++++

คลิกที่ + - เพื่อเพิ่ม ลดความเร็วในการดูภาพ

===== Photo album =====
  1. รูปถ่ายของ แมงปอ ชลธิชา มาเยือนเวทีไท 18 สค.2550
  2. รูปถ่ายของ น้องเบนซ์ จูเนียร์ บนเวทีไท 18 สค.2550
  3. รูปถ่ายของไผ่ พงศธร มาออกรายการ 07 show 12 สค 50
  4. รูปถ่ายของ ก็อท จักรพันธ์, แพรวา พัชรี, ไผ่ พงศธร, รัชนก ศรีโลพันธ์, ดอกอ้อ ทุ่งทอง บนเวทีไท 11 สค.50
  5. รูปถ่ายพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  6. รูปถ่ายไหมไทย ใจตะวัน บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
  7. ภาพบรรยากาศ งานมหกรรมคอนเสิรต์ "ด้วยรักแด่ครูสลา" 11 มี.ค.50

ค้นหาทุกอย่างในเวบนี้


สถิติผู้เข้าชม คน
Stats (เริ่มนับ 23 ส.ค.2550-10.00 น.)

  1. Clip Video คอนเสิร์ต เสียงอิสาน ณ เวทีไทย ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.2550
  2. clip video ไผ่ พงศธร , พี สะเดิด, แพรวา พัชรี ,ตั๊กแตน ชลดา มาออกรายการจันทร์พันดาว 10 ก.ย.2550
  3. MV 6 เพลงสุดม่วนของ หมอลำคู่เอก ปฤษณา วงศ์ศิริ & บานเย็น รากแก่น
  4. MV รวม 7 คลิปวิดีโอการแสดงสดของ ไหมไทย ใจตะวัน (สมัยอยู่เสียงอีสาน)
  5. MV ศิริพร อำไพพงษ์ โบว์รักสีดำ |

Thursday, September 28, 2006

40 เพลงฮิตของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ

จันทราคาลิปโซ่ ( G )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

ยิ้มเหงา ๆ ( G )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

ดนตรี 8 Bars..6...7...
8...ฉัน เป็นคนบ้านนอกคอกนา
จบการศึกษาจากวงดนตรี
เวทีรำวง
ไม่ มีใครมาคอยเสริมส่ง
เล่นอยู่บาร์รำวง
ก็คงไม่พ้นโคลนตม
เฝ้า ฝ่าฟันด้วยตัวของตัว
ไม่เคยหวั่นกลัวไม่ง้อใคร
แม้ใจระบม
ร้อง เพลงลอยไปตามสายลม
เป็นสื่อผสมในสังคมที่เงินสำคัญ
ดนตรี 8 Bars..6...7...
8...ไม่ มีเงินก็ไม่มีข่าว
ไม่มีเรื่องราว
ของบทเพลงแห่งความหวังดี
ร้อง เพลงมาตั้งสิบกว่าปี
โด่งดังไม่เคยยินดี
ขอมีเพียงคนเข้าใจ
ฉัน ยังคงร้องเพลงไปเรื่อย
จะปวดจะเมื่อยสู้ฝ่าฟัน
เพื่อวันฝันใฝ่
ร้อง เพลงเชียร์เพื่อชีวิตใหม่
ให้โลกสดใส
ให้คุณเฮฮาในบาร์รำวง
ร้องเพลงเชียร์เพื่อชีวิตใหม่
ให้โลกสดใสกับวงจันทราคาลิปโซ่
ดนตรี 38 Bars..37...
38...ไม่ มีเงินก็ไม่มีข่าว
ไม่มีเรื่องราว
ของบทเพลงแห่งความหวังดี
ร้อง เพลงมาตั้งสิบกว่าปี
โด่งดังไม่เคยยินดี
ขอมีเพียงคนเข้าใจ
ฉัน ยังคงร้องเพลงไปเรื่อย
จะปวดจะเมื่อยสู้ฝ่าฟัน
เพื่อวันฝันใฝ่
ร้อง เพลงเชียร์เพื่อชีวิตใหม่
ให้โลกสดใส
ให้คุณเฮฮาในบาร์รำวง
ร้องเพลงเชียร์เพื่อชีวิตใหม่
ให้โลกสดใสกับวงจันทราคาลิปโซ่
.


ดนตรี.........
..ยิ้มเหงา ๆเศร้าพอ งาม ๆ
มีคนถาม ว่าเธอ คือใคร
ทั้ง ๆโลกนี้ ก้าวไกล แสนไกล
เธอ ยัง สดใส อยู่ใน โลกเก่า
..ยิ้มเหงา ๆ ของคน งาม ๆ
คนที่ แบกหาม โลกไว้ ครึ่งหนึ่ง
โลกวันนี้ แม้งาม เพียงครึ่ง
ก็ครึ่ง ของเธอ ที่สร้าง ที่ทำ
..เศร้า งาม ๆ
โปรด อย่าถาม ถึงความ ทรงจำ
เรื่องความ พลัด พราก
จากคน ที่ เธอ รัก
..ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพอ งาม ๆ
คือนิยาม ของความ ทุกข์ยาก
ถ้าครึ่ง โลกร้าย ที่ฉัน ค้างคา
เป็นครึ่ง โลกสวย ขอมอบ ให้เธอ
(Solo....)
..เศร้า งาม ๆ
โปรด อย่าถาม ถึงความ ทรงจำ
เรื่องความ พลัด พราก
จากคน ที่ เธอ รัก
..ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพอ งาม ๆ
คือนิยาม ของความ ทุกข์ยาก
ถ้าครึ่ง โลกร้าย ที่ฉัน ค้างคา
เป็นครึ่ง โลกสวย ขอมอบ ให้เธอ
.



ดาวน์สาว ( F )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
F

ผาตรอมใจ
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

ดนตรี 7 Bars..5...6...
7....ไอ้ไข่นุ้ยเป็นหนุ่ม
มีหัวใจ ละแต่ไม่มีเงิน
ก็เพลิดก็เพลิน เที่ยวไป
พอได้งานทำ
ก็แค่พอกิน ไม่มี เป็นกอบเป็นกำ
เจ็บป่วยประจำ เป็นโรคใจ
ไม่มีวันสร่าง เป็นโรคใจอ่อน
เป็นโรคความดันสูงขึ้นทุกวัน
ดันทุรัง หนักแท้หนา
ดนตรี 7 Bars..5...6...
7....ไอ้ไข่นุ้ยเป็นหนุ่ม
อยู่เดียว ก็หัวใจละเปลี่ยวเปล่า
ไปเจอะผู้สาว คนงาม
ตรงตามใฝ่หา
ก็จีบหลายปี ดูใจ ตั้งหลายเวลา
ไปหาพ่อตา แม่ยาย
ก็จะให้ร่วมเตียง
เอาเงินสิบหมื่น เอาทองหกบาท
แล้วต้อง ประกาศจัดงานเลี้ยง
แพง แท้หนา
ดนตรี 7 Bars..5...6...
7....จะชักชวนคนงาม ให้หนีตาม
มันก็ไม่เข้าที
พ่อแม่ก็คง หวังดี
อยากให้มีหน้าตา
ขอต่อสักคำ ขำคม
พอให้สมราคา
ไม่น่ามีปัญหาเพราะสองเรา
นั้นก็เข้าใจกัน
เงินดาวน์สองหมื่น
จะยื่นให้ก่อน
แล้วค่อยๆผ่อนเดือนละพัน
เนาะ พ่อเนาะ แม่ เนาะ
นอ....
จะชักชวนคนงาม ให้หนีตาม
มันก็ไม่เข้าที
พ่อแม่ก็คง หวังดี
อยากให้มีหน้าตา
ขอต่อสักคำ ขำคม
พอให้สมราคา
ไม่น่ามีปัญหาเพราะสองเรา
นั้นก็เข้าใจกัน
เงินดาวน์สองหมื่น
จะยื่นให้ก่อน
แล้วค่อยๆผ่อนเดือนละพัน
เนาะ พ่อเนาะ แม่ เนาะ
นอ....
.


....ดนตรี..........
ใต้แสงตะวัน
ตำนานเล่าขานสงคราม
เพลิงลุกลาม
เขาเกณฑ์ให้เป็นแมงเม่า
ชายคนนั้น
กอดรัดพลัดพรากนงเยาว์
เขาซึมคนเศร้า
มืดมนจนผาตรอมใจ
ใต้แสงตะวัน
คนธรรพ์ลั่นลำตะคอง
ธารทำนอง
ไหลรางเรื่องราวเขาใหญ่
ร่อนปีกงาม
เบี่ยงงางอนง้อเนตรทราย
ฟ้อนกิ่งก้านใบ
แหวกว่ายทวนธารสีเทา
........
ใต้ลำตะคอง
ถึงผาเวลาย่ำเย็น
ไม่ว่างเว้น
แสงสูรย์สวยซึมผาเศร้า
ทอดอาลัย
ดั่งหวงดวงแดแหว่งเว้า
ดิ่งดวงฤดี
ให้ผาตรอมใจฝังจม
ใต้แสงดวงเดือน
เลื่อนลอยล่องลำตะคอง
จากแล้วเหลียวมอง
ผางามเขาล้อมน้อมก้ม
กราบภูผา
ฉันมาพร้อมความระทม
เอาความตรอมตรม
ฝังจมที่ผาตรอมใจ
....ดนตรี..........
ใต้แสงตะวัน
ตำนานเล่าขานสงคราม
เพลิงลุกลาม
เขาเกณฑ์ให้เป็นแมงเม่า
ชายคนนั้น
กอดรัดพลัดพรากนงเยาว์
เขาซึมคนเศร้า
มืดมนจนผาตรอมใจ
ใต้แสงตะวัน
คนธรรพ์ลั่นลำตะคอง
ธารทำนอง
ไหลรางเรื่องราวเขาใหญ่
ร่อนปีกงาม
เบี่ยงงางอนง้อเนตรทราย
ฟ้อนกิ่งก้านใบ
แหวกว่ายทวนธารสีเทา
........
ใต้ลำตะคอง
ถึงผาเวลาย่ำเย็น
ไม่ว่างเว้น
แสงสูรย์สวยซึมผาเศร้า
ทอดอาลัย
ดั่งหวงดวงแดแหว่งเว้า
ดิ่งดวงฤดี
ให้ผาตรอมใจฝังจม
ใต้แสงดวงเดือน
เลื่อนลอยล่องลำตะคอง
จากแล้วเหลียวมอง
ผางามเขาล้อมน้อมก้ม
กราบภูผา
ฉันมาพร้อมความระทม
เอาความตรอมตรม
ฝังจมที่ผาตรอมใจ
..
.




ฝนจางนางหาย ( G )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

มาให้บ้านเกิด ( Bm )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Bm

ดนตรี 5 Bars..3...4...
5.ฝน หลั่ง ดังว่าน้ำตา เราร่วง
เฝ้ารักเฝ้าหวง
ห่วงแผ่นดิน ถิ่นเกิดกาย
ก็ลืมไม่ลง อนงค์นุ่งซิ่นเฉิดฉาย
ฝนพรมร่างกาย
อาบทรวดทรง
น้ำนวลเย้ายวนนัยน์ตา
ดนตรี 4 Bars..2...3...
4.ฝน หลั่ง
ค่อยๆแหงนคอย แต่เนิ่น
ยิ่งฟังยิ่งเพลิน
ดั่งเหรียญเงิน ร่วงลงเต็มท้องนา
ข้าวรอมือเรียว
เกี่ยวดอง น้องนางนั่นหนา
เจ้าเคยสัญญา จะมาหน้าฝน
เฝ้าคอยเหมือนคนเป็นไข้
ด่วน บ.ข.ส.
วิ่งเลย เมื่อไร จะจอด
น้ำจวนแห้งขอด
ข้าวเต็มนา ปลาร้าเต็มไห
โบกรถข้างทาง
ฝากฝัง น้ำคำห่วงใย
รับคนเที่ยวใหม่
ช่วยนำพา น้องนางบ้านนามาด้วย
ดนตรี 15 Bars..14...
15....ด่วน บ.ข.ส.
วิ่งเลย เมื่อไร จะจอด
น้ำจวนแห้งขอด
ข้าวเต็มนา ปลาร้าเต็มไห
โบกรถข้างทาง
ฝากฝัง น้ำคำห่วงใย
รับคนเที่ยวใหม่
ช่วยนำพา
น้องนางบ้านนามาด้วย...
.



