไปสมัคร ท่านก็รับไว้เลย ท่านบอกว่า
ทำไมไม่สมัครร้องเพลงก่อน ผมก็บอกว่า ไปสมัครหลายที่ครับ แต่ไม่มีคนรับผม
ท่านก็ถามว่า มีเพลงที่แต่งไว้มั้ย ผมก็ร้องให้ฟัง ครูไพบูลย์ท่านบอกว่า
เพลงค่อยๆ คิดทำไป เจออะไรก็อ่านมัน คนไหนพูดอะไรก็ฟังไป
ดูโทรทัศน์ก็ให้จำ เจอคำไหนดีๆ ต้องรีบจด"

"แต่ท่านบอกว่าอย่าเอาครูเป็นตัวอย่าง
แต่ท่านแนะให้ไปอ่านหนังสือกลอนสุนทรภู่ ให้แต่งกลอนแบบนั้น
สัมผัสแบบนั้น การแต่งเพลง เราเห็นอะไร
เห็นอยู่ตรงนั้นก็ต้องบอกว่าอยู่ตรงนั้น อาทิตย์ตกหลังเขา ตกตอนไหน
ตกน้ำเ ราก็ต้องบอกว่าตกน้ำ"

"จำได้ว่า ท่านเขียนข้อความใส่กระดาษแผ่นหนึ่งด้วยปากกาหมึกแดง
ซองไม่ได้ปิดผนึก เมื่อเราขึ้นรถเมล์ เราก็เปิดอ่าน - - มงคล (อมาตยกุล)
รับเด็กคนนี้ไว้ด้วย มีพรสวรรค์ในการแต่งเพลง เราได้อ่านก็ดีใจมาก
ตอนที่เข้าไปหาครูมงคล ท่านตัวใหญ่ เราก็กล้าๆ กลัวๆ แต่ท่านก็รับไว้
แล้วผมก็เริ่มทำงานกับวงจุฬารัตน์ ตั้งแต่บัดนั้น"

ครูลพ บุรีรัตน์ ใช้ชีวิตกับวงจุฬารัตน์อยู่ 11 ปี
ใช้ชื่อในการทำงานเพลงว่า "กนก เกตุกาญจน์"


เพลง-บ้านเรือนเคียงกัน
นักร้อง- จักรพรรณ์ อาบครบุรี


เพลงในแนวสนุกสนานของครูลพ บุรีรัตน์ ติดปากคนไทยมากที่สุด!!
งานเพลงในลักษณะนี้ ครูลพแต่งมานาน ตั้งแต่สมัยเข้ามาในวงการใหม่ๆ

ผลงานเพลงที่บันทึกแผ่นเสียงชุดแรกคือ บ้านใกล้เรือนเคียง (2508)
ขับร้องโดย ชาย เมืองสิงห์

" บ้านเรือนเคียงกันแอบมองทุกวันเลยเชียว เห็นหน้าหน่อยเดียว
หัวใจโน้มเหนี่ยวฝันหา หากมีวันใดที่นวลหายไปไกลตา โอ๊ยในอุรา
พี่มันเหมือนว่าถูกลนด้วยไฟ"

อีกเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับวิเชียร คำเจริญ คือ คุณหมอคะ
(2510) ขับร้องโดย เรณู เบ็ญจวรรณ

" คุณหมอคะ หนูมาให้หมอช่วยตรวจ จะบีบจะนวด เชิญหมอตรวจให้ถึงใจ
ตั้งแต่เจอหมอ เมื่อตอนหมอมารักษาพิษไข้ โรคนั้นมันหายขาดไป
มีโรคอะไรไม่รู้มาแทน"

ในยุคที่วงดนตรีจุฬารัตน์เริ่มซบเซา เพลงดังก่อนวงแตกคือ
โนห์ราหาย, แหม่มกะปิ, รักพี่สักหน่อย และ อย่าพูดดีกว่า

เมื่อวงจุฬารัตน์ยุบ ครูลพได้เป็นนักประพันธ์เพลงอิสระ
เริ่มทำผลงาน "จำใจดู, เอียงแก้มคอย" ให้แก่ยอดรัก สลักใจ และผ่องศรี
วรนุช เพลงอื่นๆ ในวงการเพลงลูกทุ่งที่เราคุ้นเคย เช่น เข้าเวรรอ,
มอเตอร์ไซค์ทำหล่น (ศรเพชร ศรสุพรรณ), คนอกหักพักบ้านนี้ ,
เกลียดห้องเบอร์ 5 (สายัณห์ สัญญา), 30 ยังแจ๋ว, ลิ้นมหาเสน่ห์,
แบ่งคนละครึ่ง, เด็กมันยั่ว (ยอดรัก สลักใจ) เป็นต้น

ชีวิตครูเพลงอิสระ เริ่มทำงานเขียนเพลงให้กับค่ายสบายดี
ของครูมนต์ เมืองเหนือ ต่อมา ครูลพ บุรีรัตน์
เป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงที่ร่วมงานกับค่ายอโซน่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นค่ายอโซน่าตั้งใจปั้นจันทรา ธีรวรรณ เนื่องจากสวยกว่าพุ่มพวง
เพลงที่ครูลพแต่งจันทราให้คือ "สาวทรงฮาร์ด"
"โก๋พกหวี กี๋พกแป้ง เป็นสาวแก้มแดง ก็อยากจะแต่งทรงฮาร์ด"

ส่วนพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในยุคอโซน่า เชิดศักดิ์ เปลี่ยนศรี
เขียนเพลง "แฟนพุ่มพวง" ให้เธออยู่ก่อนแล้ว

"พุ่มพวงตอนนั้นตัวดำๆ จมูก ไม่ได้โด่ง เสียงแบนๆ เล็กๆ
แต่พอไปเสริมจมูกมา เสียงมันว้าง
ตอนแรกทางบริษัทตั้งใจโปรโมตเพลงของจันทรา 70 ครั้ง พุ่มพวง 30
ครั้งต่อวัน แต่พอจันทราไม่เข้ามาทำมิวสิก ตามอยู่หลายครั้ง ผมตามบ้าง
ทางอโซน่าตามบ้าง จนสุดท้ายทางบริษัทตัดสินใจดันพุ่มพวง ดวงจันทร์
ปล่อยวันละ 200 คิว หยุดโปรโมตเพลงของจันทรา ธีรวรรณทั้งหมด" ครูลพ
บุรีรัตน์ กล่าว

วิเชียร คำเจริญเริ่มเขียนเพลงให้พุ่มพวง ดวงจันทร์
โดยเริ่มต้นจากผลงานในชุดต่างๆ ดังนี้

ดวงตาดวงใจ (2525) - ดาวเรือง ดาวโรย, ขุดดินแช่ง, ฉันรักขโมย,
อย่ามารักน้องเลย, ผู้ชายพายเรือ, สาวท่าเตียน

สาวนาสั่งแฟน (2526) - สาวนาสั่งแฟน, บทนางรอง, เจอแต่คนชอบหลอก

นัดพบหน้าอำเภอ (2526) - นัดพบหน้าอำเภอ, หนูล้อเล่น,
อนิจจาทิงเจอร์, เสน่ห์ - สนิท

ทิ้งนาลืมทุ่ง ( 2527) - นึกว่าแค่ไหน, เหมือนยายคู่ตา,
อุทิศหัวใจ, นึกถึงแม่แกบ้างไหม

คนดังลืมหลังควาย (2528) มาตอนฝัน

ครูเพลงท่านอื่นที่เข้ามาร่วมอัลบั้มทั้ง 5 ชุดนี้ เช่น
เนรัญชราฯ, จำนง เป็นสุข, สมหวัง ช่วงโชติ, เชิดศักดิ์ เปลี่ยนศรี,
ทิพย์ประภา, ชลธี ธารทอง, เกื้อ อุสาหะกานนท์, เสกสรร สอนอิ่มศาสตร์,
ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ร้อยแก้ว รักไทย, สมโภชน์ ล้ำพงษ์, จงรักษ์ จันทร์คณา
เป็นต้น

ต่อมา วิเชียร คำเจริญกำหนดกติกาเพลงด้วยเงื่อนไขใหม่คือ 1.
เพลงแต่งให้ใครก็ต้องเป็นของคนนั้น ห้ามนำไปซอยแบ่งให้คนอื่น 2.
ขอเพิ่มค่าลิขสิทธิ์เพลงจาก 3,000 บาท เป็น 5,000 บาท ด้วยเงื่อนไขนี้
แรกเริ่มทางบริษัทฯ ไม่ตกลง ครูลพ บุรีรัตน์
จึงตัดสินใจไม่แต่งเพลงให้บริษัทอโซน่า และหันไปทำงานเพลงให้แอ๊ด เทวดา
ครูเพลงที่มารับช่วงต่อในการประพันธ์เพลงให้พุ่มพวง ดวงจันทร์คือ ฉลอง
ภู่สว่าง !! เพลงสร้างชื่อคือ คนดังลืมหลังควาย

"นึกไว้ทุกนาที ถ้าเขาไปได้ดีแล้วคงไม่มาขี่ควาย
เขานั้นคงแหนงหน่าย เบื่อนั่งหลังควาย เบื่อเคียวเกี่ยวหญ้า"

เพลงนี้ ... ดังมากในกรุงเทพฯ ด้วยแรงอัดโปรโมต จนพุ่มพวง
ดวงจันทร์คิดว่า "ดังแล้ว" จึงตัดสินใจเอาบ้านไปจำนองในราคา 7 แสนบาท
ไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดระนอง ปรากฏว่า ฝนตกทุกวัน
และเพลงนี้ไม่แพร่หลายในต่างจังหวัด เมื่อกลับมากรุงเทพฯ พุ่มพวง
ดวงจันทร์ถึงกับถอดใจจะเลิกร้องเพลง
และคิดจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา

บริษัทอโซน่าเพียรพยายามที่จะง้อครูลพให้กลับมาร่วมงานอีก
โดยการโทร.ไปหา แอ๊ด เทวดา เพื่อขอคุยกับครูลพ บุรีรัตน์
แต่ครูก็ยังใจแข็งอยู่ จนบริษัทอโซน่าโทรเลขไปที่บ้านเพื่อตามครูลพ
นั่นแหละจึงเป็นที่มาของการร่วมงานครั้งที่ 2 กับบริษัทอโซน่า
โดยทางบริษัทฯ แจ้งว่าจะให้ทุกข้อที่ครูรับได้ โดยไม่มีเงื่อนไข

"1. สัญญาต้องเป็นสัญญาของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยเท่านั้น , 2.
ค่าเพลงขยับราคาเป็น 5 พันบาท และ 3. ห้ามแบ่งเพลง ของใครของมัน
และห้ามมีเพลงของครูเพลงอื่นเข้ามาผสมในอัลบั้มเดียวกัน ผมมีกติกาแบบนี้
ทางบริษัทเกิดใจป้ำ บอกว่า จะแบ่งเปอร์เซ็นต์เทป ม้วนละ 1 บาทให้ด้วย"

อื้อฮือ ... หล่อจัง (2528) และ ห่างหน่อย - ถอยนิด (2529) คือ 2
อัลบั้มของพุ่มพวง ดวงจันทร์ในสังกัดอโซน่าที่เป็นเพลงประพันธ์ของวิเชียร
คำเจริญล้วนๆ

พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีผลงานเพลงกับค่ายอโซน่าประมาณ 15 อัลบั้ม !!
และเมื่อพุ่มพวงโยกไปเป็นศิลปินกับค่ายอื่นๆ ครูลพ
บุรีรัตน์ก็ยังได้รับการทาบทามให้เขียนเพลงให้พุ่มพวง ดวงจันทร์อีก เช่น
ตั๊กแตนผูกโบว์ (ซีบีเอส), หนูไม่รู้, หนูไม่เอา, เงิ่นน่ะมีมั้ย
(มิวสิคไลน์) อีกค่ายหนึ่งที่มีผลงานเพลงมากเป็นพิเศษคือ ท็อปไลน์มิวสิค
เพลงเก่งสมัยอโซน่าถูกนำมาทำดนตรี เรียบเรียงเสียงประสาน และขับร้องใหม่
ทุกวันนี้งานเพลงสมัยท็อปไลน์ของพุ่มพวง
ดวงจันทร์ยังมีจำหน่ายทั้งในรูปของ CD เพลง, คาราโอเกะ ,และ MP3
ในท้องตลาดทั่วไป
...
พุ่มพวงเรียก "ครู"
พุ่มพวง ดวงจันทร์เป็นนักร้องคนแรกที่เรียกวิเชียร คำเจริญว่า
"ครู" ขณะที่นักร้องคนอื่นๆ ในวงการเพลงลูกทุ่งยุคนั้น เรียกลพ
บุรีรัตน์ว่า ลุง , น้า กันทั้งนั้น

"เนื่องจากผึ้งอ่านหนังสือไม่ออก จึงต้องอาศัยจากการฟังแล้วจำ
ผมจะร้องเพลงใส่เทป ส่งให้ผึ้ง ผึ้งเอาไปต่อเอง โดยการฟังระหว่างเดินทาง
เขาจะฟังซ้ำๆ จนเพลงมันช้ำ ผึ้งความจำดีมาก เก่งที่สุด ไม่มีใครสู้มันได้
เสียงอาจจะมี แต่รวมๆ ทั้งตัวของไอ้ผึ้ง ไม่มี"

แม้ว่า สวรรค์จะประทาน "ความจำ" มาทดแทน "ความรู้"
แต่การอาศัยหูฟังอย่างเดียวก็มีสิทธิ์พลาด มีบางเพลงที่พุ่มพวง ดวงจันทร์
ร้องผิดเนื้อ ผิดความหมาย เช่น

เพลงอนิจจาทิงเจอร์ - ที่ทำซึมๆ ขรึมเศร้า นั่นแล ธาตุจริงที่แท้
(ที่จริงธาตุแท้ - ถูก) นั้นแสบ เหลือหลาย .... ฉันเจอะมาแล้วนะเพื่อน
ทำช้าบิดเบือน (อิดเอื้อน - ถูก) ดูแล้วเหมือน ไก่ อ่อน

เพลงสยามเมืองยิ้ม - คนไทยรักชาติและศาสนา เทิดองค์เจ้าฟ้า
ผู้ทรงเปี่ยมเนื้อนาบุญ ถ้าท่านเคารพสิทธิ์ของไทย
ท่านอยู่ต่อได้อีกนานทุน (คุณ - ถูก) สยามใจบุญ ยังยิ้มเสมอ

ที่ร้องผิดพลาดนี้ เนื่องจากตารางนัดของครูกับพุ่มพวงไม่ตรงกัน
ครูจึงไม่มีโอกาสไปคุมที่ห้องบันทึกเสียง แต่เพลงร้องผิดพวกนี้ดังหมด

สไตล์เพลงของครูลพ บุรีรัตน์ ไม่เหมือนใคร !!
เนื่องจากครูใช้เทคนิคการประพันธ์บังเรื่องสองแง่เอาไว้ มิได้บอกตรงๆ
ซึ่งผู้ฟังต้องนำไปคิดเองตามภูมิหลังของตน แม้แต่พุ่มพวง
ดวงจันทร์ก็ยังบ่นอุบ

"ครูเอาเพลงอะไรมาให้หนูร้อง เป็นความตั้งใจของผมที่จะให้พุ่มพวง
ดวงจันทร์ฉีกจากรูปแบบเดิมๆของเพลงลูกทุ่ง
ผมไม่อยากทำอะไรที่มันเหมือนกับคนอื่นเขา อย่างเพลง กระแซะเข้ามาซิ
พุ่มพวงร้องแบบสวยมาเลย เราก็บอกว่าอารมณ์เพลงมันไม่ใช่แบบนี้นะ"

"เราบอกว่าเพลงนี้ไม่ต้องร้องสวย ถามไอ้ผึ้งมันว่า
เพลงนี้สนุกมั้ย เซ็กซี่มั้ย อย่าเครียด ร้องให้เป็นธรรมชาติ
เสียงไม่ต้องประดิษฐ์สวย เราก็แนะให้ผึ้งรู้จักส่วนของเพลง...เขยิบๆๆๆ
เข้ามาซิ ... เขยิบๆๆๆ เข้ามาซิ...เนื้อเดียวกัน
แต่ร้องให้สำเนียงต่างกัน ส่วนหน้ากับส่วนหลังไม่ต้องเหมือนกัน"

เฉพาะเพลงที่ขับร้องโดย พุ่มพวง ดวงจันทร์
ซึ่งกลั่นกรองจากมันสมองของครูวิเชียร คำเจริญ (ลพ บุรีรัตน์) มีถึง 150
เพลงโดยประมาณ
...
เกียรติคุณและรางวัล
พ.ศ.2520
ได้รับพระราชทานรางวัลเสาอากาศทองคำจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ผลงานประพันธ์คำร้องยอดเยี่ยม เพลง ข้า ฯ คือไทย
ขับร้องโดยก้องเพชร แก่นนคร

พ.ศ.2522
ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผลงานประพันธ์ คำร้องยอดเยี่ยม เพลงรางวัลนักรบ ขับร้องโดย ยอดรัก สลักใจ

