"บ่าววี"มาไกลเกินฝัน ย้ำ"ชีวิต"สร้างภาพไม่ได้

คอลัมน์ จับกระแสลูกทุ่ง

สมรัก บรรลังก์ รายงาน

ถ ้าเป็นคอเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิตตัวจริง ไม่มีใครปฏิเสธแน่ว่าไม่รู้จักเพลง "ขอนไม้กับเรือ" ของหนุ่มใต้เมืองตรัง "บ่าววี" หรือ จ่าอากาศเอก วีรยุทธิ์ นานช้า แห่งกองร้อยทหารสารวัตร กองบิน 2 กองพลบินที่ 1 อ.เมือง จ.ลพบุรี นาทีนี้เพลง "ขอนไม้กับเรือ" มาแรงเป็นเพลงยอดฮิตของคลื่นวิทยุ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ "บ่าววี" หนักแน่นจริงใจ

อัลบั้มชุดแรก "บ่าววี 1" ประสบความสำเร็จไปแล้วอย่างสวยงาม มาถึงอัลบั้มชุดที่ 2 "บ่าววี 2" เพลง "ขอนไม้กับเรือ" ก็ลบอาถรรพณ์อัลบั้มชุดที่ 2 ที่ศิลปินกลัวกันนักกลัวกันหนาว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนชุดแรกไปได้

แล้ววันนี้ "บ่าววี" มาเปิดใจถึงชีวิตบนเส้นทางดนตรีของเขา ซึ่งเป็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตนอกเครื่องแบบทหารอากาศ

"ผมเป็นคน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง คุณพ่อทำสวน แม่ทำสวนกับค้าขาย เรื่องเพลงผมชอบตั้งแต่เด็ก ชอบร้องชอบฟัง เพลงที่ชอบเลยคือของ สายัณห์ สัญญา ที่ใต้จะดังมาก ผมเคยประกวดตั้งแต่เรียนมัธยม เป็นของสถานีวิทยุเอฟเอ็มของตรัง ได้ที่ 2 ตอนมัธยมเรียนที่โรงเรียนย่านตาขาวรัตชนูปถัมภ์ ได้ร้องเพลงที่โรงเรียน คือเขาซ้อมดนตรีกันอยู่แล้วนักร้องประจำวงไม่มา พอเขาเห็นเราปุ๊บ ถามจะร้องมั้ย ผมก็เข้าไปร้อง แล้วครูเชิด ทิพยกุล ก็ให้มาซ้อมอีก หลังจากนั้นได้เป็นนักร้องประจำโรงเรียน ตอนนั้นผมต้องเข้ามาในเมือง ผมสมัครเรียนคีย์บอร์ดกับอ.เชิดโดยที่พ่อผมไม่รู้ ผมบอกพ่อมาผมมาเรียนติวเตรียมเอ็นทรานซ์ แต่ความจริงผมมาเรียนคีย์บอร์ด แต่เรียนได้ 2-3 อาทิตย์ มันไกลบ้านมากก็เริ่มท้อ เลยไม่เรียนแล้ว"

"จนจบม.6 ผมมาเรียนม.รามคำแหง ไปเจอพี่ชายที่น่ารักพาผมไปสมัครเป็นนักร้องชมรมลูกทุ่งสุโขทัยรามคำแหง แล้วเขามีงานจ้างแต่ผมตื่นไม่ทัน ปรากฏว่าชมรมลูกทุ่งสุโขทัยที่ไปเล่นเกิดโป๊ะล่ม นักดนตรีตายไป 2 คน เลยต้องหยุดไปชั่วคราวผมก็อดเป็นนักร้องอีก"

เริ่มเบนเข็มไปสู่เส้นทางสายอาชีพ "เรียนรามปีเดียวก็ไปสอบจ่าอากาศ พอสอบติดก็รู้แล้วว่ากฎระเบียบ ระบบราชการ เราคงไม่ได้เป็นนักร้องแล้ว แต่พอเข้าไปได้มีอยู่วันนึงผมกำลังทำความสะอาดอยู่ก็ร้องเพลงไปด้วยพอรวมแถว ไปทานข้าวครูก็พูดหน้าชั้นเลย ไอ้คนไหนที่ร้องเพลงให้ออกมาร้องข้างหน้า ผมเลยยกมือ เพื่อนตบมือให้ใหญ่เลย จากวันนั้นเพื่อนๆจะรู้เลยว่าผมเป็นนักร้องประจำโรงเรียนจ่าอากาศ"

"เรียนอยู่ 2 ปี ผมก็บรรจุมาอยู่ที่ลพบุรี ในใจก็คิดเรื่องร้องเพลงคงไม่มีโอกาสแล้ว แต่บังเอิญว่ามีงานเลี้ยงประจำปีในกองทัพ รุ่นพี่ รุ่นน้องให้ขึ้นไปร้องเพลง บังเอิญป๋าแม็ค เขาฟังผมแล้วเขาก็ชวนผมมาทำร้านเพื่อชีวิต ร้านจันทร์เจ้า สหายพันตา ผมก็ได้เป็นนักร้องอยู่ที่ร้าน ทำงานตรงนั้นมา 5 ปี ช่วงนั้นมีศิลปินดังมาเล่นคอนเสิร์ตหลายคน น้าหงา คาราวาน น้าหมู พงษ์เทพ พี่ปู พงษ์สิทธิ์ พี่หนู มิเตอร์"