Intro 8 Bars...7...
8..กลับมาแล้ว มาแล้ว
มา ด้วยความมั่นใจ
ความรู้ เท่าไร
จะทุ่มเท พลิกผืนแผ่นดิน
ด้วยร่างกาย แข็งแรง
จะอดทน ทำมาหากิน
ให้ดอกเหงื่อ ฉ่ำดิน
เหมือนดอกลาว พืชพันธ์เพิ่มพูล
กลับมาแล้ว มาแล้ว
มา ด้วยความพรากเพียร
ที่ส่งเสีย ให้เรียน
จนเหงื่อริน ท่วมท้นบุญคุณ
ที่ไร่นา สาโท
แค่หยิบมือ ไถทำค้ำจุน
แม่เอย แม่คุณ
ลูกชาย จะมาซับเหงื่อ
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ไม่อย่างคน แข็งแรง
แต่อด ทนที่ใจ
ประหยัดกิน ประหยัดใช้
มาให้บ้านเกิด
สิ้นหน้านา ปีนี้
มี ที่มั่นหมายปอง
นวลเนื้อ ละออง
เฝ้ามอง ทุกเย็นเล่นน้ำ
ลอยเพลิน เนินกาย
พี่ชาย หัวใจถลำ
ฉ่ำรวง ล่วงล้ำ
เข้าใน พิธีวิวาห์
Solo 10 Bars...9...
10...ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ไม่อย่างคน แข็งแรง
แต่อด ทนที่ใจ
ประหยัดกิน ประหยัดใช้
มาให้บ้านเกิด
สิ้นหน้านา ปีนี้
มี ที่มั่นหมายปอง
นวลเนื้อ ละออง
เฝ้ามอง ทุกเย็นเล่นน้ำ
ลอยเพลิน เนินกาย
พี่ชาย หัวใจถลำ
ฉ่ำรวง ล่วงล้ำ
เข้าใน พิธีวิวาห์
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
ฮุย ฮุย ฮุยเรฮุย
.



มือเรียวเกี่ยวรวง
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Eb

คิดถึงบ้าน ( D )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
D

....ดนตรี..........
บน พื้นดินรอยแยกระแหง ไกล
ข้าว ซบใบ โอบ รวง
กำ ด้ามเคียว
มือเรียวเกี่ยวรับ รวง
รวงข้าวรีบหล่นร่วง ลงดิน
.บน พื้นดินแยก แตก
เรา ไม่แยกแตกกัน
กำ ด้ามเคียว
มือเรียวเกี่ยวสัม พันธ์
พลิกพื้นดินถิ่นฐาน บ้าน เรา
....ดนตรี..........
.บน พื้นดินแยก แตก
เรา ไม่แยกแตกกัน
กำ ด้ามเคียว
มือเรียวเกี่ยวสัม พันธ์
พลิกพื้นดินถิ่นฐาน บ้าน เรา
กำ ด้ามเคียว
มือเรียวเกี่ยวสัม พันธ์
พลิกพื้นดินถิ่นฐาน บ้าน เรา
..
.



Intro 8 Bars...7...
8... จาก มานานคิดถึงจัง เลย
หอม เจ้าเอยละอองท้อง ถิ่น
อยาก กลับไปแนบซบไอ ดิน
บ้าน รำพึง คิดถึงเสมอ
อัส ดง อาทิตย์กล่าวลา
คืบ คลานมา คือคิดถึงเธอ
คืน เหน็บหนาว อีกแล้วซิเออ
บ้าน รำพึง คิดถึงไม่สร่าง
กี่ ร้อน กี่ หนาว
กี่หมื่นร้าว ราน
ไม่เคยสะท้าน ทุกเส้น ทาง
สู้ทน สร้างฝัน ถึงวันรุ่งราง
จะแบกไปถม ความทุกข์ระทม
ไม่ จำเป็น ดอกคำสัญญา
รั้ว ชายคา ที่แสนรื่นรมย์
ผ่าน ผุพัง เซซังทรุดโทรม
จะ กลับไป เอาใจซ่อมแซม
Solo 16 Bars...15...
16... กี่ ร้อน กี่ หนาว
กี่หมื่นร้าว ราน
ไม่เคยสะท้าน ทุกเส้น ทาง
สู้ทน สร้างฝัน ถึงวันรุ่งราง
จะแบกไปถม ความทุกข์ระทม
ไม่ จำเป็น ดอกคำสัญญา
รั้ว ชายคา ที่แสนรื่นรมย์
ผ่าน ผุพัง เซซังทรุดโทรม
จะ กลับไป เอาใจซ่อมแซม
.



ตายหยังเขียด ( G )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

น้ำตาหอยทาก ( Cm )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Cm

ดนตรี 9 Bars..7...8...
9...ตาย หยังเขียด
เขียด มันเหยียบขาตาย
เมืองทองเขาว่าเมืองไทย
แต่คนใกล้ตายต๊ายตายหยังเขียด
ดยตรี 4 Bars..2...3...
4..ป่าดง ลงห้วยในนา
ร้องแซวแว่วมา
ละนั่นละหนาเสียงเขียด
ตัวไม่ใหญ่ มีขายาวๆ
บางตัวสีเทาเอียด
บางตัวก็สีเสียด
มันถูกจับมาเสียบไม้ย่าง
ถูกจับมาเสียบไม้ย่าง
ขาซี้ปางญางนั่นล่ะตายหยังเขียด
ดนตรี 4 Bars..2...3...
4..ดอกโสน ไม่มี จะบาน
ดอกงิ้วดอกจาน ไม่มี จะเจียด
ข้าวของ นับวันยิ่งแพง
ปลาทูปลาแห้ง มันแพงเต็มเหยียด
ทั้งหยูกยาแล้วเสื้อผ้าแพรพรรณ
แพงขึ้นทุกวัน ราคาน่าเกลียด
มันขึ้นเหมือนน้ำเดือนสิบสอง
มันขึ้นเหมือนน้ำเดือนสิบสอง
ล้นเจิ่งนองเกินจะ กระเดียด
ดนตรี 4 Bars..2...3...
4..กรรมกร อยู่ในโรงงาน
สู้ทนกัดฟันก็ทำงานเคร่งเครียด
นักศึกษา ทั้งนายทุนน้อย
มีทุนกระจ้อยก็นับวันแห้งเหียด
ทหารตำรวจ ทั้งครูผู้น้อย
ต้องเดินหน้าจ๋อย
เป็นบ๋อยบิลเลียด
ชาวนาก็ด้ามเคียวเป็นมัน
กำจอบกำขวาน
จนมือแตกละเอียด
หล่อเลี้ยงเวียงวังคลังนา
อยู่หอคอยร้อยดาริกา
หมูไปไก่ไม่มามันเป็นตาขี้เดียด
ตาย หยังเขียด
เขียด มันเหยียบขาตาย
เมืองทองเขาว่าเมืองไทย
แต่คนใกล้ตายต๊ายตายหยังเขียด
ดนตรี 16 Bars..15...
16..เกิดเป็นไทย หัวใจเป็นธรรม
สาวเอยจงจำ อย่าทำรังเกียจ
เมืองไทย เคยเป็นเมืองทอง
มีคนยกย่องว่าเมืองยิ้มละเอียด
ไอ้รอยยิ้ม นับวันแห้งหด
ใบหน้าสลดก็หมดความละเมียด
ไม่ละมุน ไม่มีละไม
มีแต่เหงื่อไคลก็หลั่งไหลลั่นเอี๊ยด
หนุ่มใหญ่ต้องแห้งตายตามทาง
อีสาวนาต้องขายนาน้องนาง
ขาซี้ปางญางนั่นละตายหยังเขียด
ตายหยังเขียด
ตายตายตายตายตายตายตาย
ตายตายตายหยังเขียด
เขียด มันเหยียบขาตาย
เมืองทองเขาว่าเมืองไทย
แต่คนใกล้ตายต๊ายตายหยังเขียด
.


ดนตรี 3 Bars..1...
2...3 เธอบอกว่ารักนั้นกินไม่ได้
เธอไม่เข้าใจยามรักไม่กินก็อิ่ม
ลองทบทวนดูสัมผัสอ่อนนิ่ม
ไม่อิ่มไม่หิวพร่ำเพ้อรำพัน
เพ้อรำพันรำพันว่าฉันรักเธอ
เพ้อรำพันตรงนี้ตรงนั่นหนักหนา
เพ้อรำพันไปต่างต่างนานา
นานานานานานานานาอยู่นานสองนาน
เธอบอกว่ารักแล้วมักร้องไห้
เธอไม่เข้าใจ
ร้องไห้เพราะใจต้องการ
ได้รักมาครองให้ยั่งยืนนาน
จึงหวั่นจึงไหวเพราะใจหมายปอง
คืนเงียบเหงาแสงดาวบ่ายเบี่ยง
ได้ยินเสียงนกในหัวใจเราร้อง
เห็นน้ำตาหอยทากหลั่งนอง
เมื่อถูกเหยียบย่ำ
เปลือกบางบางก็แตกสลาย
เหมือนดั่งใจฉันที่มันต้องแตก
มันร้าวมันแหลกยามจนเธอทนไม่ได้
ไม้เท้ายอดทองถือครองด้วยใจ
ไม่ใช่ด้วยเงินหรือหน้างดงาม
หน้างดงามงดงามเมื่อยามเป็นสาว
ระยะยาวความสาวก็เพียงสั้นสั้น
ระยะปลายร่างกายก็หย่อนก็ยาน
หย่อนหย่อนยานยาน
ที่อยู่กันนานเพราะฉันรักเธอ
ดนตรี 27 Bars..26...
27... คืนเงียบเหงา
แสงดาวบ่ายเบี่ยง
ได้ยินเสียงนกในหัวใจเราร้อง
เห็นน้ำตาหอยทากหลั่งนอง
เมื่อถูกเหยียบย่ำ
เปลือกบางบางก็แตกสลาย
เหมือนดั่งใจฉันที่มันต้องแตก
มันร้าวมันแหลกยามจนเธอทนไม่ได้
ไม้เท้ายอดทองถือครองด้วยใจ
ไม่ใช่ด้วยเงินหรือหน้างดงาม
หน้างดงามงดงามเมื่อยามเป็นสาว
ระยะยาวความสาวก็เพียงสั้นสั้น
ระยะปลายร่างกายก็หย่อนก็ยาน
หย่อนหย่อนยานยาน
ที่อยู่กันนานเพราะฉันรักเธอ
ดนตรี 9 Bars..7...
8...9. เพ้อรำพัน
รำพันว่าฉันรักเธอ
เพ้อรำพันตรงนี้ตรงนั่นหนักหนา
เพ้อรำพันไปต่างต่างนานา
นานานานานานานานาอยู่นานสองนาน
เพ้อรำพัน
รำพันว่าฉันรักเธอ
เพ้อรำพันตรงนี้ตรงนั่นหนักหนา
เพ้อรำพันไปต่างต่างนานา
นานานานานานานานาอยู่นานสองนาน
เพ้อรำพัน
รำพันว่าฉันรักเธอ
เพ้อรำพันตรงนี้ตรงนั่นหนักหนา
เพ้อรำพันไปต่างต่างนานา
นานานานานานานานาอยู่นานสองนาน
เพ้อรำพัน
รำพันว่าฉันรักเธอ
เพ้อรำพันตรงนี้ตรงนั่นหนักหนา
เพ้อรำพันไปต่างต่างนานา
นานานานานานานานาอยู่นานสอง..นาน
.