พ.ศ.2525 ได้รับพระราชทานแผ่นเสียงทองคำ พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานฉลอง 200 ปี
กรุงรัตนโกสินทร์ ผลงานประพันธ์คำร้อง สร้างสรรค์สังคมเพลง
ทำดีสักทีเถอะน่า ขับร้องโดย ทรงกลด จันทร์เวช และเพ็ญจันทร์ พินิจค้า
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลศิลปิน
ตัวอย่างสาขาประพันธ์เพลงลูกทุ่งอีก 1 รางวัล

พ.ศ.2532ได้รับพระราชทานรางวัลผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราช
สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยครั้งที่ 1 รวม 2 เพลง
คือ เข้าเวรรอ ขับร้อง โดย ศรเพชร ศรสุพรรณ
และเพลงสาวนาสั่งแฟนขับร้องโดยพุ่มพวง ดวงจันทร์

พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานรางวัล ผู้ประพันธ์เพลงดีเด่น
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี
ในงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2ผลงานเพลงสยามเมืองยิ้ม
ขับร้องโดยพุ่งพวง ดวงจันทร์

พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานเกียรติบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี โดยสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระราชนิพนธ์คำร้องเพลง พลบค่ำ
แล้วมอบให้ครูลพ บุรีรัตน์ ประพันธ์ทำนองเพลง
นับเป็นความภาคภูมิใจแก่เขาและครอบครัวเสมอมา

พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ในฐานะผู้ประพันธ์คำร้องและทำนองเพลงดีเด่นถึง 3 เพลง
ในงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วยเพลง
ทรงมหาเสน่ห์ ขับร้องโดยลัดดาวัลย์ ประวัติวงศ์ แบ่งกันคนละครึ่ง
ขับร้องโดย
ยอดรัก สลักใจ หลงมนต์คนเอฟเอ็ม ขับร้องโดยสิรินทรา นิยากร

พ.ศ.2539 ได้รับยกย่องจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
ในฐานะผู้ประพันธ์เพลงรณรงค์วัฒนธรรมไทย ด้วยผลงานเพลงถึง 3 เพลง คือ
เอกลักษณ์ไทย, ย่องเมืองเท่ เท่ และ พระเทพฯ ทรงบุญ


http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000082220

MV คำว่าจบพูดเบาๆ ก็เจ็บ - เอิร์น The Star

MV คำว่าจบพูดเบาๆ ก็เจ็บ - เอิร์น The Star

MV แก้ ร.วิชาลืม - ตุ้ม จ่านกร้อง

MV แก้ ร.วิชาลืม - ตุ้ม จ่านกร้อง
ตุ้ม จ่านกร้อง ชุด พระเอกหน้าใหม่ในใจเธอ

Sunday, July 19, 2009

MV จันทร์ - หญิง ธิติกานต์

MV จันทร์ - หญิง ธิติกานต์

mv พระเอกหน้าใหม่ในใจเธอ- ตุ้ม จ่านกร้อง

mv พระเอกหน้าใหม่ในใจเธอ- ตุ้ม จ่านกร้อง
ตุ้ม จ่านกร้อง ชุด พระเอกหน้าใหม่ในใจเธอ ... ตุ้ม จ่านกร้อง ...

Thursday, July 16, 2009

MV ขอแรง - หญิง ธิติกานต์

MV ขอแรง - หญิง ธิติกานต์

MV -ตุ้ม จ่านกร้อง แดนเซอร์ ม 4 (ตุ้ม)

MV -ตุ้ม จ่านกร้อง แดนเซอร์ ม 4 (ตุ้ม)

พิธีเปิดกีฬาแห่งชาติ พิษณุโลกเกมส์

Monday, July 13, 2009

MV น้ำใต้เข่า - หญิง ธิติกานต์

MV น้ำใต้เข่า - หญิง ธิติกานต์

MV รอเป็นคนใช่ของเธอ - ตุ้ม จ่านกร้อง

MV รอเป็นคนใช่ของเธอ - ตุ้ม จ่านกร้อง

Friday, July 10, 2009

MV ชอบของแปลก - วงกางเกง ... กางเกง ...

MV ชอบของแปลก - วงกางเกง ... กางเกง ...

MV กุญแจชีวิต เข็มทิศหัวใจ - หญิง ธิติกานต์

MV กุญแจชีวิต เข็มทิศหัวใจ - หญิง ธิติกานต์

Tuesday, July 7, 2009

MV แค่อยากตาย - วงกางเกง ... กางเกง ...

MV รักสามเส้าเราสามคน - หญิง ธิติกานต์

MV รักสามเส้าเราสามคน - หญิง ธิติกานต์

Saturday, July 4, 2009

MV เฉิ่ม - วงกางเกง ... กางเกง ...

MV เฉิ่ม - วงกางเกง ... กางเกง ...

http://www.youtube.com/watch?v=PxRMoSEkaPs

MV ยอมจำนนฟ้าดิน - หญิง ธิติกานต์

MV ยอมจำนนฟ้าดิน - หญิง ธิติกานต์

Wednesday, July 1, 2009

MV เงา - วงกางเกง

เงา
วงกางเกง ... กางเกง ...
http://www.youtube.com/watch?v=iDNO4S8lx48


--------------

MV ครีม พิมวลัย - คิดในใจ

MV ครีม พิมวลัย - คิดในใจ

Monday, June 29, 2009

MV รอรักใต้ต้นกระโดน - ไมค์ ภิรมย์พร

MV รอรักใต้ต้นกระโดน - ไมค์ ภิรมย์พร

MV แปดสองหนคนสองใจ - ปอยฝ้าย มาลัยพร

MV แปดสองหนคนสองใจ - ปอยฝ้าย มาลัยพร

MV สาวนาสั่งแฟน : พุ่มพวง ดวงจันทร์

MV สาวนาสั่งแฟน : พุ่มพวง ดวงจันทร์

Friday, June 26, 2009

MV ส่งแฟนขึ้นรถไฟ - แมงปอ ชลธิชา

MV ส่งแฟนขึ้นรถไฟ - แมงปอ ชลธิชา

MV ส่งตัวเจ้าบ่าว(ศิริพร อำไพพงษ์)

MV ส่งตัวเจ้าบ่าว(ศิริพร อำไพพงษ์)

MV แม่ค้าส้มตำคนชื่อ...ต้อย - สุนารี ราชสีมา

MV แม่ค้าส้มตำคนชื่อ...ต้อย - สุนารี ราชสีมา

"เพชร" เดินหน้าสร้างหุ่นขี้ผึ้งแม่ พร้อมประกาศหามือโพสต์

"เพชร" เดินหน้าสร้างหุ่นขี้ผึ้งแม่ พร้อมประกาศหามือโพสต์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2552 14:22 น.


"เพชร" เดินหน้าสร้างหุ่นขี้ผึ้ง "พุ่มพวง" หวังให้เหมือนแม่ให้มากที่สุด
พร้อมประกาศตามหามือโพสต์ในเว็บเมเนเจอร์ วอนช่วยติดต่อกลับ
สุดอึ้งรู้เรื่องราวของตนเองขณะที่อยู่อเมริกา

แม้เรื่องราวความขัดแย้งกับ "ไกรสร แสงอนันต์" บิดา และญาติๆ
ทางฝ่ายแม่จะยังไม่สิ้นสุดรวมถึงดูท่าจะบานปลายออกไปเรื่อยๆ ทว่า "เพชร
สรภพ ลีละเมฆินทร์" ทายาทหนึ่งเดียวของราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าหุ่นขี้ผึ้งแม่ต่อไปอย่างแน่นอน

"กับข่าวที่เกิดขึ้นคิดมันค่อนข้างแรง แต่ก็มีคนเข้าใจผมมากขึ้น
ก็อยากจะขอขอบคุณทุกๆ คนที่เข้าใจผมรวมไปถึงพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย
ส่วนเรื่องหุ่นที่ค่อนข้างถามกันมาเยอะ
ผมก็ยังยืนว่ายังไงก็ต้องทำแน่นอนอยู่แล้ว เพราะแฟนเพลงก็เชียร์ให้ทำ
ดูจากผลโหวตในรายการของอาสรยุทธ 93.88 เปอร์เซ็นต์ก็อยากให้ทำ
ใจผมก็อยากจะทำด้วย แต่ว่าผมไม่มีตังค์ก็เลยต้องขอรับบริจาค
เผื่อมีใครที่อยากจะร่วมกันสร้างกับผม"

"ตอนแรกๆ เลยทางคุณแม่บุญธรรมกับคุณยายบอกว่าจะให้เงินไปทำ
ท่านบอกให้ทำไปเลยไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับใคร แต่ผมเกรงใจ
เพราะผมก็อยู่กับเขามานานแล้ว เขาเลี้ยงผมมา 4-5
ปีก็หมดเงินไปกับผมหลายล้านแล้ว ยังไงผมก็เกรงใจ"

"ก็เลยคิดว่าไหนๆ ผมก็บวชแล้วก็มีคนเอาเงินมาทำบุญ
ก็เลยคิดว่าจะเอาเงินตรงนี้ไปสร้างหุ่น แต่ก็มีอะไรมาขัดเยอะแยะเลย
ยังไงก็ตามผมก็ยังยืนยันจะสร้างต่อไปถึงจะนานแค่ไหนก็จะสร้าง
เราเองก็ไม่ได้รีบ อยากจะทำให้ออกมาเร็วที่สุด"

"บางคนอาจจะคิดว่าทำไมผมต้องสร้างหุ่น
คือผมอยากจะบอกว่าผมคิดถึงแม่ และก็อยากจะให้คนจำภาพแม่พุ่มพวงได้
ก็เลยอยากสร้างเป็นหุ้นขี้ผึ้งเอาแบบเหมือนตัวจริง
เหมือนคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเลย ผมอยากให้คนจดจำไปอีก 40-50
ปีว่าคนนี้แหละคือแม่พุ่มพวง ดวงจันทร์"

นอกจากจะใช้งบประมาณในการสร้างหุ้นไม่ต่ำกว่า 3 แสนแล้ว
การดูแลรักษาหุ่นขี้ผึ้งก็ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาดูแลค่อนข้างสูง
มิหนำซ้ำญาติฝ่ายแม่ก็ประกาศโครมครามแล้วว่าไม่ยอมให้สร้าง
เห็นทีความฝันของ "เพชร" คงจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว

"เท่าที่ถามๆ มาเขาบอกว่าต้องใช้งบขั้นต่ำ 3 แสนบาทขึ้นไป
และพอสร้างก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ค่อนข้างใช้งบประมาณ
ยังไงตรงนี้คงต้องดูอีกที ส่วนเรื่องวัดตอนนี้ก็ติดต่อไปแล้ว
ทางวัดเขาก็โอเค แต่ผมขออนุญาตไม่บอกเพราะกลัวว่าจะมีมารมาขัด
ถ้าเกิดจะมีใครมาขัดก็คงจะให้ประชาชนตัดสินดีกว่าว่าคิดยังไง"

พร้อมประกาศตามหาบุคคลคนหนึ่งที่เข้ามาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงพฤติกรรมของ
บิดาและตนเองระหว่างใช้ชีวิตอยู่อเมริกา
โดยสามารถติดต่อเข้ามาหาเจ้าตัวได้ที่ PETCH_FANCLUB@HOTMAIL.COM
"กับข่าวที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างมีฟีดแบกเหมือนกัน
อย่างในอินเทอร์เน็ตก็มีคนพูดกันไปต่างๆ นานา
แต่มีความเห็นหนึ่งที่มาโพสต์ในเว็บเมเนเจอร์และพูดถึงเรื่องของผมตอนที่
อยู่เมืองนอก ผมอ่านแล้วรู้สึกพี่คนที่โพสต์เขาจะรู้เรื่องของร้านอาหารที่ผมอยู่หมดเลย
ว่าชีวิตของผมเป็นยังไงบ้าง"

"และก็ขอขอบคุณที่พี่เขาออกมาเล่า ขอบคุณที่เข้าใจผม
ผมอยากจะเจอกับพี่เขามาก
ก็อยากจะให้ที่นี่เป็นสื่อกลางช่วยประกาศตามหาพี่คนที่มาโพสต์ข้อความเหล่า
นี้ให้หน่อย"

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000071607


ทนไม่ไหวคะ ขอเล่าบ้างแล้วกัน สงสารน้อง
น้องเพชรน่าสงสารจากที่ได้เคยช่วยดูแลตอนอยู่อเมริกา
น้อง ถูกทิ้งไว้ที่ร้านอาหารหลังจากเลิกเรียน ​(ไฮสคูล)
ร้านอาหารที่นี่จะเปิดดินเนอร์ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม
พ่อไปเสพสุขกับเมียชาวบ้านเขา พอกลับเข้าร้านมา 3-4 ทุ่ม การบ้านไม่เสร็จ
เพราะต้องรอคนเสริฟอาหารช่วยสอน ในห้องอาหารไฟสลัว ก็โดนคนที่เป็นกิ๊กพ่อ
(เมียคนอื่น) ด่าว่าสอนเท่าไรไม่รู้จักจำทำไม โง่เป็นวัวเป็นควายอย่างนี้
ลูกฉันสอนครั้งเดียวก็รู้เรื่อง น้องเพชรได้แต่มองพ่อ
ซึ่งไม่ได้ปกป้องอะไรเลย แถมยังเสริมท้ายผู้หญิงคนนั้นว่า ใช่ๆ
สอนไม่รู้จักจำ เราได้ยินถึงกับอึ้ง นั่นคือตอนที่เราเข้าไปทำงานใหม่
พอทำไปสักพัก คุณพ่อแสนดีก็พาผู้หญิงอีกคนที่พอมีผลประโยชน์ให้ไปมีอะไรกันที่บ้าน
ซึ่งมีห้องนอนเดียว แล้วมาเล่าให้ที่ทำงานฟังว่า เมื่อคืนทำท่าไหน
ทำไปกี่ที
ที่ห้องรับแขก โดยที่ลูกชายที่เป็นวัยรุ่นนอนอยู่ในห้องนอน
แล้วคุณพ่อจะมาพูดอวดของเขาว่ามีกล้วยอันเดียว
ผู้หญิง ก็หลงแล้ว แหวนที่คุณผึ้งรัก
รู้สึกจะเป็นแหวนแต่งงานโดนผู้หญิงคนใดคนนึงยึดไว้ด้วยเช่นกัน
เห็นผู้หญิงคนนึงบ่นเพราะเขาบอกว่าให้ไกรสรไปเยอะ ฉันไม่คืนหรอก
เราทำงานกับคุณพ่อแสนดี แล้วก็ช่วยสอนการบ้านน้องบ้างเพราะสงสาร
สำหรับเรา น้องเป็นเด็กดี พูดครับตลอด แต่แววตาเขานั้นเศร้าตลอดเวลา
เช่นกัน จะกินอะไรต้องรอคนในครัวตวาดมาถาม ว่าจะะกินอะไร
เพราะเหมือนไปเพิ่มงานให้เขา คุณพ่อก็ช่วยสมทบว่ากินอะไรก็กินง่ายๆ หน่อย
อย่าเรื่องมากนัก คุณพ่อนั้นชอบงานสบาย เขาก็คือพนักงานเสริฟในร้านคนนึง
แต่มีพ่วงว่าเป็นกิ๊กกับคนใหญ่โตในร้านก็เลยนั่งเฉยๆ ซะเยอะ
เวลาปิดบัญชีเขาจะรับหน้าที่ปิดเพื่อโกงทิป จับได้กับมือว่าโกงเรา $2
อนาจใจเหลือหลาย สุดท้ายโดนกิ๊กเขาสั่งไม่ให้เรายุ่งเรื่องปิดบัญชี
ก็เลยไม่รู้ว่าโดนโกงไปอีกเท่าไร
มีวันนึงเราลืมของวิ่งกลับเข้าไปในร้านปรากฏว่ากำลังหิ้วโค๊กของร้านกลับ
บ้าน แพ็กประมาณ 10 กระป๋อง ไข่ไก่อีก ประมาณนึง โอ้แม่เจ้า
ไม่เจอไม่เชื่อจริงๆ ไกรสร แสงอนันต์
ตัวเขาก็เคยเล่าว่าตอนที่คุณผึ้งงานเยอะมากๆ เขาเบื่อก็บินมาลาสเวกัส 4
วัน หมดไป 4 ล้าน (15-20 ปีที่แล้ว) ขนหน้าแข้งยังไม่ร่วง
แต่ตอนนี้เขาต้องเอาลูกมาเรียนฟรี
(ที่อเมริการให้เรียนฟรีได้ถ้ามีคนอุปการะเด็ก)เพื่อประหยัดเงิน
เดี๋ยวเขากลับเมืองไทยจะลำบาก ก่อนกลับเมืองไทย เขาดูลายมือแล้วบอกเราว่า
กลับไปเมืองไทยเขาจะสบาย คงเพราะน้องเพชรแน่ๆ เขาจะเอาไปเข้าแกรมมี่
แล้วจะไปหาสาวไทยโง่ๆ ตามต่างจังหวัดมาเป็นเมียไม่จดทะเบียน
จะได้คอยดูแลบ้าน ประหยัดเงิน ไม่ต้องไปจ่ายเงินให้โสเภณี เสี่ยงด้วย
(เฮ้อ) อันนี้ย่ิงชั่วกว่า เขา ไปเบิกเงินบริษัทบัตรเครดิตไว้ไม่ตำ่กว่า
10 ใบ เบิกเงินสด ที่นี่เขาเรียก cash advance ซึ่งดอกเบี้ยแพงมาก
บริษัทละประมาร $1000-$5000 แล้วก็บินกลับเมืองไทย
คงคิดว่าจะไม่กลับมาอีก เรารับโทรศัพท์จากแบงค์ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ราย
ซึ่งพนักงานเขาเป็นคนบอกเองว่า
ฉันจะไปตามเขาได้ที่ไหนเขาเบิกเงินสดไปเท่านี้ เราได้แต่บอกว่า
เขาอยู่ไทยแลนด์ ก็คิดว่าเขาตามไปเก็บไม่ได้
เพราะเห็นไกรสรก็อยู่สุขสบายดี แบบอย่างทุเรศอย่างนี้ พูดจาอย่างนี้
เราไม่เคยโทษเด็กเลย
อยากให้น้องเพชรกลับมาอยู่ที่อเมริกาดีกว่าอยู่ให้ผู้ใหญ่ที่เมืองไทยทึ้ง
เอาอย่างนี้ สงสารน้องจริงๆ คะ

