++++

คลิกที่ + - เพื่อเพิ่ม ลดความเร็วในการดูภาพ

===== Photo album =====
  1. รูปถ่ายของ แมงปอ ชลธิชา มาเยือนเวทีไท 18 สค.2550
  2. รูปถ่ายของ น้องเบนซ์ จูเนียร์ บนเวทีไท 18 สค.2550
  3. รูปถ่ายของไผ่ พงศธร มาออกรายการ 07 show 12 สค 50
  4. รูปถ่ายของ ก็อท จักรพันธ์, แพรวา พัชรี, ไผ่ พงศธร, รัชนก ศรีโลพันธ์, ดอกอ้อ ทุ่งทอง บนเวทีไท 11 สค.50
  5. รูปถ่ายพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  6. รูปถ่ายไหมไทย ใจตะวัน บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  7. ภาพบรรยากาศ งานมหกรรมคอนเสิรต์ "ด้วยรักแด่ครูสลา" 11 มี.ค.50

ค้นหาทุกอย่างในเวบนี้


สถิติผู้เข้าชม คน
Stats (เริ่มนับ 23 ส.ค.2550-10.00 น.)

  1. Clip Video คอนเสิร์ต เสียงอิสาน ณ เวทีไทย ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.2550
  2. clip video ไผ่ พงศธร , พี สะเดิด, แพรวา พัชรี ,ตั๊กแตน ชลดา มาออกรายการจันทร์พันดาว 10 ก.ย.2550
  3. MV 6 เพลงสุดม่วนของ หมอลำคู่เอก ปฤษณา วงศ์ศิริ & บานเย็น รากแก่น
  4. MV รวม 7 คลิปวิดีโอการแสดงสดของ ไหมไทย ใจตะวัน (สมัยอยู่เสียงอีสาน)
  5. MV ศิริพร อำไพพงษ์ โบว์รักสีดำ |

Monday, September 3, 2007

ราชาเพลงโห่หนึ่งเดียว เพชรพนมรุ้ง from komchadluek.net









2 กันยายน 2550 23:38 น.

เอ่ยถึงนักร้องเพลงโห่ในวงการเพลงลูกทุ่งชื่อของ จเรภักดิพัฒน์ คงไม่มีใครรู้จัก แต่หากเอ่ยชื่อในวงการของเขาในวงการ


คือ เพชรพนมรุ้ง ย่อมทราบกันทั่วไปว่า เขาคือราชาเพลงโห่หนึ่งเดียวของไทย ที่ปัจจุบันเพลงโห่ของเขาก็ยังถูกกล่าวขานอยู่วันนี้ ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" จะพาไปรู้จักกับราชาเพลงโห่คนนี้พร้อมกับเรื่องราวเพลงโห่ในบ้านเรา


เพชรพนมรุ้ง เป็นคน จ.บุรีรัมย์ โดยกำเนิด มีความสนใจในการเล่นดนตรี เขาจึงสามารถเล่นดนตรีได้ทุกชนิด โดยเฉพาะเครื่องดนตรีสากล


ผ มมาเรียนม.8 (สมัยนั้น) ในกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนสันติราษฎร์บำรุง พอจบก็ไปสอ บเข้ากองดุริยางค์ทหารเรือ ผมเล่นดนตรีได้เกือบทุกชนิด เมาท์ออแกน ไวโอลิน เบนโจ ยูคูลูลี่ เครื่องดนตรีพวกนี้คนไทยไม่ค่อยคุ้นเท่าไร หลังจากเรียนจบก ็ตระเวนเล่นดนตรีร้องเพลงตามวงลูกทุ่งต่างๆ สมัยมีวงลูกทุ่งให้เล่นเยอะ ตอน นั้นผมร้องเพลงโห่มาตลอด เพลงที่ร้องส่วนมากจะเป็นเพลง "ชมหมู่ไม้" ของครูคำรณสัมปุนานนท์ เป็นเพลงโห่เพลงแรกของไทยที่ดังที่สุด


น อกจากตระเวนร้องเพลงเล่นดนตรีแล้วเพชร พนมรุ้ง ก็มีวงดนตรีที่เล่นเป็นประจำ คือ วงของครูพยงค์ มุกดา ซึ่งนั้นเป็นจุดเริ่มของเพลงโห่มากมายที่สร้างชื่อ ให้นักเพลงโห่ผู้นี้


วงที่ผมเล่นอยู่เป็นประจำคือวงของครูพยงค์มุกดา เม ื่อปี 2508 ซึ่งต่อมาครูพยงค์เป็นผู้แต่งเพลงโห่ให้ผมร้อง ระยะนั้นผมใช้ชื่ อจริงเวลาร้อง มาเปลี่ยนเป็น เพชร พนมรุ้ง ช่วงที่อัดแผ่นครั้งแรก เพลง ทุ่ งรักทุ่งร้าง ของ ก้าน แก้วสุพรรณ เพลงแรกที่สร้างชื่อให้ผมคือ เพลง ธรรมชา ติบ้านนา ดังสุดๆคือ เพลง เมื่อฉันขาดเธอ (แต่งโดยชัยชนะ บุญณโชติ) สมัยนั้ นนักร้องที่ร้องเพลงโห่ไม่ใช่มีผมคนเดียว ยังมี เมืองมนต์สมบัติเจริญ ชัยชนะ บุญณโชติ ประกายเพชร สรหงษ์ แต่ถ้าจะเอาต้นแบบจริงๆ ของการร้องเพลงโห่ คือ ครูเลิศประสมทรัพย์ ท่านอยู่วงสุนทราภรณ์ ท่านนี้เป็นคนแรกที่ร้องชื่อเพลง "เมื่อเดือนตก" แล้วก็มีครูประดิษฐ์ชลาลักษณ์ ครูเบญจมินทร์