ลมรำเพย ( E )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
E

สถาพร ( Dm )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Dm

เพลง...ลมรำเพย..
ดนตรี.............
จากไปแล้วดั่งลมรำเพย
โอ้อกเอยไม่หวนกลับหลัง
ดั่งราตรีที่ลืมรุ้งราง
ดุจดาวที่ลืมฟ้ากว้าง
ดั่งทางที่ร้างสัญจร
จากไปแล้ว
หนอความหวังดี
คอยจู๋จี๋ห่วงใยไถ่ถอน
แว่นเสื้อผ้า
หยูกยากระเซ้าเง้างอน
อยู่ตรงในฟุกหมอน
ไถ่ถามกับความคิดถึง
เพียงน้ำคำ
กล่าวลาเข้มแข็ง
ขวัญโรยอ่อนเรี่ยวแรง
หลั่งริน ร่ำลาคราหนึ่ง
จากก็เจ็บ อยู่ก็จำเจจึง
ไปเพื่อไถ่ถามถึง
ห่วงหากันอีก สักหน
เหม่อมองแล้ว
เมื่อไหร่จะมา
ห่วงหนักหนาว่าจะสับสน
ไต่แสงดาวกับใครกี่คน
ไปเพื่อจะหลุดพ้น
หรือ ตั้งใจไปเหงา
ดนตรี.............
เพียงน้ำคำ
กล่าวลาเข้มแข็ง
ขวัญโรยอ่อนเรี่ยวแรง
หลั่งริน ร่ำลาคราหนึ่ง
จากก็เจ็บ อยู่ก็จำเจจึง
ไปเพื่อไถ่ถามถึง
ห่วงหากันอีก สักหน
เหม่อมองแล้ว
เมื่อไหร่จะมา
ห่วงหนักหนาว่าจะสับสน
ไต่แสงดาวกับใครกี่คน
ไปเพื่อจะหลุดพ้น
หรือตั้งใจไปเหงา
.



ดนตรี 9 ห้อง..7...
8...9 สถาพร เป็นคนปักษ์ใต้
ความรู้มากมาย อาชีพเป็นครู
ปีกลายย้ายจากระงู
มาอยู่อีสาน ที่บ้านด่านเกวียน
มาประจำโรงเรียน
บ้านด่านเกวียน ด้วยความเต็มใจ
สถาพร เป็นคนปักษ์ใต้
พูดอะไร ก็ต้องมีทองแดง
อยากพูด อีสานอย่างแรง
ปรึกษาลุงแฟง ที่บ้านภารโรง
ลุงแฟง กำลังตั้งวง
สุราภารโรง ก็สอนคำพังเพยว่า
จอกหนึ่ง หูซันจองลอง
จอกสอง หูซันจีหลี่
จอกสาม
เห็นหมูเท่าแมงหมี่ จอกสี่จอกห้า
เห็นป้า นึกว่าเมีย
จอกหก ฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปด
เห็นแดด นึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวน
เห็นคนนึกว่าควาย
ดนตรี 9 ห้อง..7...
8...9 สถาพร สอนหลายวิชา
วันนี้เรามา วาดรูปดูสิ
กระดาษ ดินสอก็มี
แจกให้ฟรี ให้วาดรูปมะเร็ง
นักเรียน ก็นั่งตัวเกร็ง
วาดมะเร็ง ก็ไม่เป็นกันทั้งโรง
สถาพร ก็เลยเป็นงง
ปรึกษาภารโรง ผมไม่เข้าใจเลย
ภารโรง ก็งงก็ซิตาย
มันเป็นก็จังใด ครับไอ้โตมะเร็ง
สถาพร ก็ตอบเซ็งเซ็ง
ตัวมะเร็ง มีเป็นร้อยเป็นพัน
เช่นมะเร็งหวี่ มะเร็งวัน
ผีเสื้อตัวนั้น มันก็เป็นมะเร็ง
ชักใยโตงเตง นั่นก็มะเร็งมุม
ที่บินมาเป็นกลุ่ม
ผึ้งก็เป็นมะเร็ง
อีสานบ้านเอ็ง ก็มีมะเร็งกินูน
มะเร็งกินูน
ก็เอาไว้แกล้ม กับสุราไง
จอกหนึ่ง หูซันจองลอง
จอกสอง หูซันจีหลี่
จอกสาม
เห็นหมูเท่าแมงหมี่ จอกสี่จอกห้า
เห็นป้า นึกว่าเมีย
จอกหก ฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปด
เห็นแดด นึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวน
เห็นคนนึกว่าควาย
จอกหนึ่ง หูซันจองลอง
จอกสอง หูซันจีหลี่
จอกสาม
เห็นหมูเท่าแมงหมี่ จอกสี่จอกห้า
เห็นป้า นึกว่าเมีย
จอกหก ฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปด
เห็นแดด นึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวน
เห็นคนนึกว่าควาย
ดนตรี 9 ห้อง..7...
8...9 สถาพร สอนหลายวิชา
วันนี้เรามา วาดรูปดูสิ
กระดาษ ดินสอก็มี
แจกให้ฟรี ให้วาดรูปมะเร็ง
นักเรียน ก็นั่งตัวเกร็ง
วาดมะเร็ง ก็ไม่เป็นกันทั้งโรง
สถาพร ก็เลยเป็นงง
ปรึกษาภารโรง ผมไม่เข้าใจเลย
ภารโรง ก็งงก็ซิตาย
มันเป็นก็จังใด ครับไอ้โตมะเร็ง
สถาพร ก็ตอบเซ็งเซ็ง
ตัวมะเร็ง มีเป็นร้อยเป็นพัน
เช่นมะเร็งหวี่ มะเร็งวัน
ผีเสื้อตัวนั้น มันก็เป็นมะเร็ง
ชักใยโตงเตง นั่นก็มะเร็งมุม
ที่บินมาเป็นกลุ่ม
ผึ้งก็เป็นมะเร็ง
อีสานบ้านเอ็ง ก็มีมะเร็งกินูน
มะเร็งกินูน
ก็เอาไว้แกล้ม กับสุราไง
จอกหนึ่ง หูซันจองลอง
จอกสอง หูซันจีหลี่
จอกสาม
เห็นหมูเท่าแมงหมี่ จอกสี่จอกห้า
เห็นป้า นึกว่าเมีย
จอกหก ฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปด
เห็นแดด นึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวน
เห็นคนนึกว่าควาย
จอกหนึ่ง หูซันจองลอง
จอกสอง หูซันจีหลี่
จอกสาม
เห็นหมูเท่าแมงหมี่ จอกสี่จอกห้า
เห็นป้า นึกว่าเมีย
จอกหก ฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปด
เห็นแดด นึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวน
เห็นคนนึกว่าควาย
จอกหนึ่ง หูซันจองลอง
จอกสอง หูซันจีหลี่
จอกสาม
เห็นหมูเท่าแมงหมี่ จอกสี่จอกห้า
เห็นป้า นึกว่าเมีย
จอกหก ฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปด
เห็นแดด นึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวน
เห็นคนนึกว่าควาย
.



ลิงทะโมน ( E )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
E

หยุดพักสายตา ( D )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
D

....ดนตรี..........
..ลิง ทะโมน เอย
กระโจนตามต้นไม้
โผเข้าต้นหมากไฮ
หมากไม้ ไล่ ชิง..
คน ทะโมน เอย
แอบซุ่ม ตามพุ่มไม้
ตาก็จ้องมองไป
ปืนไฟ ก็ไล่ ยิง..
แม่ ลิงเอย
ถูกยิงบนกิ่งไม้
กอดลูกน้อยกลอยใจ
เพื่อนไป เร็ว จริง..
.ร้อง เรียกหา
ว่า มารับลูกลิง
แม่ถูกยิง พ่อลิง มารับไป.
.ร้องเรียกหา
ว่า มารับลูกลิง
แม่ถูกยิง พ่อลิง มารับไป.
......
..ลิง ทะโมน เอย
กระโจนตามต้นไม้
ด้วยความกลัวปืนไฟ
จะตาม ไล่ ยิง..
พ่อ ลิง เอย
นั่งนิ่ง บนกิ่งไม้
มองไปตามแนวไพร
ไปไหน เล่าแม่ ลิง.
พี่ น้องลิง
นั่งนิ่ง บนกิ่งไม้
มองลงห้วยรินไหล
ไปไหน เล่าแม่ ลิง..
.ร้อง เรียกหา
ว่า มารับ ลูกลิง
แม่ถูกยิง พ่อลิง มารับไป..
.ร้อง เรียกหา
ว่า มารับ ลูกลิง
แม่ถูกยิง พ่อลิง มารับไป.
......
..ลิง ทะโมน เอย
กระโจนตามต้นไม้
โผเข้าต้นหมากไฮ
รีบไปเอา ลูก ลิง..
คน ทะโมน เอย
แอบซุ่ม ตามพุ่มไม้
ตาก็จ้องมองไป
ปืนไฟ ก็ไล่ยิง..
พ่อ ลิง เอย
ถูกยิงบนกิ่งไม้
กอดลูกน้อยกลอยใจ
รีบไป เถอะลูก ลิง..
.ร้อง เรียกหา
ว่า มารับ ลูก ลิง
พ่อ ก็ถูกยิง
ลูกลิง เจ้ารีบ ไป..
.ร้อง เรียกหา
ว่า มารับ ลูก ลิง.
พ่อ ก็ถูกยิง
ลูกลิง เจ้ารีบ ไป.
......
.ลิง ทะโมน เอย
กระโจนตามต้นไม้
โผไปตามแนวไพร
ไปไหน เล่าลูกลิง..
.ลิงทะโมน เอย
กระโจนตามต้นไม้
โผไปตามแนวไพร
ไปไหน เล่าลูก ลิง..
... จบเพลงแล้วครับ...


ดนตรี 4 Bars..2...3...
4....หยุดพักสายตาไว้ที่คนจน
อย่างมีเหตุผล
เขาจน เพราะอะไร
ไม่ทำการงาน
เกียจคร้านขอทานเรื่อยไป
หรือว่าทำงานแทบตาย
รายได้ไม่พอยาท้อง
หยุดพักสายตาไว้ที่คนจน
อย่างมีเหตุผล ทุกคนมีมันสมอง
เกิดเป็นดารา
ชาวนาหรือนักทดลอง
ทหารตำรวจนักร้อง
ทุกคนก็ยังไม่พอ
คนรวยใช่ฟ้า ประทาน
คนจนเหมือนกัน
ใช่ฟ้าประทานหรอกหนอ
หยิบยื่นกันหน่อย
แบ่งปันในส่วนที่รอ
ก็ว่าเราจนแล้วหนอ
ยังมีคนที่จนกว่า
หยุดพักสายตาไว้ที่คนรวย
แต่งตัวสวยๆ
ยิ่งรวยยิ่งหัวเราะร่า
ก็รวยกันไป ดีใจด้วยไม่อิจฉา
แต่ขอร้องเถิดหนา
อย่ารวยเพราะการคดโกง
ดนตรี 15 Bars..14...
15....คนรวยใช่ฟ้า ประทาน
คนจนเหมือนกัน
ใช่ฟ้าประทานหรอกหนอ
หยิบยื่นกันหน่อย
แบ่งปันในส่วนที่รอ
ก็ว่าเราจนแล้วหนอ
ยังมีคนที่จนกว่า
หยุดพักสายตาไว้ที่คนรวย
แต่งตัวสวยๆ
ยิ่งรวยยิ่งหัวเราะร่า
ก็รวยกันไป ดีใจด้วยไม่อิจฉา
แต่ขอร้องเถิดหนา
อย่ารวยเพราะการคดโกง
.



