MV รอรักใต้ต้นกระโดน - ไมค์ ภิรมย์พร
++++
คลิกที่ + - เพื่อเพิ่ม ลดความเร็วในการดูภาพ
===== Photo album =====
- รูปถ่ายของ แมงปอ ชลธิชา มาเยือนเวทีไท 18 สค.2550
- รูปถ่ายของ น้องเบนซ์ จูเนียร์ บนเวทีไท 18 สค.2550
- รูปถ่ายของไผ่ พงศธร มาออกรายการ 07 show 12 สค 50
- รูปถ่ายของ ก็อท จักรพันธ์, แพรวา พัชรี, ไผ่ พงศธร, รัชนก ศรีโลพันธ์, ดอกอ้อ ทุ่งทอง บนเวทีไท 11 สค.50
- รูปถ่ายพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
- รูปถ่ายไหมไทย ใจตะวัน บนเวที 7 สีคอนเสิร์ต 11 สค.2550
- ภาพบรรยากาศ งานมหกรรมคอนเสิรต์ "ด้วยรักแด่ครูสลา" 11 มี.ค.50
Monday, June 29, 2009
Friday, June 26, 2009
"เพชร" เดินหน้าสร้างหุ่นขี้ผึ้งแม่ พร้อมประกาศหามือโพสต์
"เพชร" เดินหน้าสร้างหุ่นขี้ผึ้งแม่ พร้อมประกาศหามือโพสต์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2552 14:22 น.
"เพชร" เดินหน้าสร้างหุ่นขี้ผึ้ง "พุ่มพวง" หวังให้เหมือนแม่ให้มากที่สุด
พร้อมประกาศตามหามือโพสต์ในเว็บเมเนเจอร์ วอนช่วยติดต่อกลับ
สุดอึ้งรู้เรื่องราวของตนเองขณะที่อยู่อเมริกา
แม้เรื่องราวความขัดแย้งกับ "ไกรสร แสงอนันต์" บิดา และญาติๆ
ทางฝ่ายแม่จะยังไม่สิ้นสุดรวมถึงดูท่าจะบานปลายออกไปเรื่อยๆ ทว่า "เพชร
สรภพ ลีละเมฆินทร์" ทายาทหนึ่งเดียวของราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าหุ่นขี้ผึ้งแม่ต่อไปอย่างแน่นอน
"กับข่าวที่เกิดขึ้นคิดมันค่อนข้างแรง แต่ก็มีคนเข้าใจผมมากขึ้น
ก็อยากจะขอขอบคุณทุกๆ คนที่เข้าใจผมรวมไปถึงพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย
ส่วนเรื่องหุ่นที่ค่อนข้างถามกันมาเยอะ
ผมก็ยังยืนว่ายังไงก็ต้องทำแน่นอนอยู่แล้ว เพราะแฟนเพลงก็เชียร์ให้ทำ
ดูจากผลโหวตในรายการของอาสรยุทธ 93.88 เปอร์เซ็นต์ก็อยากให้ทำ
ใจผมก็อยากจะทำด้วย แต่ว่าผมไม่มีตังค์ก็เลยต้องขอรับบริจาค
เผื่อมีใครที่อยากจะร่วมกันสร้างกับผม"
"ตอนแรกๆ เลยทางคุณแม่บุญธรรมกับคุณยายบอกว่าจะให้เงินไปทำ
ท่านบอกให้ทำไปเลยไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับใคร แต่ผมเกรงใจ
เพราะผมก็อยู่กับเขามานานแล้ว เขาเลี้ยงผมมา 4-5
ปีก็หมดเงินไปกับผมหลายล้านแล้ว ยังไงผมก็เกรงใจ"
"ก็เลยคิดว่าไหนๆ ผมก็บวชแล้วก็มีคนเอาเงินมาทำบุญ
ก็เลยคิดว่าจะเอาเงินตรงนี้ไปสร้างหุ่น แต่ก็มีอะไรมาขัดเยอะแยะเลย
ยังไงก็ตามผมก็ยังยืนยันจะสร้างต่อไปถึงจะนานแค่ไหนก็จะสร้าง
เราเองก็ไม่ได้รีบ อยากจะทำให้ออกมาเร็วที่สุด"
"บางคนอาจจะคิดว่าทำไมผมต้องสร้างหุ่น