จากคุณ : น้องนู๋ - [ 17 มิ.ย. 52 09:20:27 A:75.6.235.156 X: TicketID:220485 ]

ที่พี่โพสวันนี้ก็แค่อยากให้กำลังใจน้องเพชรค่ะ...............
ถึงน้องเคยเสียอะไรมาตั้งมากมาย แต่ถ้าน้อง"ไม่เสียกำลังใจ"
พี่ว่าน้องจะต้องก้าวต่อไปได้อย่างแน่นอน
อย่าไปคิดมากเลยค่ะ เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป........
ผ่านไป..........แล้วก็ผ่านไป...............................
วันนี้ถ้าน้องก้าวผ่านจุดนี้ไปได้
ต่อไปในภายภาคหน้าถ้าน้องย้อนกลับมาดูเรื่องราวในอดีต น้องจะรู้ว่า
สิ่งที่น้องเพชรทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถึงจะไม่ดีที่สุดในสายตาใคร ๆ ก็ตาม
เกิดเป็นมนุษย์ ก็อย่างนี้แหละค่ะ มี รัก โลภ โกรธ หลง
ถ้าน้องเพชร "เข้าใจ" ตัวเอง และ "ตัดใจ" ในเรื่องบางเรื่อง
พี่คิดว่าน้องจะอยู่อย่างมีความสุข
ใครก็ตามที่ไม่เคยขาดแม่ ขาดความอบอุ่น..................
ไม่ รู้หรอกค่ะว่ามันเจ็บปวดสักแค่ไหน ยิ่งถ้าคนที่อยู่ข้างหลัง พ่อ
ญาติพี่น้อง ไม่รักไม่เข้าใจอีก ก็เท่ากับว่าเพิ่มความเจ็บปวดเป็นทวีคูณ
สงสาร เห็นใจ เข้าใจ ค่ะ ถึงพี่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของน้องเพชร
แต่ความรักของคนเราก็แบ่งปันกันได้ใช่ไหมคะ
ก้อย

อยากให้น้องเพชรอโหสิกรรมให้คนเป็นพ่อซะ ถึงแม้จะเป็นพ่อที่แย่มั๊กๆ
ปล่อยให้เวรกรรมตามชำระเขาเองเถอะ น้องควรอยู่นิ่งๆ เงียบๆ
ไม่ต้องต่อปากต่อคำ สังคมส่วนใหญ่เขาน่าจะรับรู้ได้ว่าใครเป็นยังไง
พี่อยากให้น้องมีชีวิตที่ดี ถ้าเราบริสุทธิ์ใจมารก็ทำอะไรเราไม่ได้
อีกอย่างคำว่าพ่อมันไม่สามารถลบทิ้งได้ เพียงแต่เราไม่อาจอยู่ร่วมกันได้
ก็ต่างคนต่างอยู่
การอโหสิกรรมเป็นทานอันยิ่งใหญ่ถ้าทำได้จะดีกับตัวน้องเอง
พี่เชื่อเสมอว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วเป็นสัจจธรรมที่จริงแท้
ถ้าน้องทำดี คิดดี ขอผลบุญส่งให้น้องและทุกคนในครอบครัว (ใหม่)
ทุกๆคนจงประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ปรารถนา โดยเฉพาะหุ่นของแม่พุ่มพวง
ถ้าบริสุทธิ์ใจขอให้สร้างได้สำเร็จในเร็ววัน สาธุ
ญไทย

เราอยู่ข้างน้องเพชรนะ เพราะมีพ่อสร้างภาพเหมือนกัน
แต่วันนี้ได้ยินว่าขอช่วยบริจาคแล้วเกิดความไม่เห็นด้วย

เรา มองว่าเพชรเป็นคนมีต้นทุนทางสังคมดีกว่าคนอื่น มีชื่อเสียง
มีความสามารถระดับหนึ่ง
เพชรน่าจะลงแรงทำงานออกมาสักชิ้นแล้วหารายได้จากตรงนั้น
คนที่มีกำลังช่วยในวงการย่อมมี ออกเป็นอัลบั้มการกุศลก็ได้
อาจได้เงินช้าหน่อย แต่สง่างามกว่าขอรับบริจาคนะ
เพราะสิ่งที่เพชรทำคือทำเพื่อแม่ใช่ไหม แฟนๆทุกคนก็อยากช่วยอยู่แล้ว
แต่อย่าลืมว่าคนไทยตอนนี้ก็ไม่ได้มีเงินร่ำรวยเสมอไป
ทุกคนต่างมีเรื่องเดือดร้อน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ
ใครรักใคร่ให้ไปก็ตามใจเขา ถือว่าเขารักแม่พุ่มพวงและอยากช่วยเพชร
แต่เพชรควรพยายามด้วยตัวเองก่อน
เหมือนกับคนไทยที่ีไม่มีต้นทุนสังคมเหมือนเพชร แม้จะเดือดร้อน
อย่างชาวบ้านตาสีตาสาเจ็บป่วยและไม่มีปากเสียงมาขอบริจาคใครได้
เขายังต้องสู้่ด้วยตัวเองน่ะ

ขอได้แล้วมีคนใจดีมอบให้ คนให้ไม่ผิดหรอก แต่ก่อนจะขอ
ลองพยายามด้วยตัวเองก่อนดีไหม?
ขอให้โชคดี


ขออนุญาตน้องเพชร ถ้าข้อความนี้เป็นข้อความส่วนตัว
(พี่ไม่ได้รู้จักน้องเป็นการส่วนตัว)
แต่ พอดีเคยหาข้อมูลทางเวบแล้วเคยไปเจอข้อมูลที่น้องเพชรเคยโพสไว้นานแล้ว
ตั้งแต่ปี 49 (ถ้าไม่เหมาะสม ช่วยแจ้งลบด้วยนะคะ) พอดีเซฟข้อความไว้
เพราะอ่านแล้วชอบความคิดบางอย่าง อาจเพราะโตมาคล้ายๆกัน
แต่พี่โชคดีกว่าน้องมาก ยังมียายที่รักหลาน คอยปกป้อง คุ้มครอง

เผื่อ จะมีใครเข้าใจบ้าง ว่าบางที แต่ละครอบครัวก็ไม่เหมือนกัน
เด็กแต่ละคนก็พบเจอมาไม่เหมือนกัน พฤติกรรมและการแสดงออก
ก็จึงแตกต่างกันแบบนี้ เด็กคือผ้าขาวจะเป็นอะไร ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่
คนในครอบครัวปั้นแต่ง

*************************************
ข้อความของน้องเพชร

วันนี้วันพ่อ !!!

วันนี้ เป็นวันพ่อ เด็กสองคนที่ไร้พ่ออย่างเพชรกับอ้อยก็เศร้าทั้งคู่ครับ
แต่เราสองคนก็ยังดีใจที่ถึงวันนี้เราสองคนจะไม่มีพ่อแต่เราก็มีแม่กับยายที่
คอยดูแลและเลี้ยงดูเราสองคนเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะเพชรที่ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกหลายแท้ๆ
ของแม่กับยายแต่แม่กับยายก็เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเพชรจนเป็นคนดีได้แบบเพชร
เป็นลูกหลานแท้ๆ เพชรดีใจที่ได้มีครอบครัวเหมือนอย่างวันนี้
ถึงแม้วันนี้จะรู้สึกเจ็บปวดใจแต่ก็ดีใจที่ยังมีครอบครัวยืนเคียงข้างและคอย
ปลอบใจเพชรเสมอมา ขอบคุณอ้อยที่คอยเป็นกำลังใจและซับน้ำตาให้เพชรมาตลอด
จริงๆ แล้วเมื่อคืนอ้อยบอกให้เพชรโทรหาพ่อหรือส่งการ์ดให้พ่อแต่เพชรว่าอะไรๆ
มันไม่เหมือนเดิมแล้วครับทุกคน หัวใจมันสลายไปแล้ว
สิ่งที่เพชรจะให้พ่อได้ดีที่สุดตอนนี้คือเพชรจะพยายามลืมในสิ่งที่เคยเกิด
ขึ้น เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า แล้วสิ่งที่เพชรอยากจะขอจากพ่อในวันนี้คือ
อย่าทำลายครอบครัวของเพชรอีกเลยนะครับพ่อ !!!

เพชรเชื่อว่าแม่ พุ่มพวงดีใจที่เพชรกลับตัวเป็นคนดีได้อย่างทุกวันนี้
แล้วเพชรสัญญานะครับหม่าม๊าว่าเพชรจะไม่กลับไปทำตัวแบบเมื่อก่อน
เพชรจะดีเพื่อครอบครัวที่หม่าม๊าส่งมาให้เพชร
จะไม่ทำให้พวกเค้าเสียใจแบบที่เผ่านมาอีก
เพชรไม่มีอะไรที่จะตอบแทนพวกเค้า พวกเค้าไม่เคยร้องขออะไร
แต่สิ่งที่เพชรจะให้พวกเค้าได้ก็คือสิ่งที่พวกเค้าให้กับเพชร
นั่นก็คือความรัก รักที่ไม่หวังผลตอบแทน
รักบริสุทธิ์ที่เพชรไม่เคยพบเจอมาก่อน วันนี้เพชรเจอมันแล้ว
และเพชรจะรักษามันให้ดีที่สุด
ถึงวันนี้เพชรจะไม่มีพ่อแล้วแต่เพชรเชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเพชรจะเป็น
พ่อที่ดีของลูกเพชรให้ได้ครับหม่าม๊า " เพชรสัญญา " !!!
ธาร

"เพชร" ท้าพิสูจน์ ไม่ได้บ้า เข้าตรวจสุขภาพจิตแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2552 22:55 น.
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072147



"เพชร" โร่พิสูจน์ตัวเองไม่ได้บ้า เข้าตรวจสุขภาพจิตกับแพทย์ที่
รพ.ศิริราช เบื้องต้นตรวจร่างกายแล้ว ขั้นตอนต่อไปรอหมอนัดตรวจทางจิต เผย
ไม่มีความกังวลใจใดๆ แต่ที่ยอมมาตรวจเพราะอยากให้ความจริงกระจ่าง

หลังจากวานนี้(24 มิ.ย.) "ไกรสร แสงอนันต์"
ดิ่งเข้าโรงพยาบาลสวนปรุง ที่จังหวัดเชียงใหม่
เพื่อให้หมอตรวจสุขภาพจิตให้ตามที่เคยประกาศไว้
ซึ่งผลปรากฏว่าไม่มีอาการป่วยใดๆ

ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้(25) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "เพชร สรภพ
ลีละเมฆินทร์" ก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช
เพื่อตรวจสุขภาพจิตตามที่ผู้เป็นพ่อเรียกร้องไว้บ้าง
ทั้งนี้เจ้าตัวเผยว่า การตรวจครั้งนี้ไม่ได้แจ้งใครเป็นพิเศษ
ทำทุกอย่างเหมือนมาตรวจสุขภาพทั่วไป พร้อมบอก ที่ยอมมาก็เพราะพ่อขอไว้
ที่สำคัญอยากให้เรื่องราวคลี่คลาย และพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้บ้า

ซึ่งเบื้องต้นคุณหมอได้ตรวจร่างกายไปแล้ว
แต่ขั้นตอนตรวจสุขภาพจิตต้องรอหมอนัดอีกที ซึ่งก็คงเป็นเร็วๆ นี้
ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใจใดๆ เนื่องจากรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้บ้า บอก
ถ้าผลการตรวจออกมาเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป

Wednesday, June 24, 2009

ทนายชี้ "หมอ" ไม่มีสิทธิ์แถลงว่าใครบ้า ส่วน "ไกรสร" ถ้าใช้มรดกหมดเตรียมหามาคืน "เพชร" ได้เลย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ทนายเตือน "หมอ" ไม่มีสิทธิ์มาแถลงว่า "เพชร" บ้า แย้ง
ยิ่งถ้าไม่มีผลการตรวจมายืนยัน เพชรมีสิทธิ์ฟ้องเอาผิดได้ ส่วนกรณีที่
"ไกรสร" ฟ้องหมิ่นลูกชายฐานกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ ทนายแย้ง
ถ้าคิดว่าลูกบ้าแล้วฟ้องทำไม เพราะกฎหมายเอาผิดคนบ้าไม่ได้
ส่วนเรื่องมรดก เพชรมีสิทธิ์ฟ้องได้
ต่อให้ทางไกรสรใช้หมดก็เตรียมหามาใช้หนี้ได้เลย

เป็นที่พูดถึงอย่างมากทีเดียว กับกรณีที่ "ไกรสร แสงอนันต์"
ลุกขึ้นมาประกาศฟ้อง "เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์" ลูกชายสุดที่รักที่เกิดกับ
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ในข้อหาหมิ่นประมาทฐานกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ
กรณีไม่พอใจที่เพชรให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ไม่สามารถอยู่กับพ่อได้
เป็นเพราะถูกพ่อกระทำมาตั้งแต่อายุ 12 แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องอะไร
เนื่องจากบอกไปสังคมก็รับไม่ได้ เป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ผู้คนรังเกียจ จึงจำเป็นต้องลุกขึ้นมาฟ้องดังกล่าว

ทั้งนี้ไกรสรยังอ้างอีกว่ามี
หมอหลายคนโทร.มาบอกว่าเพชรน่าจะมีปัญหาทางจิต
และแนะนำให้ตนฟ้องศาลเพื่อเอาลูกไปตรวจรักษา
พร้อมเตรียมแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวในวันนี้ (22 มิ.ย.)
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ จังหวัดเชียงใหม่
ซ้ำยังจะเอาหมอมาร่วมแถลงด้วยเพื่อยืนยันความน่าจะเป็นดังกล่าว

เนื่องจากเคสนี้อยู่ในความสนใจ และไม่ค่อยจะมีปรากฏมากนัก ทาง
"ASTVผู้จัดการออนไลน์" จึงได้ติดต่อไปยังทนาย "สาคร ศิริชัย"
ทนายชื่อดังที่ว่าความให้ "หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม" คดีฟ้องนักร้องสาว
"ลีเดีย ศรัณย์รัชต์" รวมไปถึงคดีที่ "ไผ่ วันพ้อยท์" ฟ้อง "บ๊วย
เชษฐวุฒิ" และ "เอ๋ พรทิพย์" ข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง
กรณีพูดในรายการ "คันปาก" ช่อง 7 ถึงกระแสข่าวลือ "หยาดทิพย์ ราชปาล"
นางเอกช่อง 3 มีข่าวไปอัพยาที่บ้านไผ่ วันพ้อยท์
เพื่อสอบถามถึงการฟ้องร้องดังกล่าว

ทั้งนี้ทนายสาครชี้ว่า หมอไม่มีสิทธิ์จะมาแถลงว่าใครเป็นบ้า
นอกจากจะผิดจรรยาบรรณแพทย์แล้ว
ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์มาชี้ชัดว่าเพชรเป็นบ้าจริง
ส่วนการที่ไกรสรฟ้องหมิ่นลูกชายนั้น ทนายแย้ง
ถ้าคิดว่าลูกบ้าแล้วฟ้องทำไม เพราะกฎหมายเอาผิดคนบ้าไม่ได้

"ถ้ามีหลักฐานปรากฏชัดว่าคุณเพชรหรือบุคคลอื่นใดพูด
ซึ่งเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงหรือเป็นการขายข่าว
ถ้าเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงทำให้คุณไกรสรเสียหายก็ฟ้องได้ในข้อหาหมิ่น
ประมาท หรือถ้าลงตีพิมพ์ก็สามารถฟ้องหนังสือพิมพ์ได้
ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้ามีการพูดว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ
หรือการกระทำที่เสียหายอื่นๆ ถือเป็นการใส่ความผู้อื่น
สามารถฟ้องหมื่นประมาทได้เลย"

"ในรูปคดีคุณไกรสรได้เปรียบ เพราะเรื่องนี้ทำให้เขาเสียหายมาก
ผู้หมิ่นประมาทที่พูดออกไป ถึงอีกฝ่ายจะมีหลักฐานมาพิสูจน์หักล้างได้
เพราะถ้าพิสูจน์หักล้างแล้วมันไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ศาลห้ามพิสูจน์
แม้เรื่องมันจะจริงก็ตาม แต่มันทำให้เขาเสียหาย
แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว"