เสียเชิงชาย ( C )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
C

ขายงัวส่งควายเรียน
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Dm

ดนตรี 4 Bars..2...3...
4..กลัวจะเสียเชิงชาย
เสียดายเชิงชาย ดีๆ
เชิงชายที่มี มีไม่กี่เชิงชาย
ไม่มีเชิงชั้น สัมผัสวัดกันด้วยใจ
กลัวจะเสียจะหาย
ตัดไปทิ้งไปต่อหน้า
จะปลูกบ้านให้ดี
ก็ต้องมีแบบแปลนกันสักหน่อย
เป็นโครงสร้างคอย
รับคานรับขื่อหลังคา
จะต่อเติมดัดแปลง
เสริมแต่งต้องเตรียมเงินตรา
ช่างดีไหมหนา
ต้องปลูกเรือนตามใจผู้อยู่
จะปลูกบ้านสร้างเมือง
ให้รุ่งเรืองก็ต้องจริงใจหน่อย
อย่ามัวเฝ้าคอย
เล่นเกมส์โป้ปดอดสู
สัญญากับผม
ประชาคมหรือต้มคนดู
อย่าไถอย่าถู คูๆข้างๆเคียงๆ
เรียงร้อยถ้อยคำ
พูดดีแต่เธอไม่ทำ
ให้รีบทำอย่าดีแต่พูด
ดนตรี 16 Bars..15...
16..กลัวจะเสียเชิงชาย
เสียดายเชิงชาย ดีๆ
เชิงชายที่มี มีไม่กี่เชิงชาย
ไม่มีเชิงชั้น สัมผัสวัดกันด้วยใจ
กลัวจะเสียจะหาย
ตัดไปทิ้งไปต่อหน้า
จะปลูกบ้านให้ดี
ก็ต้องมีแบบแปลนกันสักหน่อย
เป็นโครงสร้างคอย
รับคานรับขื่อหลังคา
จะต่อเติมดัดแปลง
เสริมแต่งต้องเตรียมเงินตรา
ช่างดีไหมหนา
ต้องปลูกเรือนตามใจผู้อยู่
จะปลูกรักสร้างแฟน
แบบแปลนก็ต้องมีกันสักหน่อย
เป็นโครงสร้างคอย
รับความทุกข์สุขอดสู
อย่าปล่อยปละละเลย
ตัวอย่างเขามีให้ดู
อย่าไถอย่าถู คูๆข้างๆเคียงๆ
เรียงร้อยถ้อยคำ
จนมั่นใจละว่าเธอไม่ขำ
ก็เข้าไปบอกผมรักคุณ
เรียงร้อยถ้อยคำ
จนมั่นใจละว่าเธอไม่ขำ
ก็เข้าไปบอกผมรักคุณ
เรียงร้อยถ้อยคำ
จนมั่นใจละว่าเธอไม่ขำ
ก็เข้าไปบอกผมรักคุณ...
.


..ยายสายบัว
เลี้ยงงัวมานมนาน
ตกลูกตกหลาน
หลายตัวเป็นงัวฝูง
แบ่งงัวขาย
ลูกชายได้เรียนสูง
ส่งวิเชียร
ไปเรียนมหา'ลัย
เรียนมหา'ลัย
มหา'ลัยต้องตั้งใจเรียน
ไม่ตั้งใจเรียน
ก็ไม่จบมหา'ลัย
ในเมืองหลวง
สิ่งล่อลวงเลวร้ายมากมาย
ไม่จบคนเสียใจ
ไม่ใช่ใครคือคนเลี้ยงงัว

..ในสังคม
ฟุ้งเฟ้อเธอจึงหลง
ไม่มั่นคง
ปล่อยไปตามใจตัว
พอเสพสุขหนักเข้า
ก็เมามัว
การพนันเหล้ายา
ไม่ขาดมือ
..ปีสุดท้าย
ขอเงินเพิ่มมาทุกเดือน
เที่ยวกับเพื่อน
อยู่หอชายต้องใช้มือถือ
เอาห้องนอน
เปิดบ่อนเป็นเจ้ามือ
ไม่เป็นอันเรียน
วิเชียรเป็นเซียนพนัน
ทุกอย่างพนัน
โกงกันกรรมชั่วมัวเมา
..การพนัน
ไม่เคยมีใครร่ำรวย
ไพ่เบอร์หวย
ถั่วโปไฮโลน้ำเต้า
แทงบอลแทงม้า
ฝิ่นกัญชายาบ้ายาเมา
สุดท้ายต้องใช้กรรมเก่า
นั่งเศร้าในมุ้งสายบัว
..ต้องขายงัว
ตัวสุดท้ายไปประกัน
ขึ้นโรงศาล
วุ่นวายยายสายบัว
แกมึนงง
นั่งเงียบไม่เหลืองัว
พึ่งรู้ตัว
ขายงัวส่งควายเรียน
พึ่งรู้ตัว
ขายงัวส่งควายเรียน
ดนตรี *โอเอซิส*
..การพนัน
ไม่เคยมีใครร่ำรวย
ไพ่เบอร์หวย
ถั่วโปไฮโลน้ำเต้า
แทงบอลแทงม้า
ฝิ่นกัญชายาบ้ายาเมา
สุดท้ายต้องใช้กรรมเก่า
นั่งเศร้าในมุ้งสายบัว
..ต้องขายงัว
ตัวสุดท้ายไปประกัน
ขึ้นโรงศาล
วุ่นวายยายสายบัว
แกมึนงง
นั่งเงียบไม่เหลืองัว
พึ่งรู้ตัว
ขายงัวส่งควายเรียน
พึ่งรู้ตัว
ขายงัวส่งควายเรียน
พึ่งรู้ตัว
ขายงัวส่งควายเรียน




นกเขาไฟ ( Bb )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Bb

นักเดินทาง ( F )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
F

....ดนตรี........
..ภูบ่สูง แต่ว่าห้วยมันลึก
ภูบ่ลึก แต่ว่าเมืองมันไกล
ภูบ่เล็ก แต่ว่าฟ้ามันใหญ่
นกเขาไฟ พาใจเรามา..
ดอกไม้ มาแซมเสียบผม
เด็ดดม ชมทั่วภูผา
เรียงร้อย เป็นถ้อยมาลา
โปรดมา รับมาลัยแห้ง.
ดอกไม้ มาลัยห้อยคอ
แก้มหนอ ก็ทาสีแดง
ผ้าถุง นั้นอีหล้าฮักแห้ง
เสื้อแดง แต่งแต้มลายดอก
....ดนตรี......
ภูบ่สูง แต่ว่าห้วยมันลึก
ภูบ่ลึก แต่ว่าเมืองมันไกล
ภูบ่เล็ก แต่ว่าฟ้ามันใหญ่
นกเขาไฟ บินร่ายเริงลม..
เจ้าฟ้อน ไม่อ่อนแต่สวย
ผ้ามวยโพกสวยสุดสม
ผิวคล้ำ ผมดำ ตาตม
เอวกลม ฟ้อนรอบกองไฟ
สูบยา พันด้ายสีแดง
ลงแรง ถางดงพงไพร
ดอกเหงื่อ มันหอมหวลนวลใย
สุขใจ ไร่ข้าวหอมกรุ่น
....ดนตรี......
ภูบ่สูง แต่ว่าห้วยมันลึก
ภูบ่ลึก แต่ว่าเมืองมันไกล
ภูบ่เล็ก แต่ว่าฟ้ามันใหญ่
นกเขาไฟ ลงไร่ปลายนา..
ดอกไม้ มาแซมเสียบผม
เด็ดดม ชมทั่วภูผา
เรียงร้อย เป็นถ้อยมาลา
โปรดมา รับมาลัยแห้ง.
ดอกไม้ ซ่อนในรวงข้าว
หนุ่มสาว เจ้าช่วยออกแรง
ตีข้าว เอาดอกไม้แดง
ญาติแย่ง ไปรอบลอมฟาง
....ดนตรี......
ภูบ่สูง แต่ว่าห้วยมันลึก
ภูบ่ลึก แต่ว่าเมืองมันไกล
ภูบ่เล็ก แต่ว่าฟ้ามันใหญ่
นกเขาไฟ ดวงใจชาวดอย..
ภูผา เวลาเย็นย่ำ
ถิ่นถ้ำ เสียงน้ำตกย้อย
หนุ่มสาว คลอเคล้าใจลอย
เกี่ยวก้อย นกน้อยละเมอ
ภูผา เวลาย่ำค่ำ
ถิ่นถ้ำ เสียงน้ำตกเพ้อ
นกน้อย ใจลอยละเมอ
เกี่ยวเธอ ฟ้อนรอบกองไฟ
เกี่ยวเธอ ฟ้อนรอบกองไฟ
เกี่ยวเธอ ฟ้อนรอบกองไฟ
... จบเพลงแล้วครับ...


....ดนตรี..........
ตราบวันนี้เราเป็นนักเดินทาง
เกาะเกี่ยวเอาความอ้างว้าง
ท่ามกลางม่านหมอกมัวหมอง
มักได้ใคร่ดี
พบพานกับสีแสงทอง
เมื่อตะวันเยี่ยมส่อง
หนทางยังเหยียดยาวไกล.
.เหลียวมองรอบกายพะว้าพะวัง
ผูกถ่วงอยู่กับความหลัง
ชิงชังมิอาจผลักไส
ผิดถูกชั่วดี
เขาตีราคาค่าไว้
ชื่นชมเถิดความยิ่งใหญ่
นบไหว้ชื่อเสียงเงินทอง
..นักเดินทาง
ไม่มีสิ่งใดให้เห็น
นอกเหนือจากความขื่นเข็ญ
เห็นเพื่อนร่วมทางเที่ยวท่อง
ไม่มีผู้ใด จะใส่ใจเหลียวมอง
ซุกเซไร้ทรัพย์ครอบครอง
มวลญาติพี่น้องหลีกหนี.
ตราบวันนี้เราเป็นนักเดินทาง
น้ำในหน่วงเหนี่ยวกีดขวาง
หลงทางซ่อนซุกทุกที่
อดทนแล้วหนา
หวังฟ้าเบื้องบนปราณี
ตราบลมหายใจยังมี
คงทนจนถึงปลายทาง
....ดนตรี..........
.นักเดินทาง
ไม่มีสิ่งใดให้เห็น
นอกเหนือจากความขื่นเข็ญ
เห็นเพื่อนร่วมทางเที่ยวท่อง
ไม่มีผู้ใด จะใส่ใจเหลียวมอง
ซุกเซไร้ทรัพย์ครอบครอง
มวลญาติพี่น้องหลีกหนี.
ตราบวันนี้เราเป็นนักเดินทาง
น้ำในหน่วงเหนี่ยวกีดขวาง
หลงทางซ่อนซุกทุกที่
อดทนแล้วหนา
หวังฟ้าเบื้องบนปราณี
ตราบลมหายใจยังมี
คงทนจนถึงปลายทาง
อดทนแล้วหนา
หวังฟ้าเบื้องบนปราณี
ตราบลมหายใจยังมี
คงทนจนถึงปลายทาง
... จบเพลงแล้วครับ...