แล้วฝันที่เคยสลายก็บรรเจิดขึ้นมาอีกครั้ง "ในช่วงนั้นมีเพื่อนผมที่เป็นคนทำเพลงใต้ดินอยู่ ปรากฏว่าขายได้เป็นพันแผ่น เราคิดว่าเราเองอยากทำเพลงบ้าง จึงได้คุยกับป๋อง (อัครินทร์ เกตุมณี) ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้ผมทุกวันนี้ ก็คิดจะทำใต้ดินกัน พอดีพี่หนู มิเตอร์ มาเล่นดนตรีที่ร้าน เราก็เลยตัดสินใจนำเพลงที่เราคิดว่าจะออกเทปใต้ดินไปเสนอพี่หนู พี่หนูบอกว่าให้ส่งเข้าไปที่บริษัท ตอนนั้นคิดว่าคงไม่มีหวังแล้ว แต่หลังจากนั้นทางมีดี เรคคอร์ดก็โทร.กลับมาว่าให้เข้ามาคุยกันที่บริษัท อีกวันก็ให้แต่งเพลง"

"ผมมีเพลงที่แต่งไว้ทุกแนวเลยแต่พี่หนูก็บอกว่าไม่ใช่ กว่าจะหาความเป็นตัวเราเจอ พี่หนูแกจับจุดได้จากเพลง ฝากฟ้า ผมก็เลยได้ร้องเพลง ชุดแรก บ่าววี 1 เพลงที่ติดคือ ฝากฟ้า,จริงใจไม่ลอกอ ตอนนั้นผมไม่นึกว่าเพลงจะติด แค่ได้ออกอัลบั้มก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ได้คิดถึงว่าจะดังหรือไม่ดัง แต่ทุกสิ่งผมได้แรงบันดาลใจจาก อ.ไข่ มาลีฮวนน่า"

"แล้วก็มาถึงเป็นอัลบั้มชุดที่ 2 บ่าววี 2 คงเป็นแรงบันดาลใจจากอัลบั้มแรก แฟนเพลงชุดแรกที่จำผมจาก ฝากฟ้า ได้ พอชุด 2 ออกเพลง ขอนไม้กับเรือ ออกไปได้แค่อาทิตย์เดียวเพลงก็ขึ้นชาร์ต ผมก็งงทำไมมาไวมาก เพลงนี้ดังมากขนาดว่าผมคิดว่าชุดแรกความเป็นตัวของผมเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ชุด 2 ยิ่งเยอะไปใหญ่เลย ผมเดินสายทั่วประเทศ ไปที่ไหนคนก็จะรู้จัก"

จากชีวิตจ่าอากาศพลิกมาเป็นนักร้อง หลายอย่างในชีวิตย่อมเปลี่ยนไป "ผมบอกทุกคนว่าอย่าเห็นผมเป็นนักร้องดัง เจอผมมานั่งคุยกับผม ยุคนี้ไม่ใช่ยุคก่อน ชีวิตคนเราสร้างภาพไม่ได้อะไร เปิดเผยความจริงดีที่สุด ผมยอมรับว่าชีวิตเปลี่ยนไปมาก สุดๆ เลย แต่ผมไม่เปลี่ยน ผมไปเจอแฟนเพลงที่ไหน ผมลงจากรถตู้ แฟนเพลงตะโกนบ่าววี ผมก็คร้าบ มาขอลายเซ็นผมก็เซ็นให้ ไม่ใช่คนเยอะไม่ลงจากรถ นั่นไม่ใช่ผม ถ้าเราทำตัวเลิศ เหมือนเทวดา มันไม่ใช่ แต่ผมไม่ได้ว่าศิลปินคนอื่นนะ"

ความฝันที่จะเป็นนักร้องอยู่ในมือแล้ว แต่ก็ต้องดำเนินไปพร้อมกับชีวิตราชการ "ทุกวันนี้ต้องกราบขอบพระคุณกองทัพอากาศ ผมมายืนอยู่จุดนี้ได้เพราะกองทัพอากาศ ท่านผู้บัญชาการทหารอากาศให้อะไรผมเยอะมาก ตอนนี้ผมอยากเป็นนักร้องไปก่อน อยากอยู่กับแฟนเพลง ผมยังอยากมีบ้านหนึ่งหลัง ห้องอัด 1 ห้อง ผมอยากมีพื้นที่สักนิด อยากมีสนามฟุตบอลสักสนาม ผมชอบเตะบอล"

อนาคตกับชีวิตครอบครัวหนุ่มใต้รักจริงบอกว่า "ผมยังไม่มีครอบครัว ก็มีคนมาชอบ กับคนที่ผมคุยบ้างก็มี แต่คนที่มารักผมได้ต้องรับผมได้ ผมมีแฟนเพลงเยอะ ผมต้องอยู่กับแฟนเพลงก่อน ผมถือว่าผมทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ถ้าผมมีพร้อมทุกอย่าง มีบ้านให้พ่อแม่ มีสวนยางพารา ถึงจะมีครอบครัว"

สาวๆ รับทราบด่วน!!

ที่มา นสพ.ข่าวสด 01 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6120 หน้า 21