"เท่าที่ผมเห็นน้องเพชรให้สัมภาษณ์
ผมยังไม่เห็นว่าน้องเขายืนยันว่าพ่อทำอะไร
เขาบอกแค่ว่าขอยุติไม่พูดเรื่องดังกล่าว และขอหยุดเขาพยายามตอบเลี่ยงไป
อย่างนี้ยังไม่เข้าข้อหา ดูแล้วยังไม่มีข้อหาที่ว่าเขาผิด
เพราะเขาไม่ได้ระบุชี้ชัด คือจะต้องเอาข้อความนั้นมาวิเคราะห์ดูว่า
มันเป็นการยืนยันหรือไม่ หนึ่งยืนยันว่าเพชรหมายถึงคุณไกรสรหรือไม่
สองข้อความนั้นทำให้เขาเสียหายหรือไม่
ถ้ามีสองข้อนี้ก็จะเป็นความผิดหมิ่นประมาท
แต่ถ้าเขาให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อได้ล่วงละเมิดทางเพศเขาตั้งแต่อายุ 12
และจะไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว อย่างนี้เพชรผิดครับ"

"คือเท่าที่ผมฟังถ้อยคำที่เพชรให้สัมภาษณ์ก็ยังก้ำกึ่ง
เพชรก็ยังไม่ยืนยันอยู่ดี
แต่ถ้าถามว่าถ้าฟ้องไปแล้วในขั้นตอนการไต่สวนจะมีมูลมั้ย
ซึ่งที่เพชรบอกว่า ถูกพ่อกระทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้นั้น
มันอาจจะมีหลายเรื่อง เช่น พ่ออาจจะใช้วิธีที่รุนแรงในการอบรมสั่งสอนลูก
นี่คือสมมตินะ เพราะมันก็มีหลายสาเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้
แต่ที่ทำให้คนเข้าใจไปว่าน่าจะเป็นเรื่องนั้น
เพราะมันมีประเด็นนั้นขึ้นมา"

"เหมือนคดีที่ผมฟ้องคุณบ๊วย เชษฐวุฒิ กับ คุณ เอ๋ พรทิพย์
สื่อก็เข้าใจกันไปเองว่าเป็นหยาดทิพย์ แต่ที่คุณนุ้ย(ดีเจ EFM)
พูดไปสืบต้นตอจริงๆ คุณนุ้ยไม่ได้ระบุอย่างนั้น
เขาไม่ได้พูดว่านางเอกชื่ออะไร และไปอัพยาบ้านใครชื่ออะไร
แต่ผู้สื่อข่าวเขาไปคิดเอาเองว่าเป็นนายก. นายข. นายค. แล้วก็มาพูดนี่ผิด
ถามว่าเพชรพูดอย่างนี้มันผิดมั้ย มันไม่ถึงขนาดว่าผิด
แต่ถ้าสื่อเอาไปลงชัดเจน สื่อจะผิดเอง
เหมือนอย่างคุณบ๊วยคุณเอ๋ที่เอาไปพูดในรายการ
แล้วมีการเสริมถ้อยคำระบุชัดเจนลงไปว่าคือใคร แบบนี้ก็เลยฟ้องได้ครับ"

"ดูเจตนาเพชรเขาแล้ว เขาเองก็พยายามจะเลี่ยงไม่พูดถึง
แต่มันเป็นคำถามของสื่อที่พยายามเจาะเพื่อเอาข้อมูล
แต่เพชรเขาก็เลี่ยงที่จะตอบ เจตนาลึกๆ ของเขาก็ไม่ได้อยากพูด
คดีนี้ถ้านำสืบจริงๆ ก็ฟ้องได้ มีมูล แต่ว่าเพชรไม่ได้ระบุนี่
ว่าคุณพ่อล่วงละเมิดทางเพศเขา เป็นถ้อยคำของผู้สื่อข่าว
ที่ไปตีความและเข้าใจกันเอง ทีนี้ก็ต้องสู้กันด้วยหลักฐานครับ
แต่กรณีที่สื่อเอาไปลงแบบมีการระบุชัดเจน
ถ้าคุณไกรสรจะฟ้องสามารถฟ้องเล่มที่ลงได้เลย"

ในกรณีที่ไกรสรฟ้องหมิ่นประมาทเพชร ฐานกว่าหาล่วงละเมิดทางเพศ
และเห็นว่าลูกน่าจะจิตไม่ปกติ จึงอยากฟ้องเพื่อเอาลูกมารักษานั้น
ทนายชี้ว่า หากเพชรไม่มีหลักฐานที่จะเอามาสู้คดี
เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานหลายปี
ทางเดียวที่เพชรจะสู้ได้ก็คือ....
"ถ้าเพชรจะสู้ได้ ก็ในลักษณะที่ว่าเขาได้รับการกดดัน เช่น
เขาเคยพูดว่าพ่อให้ตังค์ใช้วันละ 5-10 ดอลล่าร์
อันนี้ก็ดูเป็นความกดดันอย่างหนึ่ง
ซึ่งอันนี้คนอื่นฟังแล้วอาจจะคิดว่าพ่อไปกดดันลูกหรือเปล่า
แต่เขาไม่ได้ไปบอกว่าพ่อข่มขืนเขา แต่เป็นถ้อยคำของผู้สื่อข่าว
การฟ้องต้องเจาะถ้อยคำอย่างนี้เลย ถ้าจะสู้ก็ต้องสู้ในแง่ที่ว่า
เขาได้รับการกดดันจากการเลี้ยงดู การสั่งสอน การที่ไม่ให้อิสระ
เพราะจากการสัมภาษณ์เขาหมายความอย่างนั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาระบุเอง ตรงนี้เพชรเอามาสู้ได้
แต่เขาไม่ได้พูดว่า พ่อไปทำอะไรแบบนั้นเขา"

ส่วนการที่ไกรสรอ้างว่า ที่ฟ้องเพราะอยากเอาลูกกลับมารักษาตัว
เนื่องจากเห็นว่าลูกชายพูดจาเหมือนคนจิตไม่ปกติ
เวลาให้สัมภาษณ์หรือการกระทำบางอย่างเหมือนคนไม่มีสตินั้น ทนายแย้งว่า
ยังมองไม่เห็นประเด็นว่าจะสามารถทำได้ เนื่องจากเป็นแค่การกล่าวหา
ซึ่งในทางกฎหมาย
การจะบังคับใช้ตรงนี้ต้องมีใบรับรองจากแพทย์ก่อนว่าเพชรจิตไม่ปกติจริง
ถึงจะดำเนินการได้

"เท่าที่ดูตอนนี้นี้ยังไม่มีประเด็นนะ
ว่าจะฟ้องแล้วเอามาพิสูจน์ได้ยังไง
ถ้าจะฟ้องเพราะเห็นว่าจำเลยมีความผิดปกติทางจิต แต่ถ้าจะฟ้องหมิ่นประมาท
เพื่อที่จะนำสืบว่าเขามีความผิดปกติทางจิตอย่างนั้น
มันไม่มีประเด็นที่จะทำได้เลย ถ้าจะฟ้องอย่างนั้นมันกฎหมายครอบครัว
กรณีแย่งสิทธิ์อำนาจปกครอง แต่ปรากฏว่าคุณเพชรก็บรรลุนิติภาวะแล้ว
กฎหมายครอบครัวก็ใช้บังคับเขาไม่ได้
มันก็ยังไม่มีประเด็นเรื่องจะเอาตัวเขามาพิสูจน์ได้ยังไง
ผมยังคิดไม่ออกนะครับ มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ในฐานะนักกฎหมายผมคิดว่า
เขาอาจจะมีช่องทางอื่นนะ
เพราะเท่าที่เห็นนี่ยังไม่เห็นช่องทางที่เขาจะเอาลูกมาพิสูจน์ได้ยังไง
ถ้าตัวเขาไม่ยินยอมที่จะไปตรวจ เพราะเขาก็ยืนยันว่าเขาปกติ
และมันก็ไม่มีกระบวนการที่จะไปทำด้วยครับ เขายังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา
และตัวเขาเองก็ไม่ได้ยอมรับว่าตัวเองผิดปกติ"

"ถ้าจะฟ้องเพื่อเอาไปพิสูจน์ทางจิตได้ ก็ต้องอย่างคดีของจิตรลดา
ที่ไปแทงเด็กในโรงเรียนเซนต์โยเซฟ แล้วเขาต่อสู้ว่าเขาทำไปเพราะความบ้า
เขาทำไปเพราะตัวเองมีโรคทางจิตเภท
เพื่อที่จะหลักเลี่ยงการรับโทษทางกฎหมาย
ซึ่งในทางกฎหมายคนที่ทำไปเพราะความผิดปกติทางจิต หรือถือว่าเขาป่วย
ถ้าเป็นอย่างนั้นจะต้องยุติการพิจารณาคดี
แพทย์ต้องให้ความเห็นก่อนว่าคนนี้ผิดปกติทางจิตจริง ศาลก็จะยุติ เอาคนๆ
นี้ไปรักษาทางจิตก่อน จนกว่าจะหายค่อยเข้ามาสู่กระบวนการพิจารณา"

"แต่ทีนี้พอเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
ถ้าพิสูจน์ได้ว่าในขณะที่จำเลยกระทำความผิดเขาเป็นโรคนี้อยู่จริง
กฎหมายเขาก็ไม่ลงโทษ อย่างนี้เรียกว่าการเอาไปตรวจพิสูจน์
แต่ที่ทางคุณไกสรฟ้องเพื่อเอาไปตรวจพิสูจน์
ผมมองว่ายังไม่มีประเด็นที่จะเอาไปตรวจยังไง
ผมฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาไปตรวจยังไง"


"เท่าที่ผมดูตอนนี้ก็ยังไม่มีช่องทางอื่น ที่ผ่านมาที่เขาจะเอาไปตรวจ
เอาในคดีอาญาก่อนถ้าสมมติ ผมหรือคุณทำผิด
แต่ในส่วนของคุณมันเป็นความผิดที่วิปริตร้ายแรงมากๆ
ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างคุณหรือผมจะทำได้
สมมติไปฆ่าคนตายหรือไปแทงเขาอย่างคุณจิตรลดานะ
เขาก็จะต่อสู้คดีว่าในขณะที่เขาทำ เขาเป็นโรคจิตเภท
เขาจะต่อสู้เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องรับโทษ เขายืนยันว่าตัวเองบ้า
แต่สังคมคิดว่าเขาเป็นคนดี แล้วมาทำผิด
ตัวคุณจิตรลดาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าในขณะที่เขาทำเขาบ้า
เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ว่าเขาบ้า เพื่อเอามาสู้คดี
อันนี้คือหลักที่เขาทำกันทั่วไป"

"แต่อยู่ๆ จะไปกล่าวหาว่าคนโน้นคนนี้บ้า แล้วจับเขามาตรวจ
กระบวนการผมยังมองไม่เห็น แล้วที่เขาจะฟ้องหมิ่นประมาท
ผมยังมองไม่เห็นประเด็นเลย เพราะถ้าจะฟ้องหมิ่นประมาท
แล้วหาว่าเพชรบ้าเพชรผิดปกติทางจิต เพชรก็ต้องไม่มีความผิดสิ
เพราะเพชรบ้าอยู่ ถ้าเขาพูดเรื่องนั้นในขณะที่เขาบ้า เขาก็ไม่ผิด
เพราะคุณมาอ้างว่าเขาบ้า"

บอก การที่จะมีแพทย์ออกมาร่วมแถลงข่าวพร้อมกับไกรสร
ในวันพรุ่งนี้(22 มิ.ย.) เพื่อยืนยันความน่าจะเป็นว่าเพชรจิตไม่ปกตินั้น
ทนายเตือนต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง แต่ถ้าเป็นตนจะฟ้องหมอ
ที่มากล่าวหาโดยที่ไม่มีหลักฐาน
"หมอจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาจะพูดออกไปว่าเพชรบ้า
เพราะคุณหมอเองยังไม่ได้ตรวจตามหลักกระบวนการทางแพทย์เลย
ซึ่งมันต้องใช้ระยะเวลา เพราะกระบวนการที่ศาลเคยพิจารณา
มันต้องผ่านกระบวนการค่อนข้างเยอะ
แค่ดูที่พฤติกรรมที่เขาให้สัมภาษณ์ทางสื่อแค่ 4-5 วัน
แล้วมาบอกว่าคนนั้นคนนี้บ้า อันนี้คุณหมอต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด
แต่ต้องดูตอนเขาแถลงอีกทีนะครับว่าหมอจะพูดยังไง แต่ถ้าเขาพูดว่าเพชรบ้า
อันนั้นเขาต้องรับผิดชอบครับ"

"ถ้าเป็นแพทย์ทางจิตมาพูด
เขาก็น่าจะมีหลักการตรงนั้นที่น่าเชื่อถือมาพูดยืนยันได้ แต่ถ้าอยู่ๆ
ว่าพูดว่าเพชรบ้า โดยหลักจรรณยาบรรณมันไม่น่าจะถูก
คือการที่จะว่าใครบ้าหรือไม่บ้า ไม่ใช่อยู่ๆ ดูจากการสัมภาษณ์ไม่กี่ครั้ง
เท่าที่ทราบมันต้องมีหลักในการตรวจพิสูจน์ บางทีศาลก็ไม่เชื่อนะ
บางคนแกล้งฉี่กลางศาล เขาก็ไปตรวจ ว่าไอ้นี่ไม่บ้าหรอก
มันแกล้งทำอย่างนี้เป็นต้น"

"ถ้าผมเป็นน้องเพชร ผมฟ้องคุณหมอนะ
ถ้าหมอมาพูดชัดเจนว่าเขาผิดปกติ ทั้งที่เขาไม่เป็นอะไรเนี่ย
คุณหมอจะพูดอะไรต้องระวังนะ เพชรมีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีได้
ถ้าคุณไปพูดออกสาธารณะยืนยันว่าเขาบ้า
นี่ชัดเจนเลยว่าผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา"

"ผมไม่มีความรู้ทางแพทย์นะ
แต่ถ้าคุณหมอฟังจากการที่เพชรให้สัมภาษณ์ไม่กี่ถ้อยคำ
มันไม่น่าจะวินิจฉัยได้ว่าเขาบ้าหรือไม่บ้า
กระบวนการตรวจสอบทางการแพทย์มันน่าจะมีมากว่านั้น
ไม่ใช่มาฟังเฉพาะคำพูดของเขา เพชรต้องผ่านบททดสอบทางการแพทย์ก่อนนะครับ
ต้องมีหลักฐานทางวิชาการอย่างถูกต้องเท่านั้น
และถึงแม้คุณจะตรวจพิสูจน์ว่าเขาบ้าจริงๆ
การที่คุณเอามาเปิดเผยต่อสาธารณะผมว่า
จรรณยาบรรณขอบแพทย์ก็น่าจะมีควบคุมอยู่ สมมติผมไปตรวจแล้วหมอบอกว่าผมบ้า
หรือผมเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
แล้วเอามาเปิดเผยต่อสาธารณะมันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ถ้าผมเป็นคนไข้ผมฟ้อง เพราะคุณเอาความลับส่วนบุคคลมาเปิดเผย"

"สรุปคือโอกาสที่พ่อจะฟ้องลูกในข้อหาหมิ่นประมาท สามารถทำได้
แต่ว่าคุณเพชรเขาก็มีข้อต่อสู้
ส่วนบุคคลอื่นก็ต้องดูที่ข้อความว่าเขาพูดยังไง แต่ประเด็นที่ชัด
สามารถฟ้องได้เลยก็กรณีที่ภรรยาของคุณไกรสร ไปให้ข่าวว่าคุณอ้อย
ธิดารัตน์ ใจแตกเป็นผู้หญิงไม่ดี
เคสนี้ฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาได้เลย
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็พูดไม่ได้ครับ"

เผย คดีแบบนี้ต่อให้คำพิพากษาจะเป็นอย่างไร ในแง่ของความรู้สึก
สังคมมักจะเห็นใจผู้เป็นพ่อมากกว่า
เนื่องจากวัฒนธรรมไทยลูกต้องเคารพบุพการี
"คดีแบบนี้ผมยังไม่เคยเจอนะ แต่เอาภาพรวมคือ
พื้นฐานของสังคมไทยกรณีที่พ่อฟ้องลูก ลูกฟ้องพ่อ
พื้นฐานสังคมไทยเด็กเคารพผู้ใหญ่ เคารพกันตามระบบอาวุโส
เราอยู่กันเป็นครอบครัว เราไม่เหมือนฝรั่ง เมื่อคดีนำสู่ศาลไปแล้ว
ศาลท่านเองก็มองในรูปของคดีเหมือนกันว่า ทำไมลูกถึงจะต้องมาฟ้องคุณพ่อ
แล้วทำไมพ่อต้องมาฟ้องลูก
โดยหลักแล้วศาลจะทำการไกล่เกลี่ยว่าทำไมถึงมาฟ้องกัน ถ้ามองในรูปคดีแล้ว
ศาลเองก็มองเหมือนสังคม คือคุณพ่อคุณแม่ยังไงก็ต้องเป็นผู้มีพระคุณ
ที่เราต้องเคารพนับถือ"