ผู้แทนใคร ( )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ

ห้วยแถลง ( F )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
F

....ดนตรี..........
เป็นยังไง เข้าไปรับใช้ประชา
เป็นยังไงล่ะ เข้าไปรับใช้ประชา
เป็นยังไงล่ะ เข้าไปรับใช้ประชา
เสพสุขถ้วนหน้าถ้วนตา
แต่ประชาก้มหน้าต่อไป.
กินแต่น้ำพริก
ปลาทูมันแพงจะตาย
ผู้แทนต่างนั่งจิบไวน์
ขวดเท่าไรเป็นแสนคิดดู.
เป็นยังไงล่ะ เข้าไปรับใช้ประชา
เป็นยังไงล่ะ เข้าไปรับใช้ประชา
เป็นยังไงล่ะ เข้าไปรับใช้ประชา
เสพสุขถ้วนหน้าถ้วนตา
แต่ประชาก้มหน้าต่อไป.
กินแต่น้ำพริก
ปลาทูมันแพงจะตาย
ผู้แทนต่างนั่งจิบไวน์
ขวดเท่าไรเป็นแสนคิดดู.
ให้ใช้ของไทย
ให้เที่ยวเมืองไทย
ให้กินของไทย
แต่เขาขึ้นเครื่องบินไป
นอกเมืองไทยพี่น้องก็รู้
อ้างไปดูงาน
ใช้งบประมาณไปพบยอดชู้
ภาษาปลาๆปูๆ
ใครก็รู้ผู้แทนเมืองไทย.
รัฐธรรมนูญ
ประชาชนร่างขึ้นมา
ผู้แทนยักคิ้วหลิ่วตา
ถ่วงเวลาถอนทุนกำไร
โยกย้ายสมุน
ค้ำจุนบัลลังก์เจ้านาย
ขอให้พี่น้องชาวไทย
ดูนั่นไงผู้แทนใครเอ่ย...
..เป็นยังไงเล่าเป็นยังไง
ใครทำให้ไทยยากจน
โทษกันไปมา
ประชายิ่งทุกข์ยิ่งทน
เกิดโกลาหล
คนตกงานข้าวยากหมากแพง
เธอกับฉันช่วยกันสร้างตัว
กลัวยากจนผู้คนหน่ายแหนง
หมื่นความฝัน
พลันสิ้นดาวพราวแสง
ร่ำแต่เสียงเวทนาน้ำตาตกใน.
เป็นยังไงเข้าไปรับใช้ประชา
เป็นยังไงล่ะเข้าไปรับใช้ประชา
เป็นยังไงล่ะเข้าไปรับใช้ประชา
เสพสุขถ้วนหน้าถ้วนตา
แต่ประชาก้มหน้าต่อไป .
กินแต่น้ำพริก
ปลาทูมันแพงจะตาย
ผู้แทนต่างนั่งจิบไวน์
ขวดเท่าไรเป็นแสนคิดดู
....ดนตรี..........
.เสพสุขถ้วนหน้าถ้วนตา
แต่ประชาก้มหน้าต่อไป.
กินแต่น้ำพริก
ปลาทูมันแพงจะตาย
ผู้แทนต่างนั่งจิบไวน์
ขวดเท่าไรเป็นแสนคิดดู
ให้ใช้ของไทย
ให้เที่ยวเมืองไทย
ให้กินของไทย
แต่เขาขึ้นเครื่องบินไป
นอกเมืองไทยพี่น้องก็รู้
อ้างไปดูงาน
ใช้งบประมาณไปพบยอดชู้
ภาษาปลาๆปูๆ
ใครก็รู้ผู้แทนเมืองไทย
รัฐธรรมนูญ
ประชาชนร่างขึ้นมา
ผู้แทนยักคิ้วหลิ่วตา
ถ่วงเวลาถอนทุนกำไร
โยกย้ายสมุน
ค้ำจุนบัลลังก์เจ้านาย
ขอให้พี่น้องชาวไทย
ดูนั่นไงผู้แทนใครเอ่ยชะชะช่า
... จบเพลงแล้วครับ...


....ดนตรี..........
....ชื่อยายพร
แกนอน ใต้ต้นหูกวาง.
อยู่ข้างทาง รถไฟ
ใกล้ๆ ถานี.
ห้วยแถลง แถ ลง
ช่วยส่งแกที.
นาย ถานี บอกว่า
แกบ้า ผู้ชาย.
....ดนตรี....
ก็เริ่มเรื่องราว
ยามหนาว
ซังข้าวไหวเอน.
หนุ่มหน้าเป็น
พรเห็น เขาเป็น คนดี.
ให้ชื่นชม ดอกจาน
ถึงวาน วัน นี้.
ข้างถานี รถไฟ
ใต้ต้นหูกวาง
....ดนตรี..........
ตา....ก็เตือนแล้ว
..ยาย ก็สั่งสอน
พ่อแม่ เอ็งยังไม่คอน
แล้วคนอื่น
เขารึจะกล้าสั่งสอน
....ดนตรี..........
ชื่อยายพร แกนอน
ใต้ต้นหูกวาง.
อยู่ข้างทาง รถไฟ
ใกล้ๆ ถา นี.
ท่องพุทโธ ธัมโม
ขอเหล้ากินที.
รอสามี บอกว่า
จะมา สัก วัน.
....ดนตรี....
โน่น รถไฟ
วิ่งไป แล่นไหลตามทาง
ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง
ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง
คนอยู่หลัง
เฝ้าคอย ละห้อยนานปี.
ห้วยแถลง แถ ลง
ช่วยส่งมาที.
นายถานี บอกว่า
ไม่มา สักวัน.
....ดนตรี..........
อีพร คอยได้ ก็คอยไป.
อีพร คอยได้ ก็คอยไป.
อีพร คอยได้ มันก็คอย.
... จบเพลงแล้วครับ...



คนกับหมา ( E )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
( E )

หยดน้ำ
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
E

####...ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไปจะเดิน
หนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่หมานำ
ฉันเดินก้าวตามตามหมาเดิน ชีวิตของ
ฉันช่างเพลิดเพลินฉันเดินตามหมานำ
ทาง.ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไปจะเดิน
หนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่หมานำ
ฉันเดินก้าวตามตามหมาเดิน ชีวิตของ
ฉันช่างเพลิดเพลินฉันเดินตามหมานำ
ทางคนเราเลือกเกิดไม่ได้ดอก บางคน
ก็ออกมาร่างพิการ สมบัติติดตัวคือ
สังขารทนทรมานกันต่อไป อย่างฉันนี่
เกิดมาตาบอด ตาบอดมองไม่เห็น จึง
สร้างสัมผัสอันจำเป็น อยู่เหนือกฎ
เกณฑ์คนธรรมดา..ชีวิตฉันมีแต่หมาพา
ไปจะเดินหนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่
หมานำ ฉันเดินก้าวตามตามหมาเดิน
ชีวิตของฉันช่างเพลิดเพลินฉันเดิน
ตามหมานำทาง.ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไป
จะเดินหนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่หมา
นำฉันเดินก้าวตามตามหมาเดิน
ชีวิตของฉันช่างเพลิดเพลินฉันเดิน
ตามหมานำทาง...........
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ดอก บางคนก็ออก
มาร่างพิการ สมบัติติดตัวคือสังขาร
ทนทรมานกันต่อไป อย่างฉันนี่เกิดมา
ตาบอด ตาบอดมองไม่เห็น จึงสร้างสัม
ผัสอันจำเป็น อยู่เหนือกฎเกณฑ์คน
ธรรมดา..ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไปจะเดิน
หนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่หมานำ
ฉันเดินก้าวตามตามหมาเดิน ชีวิตของ
ฉันช่างเพลิดเพลินฉันเดินตามหมานำ
ทางชีวิตฉันมีแต่หมาพาไปจะเดิน
หนใดมีหมานำ ชีวิตฉันมีแต่หมานำ
ฉันเดินก้าวตามตามหมาเดิน ชีวิตของ
ฉันช่างเพลิดเพลินฉันเดินตามหมานำ
... จบเพลงแล้วครับ...


....ดนตรี..........
น้ำ เพียงหยดเดียวจาก
รากไม้กลั่น มาสะสมจนกลาย
เป็นห้วยหลั่งริน
.ลับ รินรายล้นหลาก
สองฟากฝั่ง เป็นแม่น้ำลำธาร
สราญชุ่มเย็น
.น้ำ เพียงหยดเดียวจาก
ความลำเค็ญ
เป็นเหงื่อรินหลั่งล้น
จนเป็นทุ่งทอง.
มอง ดูสวยสุดตา
พาฝัน ว่าบ้านเรานั้น
คือสรรค์บนพื้นดิน
.รุ่ง อรุณเยี่ยมเยือน
เพื่อนพื้นถิ่น
ลงหว่านไถปักดำ
กล้าทำแตกกอ.
ร้อง เรียงรายลงแขก
แรกรักก่อ
รอเมฆฝนพร่างพรม
รับลมลู่รวง.
น้ำ เพียงหยดเดียวจาก
ใจฟ้าร่วง
รวงรอรับเริงรื่น
ค่ำคืนเฝ้าคอย.
ลอย ลารวงร่วงมาแต่ฝัน
ร่างรวงคืนนั้น
เหือดน้ำหวานโลมเรียงดิน
.ลม แรงตีนวดฝัด
ผลัดหนี้สิน
มาจำพรากตักตวง
อุ้มรวงข้าวเรา.
น้ำ เพียงหยดเดียวจาก
ความโง่เขลา
เป็นเหงื่อรินแหลกราญ
ซึมซ่านทุ่งทอง.
มอง ดูเศร้าสุดตาพาหมอง
ว่าตัวเราต้อง
อยู่นรกบนรอยไถ
.ขอ มีน้ำเพียงหยด
ราดรดใจ
ใจของรวงที่ร้าว
รวงข้าวพลัดเคียว
....ดนตรี..........
ขอ มีน้ำเพียงหยด
ราดรดใจ
ใจของรวงที่ร้าว
รวงข้าวพลัดเคียว
ขอ มีน้ำเพียงหยด
ราดรดใจ
ใจของรวงที่ร้าว
รวงข้าวพลัดเคียว
ขอ มีน้ำเพียงหยด
ราดรดใจ
ใจของรวงที่ร้าว
รวงข้าวพลัดเคียว
..
.




ตังเก ( Bbm )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Bbm

เจ้าสาวผีเสื้อ ( D )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
D

ดนตรี 12 Bars..10...11...
12..ฉันเกิด อยู่แดน อีสาน
ถิ่นกันดารที่เขา ดูหมิ่น ดูแคลน
จากไกลไปหากินต่างแดน
ก็อาลัยแสนเมื่อจำต้องพรากบ้านมา
ร่อนเร่ พเนจรไป
เหมือนนกไพรไร้พง พนา
ไม่ได้จับไถ เลยไปจับปลา
ไม่ได้ทำนา เลยมากับ เรือ ตังเก
แรกแรก ก็กลัวหลายหลาย
ต้องเมามาย คลื่นโอ ละเห่
คิดถึงแม่ ที่เคยไกวเปล
โอ้เปลน้อย คือเรือตังเก
มีแม่ทะเล กล่อมนอน แรงแรง
ดนตรี 8 Bars..6...7...
8...แม่ โมโหใครมา
หรือเป็นตำรา ให้ลูกแข็งแกร่ง
ลูก ขอปู ขอปลา
มากมากเถิดหนา พอเป็น ค่าแรง
ทะเล มันถมไม่เต็ม
เหมือนคนใจเค็ม ที่คอยยื้อแย่ง
คนจน ก็ถมไม่เต็ม
แต่ใจไม่เค็ม ทำงานเข้มแข็ง
อยากมีเรือสักลำ จะพาคนงามที่คิด จะแต่ง
ลอย ล่อง ลำ นาวา
ให้ปลาอิจฉา เวลา คลื่น แรง
ดนตรี 28 Bars ..26...27...
28...แม่ โมโห ใครมา
หรือเป็นตำรา ให้ลูกแข็งแกร่ง
ลูก ขอปู ขอปลา
มากมากเถิดหนา พอเป็นค่าแรง
ทะเลมันถมไม่เต็ม
เหมือนคนใจเค็ม ที่คอยยื้อแย่ง
คนจน ก็ถมไม่เต็ม
แต่ใจไม่เค็ม ทำงานเข้มแข็ง
อยาก มีเรือสักลำ จะพาคนงามที่ คิดจะแต่ง
ลอย ล่อง ลำนาวา
ให้ปลาอิจฉา เวลา คลื่น แรง
.