เ พชรพนมรุ้ง เล่าต่อว่า เพลงโห่ในบ้านเราส่วนมากนำจังหวะของเพลงสากลเป็นส่วน มาก เนื่องจากสมัยนั้นเรามีแต่เพลงไทยที่มีจังหวะช้า จึงทำให้เพลงโห่มีกลุ่ มคนเล่นไม่มาก


เพลงโห่สมัยก่อนที่เราได้ฟังนั้นส่วนมากจะนำจังหวะมาจากเพลงสากลของฝรั่ง แล้วนำมาใส่เนื้อไทย คนแรกที่นำมาใส่เนื้อไทย คือ นครมงคลายน ร้องกันกลุ่มเล็กๆ ไม่ใหญ่ เพราะดนตรีเป็นดนตรีที่เล่นยาก เป็นแนวคาวบอย ผม เล่นดนตรีพวกนี้มาก่อนเอลวิสเสียอีก นักร้องต่างประเทศที่ร้องเพลงโห่ดังๆ ม ีหลายคนที่เป็นแบบให้เพลงแนวนี้ อาทิ Jimmie Rodgers คนนี้เป็นคนร้องเพลงแน วโห่คนแรกของโลกและดังที่สุดTekas Titty คนนี้เป็นผู้หญิงเสียงโห่ฉมังมาก ผ มใช้เป็นต้นแบบ


ถึงแม้จะเป็นเพลงที่มีทวงทำนองสนุกแบบต่างประเทศแต ่ด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกับคนไทย เพลงของ เพชร พนมรุ้ง ก็ถูกบรรจุให้อยู่ใน บทเพลงที่อมตะเพลงหนึ่งของวงการเพลงลูกทุ่ง


เพลงลูกทุ่งเสียงทองนั้นเคยได้รับรางวัลเพลงลูกทุ่ งดีเด่นในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยครั้งที่ 2 ด้วย เมื่อก่อนการบันทึกแผ ่นเสียงเขาเล่นพร้อมๆ กันเล่นผิดคนหนึ่งต้องเล่นใหม่หมดเลย ดนตรีแนวนี้มันเ ล่นยากกว่าจะได้ บางทีได้เพลงเดียว (หัวเราะ)"


ด้วยความยากของดนตรีที่ทำให้เพลงแนวนี้ไม่ค่อยแพร่ หลาย แต่ เพชร พนมรุ้ง ก็มีวิธีการพัฒนาเพลงโห่ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เขายัง คงยืนอยู่ได้ แม้เพลงจะถูกจำกัดอยู่เพียงกลุ่มเล็กๆ


เพลงโห่ในบ้านเราส่วนมากจะตันแต่ผมหาวิธีหนี โดยวิ ธีโห่ตามทำนองเพลงที่เราสร้างขึ้นมา เพลงโห่ของผมจึงแปลกออกไป คนฟังเขาจึงย ังดูอยู่ แม้ทุกวันนี้ ผมก็ทำเพลงใหม่ๆ ออกมาขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตรงนี้ค ือสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมยืนอยู่ได้ แม้มันจะกลุ่มไม่ใหญ่ แต่ก็เด็กๆ หันมาเล่ นกันเยอะ เพราะเขาเบื่อเพลงที่ออกมาซ้ำซาก คนสืบทอดหายาก แต่ไม่เป็นไร ถ้าเ ขาจะสนใจเพลงแนวอื่น แต่ขออย่างเดียว อย่าทำเพลงลูกทุ่งที่มีเนื้อหาผิดศีลธ รรม หยาบโลนทำให้สังคมเสื่อม


ทุกวันนี้เพชร พนมรุ้ง ในวัย 68 ปี พักอาศัยอยู่กั บครอบครัวย่านวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี และยังคงเล่นดนตรีและร้องเพลงโห่เช่นเดิ ม โดยส่วนมากจะเป็นงานตามต่างจังหวัด อาทิ ตามฟาร์มโคนม หรือกลุ่มที่นิยมเล ี้ยงวัวเป็นหลักพร้อมทั้งผลิตงานเพลงใหม่ๆ ออกมาขายกันเองในกลุ่ม ใครที่อยา กฟังเพลงโห่แบบนี้ ก็ติดต่อได้ที่ 08-1827-1633 หรือ0-2595-1797

ที่มา นสพ.คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2007/09/03/f001_133645.php?news_id=133645



No comments:

Post a Comment