"ตามหลักทั่วไปของสังคมไทย
พ่อกับแม่ยังไงก็จะไม่ทำในสิ่งที่เป็นเรื่องเสียหายกับลูก
ถ้าคุณมากล่าวหาว่าคุณพ่อมาทำอย่างโน้นอย่างนี้
คุณจะต้องพิสูจน์หนักมากกว่าปกติ เพราะว่าคนทั่วไป
เขาจะไม่เชื่อว่าพ่อจะทำในสิ่งที่ละเมิดกฎหมายกับลูกได้ขนาดนั้น
หน้าที่ของพ่อกับแม่มีหน้าที่จะต้องเลี้ยงดูบุตร อุปการะให้การศึกษา
นอกเหนือจากข้อกฎหมายเป็นเรื่องของศีลธรรมด้วย
เพราะกฎหมายกลั่นกรองมาจากศีลธรรม
ศาลจะต้องพินิจพิเคราะห์ดูว่าความเป็นธรรมมันอยู่ตรงไหน
คือคำพิพากษาของศาล เขาจะถือเอาความเป็นธรรมเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่มันก็จะย้อนกลับไป
เพราะกฎหมายมันก็ร่างมาจากศีลธรรมนั่นเอง ซึ่งเป็นแบบนี้แล้ว
สังคมก็จะเห็นใจทางฝ่ายพ่อมากกว่า"

ระบุ กรณีที่ไกรสรประกาศจะฟ้องคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นต้นเหตุทำให้เพชรเปลี่ยนไป พูดจาไม่มีสตินั้น
ตามกระบวนการที่จะพิสูจน์ในชั้นศาล ก็ทำได้ยากเหมือนกัน
"หนึ่งเพชรเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว
ถ้าจะฟ้องว่าเอาลูกตัวเองไปปั่นสมองมันก็ไม่ได้
แล้วฟ้องแล้วมันจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเขาล้างสมองลูกคุณ
ตัวคุณเพชรเองเขาก็มีสิทธิ์ในฐานะบุคคลคนๆ นึง
ที่มีสิทธิเสรีภาพเหมือนคนอื่นๆ ตามที่ประชาชนคนไทยคนนึงพึงมี
เขามีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ได้
ไม่ใช่ว่าคนเราเกิดมาต้องเชื่อแต่คำพูดที่คุณพ่อสั่งสอนมา
มันอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เมื่อเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว
เขาก็มีสิทธิ์ที่จะใช้วิจารณญาณที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อใครก็ได้"

"ฉะนั้นมันไม่มีประเด็นที่จะฟ้องเขาได้เลยนะ
คือประเด็นมันไกลเกินไปที่จะพิสูจน์ได้
เป็นการฟ้องที่เราคิดเอาเองว่าเราเสียหาย
แต่กระบวนการที่จะพิสูจน์ในศาลมันทำได้ยาก ถ้าจะฟ้องมันก็ทำได้
แต่ศาลจะเอาอะไรมาเชื่อว่าลูกคุณถูกล้างสมอง เด็กหนีออกจากบ้าน
สาเหตุมันมีตั้งเยอะแยะ เขาอาจจะถูกกดดันในเรื่องอื่นๆ ก็ได้
อย่างไม่ชอบในสิ่งที่เขาอยู่เขาเจอ มันอาจจะไม่ใช่การถูกล้างสมอง"

ส่วนในเรื่องของมรดก แม้ว่าพุ่มพวงจะไม่มีการเขียนพินัยกรรมไว้
แต่เพชรในฐานะที่เป็นลูกชายโดยสายเลือดย่อมมีสิทธิ์ในส่วนแบ่ง
แม้ว่าหากในกรณีที่มรดกนั้นจะถูกใช้ไปหมดแล้ว
เพชรก็สามารถฟ้องเอากับผู้จัดการมรดกให้ชดใช้คืนในส่วนที่พึงจะได้ทุกบาททุก
สตางค์
"มันต้องไปดูที่เงื่อนไข ในกรณีที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้นะ
สิทธิทั้งหลายทั้งปวงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมรดกนี้มีอยู่ 3 คน
ในกรณีที่จดทะเบียนสมรส คุณไกรสร
ในฐานะเป็นสามีก็จะเป็นทายาทผู้มีสิทธิ์ในมรดกนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
มีสิทธิ์ไดรับมรดก บุคคลที่สองก็คือทายาทชั้นหนึ่งก็คือคุณเพชร
กับคุณแม่ของคุณพุ่มพวง ก็คือคุณยายเล็ก จิตรหาร ส่วนคุณไกรสร"

"สมมติว่าทรัพย์มรดกตรงนี้เป็นสินสมรสทำมาหาได้
ในระหว่างที่หลังจากเขาจดทะเบียนสมรสกัน สินสมรสจะถูกหัก
สมมติว่ามีเงินอยู่ 50 ล้าน หลังจากที่คุณพุ่มพวงเสียชีวิตลง 25
ล้านที่เป็นสินสมรสจะถูกหารครึ่งหนึ่ง หมายความว่า 25
ล้านจะเป็นของคุณไกรสรทันที ส่วนอีก 25 ล้าน จะต้องมาแบ่งเท่าๆ กัน
ระหว่างแม่คุณพุ่มพวง คุณเพชร และคุณไกรสร อันนี้คือการแบ่งมรดกตามกฎหมาย
ฉะนั้นคุณเพชรสามารถฟ้องได้ ในส่วนที่เขาพึงมีพึงได้
ตามส่วนที่เขาควรจะได้ทุกอย่างเลย"

"เพชรเขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องเรียกคืนจากผู้จัดการมรดกได้
สมมตมีที่ดินที่ใส่ชื่อคุณพุ่มพวงเป็นเจ้าของมรดก เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
การจะไปโอนมันต้องอาศัยคำสั่งของผู้จัดการมรดก
ฉะนั้นก็ต้องไปดูว่าเขาไปโอนหรือยัง แบ่งหรือยัง
แต่ถ้าแบ่งไม่ถูกต้องเพชรสามารถฟ้องได้ ผู้จัดการมรดกยักยอกทรัพย์มรดก
ทำการแบ่งมรดกไม่ถูกต้อง ก็ไปฟ้องได้"

"แต่ถ้าเป็นกรณีที่ถ้ามรดกถูกใช้ไปหมดแล้ว หรือถูกใช้ไปแล้ว
เขาก็ต้องฟ้องบังคับให้คุณไกรสรเอามาคืน
เพราะคุณไกรสรมีสิทธิ์เอาไปใช้ได้แค่ในส่วนของเขาเท่านั้น
อย่างที่แจงให้ฟังถ้ามีเงินอยู่ 50 ล้าน ถ้าคุณใช้เกินสิทธิ์ที่คุณพึงได้
เขาก็สามารถฟ้องคุณข้อหายักยอกทรัพย์ได้
แล้วคุณก็ต้องเอามาชดใช้ในส่วนที่เอาไปเกิน"


ที่มา http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000070039

โรคหรือโลกที่คร่าชีวิตพุ่มพวง/ต่อพงษ์

โดย ต่อพงษ์ 21 มิถุนายน 2552 14:16 น.


ผมเขียน ต้นฉบับนี้ขณะอยู่ในรถซึ่งมันนิ่งและไม่ขยับมา 40
นาทีแล้ว บอกตามตรงว่าวันนี้ (จันทร์ 15 มิ.ย.) ติดนรกเอามากๆ สำหรับผม
ยิ่งฝนเจ้ากรรมเทลงมาด้วยแล้วต้องบอกว่าเซ็ง
โชคดีที่มีเสียงเพลงของพุ่มพวงเป็นเพื่อนขณะรถติด

ผมชอบเพลงลูกทุ่งอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะของ ศรคีรี ศรีประจวบ ชาย
เมืองสิงห์ และที่แน่นอนที่ต้องมีติดรถไว้เสมอก็คือ พุ่มพวง
เหตุเพราะเพลงของเธอมันมีรสชาติเหนือกว่าเพลงของนักร้องลูกทุ่งหญิงคนอื่น
อีกทั้งความหลากหลายในลีลาเพลงซึ่งมีครบนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแหล่
เพลงเศร้า เพลงซึ้ง เพลงตลก เพลงหยอก เพลงร็อก เพลงจีน ชนิดที่เรียกว่าใน
1 เทปคาสเซ็ตต์ของเธอนั้น เราจะฟังได้ออกอรรถรสตั้งแต่เพลงแรกหน้าเอ
ยันเพลงสุดท้ายหน้าบีกันเลย
พอเปลี่ยนจากยุคเทปคาสเซ็ตเป็นยุคซีดีผมก็ต้องไปตามซื้องานของพุ่มพวงมาเก็บ
ไว้ในรถอีก

ในยุค 80
เพลงของพุ่มพวงนี่ดังมากไม่ใช่เฉพาะแฟนเพลงลูกทุ่งเท่านั้นนะครับ
เพราะในแวดวงของผมที่เคยฟังเพลงของเธอก็เนื่องจากไปเล่นสเก็ตหรือชอบไป
ดิสโก้เธค เพลงอย่างเขยิบเข้ามาซิ หรือ อื้อฮือหล่อจัง สาวนาสั่งแฟน
คนดังลืมหลังควาย นี่เปิดบ่อยนะครับ
และส่วนหนึ่งที่เปิดบ่อยก็น่าจะเป็นเพราะโครงสร้างของเพลงนั้นฟังดูแล้วมัน
เหมือนกับยกเพลงฝรั่งที่เปิดในเธคดังๆในยุคนั้นมาแปลง

โดยเฉพาะ "อื้อหือ หล่อจัง" นี่ฟังแล้วจะพบวิญญานของ Talking In
Your Sleep โดย The Romantics วงดังในเธคของยุค 80 เขาล่ะครับ
คนเรียบเรียงเขาปรับแต่งอย่างโคตรเนียนให้เข้ากับลีลาแบบพุ่มพวงและลีลาเพลง
ลูกทุ่งของบ้านเรา
และถ้าผมจำไม่ผิดเพลงนี้ถูกเอาไปเป็นดนตรีแบ็คกราวด์ของเพลง 2 legit 2
Quit ของ เอ็มซี แฮมเมอร์ ในยุค 90 เสียด้วย


เพราะแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบที่พอได้รับรู้เรื่องราวสุดขยะแขยงของ
ครอบครัวพุ่มพวง ผมก็เลยรู้สึกอินเป็นพิเศษ พูดก็พูดนะครับ
ไอ้โรคเอสแอลอีที่พุ่มพวงเป็นนั้น
เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นแล้วตายกันทุกรายนะครับ
เพราะอย่างคนบันเทิงบ้านเรา ถ้าผมจำไม่ผิดคุณเอ๋ นรินทร ณ บางช้าง
ก็เป็นโรคนี้อยู่ได้ เพื่อนผมคนหนึ่งก็เป็นแล้วก็ยังมีชีวิตอยู่
จะมีที่เปลี่ยนไปก็แค่ความบวมที่เพิ่มเข้ามา เพราะ ไตมีปัญหาเท่านั้น

ว่ากันว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เป็นโรคนี้ก็คือ
กำลังใจและการทำให้คนไข้สบายอกสบายใจตลอดเวลา
อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เธอกระทบจิตใจอยู่เรื่อยๆ
จะเร่งชีวิตให้เธอตายเร็วขึ้น

สัปดาห์ ที่ผ่านมาพอได้ฟังเทปลับก็เลยเกิดบางอ้อขึ้นมา เพราะ
มันฟ้องเราว่า โรคภายในนั้นไม่ร้ายเท่ากับโลกภายนอก
โดยเฉพาะโลกที่หมุนอยู่รอบๆ ตัวของพุ่มพวง

ผมออกจะเข้าใจอยู่กับสิ่งที่พระเพชรตะโกนออกมาตามข่าวที่บอกว่า
โลกรอบตัวของแม่ของเขานั้นร่วมกันฆ่าเธอ เพราะไอ้โรคแบบนี้
ถ้าสิ่งแวดล้อมมันแย่ โดยเฉพาะการไม่มีใจและกำลังใจให้กันนั้น
ก็ต้องฟันธงกันไปว่า โลกรอบตัวเธอไม่ได้ช่วยยื้อชีวิตเธอกันไว้เลย
มีแต่จะช่วยกันเพิ่มความเข้มข้นเคมีของโรคให้มากขึ้นๆ

ผลงานจากเทปลับนั้น ส่งผลให้จำเลยอันดับหนึ่งนั้นไม่มีใครเกิน
ไกรสร แสงอนันต์ สามี
ซึ่งแกก็เป็นจำเลยต่อสังคมในกรณีของพุ่มพวงตั้งแต่เจ๊ผึ้งยังไม่ตายแล้วครับ
ข่าวความสัมพันธ์ของไกรสรกับผู้หญิงอื่นก็มีหลุดออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ใน
ขณะนั้น จนบัดนี้ในสายตาของแฟนพุ่มพวงก็ยังไม่เห็นว่าแกจะแก้ต่างได้
ต่อให้แกบีบน้ำตาต่อหน้าสื่อ
ผมว่าความรู้สึกของคนที่มีต่อแกก็ไม่แตกต่างไปจากเดิมนัก

จุดอ่อนที่สุดของเรื่องนี้อยู่ที่พุ่มพวงไม่รู้หนังสือ
เธออ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
คำถามทั้งหมดก็เลยตรงไปหาคุณไกรสรที่เป็นสามีและผู้จัดการส่วนตัวว่าได้
จัดการกับเรื่องมรดกและทรัพย์สินกันไว้อย่างไรบ้าง
มรดกที่พุ่มพวงทิ้งเอาไว้นั้นตกมาถึงพระลูกเพชรซักกี่มากน้อย
ถ้ายังมีอยู่เมื่อไหร่พระลูกเพชรถึงจะได้สิ่งที่แม่เขาทิ้งไว้ให้...ที่หนักก็
คือ เรื่องแบบนี้พระลูกเพชรเขารับรู้กันแบบไหนกันโดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลนั้นหา
ง่ายแบบนี้?

ส่วนญาติๆ ก็ต้องโดนลูกหลงกันไป
เพราะถือว่าเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ดูแลพุ่มพวงก่อนที่นักร้องดังจะเสียชีวิต

เรื่องราวของพุ่มพวงนั้นทำให้ผมนึกถึงเพลงๆ หนึ่งของเธอ
พุ่มพวงนั้นร้องไว้ได้เจ็บมาก เพลงมีชื่อว่า "นักร้องลูกทุ่ง"
เนื้อหาพูดถึงความยากลำบากของคนที่ดิ้นรนจะเป็นนักร้องลูกทุ่ง
มีท่อนหนึ่งเขาบอกว่า

"ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่า ให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้อง ให้เขาล้วง

มันเจ็บในทรวง ไม่หาย ไม่เด่น ไม่ดังจะไม่หันหลัง กลับไป

ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่ จะโชคดี"

ผลพวกจากเทปลับนี่บอกเรานะครับว่า
เธอไม่ได้โดนคนอื่นล้วงให้ช้ำทรวงหรอกครับ
แต่โลกรอบตัวนี่แหล่ะครับที่ช่วยกันล้วงให้เธอจากไปแบบไม่มีที่พักใจแบบนั้น

แฟนเพลงแบบผมนั้นติดใจอยู่เรื่องเดียวละครับว่า
ก่อนหน้านี้มีหุ่นพุ่มพวงตั้งเยอะ
แถมหุ่นแต่ละตัวยังหน้าตาประหลาดยังกับหุ่นร้านเสื้อไม่เห็นเหมือนพุ่มพวง
เลยซักนิด แต่ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ตุ๊กตาพุ่มพวงที่ผู้เกี่ยวข้องทำขายก็มีอยู่
แถมพุ่มพวงยังถูกทำให้เป็นเจ้าแม่พุ่มพวงที่มีอิทธิฤทธิ์ในเรื่องหวยเสีย
ด้วย มีเหรียญเจ้าแม่พุ่มพวงอีกด้วย
ถ้าจะมีการสร้างหุ่นอีกสักทีก็หวังจะให้ดูเหมือนเธอหน่อยนะครับ

แล้ว แทนที่จะสร้างให้เธอมุ่งเน้นไปเรื่องหวยนี้อย่างเดียว
ขอให้มีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิแจกทุนให้เด็กเรียนหนังสือจะดีกว่า
เพราะถ้าเธอเธอรู้หนังสือกันซักนิด
เธอคงไม่พบจุดจบที่น่าเศร้าแบบนี้นะครับ

from http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000069902

Tuesday, June 23, 2009

MV พี สะเดิด 4 - จิ๊กโก๋นำเข้า

MV พี สะเดิด 4 - จิ๊กโก๋นำเข้า

ข้าวเหนียวติดมือ_พนม นพพร

MV KhiaoNiaw TidMue ข้าวเหนียวติดมือ_พนม นพพร Noom Lao Sao Thai

MV เสียงแคนจากแมนชั่น - ไหมไทย ใจตะวัน #2

MV เสียงแคนจากแมนชั่น - ไหมไทย ใจตะวัน #2

Saturday, June 20, 2009

MV ทางลัดของคนรอ-ตั๊กแตน ชลดา ชุด 3

MV ทางลัดของคนรอ-ตั๊กแตน ชลดา ชุด 3

MV ไปไหนมาน้อง-ยอดรัก สลักใจ

MV ไปไหนมาน้อง-ยอดรัก สลักใจ

MV คิดไม่ออก - คัฑลียา มารศรี

MV คิดไม่ออก - คัฑลียา มารศรี

เชิญชมคอนเสิร์ต คีตสุนทรียารมณ์บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ Kita soontree Concert

photo




วันอาทิตย์ที่12กรกฎาคม 2552 ขอเชิญชมคอนเสิร์ต
"คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ

ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ นิด้า เวลา18:00-23:00น.