....ดนตรี..........
>>>ฤดูกาลเปลี่ยน
ร้อนวนฝนหนาว
สัตว์โลกคนเรา
กายใจเปลี่ยนไปตามกาล
เส้นทางชีวิต
เส้นเดียววกวนทุกวัน
อาจแปรเปลี่ยนผัน
ดังเรื่องราว
เจ้าสาวผี เสื้อ
ร่อนใจหาคู่ ฤดูเหมันต์
สืบสร้างตำนาน
ดำรงค์เผ่าพงศ์พันธุ์ เครือ
จุดหมายปลายทาง
หลั่งฝัน ธารน้อยลอยเรือ
หาดงามฉ่ำเชื้อ
หินสวยห้วยลำ ตะคอง
บินข้าม ถนน สายมิตรภาพ
หนาวเหน็บเจ็บอาบ
คราบน้ำตานอง
คอยหน่อย ปีกรัก
หักยัง ประคอง
ถลาครรลอง ล่องทางสาย เก่า
เจ็บปวดนัก
ความรัก ให้โลกเรือง รอง
กับตอบ สนอง
ให้เห็น เพียงเส้นทาง เศร้า
อยากให้เธอ บิน
สูงกว่า เส้นทางสาย เก่า
บินเส้นทาง ดาว
เจ้าสาว ของชาวผี เสื้อ
....ดนตรี...........
..... บินข้าม ถนน สายมิตรภาพ
หนาวเหน็บเจ็บอาบ
คราบน้ำตานอง
คอยหน่อย ปีกรัก
หักยัง ประคอง
ถลาครรลอง ล่องทางสาย เก่า
เจ็บปวดนัก
ความรัก ให้โลกเรือง รอง
กับตอบ สนอง
ให้เห็น เพียงเส้นทาง เศร้า
อยากให้เธอ บิน
สูงกว่า เส้นทางสาย เก่า
บินเส้นทาง ดาว
เจ้าสาว ของชาวผี เสื้อ
ฤดูกาลเปลี่ยน ร้อนวนฝนหนาว
ผีเสื้อดวงดาว
หาดทราย เส้นทาง ลำธาร
ด้วยปีกแห่งรัก
หักแล้วเลยฤดูกาล
เจ็บเหงา เศร้าฝัน
เงียบงัน เจ้าสาวผี เสื้อ
เจ็บเหงา เศร้าฝัน
เงียบงัน เจ้าสาวผี เสื้อ
TEL.01-4710246(PRASIT)
... จบเพลงแล้วครับ...



ในหุบเขา
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
A

ด.ญ.ปรางค์
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
D

....ดนตรี..........
ในหุบเขา
เรามีเพื่อนร่วมใจ
พลิกพื้นดินนา ไร่
ข้าวปลาอาหารพอ กิน
อยู่อย่างเจียมตัว
ไม่มัวเมาหนี้สิน
แมลงแย่งผักเรากิน
นกบินมากินแมลง
.ตื่นแต่เช้า
หมอกคลุมนุ่มชื้นฟืนไฟ
ผึ้งงานสำราญดอกไพร
หอมกรุ่นอุ่นไฟแกงแฟง
ชีวิตไม่เสริม
ไม่สวยไม่รวยปรุงแต่ง
ชีวิตไม่มีเสแสร้ง
รักใครก็บอกตรงๆ
>โปรย ควันไฟเป็นสายสีนวล
ตะแบกม่วงงามอบอวล
นวลสีครามค่ำลง
มืดเพียงใด
เพียงดาวหนึ่งดวงกลาง ดง
แสงนวลหนึ่งนั้นจรรโลง
จิตเราให้เศร้าเหงาคลาย
.ในหุบเขา
เราคิดถึงบางคน
แต่ไม่เคยเพ้อบ่น
เพราะรู้ว่าเธออยู่ไกล
ฝากดวงดาว
ดั่งดวงตาฟ้าห่วงใย
บุญเราน้อยเกินไป
ขอร่วมใจแค่ฟ้าเดียวกัน
....ดนตรี..........
>โปรย ควันไฟเป็นสายสีนวล
ตะแบกม่วงงามอบอวล
นวลสีครามค่ำลง
มืดเพียงใด
เพียงดาวหนึ่งดวงกลาง ดง
แสงนวลหนึ่งนั้นจรรโลง
จิตเราให้เศร้าเหงาคลาย
.ในหุบเขา
เราคิดถึงบางคน
แต่ไม่เคยเพ้อบ่น
เพราะรู้ว่าเธออยู่ไกล
ฝากดวงดาว
ดั่งดวงตาฟ้าห่วงใย
บุญเราน้อยเกินไป
ขอร่วมใจแค่ฟ้าเดียวกัน
..
.



....ดนตรี..........
.ขยะ ในถัง ที่ตั้งริมทาง
เด็กหญิงปรางค์ กำลัง คุ้ยเขี่ย
เป็น ประจำ หน้าบ้านผัวเมีย
ที่นั่ง ดู เหมือนพลเมืองดี.
ยัง ไม่รู้ จะได้อะไร
เปลือก ลำไย หรือซองบุหรี่
อยาก จะได้ หุ่น ยนต์ ดีดี
หนูอยาก จะมี น้องตุ๊ก-ตา
.ถ้าได้ ดั่งฝัน จะรีบ เอาไป
อวด วินัย ลูกชาย ของป้า
ถ้าแขน ไม่ครบ ไม่มี ลูกตา
จะให้ ลุงมา ช่วยเสริมเติมแต่ง
....ดนตรี......
>ขยะ ในถัง.
ตั้ง อยู่ ในใจ.
ที่ใส สะอาด.
วาด ต่อเติม
เพิ่ม ความฝัน
ทุกวัน เวลา
ตุ๊ก-ตา นำ ทางไปทั่ว
ตาม ซอกซอย ของเมืองมัวๆ
มือ น้อยๆ ค่อยๆ คุ้ยเขี่ย
....ดนตรี..........
>ขยะ ในถัง.
ตั้ง อยู่ ในใจ.
ที่ใส สะอาด.
วาด ต่อเติม
เพิ่ม ความฝัน
ทุกวัน เวลา
ตุ๊ก-ตา นำ ทางไปทั่ว
ตาม ซอกซอย ของเมืองมัวๆ
มือ น้อยๆ ค่อยๆ คุ้ยเขี่ย
..
.




ครูใหญ่
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
E

แหนบหัก-105 ( C )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
C

....ดนตรี..........
ครูครูครูครูครู
ฉันเป็นครูแดนไกล
เดินเดินเดินเดินเดิน
เพลิด เพลินเดินดงพงไพร
ครู เอ๋ยครู ปูชนีย์ของไทย
พิมพ์ เอ๋ยพิมพ์
แม่พิมพ์ หมึกจางกลางใจ
....ดนตรี..........
บ้าน อยู่โนนสวรรค์
ทั้งวัน ก็เดินไม่ถึง
มีครูอยู่สองคน
ครูใหญ่ กับครูไม่ใหญ่
ขึ้นรถลงเรือลงเดิน
ลงเดินขึ้นรถลงเรือ
โรงเรียนก็รกรุงรัง
ฮื่ม.ฮื่มฮื่ม
ก็เก็บก็ปัดก็กวาด
สะอาดในใจลูกจ้าง
.ฝนฟ้าลมมาลมแรง
กินนอนอยู่ในโรงเรียน
ไม่เป็นไร แม้หลังคารั่ว
ครูครูครูครูครู
ฉันเป็นครูแดนไกล
เดินเดินเดินเดินเดิน
เพลิด เพลินเดินดงพงไพร
ครู เอ๋ยครู ปูชนีย์ของไทย
พิมพ์ เอ๋ยพิมพ์
แม่พิมพ์ หมึกจางกลางใจ
....ดนตรี..........
บ้าน อยู่โนนสวรรค์
ทั้งวัน ก็เดินไม่ถึง
มีครูอยู่สองคน
ครูใหญ่ กับครูไม่ใหญ่
ทำงานเกินอาชีพครู
สงเคราะห์สังคมเยียวยา
ผักปลาแบ่งปันกันไป
ฮื่มฮื่มฮื่ม
ลุงอิ่ม ยายเอิบอดข้าว
ต้องเอา ของเราไปให้
งานวัดงานพัฒนา
เดี๋ยวมา ประชุมอำเภอ
น่าภูมิใจ ครูไทยของเรา
....ดนตรี..........
ครูครูครูครูครู
ฉันเป็นครูแดนไกล
เดินเดินเดินเดินเดิน
เพลิด เพลินเดินดงพงไพร
ครู เอ๋ยครู ปูชนีย์ของไทย
พิมพ์ เอ๋ยพิมพ์
แม่พิมพ์ หมึกจางกลางใจ
บ้าน อยู่โนนสวรรค์
อยู่กัน ไปตามประสา
หนาว ก็เข้ากองไฟ
ร้อน ก็ไปทุ่งนา
หน้าดำมือด้านบ่าแดง
พลิกแพลงสอนตามยถา
ก.ไก่เก็บกดอดทน
ฮื่มฮื่มฮื่ม
สิ้นเดือน ก็เหมือนสิ้นใจ
หักไป หนี้ลบกลบเกิน.
ขอใบฉุกเฉินมาเซ็นต์
เป็นประจำ จำต้องเป็น
จำต้องเป็น จำต้องเป็น
เออ เด็กน้อย
ครูไม่หนี ไปไหนดอก
เออ เด็กน้อย
ครูไม่หนี ไปไหนดอก
เออ เด็กน้อย
ครูไม่หนี ไปไหนดอก
..
.



ดนตรี 10 Bars..8...9...
10..ปืน ค. นั้นย่อมาจากปืนครก
เวลายิงมันดังป๊ก
เวลาตกมันดังตูมตาม
มันยิงเข้ามา ตกในป่าชั่วครู่ยาม
แต่ก็บ่ได้ความ
ยิงเข้ามาวางท่าเสียงดัง
แต่ ป.105 มันก็ต่างไปอีกหนอ
แมงอันนี้ก็มีล้อ ตัวมันก็ใหญ่จัง
ใช้รถยนต์ลาก
มีสายกระชากวิ่งเสียงดัง
ถ้าเรานิ่งเงียบฟังเสียงลูกมันดัง
ยังมีอาก้า อาร์.พี.จี เอฟ.16
เอส.เค.ทั้งปืนครก
ลูกจรวดนิวคล็อกนิวเคลียร์
ทำการขายค้า เข่นฆ่าเอเซีย
เลวเข้าลุกลามเลีย
รวยบนรอยร้าวราน
105 แหนบมันหัก
เพราะมันจูงลาก ไปมาสารพัน
บ้านโน้นเมืองนี้ก็ต่อตีทุกวี่วัน
มันหันเลี้ยวยิงไม่ทัน
ปืนเก่าอย่างงั้นคงอันตราย
ปืน ค. ปืนครก
ถ้าตกไปอยู่ในมือใคร
ไม่ว่าปืนน้อยปืนใหญ่
มันก็รับใช้ฝ่ายนั้น
ถ้าไม่เลิกรบ
เลิกทะเลาะเบาะแว้งกัน
ผลบ่ช้านานวัน
โลกอันสำราญมันก็ทลาย
ดนตรี 10 Bars..8...9...
10..105 แหนบมันหัก
เพราะมันจูงลาก ไปมาสารพัน
บ้านโน้นเมืองนี้ก็ต่อตีทุกวี่วัน
มันหันเลี้ยวยิงไม่ทัน
ปืนเก่าอย่างงั้นคงอันตราย
ปืน ค. ปืนครก
ถ้าตกไปอยู่ในมือใคร
ไม่ว่าปืนน้อยปืนใหญ่
มันก็รับใช้ฝ่ายนั้น
ถ้าไม่เลิกรบ
เลิกทะเลาะเบาะแว้งกัน
ผลบ่ช้านานวัน
โลกอันสำราญมันก็ทลาย
... จบเพลงแล้วครับ...