พบกับศิลปิน วงหงา-หว่อง คาราวาน ,อี๊ด ฟุตปาธ ,เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
,หรั่ง ร็อกเคสตร้า ,คุณนัฐ ยลตรรักษ์และคุณพ.วงเดือน ,ไก่ แมลงสาบ
,กำปั่น บ้านแท่น ,สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ,การแสดงสี่ภาค
พบกับผู้อภิปรายกิติมศักดิ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ,คุณไพศาล พืชมงคล
,ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์

จองบัตรได้ที่ "กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน"081-4057233 ,

สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย 089-7172215

สำนักงาน สปท.089-7428282,www.padmusic.org นางสาวสรัญญา อรรคราช
ผู้ประสานงานคอนเสิร์ต "คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ


photo


photo


photo


photo


photo


photo


photo


photo



photo

MV ไม่ใช่ที่ชาร์จแบต - เอิร์น เดอะสตาร์

MV ไม่ใช่ที่ชาร์จแบต - เอิร์น เดอะสตาร์

Friday, June 19, 2009

ประชาสัมพันธ์คอนเสิร์ต "คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ

วันอาทิตย์ที่12กรกฎาคม 2552 ขอเชิญชมคอนเสิร์ต
"คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ

ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ นิด้า เวลา18:00-23:00น.

พบกับศิลปิน วงหงา-หว่อง คาราวาน ,อี๊ด ฟุตปาธ ,เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
,หรั่ง ร็อกเคสตร้า ,คุณนัฐ ยลตรรักษ์และคุณพ.วงเดือน ,ไก่ แมลงสาบ
,กำปั่น บ้านแท่น ,สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ,การแสดงสี่ภาค
พบกับผู้อภิปรายกิติมศักดิ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ,คุณไพศาล พืชมงคล
,ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์

จองบัตรได้ที่ "กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน"081-4057233 ,

สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย 089-7172215

สำนักงาน สปท.089-7428282,www.padmusic.org นางสาวสรัญญา อรรคราช
ผู้ประสานงานคอนเสิร์ต "คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ

Thursday, June 18, 2009

17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" พิสูจน์รักไกรสร

17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" พิสูจน์รักไกรสร
ิัby ASTV ผู้จัดการออนไลน์

"พุ่มพวง ดวงจันทร์" รู้จักกับ "ไกรสร แสงอนันต์"
เมื่อเล่นภาพยนตร์ด้วยกันเรื่อง "มนต์รักนักเพลง" ของรังสี ทัศนพยัคฆ์
ทั้งคู่เป็นเงาของกันและกันมานาน ข่าวลือต่างๆ ล้วนแต่ออกมาเป็นระยะ
แหล่งข่าวปูดที่สำคัญนั้นมาจากคนในวงการเพลงด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นข่าวการซื้อสามีของพุ่มพวง ดวงจันทร์
ไปจนถึงข่าวไกรสรในลักษณะที่เป็นแมงดาคอยเกาะเมียกิน และอื่นๆ อีกมากมาย

"ลูกผู้ชายจะมีเมียสักคนทำไมต้องรังแกกันอย่างนั้น
แล้วทำไมถึงได้มองว่าผมมาเกาะผึ้ง ไม่น่าเขียน
ผมก็มีกินมีใช้อยู่อย่างสบาย ผึ้งก็ทำงานผมก็ทำงาน เราก็แบ่งหน้าที่กันทำ
มันเจริญก้าวหน้าขึ้น เหนื่อยกันทั้งคู่"

แรกนั้นพุ่มพวง ดวงจันทร์ยืนยันว่าไม่ได้รักไกรสร แสงอนันต์
ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเล่นหนังมักแสดงบทในการเอารัดเอาเปรียบผู้หญิง
ในกองถ่ายแรกๆ นั้น นอกเหนือบทบาทการแสดงแล้ว
เธอไม่ยอมคุยและไม่เคยเรียกให้นั่ง
ถึงแม้ว่าเขาย่างก้าวเข้ามาในชีวิตแล้ว
เธอบอกเล่าเพียงแค่มีทัศนะที่ตรงกันหลายอย่าง แค่ชอบบ้าง
แต่ไม่ถึงขนาดที่ว่ารัก และจะมารักอย่างจริงๆ จังๆ ในช่วงหลัง

ร่ำลือกันในวงการบันเทิงว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์
เป็นคนใจง่ายและมีสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่มในวงการหลายคน ไม่ว่าจะเป็นทูน
หิรัญทรัพย์ ธีระพงศ์ เหลียวรักวงศ์ ฯลฯ สำหรับไกรสร แสงอนันต์
นั้นมายอมรับกับเธอว่า อยากจะลองดูว่าเหมือนที่ร่ำลือกันมั้ย พุ่มพวง
ดวงจันทร์ เลยใช้ไม้เด็ดหลอกไกรสรไปเดินสายตามต่างจังหวัด
เพื่อที่จะดูว่าสามารถไปกินอยู่กับคนลูกทุ่งเยี่ยงนั้นได้หรือเปล่า
เพราะโดยภาพของเขานั้นค่อนข้างที่จะสำอางในสายตาเธอและคนรอบข้าง
และอีกอย่างเพื่อเป็นการพิสูจน์คำพูดของเขาว่า
เลิกกับเมียเก่านั้นจริงแค่ไหน

"แรกเริ่มเดิมทีนั้น ตอนที่ผึ้งอยู่กับพี่ปุ้มใหม่ๆ
ก็มีข่าวออกมาในทำนองว่า เราสองคนจะอยู่ด้วยกันไม่ยืด
หาว่าพี่ปุ้มจะมาปลอกลอก หรือมาหวังผลประโยชน์ในตัวผึ้งบ้างล่ะ
มาหวังเพื่อเงินทองบ้างล่ะ ผึ้งเก็บความรู้สึกเสียใจมาโดยตลอด
แล้วเราสองคนก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า
เรายังอยู่ด้วยกันเพราะความรักไม่ใช่ผลประโยชน์แบบอื่นอย่างที่คนเข้าใจกัน"

แต่กระนั้นไม่ว่าเธอจะพยายามแบ่งปันให้กับคนอื่น
ใช้ไปส่วนหนึ่งและเก็บไว้ส่วนหนึ่งสำหรับครอบครัวใหม่
แต่ก็ไม่วายที่จะมีสมบัติเหลือให้คนมานั่งทะเลาะกัน
เรื่องราวความขัดแย้งของลูกเขยกับครอบครัวจิตรหาญกลายเป็นเรื่องสลับซับซ้อน
และยากเกินกว่าที่บุคคลภายนอกจะเข้าใจได้แจ่มชัด
กลายเป็นเรื่องของคนรอบข้างมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของคุณความดี
และคุณธรรมเป็นเลิศของพุ่มพวง ดวงจันทร์

ดูเหมือนว่าภาพของไกรสร แสงอนันต์
เป็นภาพลบในสายตาของญาติพี่น้องพุ่มพวงมาตั้งแต่แรก
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านไปกี่ปีก็ตาม ภาพเหล่านั้นก็มิได้ดีขึ้น

"หนูบอกแม่ว่า หนูโตแล้ว ทุกวันนี้ทุกคนมีฐานะหมดแล้ว
หนูยังไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรก็แล้วแต่หนูจะตัดสินใจเอง
เขามีเมียหรือไม่มีเมีย หนูจัดการเองได้ ผึ้งรัก ส่งเสีย
อดทนทุกสิ่งทุกอย่างมาตลอดก็เพื่อครอบครัว เพื่อน้อง
ทุกวันนี้ทุกคนเขาดีขึ้นแล้ว เขาไม่ลำบากกันแล้ว
เค้าเคยต้องลำบากเหมือนผึ้ง ทุกคนเขาไม่ได้ถางทางมาเอง
อย่างผึ้งต้องถางต้องฟันฝ่ามาทุกอย่าง"

"น้องสาวผึ้งนี่ แหม พอเขาร้องเพลงเป็นเขาก็อัดเสียงเป็นสลักจิต
ดวงจันทร์เลย โดยที่พี่สาวมีวงอยู่แล้ว นั่งเบนซ์เลยไม่ได้ลำบาก
ผึ้งถึงว่ากลัวน้องจะต้องเจอปัญหาต่างๆ เหมือนอย่างที่เคยคิดเกิดกับผึ้ง
แต่ว่า เขาจะทนได้อย่างผึ้งหรือเปล่า เพราะเขาไม่เคยผ่านมาอย่างเรา
น้องเรามันก็เด็ก พูดง่ายๆ ผึ้งรักครอบครัว แม่นี่ผึ้งรักมาก
น้องเป็นจุดสำคัญ แล้วผึ้งต้องการให้พ่อแม่สบายก่อน ที่ดินก็พอมีซื้อไว้
แต่ให้แม่ซื้อ บ้านหลังที่อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นของแม่
รถบัสอะไรต่อมิอะไรก็ยกให้เขาหมด"
...
ความรักบนชั้น 16 สยามคอนโดฯ
"ผมอยู่กินกับพุ่มพวงมาทั้งหมด 9 ปี ช่วงใช้ชีวิตร่วมกันใหม่ๆ
ค่าใช้จ่ายในครอบครัวทุกบาททุกสตางค์ ผึ้งเขาจ่ายหมด ซื้อไร่ ซื้อรถไถ
รถเก๋งให้ครอบครัวผมก็ไม่ได้แสดงอะไรเพราะรู้ว่า ผึ้งเป็นคนกตัญญู
เมื่อเรามีลูกก็เป็นครอบครัวของเราขึ้นมา รายได้ต่างๆ
ก็ต้องเก็บออมไว้เผื่อเวลาที่เราทำงานไม่ได้ก็จะมีเงินใช้จ่าย
มีค่าเล่าเรียนลูก การใช้จ่ายเงินทองต้องระมัดระวังกว่าแต่ก่อน"

"เงินที่เกื้อกูลครอบครัวจากที่เคยให้มากๆ ก็ลดจำนวนลง
ในฐานะเป็นสามี ผมจำเป็นต้องพูดกับผึ้งแล้วผึ้งก็เห็นด้วย
เพราะอย่างนี้จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทางญาติฝ่ายเขาไม่พอใจผม"

"ตอนนี้รักแล้ว ผึ้งเป็นคนโผงผางนะ
ตอนแรกเขามานอนอยู่ที่บ้านเนี่ย ชวนไปเดินสายกลับมา
พอดีลูกน้องโดนรถชนตายคืนนั้น พอมาถึงบ้านเค้าจะกลับบ้านเขา
ผึ้งก็บอกอย่ากลับเลย อยู่เป็นเพื่อนคุยกันก่อน ตีสี่แล้วนี่
เดี๋ยวก็สว่างแล้ว ก็ให้เขาอาบน้ำ เค้าไม่มีเสื้อผ้าอะไรมา
ผึ้งก็หาชุดนอนผึ้งใส่แล้วก็ ยังไงล่ะ
คนเรารู้จักกันเป็นสิบวันแล้วที่จะอยู่ในห้องลำพังสองคนชั่วเวลา 2-3
ชั่วโมง แล้วก็ไม่ได้ล็อกห้อง ผึ้งให้เขานอนด้วย
นอนบนเตียงแต่ถูกตัวผึ้งไม่ได้นะ"

"พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ
ผึ้งอยากดูว่าเขามีความอดทนมั้ยเพราะคนเราเนี่ย พูดกันอย่างไม่อาย
ลองได้มีโอกาสนอนด้วยกันลำพัง มันไม่เหลืออยู่แล้วใช่มั้ย ผึ้งก็ลองดู
ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาบอกว่าขอกอดหน่อยได้มั้ย ผึ้งบอกได้ แต่กอดเฉยๆนะ
ก็นอนปรับทุกข์คุยกันเรื่องอะไรๆ เชื่อหรือเปล่าว่า
นอนด้วยกันแบบนี้เกือบเดือน"
...
พุ่มพวง ดวงจันทร์-มีแต่ให้กับให้
ชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์
ประดุจดั่งลวดข้อสุดท้ายที่เกี่ยวร้อยรัดบางสิ่งและหลายอย่างไว้

ลวดข้อสุดท้ายนี้เกี่ยวรัดความเป็นลูกทุ่งแห่งยุคสมัยดั้งเดิมกับลูกทุ่งสมัยใหม่ไว้

ลวดข้อสุดท้ายนี้อีกเช่นกันที่เกี่ยวร้อยความรักและความห่วงใยแห่งชีวิตครอบ
ครัวเข้าด้วยกัน เป็นข้อที่เกือบจะขาดของความรักระหว่างเธอกับไกรสร
แสงอนันต์ ส่วนเกือบจะขาดด้วยสาเหตุใดนั้นคงเป็นปริศนาอยู่

และลวดข้อนี้อีกเช่นกันที่ครอบครัวจิตรหาญจะต้องวิ่งไขว่คว้าไว้
ด้วยเหตุผลที่คงรับรู้อยู่ว่า เมื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่นั้น
ทุกคนในครอบครัวล้วนได้รับแต่การให้จากเธอทั้งสิ้น

"ที่แน่ๆ ทำงานเก็บเงินเก็บทองไว้ดีกว่า
มีสตางค์แล้วจะทำอะไรก็ได้ก็ใช้ไปทำไปมันมีความสุข
ไม่ใช่ประเดี๋ยวตายไปไม่รู้จะเอาไปไหนอีก คือเห็นนะคะ
เห็นคนอื่นที่ทำอย่างเดียว งก เก็บอย่างเดียว ไม่กิน ไม่เที่ยว
ไม่อะไรสักอย่าง ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แถมคนอยู่ข้างหลังยังทะเลาะกันอีก
ผึ้งก็มาได้คิดว่า คนเราทำไมไม่ทำ แล้วเราก็ใช้ พอใช้ พอเก็บพอกิน
อะไรอย่างนี้ ให้ชีวิตมันมีความสุขนะคะ

"พี่ปุ้ม เขาเป็นคนไม่มีปัญหากับใคร อ่อนหวานและพูดจาเพราะ
และที่สำคัญเขาจริงใจ เขาไม่เคยมาแอบอิงทางด้านการเงินและการงาน
เราต่างคนต่างทำงานของตัวเองไป
ผึ้งสงสารเขามากเวลาที่มีคนพูดหรือเขียนว่าพี่ปุ้มเขามาเกาะผึ้ง
มีแต่ผึ้งเสียอีกหยิบของเขามาใช้บ้าง
เพราะเงินทองของผึ้งให้แม่หมดอยู่แล้ว"

ท้องแรกของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เด็กชาย เพชร ลีละเมฆินทร์
อยู่ในท้องถึง 10 เดือนเต็ม จากการบำรุงและกินอาหารได้มาก
ทำให้เด็กตัวใหญ่ถึงขั้นต้องผ่าออก น้ำหนักแต่เดิมเพียง 50 กิโลกรัม
เพิ่มขึ้นเป็น 68 กิโลกรัม
แม้ว่าเธอจะมีสถานภาพทางการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
แต่เธอก็หมั่นศึกษาหาความรู้จากประสบการณ์
การหาความรู้เรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกนั้น เธอศึกษาจากหนังสือบ้าง
วิดีโอบ้าง หรือดูจากรายการทีวีบางรายการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลและเลี้ยงดูเด็ก

"พี่เขาเป็นคน ยังไงก็ได้ เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่
ทั้งผู้จัดการ บางทีก็คอยแนะนำในสิ่งที่เราคิดไม่ถึง
คอยแนะนำคอยบอกในทุกๆ ด้าน อย่างเช่น เรื่องลูกเขาไปเจอข้อเขียนที่ไหนดีๆ
ก็จะมาเล่าให้ฟัง"

เธอยอมรับว่า การมีลูกทำให้เธอมีความสุขขึ้นเยอะ
ใฝ่ฝันที่จะให้ลูกไปอยู่เมืองนอกเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเหลือตัวเอง
ในลักษณะที่ว่า ซึมซับเอาวัฒนธรรมไทยและฝรั่งเข้าไว้อย่างละครึ่ง
"ผึ้งเขาทำหน้าที่ของเขาได้ดี ถ้ามีเวลา เขาทุ่มเทให้กับลูกมาก
เรื่องการบ้านการเรือน ว่างๆ เขาไม่ได้ไปไหน อย่างวันหยุด
เขาจะทำกับข้าวให้ทาน เขาทำแกงป่าเนื้ออร่อย"

"อย่างเมื่อคืน ผึ้งกลับตอนตี 4 ตอนเย็นก็ไปรับเขาที่โรงเรียน
คือกลางวันเราก็เจอกัน พอช่วงกลางคืนเขาหลับแล้ว เราถึงไปทำงาน
แต่ถ้าต้องไปค้างก็จะโทรศัพท์มาคุยด้วยทุกวัน
ทำให้เขามีความรู้สึกว่าได้อยู่กับเราตลอด แล้วเสาร์-อาทิตย์
ถึงแม้บางทีจะไม่ไหว ก็ต้องพาเขาไปเที่ยว ไปเล่นเกมจนเขาถามว่า
แล้ววันเด็กเขาจะเล่นอะไร ผึ้งก็บอกกับเขาว่า
วันเด็กก็ทุกวันอยู่แล้วสำหรับน้องเพชร เล่นหมดทุกอย่างแล้ว
พาไปเที่ยวจนไม่รู้จะพาไปไหนอีกแล้ว ผึ้งเห็นคนใกล้ๆ ตัว
เขาบอกว่าไม่มีเวลาให้ลูก ผึ้งว่าเขามี
แต่พอมีเวลาว่างกลับเอาไปทำอย่างอื่น ซึ่งดูแล้วได้แต่ปลง
ตอนนั้นยังไม่มีลูกก็มีความคิดว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้นะ
เพราะผึ้งเป็นคนรักเด็ก ในที่สุดวันนั้นก็ถึงผึ้ง ซึ่งผึ้งให้เขาเต็มที่