ต้นขับขี่ ( Em )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Em

ความมั่นใจ
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
C

โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน
เด็กๆก็ไม่ซุกซน
เราทุกคน ชอบไปโรงเรียน
ชอบไปชอบไปโรงเรียน
โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน
เด็กๆก็ไม่ซุกซน
เราทุกคน ชอบไปโรงเรียน
ชอบไปชอบไปโรงเรียน
บนดอย มีดาวอยู่ใกล้
พงไพรหนีรบกันละเมิม
มงเย้าละกระเหรี่ยงมูเซอ
อีก้อละอีก้อ อาคา
เป็นไทยละกันทุกหมู่เหล่า
เทียมเท่าผืนดินแผ่นฟ้า
ยะการ ยะไฮ้ ยะนา
ลูกเต้าก็ส่งเข้าโรงเรียน
โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน
เด็กๆก็ไม่ซุกซน
เราทุกคน ชอบไปโรงเรียน
ชอบไปชอบไปโรงเรียน
เหล่าเฉ้งมีรถเก๋งฉลาด
ก็เปลืองปราดจนโตเต็มหนุ่ม
เอาของดอยไปขายที่ลุ่ม
ของดอยก็เอาไปขายที่ลุ่ม
มอเตอร์ไซค์ก็ขี่ไปในเมือง
มอเตอร์ไซค์ก็ขี่ไปในเมือง
มอเตอร์ไซค์เหล่าเฉ้งเก่าๆ
ใครเล่าจะคิดว่ามันวิ่งได้
ไฟเลี้ยวไฟหน้าไฟท้าย
เอาไฟฉายมาทำเอาแทน
บังโกนหน้ามันก็ไม่มี
บังโกนหลังก็อย่าหวังว่าจะมี
ไม่มีละมันก็เป็น ผลดี
ผลดี ละต้องไปติดขี้โคลน
เบาะนั่งละเอียงห้อยนั่งโทน
เวลาจะติ๊ดเข็นกระตุกเข็นกระตุก
กระตุกกระตุ๊กกระตุกกระตุ๊กแล้วมันก็ติด
กระตุกกระติ๊ดแล้วมันก็วิดไฟแดง
ไฟแดงก็มีสิบปี กว่าๆ
ปีหน้าก็อาจได้ สิบโท
เห็นมอเตอร์ไซค์แล้วก็ร้องโอ้โฮ้
โอ้โฮ้โอ้โฮ้ ต้องขอใบขับขี่
เหล่าเฉ้งละเป็นคนปราดเปลื่อง
รู้เรื่องใบไม้ อย่างดี
แต่ใบละที่นายศักตีร
ว่าใบขับขี่ มันเป็นยังไง
เป็นยังไง ละไอ้ใบขับขี่
บอกหน่อยซิ ว่าต้นเป็นยังไง
เป็นยังไง ละไอ้ต้นขับขี่
บอกหน่อยซิ จะเด็ดใบ..มาฝาก
ดนตรี.........................
มอเตอร์ไซค์ เหล่าเฉ้งเก่าๆ
ใครเล่าจะคิดว่ามันวิ่งได้
ไฟเลี้ยวไฟหน้าไฟท้าย
เอาไฟฉายมาทำเอาแทน
บังโกนหน้า มันก็ไม่มี
บังโกนหลัง ก็อย่าหวังว่าจะมี
ไม่มีละมันก็เป็น ผลดี
ผลดี ละต้องไปติดขี้โคลน
เบาะนั่งละเอียงห้อยนั่งโทน
เวลาจะติ๊ดเข็นกระตุกเข็นกระตุก
กระตุกกระตุ๊กกระตุกกระตุ๊กแล้วมันก็ติด
กระตุกกระติ๊ดแล้วมันก็วิดไฟแดง
ไฟแดงก็มีสิบ ปีกว่าๆ
ปีหน้าก็อาจได้ สิบโท
เห็นมอเตอร์ไซค์แล้วก็ร้องโอ้โฮ้
โอ้โฮ้โอ้โฮ้ ต้องขอใบขับขี่
เหล่าเฉ้งละเป็นคนปราดเปลื่อง
รู้เรื่องใบไม้ อย่างดี
แต่ใบละที่นายศักตีร
ว่าใบขับขี่ มันเป็นยังไง
เป็นยังไง ละไอ้ใบขับขี่
บอกหน่อยซิ ว่าต้นเป็นยังไง
เป็นยังไง ละไอ้ต้นขับขี่
บอกหน่อยซิ จะเด็ดใบ..มาฝาก
เป็นยังไง ละไอ้ใบขับขี่
บอกหน่อยซิ ว่าต้นเป็นยังไง
เป็นยังไง ละไอ้ต้นขับขี่
บอกหน่อยซิ จะเด็ดใบ..มาฝาก
.



....ดนตรี........
เหม่อมองฟ้าสี คราม
เหม่อมอง ไปตามเมฆลอย
ไกลสุดขอบฟ้า
หรืออยู่ แค่มือเอื้อมสอย
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
สุขที่ได้เหลียว มอง
แอบมอง ประคองภาพงาม
ใส่กรอบความฝัน
แทนอยู่ ที่จุดคำถาม
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
.โปรดช่วยแนะนำ
ช่องทาง ที่จะพบเจอ
โปรดนึกเสียว่า
ชี้ทาง ให้คนแสนเซ่อ
อาจเป็นเพราะเศร้า ซึม
เนิ่นนาน จนมันเกาะกุม
หวาดกลัวจะเหมือน
ทุกอย่าง ที่ผ่านไปแล้ว
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
....ดนตรี........
เหม่อมองฟ้าสี คราม
เหม่อมอง ไปตามเมฆลอย
ไกลสุดขอบฟ้า
หรืออยู่ แค่มือเอื้อมสอย
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
สุขที่ได้เหลียว มอง
แอบมอง ประคองภาพงาม
ใส่กรอบความฝัน
แทนอยู่ ที่จุดคำถาม
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
.โปรดช่วยแนะนำ
ช่องทาง ที่จะพบเจอ
โปรดนึกเสียว่า
ชี้ทาง ให้คนแสนเซ่อ
อาจเป็นเพราะเศร้า ซึม
เนิ่นนาน จนมันเกาะกุม
หวาดกลัวจะเหมือน
ทุกอย่าง ที่ผ่านไปแล้ว
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
อยู่ตรงไหน
ความมั่นใจ ที่จะรัก เธอ
..
.




มือที่สาม
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
D

วันลา
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

....ดนตรี......
ล้ม ตัวนอน
กอดหมอน เหม่อลอย.
น้อย ใจน้อย
น้อยใจ ในคำนึง.
ฝัน แต่ข้างเขา
ข้างเรา ไม่ถึงครึ่ง.
เรื่องร้าย ที่ก่ำกึ่ง
ก็ปัดเศษ เป็นร้าวราน.
..รัก กัน ดีอยู่
ทะเลาะกันแยกกันอยู่
จึงห่างเราใกล้เขาเกิน ไป.
มือ ที่สาม.
มือ ที่สาม.
ยื่นมือมาชี้นำ
ให้ดูเพียงด้านเดียว
ไม่มีคอยซ้ำเติม
เพิ่มเรียงความร้าวราน
ให้ดูเป็นร้ายแรง
ฝ่าฟางทางมืดมน
....ดนตรี........
ล้ม ตัวนอน
กอดหมอน เอ่อท้น.
น้ำ ตาล้น
หมอนรอง นองหนาวเย็น.
จะประชด หรือประชัน
ก็อย่าทำเกินจำเป็น.
จะแกล้งรัก หรือลองเล่น
ก็จะคอยอย่างน้อยใจ.
ทุ่ม ทำ งานหนัก
ก็ผ่อนดาวน์แทบทุกอย่าง
อีกไม่นาน คงเท่าเทียบ คน.
มือ ที่สาม.
มือ ที่สาม.
ยื่นมือมาชี้นำ
ว่าถ้ารอคงเนิ่นนาน
ยิ่งนานคนยิ่งมอง
ว่าไม่มีทองเพชรพลอย
บ้านไม่มีเลยรถยนต์
อยู่กับคนละที่เขามี
อีกไม่นานคงรักกัน
....ดนตรี......
ล้ม ตัวนอน
กอดหมอน เหม่อลอย.
น้อย ใจน้อย
น้อยใจ ในคืนวัน.
หวัง จะสร้างตัว
ก้มหัวเป็นวัวลา.
สุดท้าย ก็เง้าถ่าน
ก็เฝ้าคอยน้อยใจเอย.
.สุดท้าย ของวัวงาน
ก็เหลือเพียงเขางอกงาม
.สุดท้ายก็เง้าถ่าน
ก็เฝ้าคอยน้อยใจเอย
.สุดท้ายของวัวงาน
ก็เหลือเพียงเขางอกงาม
.สุดท้ายก็เง้าถ่าน
ก็เฝ้าคอยน้อยใจเอย
.สุดท้ายของวัวงาน
ก็เหลือเพียงเขางอกงาม
..
.



....
หากวัน นี้คือวัน ร่ำลา
เก็บไว้ หากว่าน้ำตามันจะไหล
จากแล้ว ใช่ลาลับ
สักวันฉันจะกลับไป
อยู่ใน ทุกห้องใจ ของ เธอ
หากเรา นั้นยังคง เหมือนเดิม
ช่วยเสริม
ต่อเติมฝัน ถึงวันที่มี
.เหนื่อยล้า และหม่นหมอง
กลับมองย้อนไปอีกที
ว่าเธอ นั้นยังมี ฉันไง
>เอ่ยคำลา
ทั้งๆ ที่ไม่เคย ต้องการ
แต่เมื่อวัน
และคืนนั้นเปลี่ยนหมุนไป
ก็คงต้องจำใจจากกัน
สู่ฝันแม้มันห่างไกล
อาจต้องทนอดทนต่อไป
อย่าได้ท้อ เลย
หากวัน นี้คือวัน ร่ำลา
เก็บไว้ หากว่าน้ำตามันจะไหล
จากแล้ว ใช่ลาลับ
สักวันฉันจะกลับไป
อยู่ใน ทุกห้องใจ ของ เธอ
....ดนตรี......
>เอ่ยคำลา
ทั้งๆ ที่ไม่เคย ต้องการ
แต่เมื่อวัน
และคืนนั้นเปลี่ยนหมุนไป
ก็คงต้องจำใจจากกัน
สู่ฝันแม้มันห่างไกล
อาจต้องทนอดทนต่อไป
อย่าได้ท้อ เลย
หากวัน นี้คือวัน ร่ำลา
เก็บไว้ หากว่าน้ำตามันจะไหล
จากแล้ว ใช่ลาลับ
สักวันฉันจะกลับไป
อยู่ใน ทุกห้องใจ ของ เธอ
จากแล้ว ใช่ลาลับ
สักวันฉันจะกลับไป
อยู่ใน ทุกห้องใจ ของ เธอ
..
.




เด็กน้อย
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
D

สาวเมืองเลย
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
G

....ดนตรี.........
โอ้ เด็กเอย เด็กน้อย
เฝ้าคอยเสียงเพลง
เสียงเพลง กล่อมให้เจ้านอน
.ดวงตาเจ้า สดใส
ดุจเนตรทราย หมายเหม่อมอง
ลำธารทราย ที่ดูดซับ
เอาแสงทอง ของ อรุณ
.จงโอบอุ้ม ห่อหุ้ม
ดวงตา ด้วยเปลือกตา
ของเจ้าเอง หลับตาลง
.นามเส้นผม อ่อนไสว
ดุจใยไหม จากใบหม่อน
ถ่ายถักทอ ให้น้องนอน
และนุ่งห่ม.
.ปากคิ้วคาง
สร้างสรรค์ แย้มยิ้มบาน
ที่มุมปาก เปื้อนร่างน้อย
เคลื่อนไหว
อ่อนนุ่ม ยามหลับนอน.
.รวมแจ่มใส ในร่างเธอ
นกละเมอ เมื่อนอนเคียง
แล้วหลับฝัน
ไม่มีภาพ บริสุทธิ์ สะอาด
....ดนตรี..........
.รวมแจ่มใส ในร่างเธอ
นกละเมอ เมื่อนอนเคียง
แล้วหลับฝัน
ไม่มีภาพ บริสุทธิ์ สะอาด
..
.



....ดนตรี..........
ได้มาๆ มาเที่ยวเมืองเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
ผมยาวๆหน้าขาวจังเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
.....
มีภูผาหน้าเขาทุ่งโท้ง
มีน้ำเลยไหลโค้งลงใต้
มีภูหลวงเป็นฝาบ้านไทย
มีดงรายเป็นใต้ส่องทาง
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
....
ได้มาๆมาเที่ยวเมืองเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
หน้าจิ้มลิ้มยิ้มหวานจังเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
....
เจ้าซาวถามอ้ายมาแล้วหรือ
อ้ายตอบว่ามาแล้วว่าเนอะ
เจ้าเอิ้นอายไปกินข้าวแลง
ไปกินกับแกงหนอไม้มง
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
....
ได้มาๆมาเที่ยวเมืองเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
อยู่กับดินกินข้าวเมืองเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
....
อ้ายเดินตามดาวพรายส่องแสง
ดาวบ่แจ้ง แต่ลอยสูงเด่น
อ้ายบ่ฮักแค่เป็นเดือนเพ็ญ
ทุกคืนเวนดาวเด่นคู่ดิน
....ดนตรี..........
ได้มาๆมาเที่ยวเมืองเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
อยู่กับดินกินข้าวเมืองเลย
เลยๆเลยๆรัก สาวไทยเลย
....
อ้ายเดินตามดาวพรายส่องแสง
ดาวบ่แจ้ง แต่ลอยสูงเด่น
อ้ายบ่ฮักแค่เป็นเดือนเพ็ญ
ทุกคืนเวนดาวเด่นคู่ดิน
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
มาๆมาๆมา มาๆมาๆมา
มาๆมาๆรัก สาวไทยเลย
..
.




เพื่อเธอ
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
A

แม่
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
C

....ดนตรี........
ริน ไหลมา
จาก ดวงตา
ที่นำพาใจพบเจอ
คน ที่เธอ
มอบความรัก
ฝากความหวังทั้งใจกาย
ริน ไหลไป
สู่จุดหมาย
ทุกเส้นสายปลายทรุดโทรม
คือน้ำตา.
....ดนตรี.......
วัย และงาน
สื่อ ดวงตา
เปล่งประกายความเปราะบาง
เชิญ ชี้ชวน
ให้เธอลองดื่มชีวิตในแง่มุม.
.ความ เพลิดเพลิน
เหล้าและยา
พาสื่อสรรค์ฝันล่องลอย.
ไม่เหลือกาย ไม่เหลือใจ
เหลือเพียงรอย ที่แผลเหนี่ยว
เป็นเส้นโค้ง บาดชีวิต
ให้เจ็บนาน....ชั่ว นิรันดร์
....ดนตรี..........
นอง น้ำตา
จาก วิญญา
ที่นำพาเธอร่อนบิน
รอง รักริน
จากชีวินที่ขื่นขมถมท้าทาย.
.เท ทุ่มไป
ทุกแห่งหน
บนแผ่นพื้นเพื่อเท่าเทียม
คือน้ำใจ
ของผองเรา ที่เขาลวง
หน้าคนหนึ่ง
ตรงที่เห็น ว่าซบเซา
ยามเข้าใจ....เพื่อเธอ
..
.



....ดนตรี.........
น้ำค้าง ยังหยดใส
น้ำไคล ยังไหลมา
น้ำใจ ของมารดา
มีน้ำตา และน้ำนม
ก่อกำเนิด เกิดกาย
ล้อมในธาตุใสจน
หมดธาตุดิน สิ้นธาตุลม
ได้ธาตุน้ำ มาค้ำจุน.
>จึงเอาน้ำ ลูบท้อง
ลูกที่ร้องนั้นลูกคน
ให้ดื่มกิน นมจนๆ
นมไม่ข้นสายนมขาด.
.ลูกกินนมแม่กินน้ำ
เช้าค่ำ ก็คุ้ยเขี่ย
ไม่ได้พลอย แม่ก็เพลีย
ไม่ได้พัก เพราะรักลูก.
.ดิ้นรน สู้ทนถัก
สายใยสายใจผูก
ถักทอ ชีวิตลูก
ให้เป็นไทใช่เป็นทาส
....ดนตรี.........
ดิ้นรน สู้ทนถัก
สายใยสายใจผูก
ถักทอ ชีวิตลูก
ให้เป็นไทใช่เป็นทาส.
.น้ำค้าง ยังหยดใส
น้ำไคล ยังไหลมา
น้ำใจ ของมารดา
มีน้ำตา และน้ำนม.
.น้ำค้าง ยังหยดใส
น้ำไคล ยังไหลมา
น้ำใจ ของมารดา
มีน้ำตา และน้ำนม.
.น้ำค้าง ยังหยดใส
น้ำไคล ยังไหลมา
น้ำใจ ของมารดา
มีน้ำตา และน้ำนม.
.น้ำค้าง ยังหยดใส
น้ำไคล ยังไหลมา
น้ำใจ ของมารดา
มีน้ำตา และน้ำนม.
..
.




หนุ่มก่อสร้าง
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
E

สายเกินไป
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Eb

....ดนตรี..........
สู้ทนนอนหนาวปวดร้าวแค่ไหน
ไม่เคยหวั่นไหว
หัวใจมั่นคงซื่อตรงไม่คลาย
บน พื้นดินที่อ้างว้าง
กรรมกรก่อสร้าง
เสกสรรเป็นเมืองวิ ไล.
เสียงฆ้อนตะปูโบกปูนประสาน
ก่อเป็นเชิงชั้น
สวยงามตามแต่งที่เขียนไว้ให้
งาน เร่งโอทีแทบตาย
ก่อสร้าง ไม่ดีไม่ได้
ประเดี๋ยวตึกพังถล่ม
....ดนตรี......
>เมืองไทยงาม หรู
เหลียวดู ตึก ก็รู้ โต้ ลม
กรรมกร นอนในเพิงโทรมๆ
ฆ้อนตะปูเลื่อยกบ
สร้างฝันให้เราสาว หนุ่ม.
.ฟ้างามแห่งฝันคือวันแห่งใจ
จะอยู่แห่งไหน
เสียงเพลงก้องไปกังวานใสนุ่ม
ความ รักที่เราตกหลุม
คงจะได้ฉ่ำชุ่ม
มีหนุ่มก่อสร้าง หวัง แต่ง
....ดนตรี..........
>เมืองไทยงาม หรู
เหลียวดู ตึก ก็รู้ โต้ ลม
กรรมกร นอนในเพิงโทรมๆ
ฆ้อนตะปูเลื่อยกบ
สร้างฝันให้เราสาว หนุ่ม.
.ฟ้างามแห่งฝันคือวันแห่งใจ
จะอยู่แห่งไหน
เสียงเพลงก้องไปกังวานใสนุ่ม
ความ รักที่เราตกหลุม
คงจะได้ฉ่ำชุ่ม
มีหนุ่มก่อสร้าง หวัง แต่ง
..
.



....ดนตรี..........
กลัว ว่าจะสายเกินไป
หวั่นใจ เมื่อเธอ ไม่มาสักที
คอย เนิ่นนานเกินไปกว่านี้
ใจคงหาย
เสียใจเสียดายหนักหนา.
เท ทุ่มเทร้างเรือนเก่า
เหน็บหนาว น้ำคำ และธารน้ำตา
จูง ดวงใจที่เป็นกำพร้า
ตามหา ให้เธอเป็นคนสุดท้าย
>อยาก เป็นเพื่อนปลอบยามเหงา
เข้าใจ และให้ ความหวัง
สุข ทุกข์ทั้งหมดเทเป็นทาน
ให้เธอ ไปถึงตรงเส้นขอบฟ้า
.กลัว ว่าจะสายเกินไป
หวั่นใจ ว่าเธอ จะหวนคืนมา
ยาม ที่เรามีคนไขว่คว้า
ใจคงหาย
เสียใจเสียดายเจ้าเอย
....ดนตรี..........
>อยาก เป็นเพื่อนปลอบยามเหงา
เข้าใจ และให้ ความหวัง
สุข ทุกข์ทั้งหมดเทเป็นทาน
ให้เธอ ไปถึงตรงเส้นขอบฟ้า
.กลัว ว่าจะสายเกินไป
หวั่นใจ ว่าเธอ จะหวนคืนมา
ยาม ที่เรามีคนไขว่คว้า
ใจคงหาย
เสียใจเสียดายเจ้าเอย
โอ้ใจคงหาย
เสียใจเสียดายเจ้าเอย
..
.




ลำตะคอง ( Em )
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
Em

รักเรา รักษ์โลก
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
A

ดนตรี 7 Bars..5...6...
7....รวงข้าวรอเคียว
เก็บเกี่ยวกลางนา
เหลืองงามทาบทา
ทุ่งกว้างแห่งลำตะคอง
เดือนอ้าย ฟ้าใสเมฆสูงลอยล่อง
แดดทอแสงเรืองรอง
อาบทุ่งทองทิวไม้ปลายนา
พริ้วลมโลมลูบจูบผิวแผ่วเนื้อ
ล่องลอยลำเรือ
ย่ำค่ำเสียงแคนบอกลา
แสงไต้ ริบพริบๆพรายมา
คืนสู่เรือนเคหา
ถิ่นท้องนาอาบฟ้าห่มดาว...
เคียว คันเก่ากร่อนแล้วแก้วตา
โอ้นานหนักหนา
น้องนางทิ้งนาหนีไกล
ลืมรวงข้าว
ลำคลองเคยอาบน้ำใส
กลับขุ่นข้นเหมือนน้ำใจ
เจ้าหนีไกลลืมลำตะคอง
ดนตรี 9 Bars..7...8...
9...เคียว คันเก่า
กร่อนแล้วแก้วตา
โอ้นานหนักหนา
น้องนางทิ้งนาหนีไกล
ลืมรวงข้าว
ลำคลองเคยอาบน้ำใส
กลับขุ่นข้นเหมือนน้ำใจ
เจ้าหนีไกลลืมลำตะคอง
รวงข้าวรอเคียว
เก็บเกี่ยวกลางนา
รอน้องแก้วตา
เกี่ยวก้อยร้อยเคียวเกี่ยวรวง
เดือนยี่ ตัวพี่นี่แสนเป็นห่วง
เหมือนเม็ดข้าวทิ้งรวง
เจ้าลับล่วงลืมลำตะคอง
เหมือนเม็ดข้าวทิ้งรวง
เจ้าลับล่วงลืมลำตะคอง...



....ดนตรี..........
ร้อย มาลัย ให้เธอ
ขอดอก หญ้าที่งามตามพื้น
ป่าเขา ที่เรา ชิดชื่น
เป็น มาลัยให้เธอ
แทน คำมั่นเสมอ
ว่ารักเรา รักษ์โลก.
.ร้อย เอาความ มั่นใจ
ให้หมอก อุ้มลมผสาน
แผ่วพริ้ว พรมพาน พฤกษา
สกุณา ถึงคชสาร
แทนถ้อยคำฉ่ำหวาน
ว่ารักเรา รักษ์โลก.
ต่อ แต่นี้ รักเรา รักษ์โลก.
นานแค่ไหน รักเรา รักษ์โลก.
ตราบชีวิต รักเรา รักษ์โลก.
....ดนตรี..........
ร้อย มาลัย ให้เธอ
ขอดอก หญ้าที่งามตามพื้น
ป่าเขา ที่เรา ชิดชื่น
เป็น มาลัยให้เธอ
แทน คำมั่นเสมอ
ว่ารักเรา รักษ์โลก.
.ร้อย เอาความ ตั้งใจ
ให้หมอก อุ้มลมผสาน
แผ่วพริ้ว พรมพาน พฤกษา
สกุณา ถึงคชสาร
แทนถ้อยคำฉ่ำหวาน
ว่ารักเรา รักษ์โลก.
ต่อ แต่นี้ รักเรา รักษ์โลก.
นานแค่ไหน รักเรา รักษ์โลก.
ตราบชีวิต รักเรา รักษ์โลก.
..
.




No comments:

Post a Comment