นับจากวันแรกที่เด็กชายเพชรลืมตาดูโลก พุ่มพวงถนอมรักและห่วงใย
เคยตีเพียงครั้งเดียวเนื่องจากความดื้อ
แต่หลังจากที่เธอตีลูกแล้วเธอกลับหันหลังร้องไห้เสียใจ
"ผึ้งอยู่ด้วยกันมาท่ามกลางเสียงดูถูกว่า จะไปกันรอดหรือ
ผึ้งก็รักกันอยากมีลูกกับพี่ปุ้มด้วย เราจะหาเงินกันสักพัก
ถ้าไม่ไปอยู่เมืองนอก ก็จะไปปักหลักอยู่ที่เมืองเหนือ
บอกตรงๆว่าผึ้งไม่ชอบกรุงเทพฯ ค่ะ
เพราะทุกวันนี้ผึ้งก็เรียกว่ามีความสุขโดยได้ซื้อไร่อ้อย และรถไถ
พร้อมรถบรรทุก กับบ้านให้แม่เสร็จแล้ว น้องๆ
ก็มีเงินได้ร่ำเรียนเพื่อชดเชยที่ผึ้งได้เรียนน้อยกว่าเพื่อน"

ความตั้งใจของสามีภรรยาคู่นี้ที่จะไปอยู่อเมริกาสักพักก็มีอันต้องร่นลงมา
เป็นการพักผ่อนแค่ 2 เดือน เนื่องจากอาการป่วยของพุ่มพวงเริ่มส่อเค้า
...
ยุทธการทำลายพุ่มพวง
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ
ที่ผ่านประสบการณ์แห่งการต่อสู้ดิ้นรนมาสารพัด
และน้อยคนนักที่จะย่างก้าวอย่างไม่แคร์ใครได้เช่นเธอ
นอกเหนือจากการสู้เพื่อครอบครัวและญาติพี่น้องแล้ว
ส่วนของงานเธอเองก็กร้าวและพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรี
โดยเฉพาะในหลายกรณี ไกรสร แสงอนันต์ ผู้สามี
ซึ่งอยู่ในฐานะของผู้จัดการส่วนตัว
มีส่วนเข้าไปจัดวางระบบความคิดไปจนถึงความเพียรพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้
พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีความแตกต่างจากนักร้องลูกทุ่งคนอื่นๆ

ในขณะที่สามีเก่าของเธอ ธีระพล แสนสุข
ก็มีส่วนสร้างชื่อและพาเธอเข้ามาเรียนรู้วงจรแห่งกระแสเสียงบนเวทีที่เป็น
ลูกทุ่งจริงๆ แต่สำหรับไกรสร
แสงอนันต์ก็พาเธอให้ก้าวล่วงพ้นจนกลายเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
นอกเหนือจากนี้ยังเข้ามามีส่วนปกป้องเธอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นกรณีการดึงตัวพุ่มพวงออกจากบริษัทอโซนาฯ ไปหาไพจิตร ศุภวารี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่อตัวศิลปินในสังกัด
ไปจนถึงการเข้าหาผู้ใหญ่ในวงการต่างๆ
เพื่อเป็นเกราะมิให้ถูกพวกมาเฟียลูกทุ่งคุกคาม

ในช่วงทื่ธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่งของพุ่มพวงยังดำเนินการภายใต้การบริหารวงโดย
ธีระพล แสนสุขอยู่นั้น
หน้าที่การรับจ้างร้องเพียงอย่างเดียงของเธอก่อให้เกิดภาพที่ไม่พอใจแก่
กลุ่มวัฒนธรรมดั้งเดิมลูกทุ่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า "กลุ่มมาเฟีย" นั่นเอง

"ธุรกิจการเงินของลูกทุ่งมันเงินสดทั้งนั้น
สมัยก่อนครั้งที่ผึ้งยังไม่อยู่กับผม เขาก็เจอมาเยอะแยะ
แล้วเขาก็เป็นเด็กบ้านนอกลูกทุ่งก็ไม่มีใครรู้จัก
ผมเข้าไปก็ไม่ใช่ว่าผมรู้จักใครหรอก หากแต่อาศัยความดังของเขานั่นแหละ
พร้อมกับประสบการณ์ของผมที่ว่ามีความรู้หน่อยดึงเข้าหาผู้ใหญ่เลย
ฝ่ายตำรวจเราก็ไปถึงระดับผู้ใหญ่อีกเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นพวกมาเฟียแหยงไปเยอะ ไม่กล้าเลย
คิดว่าพวกมาเฟียชอบขู่คนที่ไม่มีความรู้ ขู่ลูกทุ่ง ขู่คนที่ขู่ได้"

"ถ้าหนูไม่สู้ หนูคงยืนอยู่ไม่ได้จนถึงปัจจุบัน ถ้าหนูท้อแท้
หนูคิดหลายหนว่า หนูจะเลิก ถ้าขืนหนูเป็นอยู่แบบนี้
รถนี่เหมือนกันคือต้องวิ่งทุกๆ วัน ชีวิตหนูแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ตูมตามไปหนูก็ตายเพราะใช้ความเร็ว
และปัญหาที่หนูจะต้องต่อสู้กับวงการลูกทุ่ง คนนั้นก็จะสร้างนักร้องใหม่
คนนี้ก็จะสร้างนักร้องใหม่ แต่ขึ้นไม่ได้เพราะติดหนูคนเดียว
ทำวงขึ้นมาทำได้ไปเล่นแล้วแต่ไม่มีคนดู
คนดูไปดูแล้วสู้หนูไม่ได้ก็ต้องกลับมาดูหนู ก็เสียผลประโยชน์
หนูเป็นคนปากกล้าสู้ในสิ่งที่ไม่น่าสู้ คือทุกอย่างมันเป็นบทเรียน
และมันฝึกหนูมาตั้งแต่เด็ก"

"เขามีหน้าที่จัดการดูแลใช่มั้ยคะ
เช่นว่าเขาบอกไม่ได้นะงานอย่างนี้ไม่รับ
ผมไม่ต้องการให้แฟนผมออกไปร้องงานอย่างนี้ แฟนผมเป็นนักร้องระดับไหน
ทุกวันนี้มีเกียรติแล้ว ควรจะพอกันได้แล้วสำหรับงานแบบนั้น
ไอ้งานกระจอกงอกง่อยก็ไม่อยากให้ไปร้อง ก็เกิดปัญหาว่า ขัดผลประโยชน์"

จากอโซน่าฯ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ย้ายมาอยู่ภายใต้บารมีของ ไพจิตร
ศุภวารี แห่งซีบีเอสและพีดีโปรโมชั่น
หนนี้เองที่ไพจิตรพยายามจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนักร้องลูกทุ่งตามงานวัดให้
เป็นศิลปินเดี่ยวโชว์งานคอนเสิร์ต

เปลี่ยนสีสันของดนตรีลูกทุ่งด้วยการให้ ศรายุทธ สุปัญโญ
และทีมอินฟินิตี้ ทำดนตรีใหม่ ทุ่มทุนทำวิดีโอที่ไปถ่ายทำถึงเมืองจีน
แหวกแนวตลาดลูกทุ่งด้วยแดนเซอร์เพียง 4-5 คนแทนที่หางเครื่องนับร้อย
แต่ทั้งหมดกลายเป็นว่า ไม่มีใครรับพุ่มพวง ดวงจันทร์ในงานเพลง
"ตั๊กแตนผูกโบว์"

ฉะนั้นเมื่อไม่มีใครรับ งานเพลงต่อไปจึงกลับเข้าไปสู่บทเดิม
ด้วยสูตรลพ บุรีรัตน์-ประยงค์ ชื่นเย็น และพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในงานเพลง
"หนูไม่รู้" และ "หนูไม่เอา"

ส่วนด้านการรับจ้างร้องเพลงนั้น หลังการเสียชีวิตของธีระพล
แสนสุข ไกรสร และ พุ่มพวงทำต่อพักหนึ่งจึงส่งต่อไปให้กลุ่มธุรกิจของ
สรรเสริญ รุ่งเสรีชัย จากนั้นตกมาเป็นของ มานิตย์ และ มุนี อังกินันท์
...
นักสู้เพื่อศักดิ์ศรีและวงการ
เป็นธรรมดาอยู่เองที่นักร้องสาวและดังถึงขนาดนี้จะต้องมีใครต่อใครหมายจะ
เด็ดดมและเชยชม แต่เธอยังหนักแน่นอยู่กับความรักและคนรักเรื่อยมา
เพราะการหลงระเริงอย่างนั้นมิใช่ความสุขและยังผลให้ชื่อเสียงไม่ยั่งยืน

"พวกไอ้เข้ พวกมีเงินเยอะๆ เขาชอบมาสนใจหนู
หรือเจ้าของอาบอบนวดเป็นบางที่ ซื้อของมาให้ เรียกไปโชว์ตัวที่โน่นที่นี่
ถามว่าเงินที่ลงทุนที่วงเท่าไร สามล้านพอไหม หนูบอกว่า หนูทำเองได้
ขอบคุณ หนูไม่เคยยุ่งกับคนประเภทนี้เลย"

"ผึ้งหยิ่งในตัวเอง ผึ้งรักศักดิ์ศรีตัวเอง
แล้วเหตุการณ์แบบนี้ผึ้งก็เคยเห็นอยู่ว่า
ผู้หญิงบางคนต้องไปยอมเขาเพื่อให้ตัวเองได้มีคนเชียร์ โอเค
ถ้าผึ้งจะยอมใครสักคน ผึ้งจะยอมเฉพาะคนที่ผึ้งรัก ผึ้งพอใจเท่านั้น
ไม่ใช่เอาเงินมาซื้อมาแลก ทำกับผึ้งไม่ได้หรอก (เธอเริ่มปาดน้ำตา)
อย่างซื้อบ้านหลังนี้มีคนออกปากนะว่า
ตัวคนเดียวลำบากอย่างนี้เขาช่วยได้นะ จะออกค่าบ้านให้ ซื้อรถให้
คือจะอุปถัมภ์ ผึ้งบอกว่าผึ้งขอเป็นหนี้ดีกว่า แล้วอย่ามายุ่งกับผึ้งอีก
อย่ามาพูดอย่างนี้ หาเองดีกว่า ยอมเหนื่อย"

"จริงอยู่วันนี้เราสาว เราสวย คนเขาก็ต้องการเรา
แล้วสักวันหนึ่งเมื่อเขาไม่ต้องการเราล่ะ
ในเมื่อเขาเบื่อแล้วก็จะต้องมีคนที่สวยกว่าเรา
เขาจะทำอย่างไรกับเราก็ได้เมื่อเขาไม่ต้องการน่ะ
ผึ้งได้เห็นประสบการณ์แบบนี้บ่อยไป เขาเอาสิ่งพวกนี้มาล่อ
มาให้ผึ้งได้เห็นอยู่ตลอดเวลา เพราะผึ้งเป็นเด็กบ้านนอก
ผึ้งลำบากมาตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าจะล่อหลอกได้ ใครจะมาอ้างไม่ได้ว่า
นี่ฉันซื้อให้เธอ อันนี้ของฉันนะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาไม่ฟันผึ้งยับไปแล้วเหรอ ใช่มั้ย"
...
คงเหลือไว้แต่นาม
แม้ว่าจะเป็นเด็กสาวบ้านนอกเข้ามายังดินแดนศิวิไลซ์
หยอกล้อกับแสงสีด้วยเสียงเพลงสนั่นวงการ ชื่อเสียง เงินทอง
เกียรติยศทั้งของจริงและจอมปลอมวิ่งเข้าออกชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์
เป็นว่าเล่น แต่ใช่ว่านั่นจะทำให้คุณค่าแท้ของเธอแปรเปลี่ยนไป
เธอยังคงเป็นรำพึง จิตรหาญ ผู้เปี่ยมไปด้วยแรงกตัญญูอันแรงกล้า
สืบทอดความไม่มีในตัวเองไปสู่ความมีของคนอื่นๆ ในครอบครัวอยู่เนืองๆ
จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ชื่อของเธอมิเพียงแต่จะจารจำอยู่ในหัวใจของคนข้างเคียงเท่านั้น
หากแต่อณูแห่งคุณความดีนั้นจะแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจของแฟนเพลงนับไม่ถ้วน
เพราะนับจากนี้ไป แม้จะไม่มีตัวตน
แต่ก็ยังมีเสียงเพลงเห่กล่อมพร้อมกันนั้นในทางรูปธรรม
เธอไม่ต้องทำหน้าที่ ดูแลและช่วยเหลือคนรอบข้างต่อไปอีกแล้ว
แต่ในทางนามธรรมนับจากนี้ เธอจะเป็น "ผู้ให้" โดยผ่านองค์การกุศล
ในรูปแบบของ "มูลนิธิพุ่มพวง ดวงจันทร์" และดอกผลแห่งความดีนั้น
จะทำให้ชื่อเสียงของเธอสถิตย์อยู่กับความมั่นคงไม่รู้เลือนในสายตาของ
ประชาชนทั่วไป
...
ผลงานพุ่มพวง ดวงจันทร์
ปี 2525 พุ่มพวง ดวงจันทร์ เข้าสู่ค่ายอโซน่า โปรโมชั่น
เธอสร้างสรรค์ผลงานไว้มากก่อนจะย้ายตัวเองมาอยู่ภายใต้การดูแลของพีดี
โปรโมชั่น และ ซีบีเอส เร็คคอร์ด (ประเทศไทย) อาจารย์ไพจิตร ศุภวารี
เพื่อพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองให้ทันกระแสความนิยมของดนตรีสตริงในยุค
นั้น แต่เมื่อสไตล์นั้นไม่เป็นที่ยอมรับของ "คอลูกทุ่ง"
เธอจึงหันไปทำงานร่วมกับท็อปไลน์มิวสิค
สร้างผลงานที่สร้างความนิยมให้กับเธอมากมาย
ต่อมาเธอจึงเริ่มรับจ้างร้องเพลงให้กับอาร์เอส โปรโมชั่น
เมโทรเทปและแผ่นเสียง และแฟนตาซี ไฮคลาส

จากปี 2525-2535 เธอได้สร้างผลงานไว้มากมายดังนี้

มิ.ย. 2525 จะให้รอ พ.ศ.ไหน, ดวงตาดวงใจ / 2526 สาวนาสั่งแฟน,
นัดพบหน้าอำเภอ / 2527 ทิ้งนาลืมทุ่ง / 2528 คนดังลืมหลังควาย , อื้อฮื้อ
! หล่อจัง / 2529 ห่างหน่อย - ถอยนิด,ชั่วเจ็ดที-ดีเจ็ดหน,
เรื่องของสัตว์โลก / 2530 คิดถึงน้องบ้างนะ

พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีผลงานกับอโซน่าฯ ทั้งสิ้น 11 ชุด โดยเฉพาะ 3
ชุดหลังคือ ชั่วเจ็ดที-ดีเจ็ดหน, เรื่องของสัตว์โลก, คิดถึงน้องบ้างนะ
เป็นผลงานที่ออกวางแผงเทปหลังจากที่ พุ่มพวง ดวงจันทร์
ได้ออกจากค่ายอโซน่าฯ แล้ว โดยผลงานที่มีคนรู้จักมากที่สุดก็คือ
ชุดชั่วเจ็ดที-ดีเจ็ดหน
แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรหากเทียบกับผลงานเพลงชุดแรกๆ
ส่วนชุดสุดท้ายของพุ่มพวงที่อโซน่าทำออกมาคือ "คิดถึงน้องบ้างนะ"
เป็นงานคัดเพลงเก่าจากชุดต่างๆ มารวมไว้

หลังจากออกจากอโซน่าโปรโมชั่นแล้ว พุ่มพวงอยู่ในความดูแลของ
อ.ไพจิตร ศุภวารี ต่อจากนั้นก็เข้าไปอยู่ในสังกัดของท็อปไลน์มิวสิก
ซึ่งมีผลงานออกมาอีกมากมายที่ได้รับความนิยมเช่นชุด ตั๊กแตนผูกโบว์,
กล่อม และ ทีเด็ดพุ่มพวง

จากนั้น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้เข้ามาร่วมงานกับท็อปไลน์มิวสิค
ปรากฏผลงานเพลงชุดต่างๆ ดังนี้ หนูไม่รู้, หนูไม่เอา, พี่ไปดู หนูไปด้วย
และนำผลงานเก่ามามิกซ์รวมกัน เช่น พุ่มพวงหลาย พ.ศ. (ตลับทอง
และตลับเพชร), ขอให้รวย, น้ำผึ้งเดือนห้า, ซูเปอร์ฮิต 1 และ 2

มนต์เสียงเพลง ( 2533 ร้องคู่กับสายัณห์ สัญญา)
ผลงานเพลงชุดนี้จัดทำโดย แฟนตาซีไฮคลาสของ มุนี-มานิตย์ อังกินันทน์ ให้
ท็อปไลน์มิวสิค เป็นผู้โปรโมต และไดมอนด์เป็นผู้จัดจำหน่าย

เดือนมิถุนายน 2535 เดือนที่พุ่มพวงเสียชีวิต
ค่ายท็อปไลน์และค่ายอโซน่า ก็นำเอาเพลงชุดต่างๆ
ของพุ่มพวงออกวางจำหน่ายอีกครั้ง
สำหรับท็อปไลน์นั้นได้มีการทำปกขึ้นมาใหม่อีก คือ คิดถึงพุ่มพวง, ส้มตำ,
คอนเสิร์ต โลกดนตรี

โดยเฉพาะชุดส้มตำนี้เป็นเทปพิเศษที่จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการจัดงานพระราชทาน
เพลิงศพฯ มีคำบรรยายเกียรติประวัติพุ่มพวง พร้อมเพลงตามลำดับดังนี้
ส้มตำ, กล่อม, ฉลองวันเศร้า, รักคุด, แล้วจะทนเพื่ออะไร,
ของขวัญที่ฉันคืนเธอ, หัวใจทศกัณฐ์, เขานอนบ้านใน, หนูไม่รู้, แฟนพุ่มพวง
เป็นต้น

นอกจากนี้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ยังมีผลงานกับค่ายอาร์เอสฯ
เช่นลูกทุ่งท็อปฮิตมาตรฐาน
เป็นการนำเพลงดังของอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังอย่าง บุปผา สายชล, เตือนใจ
บุญพระรักษา, วิภารัตน์ เปรื่องสุวรรณ, เรียม ดาราน้อย มาร้องใหม่
นอกจากนี้ยังมีค่ายเมโทรฯ ที่ได้ลิขสิทธิ์งานเพลงชุด "ส่วนเกิน" อีก 1
ชุด
...
รางวัลเกียรติยศ
ชีวิตการร้องเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์
เคยได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3
ครั้ง คือ
2521 รางวัลแผ่นเสียงทองคำ เพลง "อกสาวเหนือสะอื้น" (ผลงาน -
ธีระพล แสนสุข)
2532 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 เพลง
"สาวนาสั่งแฟน" ( ผลงาน - วิเชียร คำเจริญ)
2534 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2 เพลง
"สยามเมืองยิ้ม" (วิเชียร คำเจริญ)
...
ผลงานด้านการแสดง
ในปี 2526 พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่กำลังโด่งดังสุดขีด
ถูกผู้กำกับอินเตอร์ ฉลอง ภักดีวิจิตร ชักชวนให้ก้าวสู่วงการแสดงในฐานะ
"นางเอกภาพยนตร์"
และหลังจากนั้นก็มีผลงานด้านการแสดงทยอยออกสู่สายตาประชาชน ดังนี้
สงครามเพลง, รอยไม้เรียว, ผ่าโลกบันเทิง, นักร้อง นักเลง, นางสาวกะทิสด,
มนต์รักนักเพลง, ลูกสาวคนใหม่, อีแต๋น ไอเลิฟยู, หลงเสียงนาง, จงอางผงาด,
ขอโทษทีที่รัก, คุณนาย ป.4, อาจารย์เด๋อเจอพุ่มพวง, สาวนาสั่งแฟน,
เสน่ห์นักร้อง, นางสาวยี่ส่าย (ภาพยนตร์โทรทัศน์) เป็นต้น

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000068341


พระลูกชายสิน่าสงสารมากที่สุด..กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่มีเพื่อน ไม่มีที่ปรึกษา เพราะชีวิตนี้เขาไว้วางใจใครไม่ได้....
ไม่ได้แม้แต่พ่อผู้บังเกิดเกล้า.........
จะหันไปหาญาติฝ่ายแม่ก็ไม่ได้
คนที่อยู่ในสภาพเช่นนี้....จิตใจเขาจะเป็นเช่นใด...ขมขื่นว้าเหว่ เศร้าและเหงา..
อย่า ไปรบกวนพระท่านอีกเลย...ปล่อยให้ความสงบในร่มเงาผ้าเหลือง
ให้ความคิดพระท่านได้ตกผลึกด้วยตนเองเถอะ...ท่านรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อมา
นานมากแล้ว..
สื่อเองควรจะเสนออะไรควรจะระวังมากกว่านี้..อย่าเห็นเป็น
เพียงข่าวที่ขายได้
โดยไม่ได้คิดคำนึงถึงว่าจะมีใครเสียหายมากเพียงไรจากข่าวที่ตนเองนำมาเล่น
ลุงชุบ
++
ดวงใจล้านดวง ในทรวงล้านคน
มีใครหลีกพ้น ฤทธิ์พิศวาสบาดดวงใจ
แปลกนักความรักยิ่งใหญ่ หนึ่งเดียวอยู่เหนือใดใด
ใครสมชีวีมีรสโอชา ใครมีเคราะห์กรรมโดนรักทำเอา
เป็นความอับเฉาเพราะมัวแต่เฝ้าใฝ่ฝันหา
อันความรักแรงคล้ายไฟป่าไหม้ใครให้ร้อนชีวา
ทนทุกข์ทรมาน สิ้นดี

ก็รู้ยังไม่วายอยากเจ็บ
จะแตกเย็บก็ทนสู้ยอมกายพลี
จะสิ้นชีวิตล้มลงขอลองดูที
อยากจะมีคู่คิดชิดกลม

เช่นฉันเททุมใจเพียงเธอ
สม่ำเสมอเพ้อคอยละเมอทานทน
จะแหลกจะยับพับลงเพราะเธอจะทน
ไม่กังวลข้นแค้นคิดคลอนคลาย
??
++
อ้ายคนที่ชอบวิจารณ์ว่าลูกชายพุ่มพวง ไม่ผูกพันธ์ไม่คิดถึงเเม่
ไม่รักเเม่หรอก พ่อเลี้ยงมาต้องกตัญญูรักพ่อเทิดทูนพ่อเซ่

เเม่ๆคนพวกนี้มันดังระดับตำนานเหมือนเเม่เค้าป่าวหว่ะ
ลูกชายเค้่ารักเเม่เค้าได้โดยไม่ต้องจับเนื้อต้องตัว
วิดีโอ เสียงพูด เสียงเพลง ลีลาการละเล่น การเเสดงบนเวทีของเเม่เค้า มีให้ดู เพียบ
ขนาดไม่ใช่ลูกใช่โคตรได้ดูก็เหมือนเค้ายังอยู่เล้ย
ประสาอะไรกับคนเป็นลูกเเท้ๆจะไม่รู้สึกโหยหาอาลัย
คิดถึงเมื่อไรเปิดดูได้เมื่อนั้น ผนวกบวกกับ ชีวิตโคตรรันทด
จะไม่คิดถึงเเม่ได้ไง จะไม่อยากหอมเเม่กอดเเม่ได้ไงหว่ะ
คิดเด้อซิเด้อ โอ้ยยยยย เอามาตรฐานหัวใจ้บ่มิ๊ตัดสินลูกเค้า
เข่าข่างพ้อฉั่วชั่ว จั๊กซี่ล่ะ โอ้ยยยยยยย
เชื่อว่า พระลูกเพชร คิดถึงเเม่จริงๆ โหยหารักจากเเม่ จริงๆ
++
คำโบราณว่า
ขาดแม่เหมือนแพแตก
ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก
จำได้อยู่
++
จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
การที่จะตัดสินได้ว่าใครผิดหรือถูกมันไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าฝ่ายพ่อ
หรือฝ่ายลูก เมื่อเหตุการณืมันเกิดขึ้นแล้วและยากที่จะประสานให้ดีได้เหมือนเก่า
ก็ลองลดระดับ ปรับให้มันดีที่สุด คือทั้ง 2 ฝ่าย หยุดซะเถอะ
ให้เห็นแก่คุณพุ่มพวง
ถ้าเธอสามารถรับรู้ได้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเธอคงจะเสียใจมาก
ถ้าลูกไม่มีความสุข
หรือยังทำใจไม่ได้ก็ปล่อยเค้าให้เค้าได้ดำเนินชีวิตของเค้าไป
ห่วงก็ได้แต่ทำอยู่ห่าง ส่วนลูกไม่ควรจะก้าวร้าวเรื่องมันผ่านมานาน
ยากจะแก้ไข ปล่อยวางใช้ประโยชน์จากการที่ได้ใกล้ชิดพระธรรมให้เกิดประโยชน์
ไม่ว่าใครจะกระทำสิ่งใดที่ถือว่าผิด กรรมจากการกระทำจะสนองเขาเอง
เพราะฉะนั้นควรหยุดได้แล้วให้ประชาชนจดจำพุ่มพวง ว่าเป็นราชินีลูกทุ่ง
ไม่ใช่นักร้องที่สามีและลูกทะเลาะกันแบบนี้
คิด1
++
อยากจะบอกว่า เกือบ 17 ปี ที่ใช้ชีวิตคู่กับสามี และลูกสาววัย 14 อีก 1
คน เห็นใจทั้งคุณไกรสรในฐานะพ่อ และพระเพชร ในฐานะลูก
ชีวิตครอบครัวเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา
มันสามารถกลายเป็นปัญหาได้ทั้งนั้น ถ้าขาดสติ และสำนึกในหน้าที่ของตนเอง
โดยส่วนตัวแล้วเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าไม่มีใครในโลกที่รักและปรารถนาดีกับ
เรา โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เหมือนพ่อแม่
แต่พ่อแม่ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่มีทั้งด้านมืด ด้านสว่าง
ในสิ่งที่พ่อแม่เราต่างไปจากพ่อแม่ของคนอื่น
อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราน้อยใจ หรือ เสียใจ แต่เราก็ไม่ควรก้าวร้าวท่าน
ทั้งทางกาย วาจา ใจ ขออนุญาตยกคำกล่าวของแม่ชีศันย์สนี
"ลูกคืออนุสาวรีย์ของพ่อแม่ ถ้าลูกประพฤติดี
ผู้คนก็จะพากันเคารพยกย่องอนุสาวรีย์นี้ แต่ถ้าลูกประพฤติชั่ว
ก็เปรียบเหมือนเป็นอนุสาวรีย์ที่ประจานพ่อแม่"
คุณไกรสรอาจจะไม่ใช่สามีที่ดีที่สุดในโลก
แต่เชื่อว่าเค้าก็ไม่ใช่พ่อที่เลวที่สุดแน่นอน
น้องๆ(เชื่อว่าอย่างนี้)ที่แสดงคห.ในทางสนับสนุนให้พระเพชรไม่นับถือคุณพ่อ
ไม่น่ารักเลยนะคะ วันนึงที่พวกคุณเป็นพ่อเป็นแม่เองแล้ว
จะรู้ว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีเลิศประเสริฐศรีในทัศนคติของลูกน่ะ
มันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน เด็กที่พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน
ก็บอกว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ เด็กที่พ่อแม่ไปรับ-ส่งที่โรงเรียนทุกวัน
ก็บอกว่า พ่อแม่ไม่ไว้ใจ เด็กที่เกิดในครอบครัวมีเงิน
ก็บอกว่าอยากได้ความรักความอบอุ่นมากกว่า
ความต้องการของมนุษย์มันหาจุดสิ้นสุดได้ยาก
อยากให้พวกน้องๆที่ยังมีสถานะเป็นเพียงลูกทุกคนทราบว่า
พ่อแม่ทุกคนต่างก็หวังจะเป็นคนที่ดีที่สุดในสายตาลูกด้วยกันทั้งนั้น
พยายามทำทุกอย่าง รวมถึงยอมเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต เพื่อลูก
ตั้งแต่เล็กจนโตเฝ้าอบรม ดูแลสั่งสอน และเพาะบ่มต้นไม้แห่งความดีในใจลูก
หวังเพียงให้ต้นไม้นั้นแตกกิ่งก้านสาขา เติบโตไปพร้อมๆกับลูก
เพื่อที่วันนึงข้างหน้า ลูกจะสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
และเผื่อแผ่ร่มเงาให้ความร่มเย็นกับผู้อื่นได้บ้าง
พ่อแม่หวังเพียงเท่านี้จริงๆค่ะ
แม่คนหนึ่ง
++
ผมขอตอบแบบเป็นกลางเท่าที่จะทำได้นะครับ คือจะไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งนั้น

1. ขอให้พวกเราตัดประเด็นที่ว่า พ่อน้องเพชร หรือ คุณไกสร
นั้นนิสัยส่วนตัวเป็นอย่างไรให้เป็นประเด็นตกไปก่อนเพราะมันต่างกรรมต่าง
วาระกัน ถ้าหยิบเรื่องหลายสิบปีมาพูดหรือมารื้อฟื้นเหมือนเป็นการไม่ให้โอกาสกันและ
เป็นการจับแพะมาโยงแกะ ด้วยความอคติ .....เช่น ประโยคที่ว่า พ่อน้องเพชร
นั้นเจ้าชู้ แต่เจ้าชู้ก็ส่วนเจ้าชู้นี่ครับ ถึงพ่อเป็นนักโทษประหาร
หากให้ข้าวลูกกิน3มื้อ ก็นับว่าเป็นพ่อของตัว
เราจะปฎิเสธความเป็นพ่อไม่ได้หรอกครับ

2. การที่คุณไกสร หากินด้วยชื่อเสียงคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
นั้นถือเป็นผลประโยชน์พลอยได้ของอดีตสามี คงคล้ายๆ
อดีตภรรยาของนักร้องดังๆที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเมื่อนั่นไม่ใช่ความผิด
สิ่งที่คุณไกสรทำก็ไม่น่าจะเป็นความผิดนี่ครับ
ก็คงคล้ายๆผมไปซื้อที่ดินข้างบ้าน แล้วเผลอมีต้นมะม่วง ให้ผลดกงาม
การที่ผมจะเด็ดมะม่วงนั้นมากินฟรีๆ ก็เป็นสิทธิ์มิใช่หรือ??

3.การ ที่คุณไกสรและครอบครัวคุณพุ่ม ใช้เงินที่คุณพุ่มหามาจนหมด
ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของคู่สมรส นะครับ เพราะตามกฎหมายนั้นคุณไกสร
ถือว่าเป็นบุคคลที่1 หากคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
เสียชีวิตไปจะเป็นคนแรกที่ได้เงินมรดกก้อนนั้นไป และ
เงินก้อนนี้นี่แหละที่เอาข้าวใส่ปากน้องเพชรทุกวันจนโต
ส่วนจะมีความสุขหรือไม่ ก็อีกเรื่อหนึ่ง

4.การที่น้องเพชร พร่ำพรรณา ถึง มารดาที่จากไป ทำให้อดสงสัย ไม่ได้ว่า
ตลอดระยะเวลาที่เติบโตมา น้องเพชรรู้เรื่องได้อย่างไร และ
ประติดประต่อเรื่องราวประหนึ่งนั่งอยู่ในเหตุการณ์ได้อย่างไร
ทั้งๆที่ตอนแม่น้องเพชรเสียชีวิตไปนั้น น้องเพชรอายุเพียง 5 ขวบ
คนอายุ5ขวบ จำอะไรไม่ค่อยได้หรอกครับ แล้วที่บอกว่ารักแม่มาก
คิดถึงแม่ทุกลมหายใจ ทั้งๆที่แม่อยู่กับน้องเพชรเพียง 5 ปีนี่นะ?
ตอนเราๆท่านๆ 5 ปี เราพอจำอะไรได้บ้างหรือเปล่าครับ?
ความรู้สึกที่มีต่อแม่มันมี แต่คงลืมๆไปบ้างแหละ อย่าโอเวอร์เลยน้องเพชร
เพราะขนาดพ่อเลี้ยงมาตั้ง18ปี ยังบอกว่าพ่อเลี้ยงไม่ดีเลย

5.การที่ น้องเพชรบอกว่า พ่อเลี้ยงไม่ดี เป็นเหตุแห่งให้หนีออกจากบ้าน
นั้น ผมไม่รู้ว่าเลี้ยงไม่ดีอย่างไร พ่อแม่ทุกคน ผมเชื่อว่า
ต้องมีบ้างแหละที่เคยทำให้ลูกเสียใจ หรือ ผิดหวัง
เราเลือกเกิดไม่ได้นี่ครับ ถ้าพ่อเลวแต่เขาเลี้ยงน้องเพชรจนโต
จะเลวก็ช่างเขา แค่น้องเพชรไม่ทำตามนิสัยเลวๆ ก็น่าจะพอแล้วนี่?
การอ้างว่าพ่อไม่ดีเลยหาเหตุ ติดยา มั่วสารเสพติด
จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง แล้วพวกที่เกิดมาไม่เคยเห็นพ่อเลย
เขายังไม่เป็นเด็กเกเรก็มี บางคนแม้ไม่เคยเห็นพ่อก็ยังเฝ้าเพียรตามหาพ่อ
อย่างกรณีน้อง เคอิโงะ นั่นไง อีกอย่างเรายังไม่รู้ได้ว่าพ่อไม่ดี หรือ
ตัวลุกเองก็ไม่ดี อยากให้ฟังหูไว้หูนะครับ
ไม่ใช่จับแพะโยงแกะแล้วใส่ความเกลียดชังลงไป ผมว่า พอๆจะดีกว่า

6.ส่วนเรื่องน้องเพชร จะทำหุ่นขี้ผึ้งแม่ตัวเอง
ส่วนตัวคิดว่าเห็นด้วยที่ควรกระทำ และ มีสิทธิ์ทำ
69
++