คือผมอยากจะบอกว่าผมคิดถึงแม่ และก็อยากจะให้คนจำภาพแม่พุ่มพวงได้
ก็เลยอยากสร้างเป็นหุ้นขี้ผึ้งเอาแบบเหมือนตัวจริง
เหมือนคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเลย ผมอยากให้คนจดจำไปอีก 40-50
ปีว่าคนนี้แหละคือแม่พุ่มพวง ดวงจันทร์"
นอกจากจะใช้งบประมาณในการสร้างหุ้นไม่ต่ำกว่า 3 แสนแล้ว
การดูแลรักษาหุ่นขี้ผึ้งก็ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาดูแลค่อนข้างสูง
มิหนำซ้ำญาติฝ่ายแม่ก็ประกาศโครมครามแล้วว่าไม่ยอมให้สร้าง
เห็นทีความฝันของ "เพชร" คงจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว
"เท่าที่ถามๆ มาเขาบอกว่าต้องใช้งบขั้นต่ำ 3 แสนบาทขึ้นไป
และพอสร้างก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ค่อนข้างใช้งบประมาณ
ยังไงตรงนี้คงต้องดูอีกที ส่วนเรื่องวัดตอนนี้ก็ติดต่อไปแล้ว
ทางวัดเขาก็โอเค แต่ผมขออนุญาตไม่บอกเพราะกลัวว่าจะมีมารมาขัด
ถ้าเกิดจะมีใครมาขัดก็คงจะให้ประชาชนตัดสินดีกว่าว่าคิดยังไง"
พร้อมประกาศตามหาบุคคลคนหนึ่งที่เข้ามาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงพฤติกรรมของ
บิดาและตนเองระหว่างใช้ชีวิตอยู่อเมริกา
โดยสามารถติดต่อเข้ามาหาเจ้าตัวได้ที่ PETCH_FANCLUB@HOTMAIL.COM
"กับข่าวที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างมีฟีดแบกเหมือนกัน
อย่างในอินเทอร์เน็ตก็มีคนพูดกันไปต่างๆ นานา
แต่มีความเห็นหนึ่งที่มาโพสต์ในเว็บเมเนเจอร์และพูดถึงเรื่องของผมตอนที่
อยู่เมืองนอก ผมอ่านแล้วรู้สึกพี่คนที่โพสต์เขาจะรู้เรื่องของร้านอาหารที่ผมอยู่หมดเลย
ว่าชีวิตของผมเป็นยังไงบ้าง"
"และก็ขอขอบคุณที่พี่เขาออกมาเล่า ขอบคุณที่เข้าใจผม
ผมอยากจะเจอกับพี่เขามาก
ก็อยากจะให้ที่นี่เป็นสื่อกลางช่วยประกาศตามหาพี่คนที่มาโพสต์ข้อความเหล่า
นี้ให้หน่อย"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000071607
ทนไม่ไหวคะ ขอเล่าบ้างแล้วกัน สงสารน้อง
น้องเพชรน่าสงสารจากที่ได้เคยช่วยดูแลตอนอยู่อเมริกา
น้อง ถูกทิ้งไว้ที่ร้านอาหารหลังจากเลิกเรียน ​(ไฮสคูล)
ร้านอาหารที่นี่จะเปิดดินเนอร์ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม
พ่อไปเสพสุขกับเมียชาวบ้านเขา พอกลับเข้าร้านมา 3-4 ทุ่ม การบ้านไม่เสร็จ
เพราะต้องรอคนเสริฟอาหารช่วยสอน ในห้องอาหารไฟสลัว ก็โดนคนที่เป็นกิ๊กพ่อ
(เมียคนอื่น) ด่าว่าสอนเท่าไรไม่รู้จักจำทำไม โง่เป็นวัวเป็นควายอย่างนี้
ลูกฉันสอนครั้งเดียวก็รู้เรื่อง น้องเพชรได้แต่มองพ่อ
ซึ่งไม่ได้ปกป้องอะไรเลย แถมยังเสริมท้ายผู้หญิงคนนั้นว่า ใช่ๆ
สอนไม่รู้จักจำ เราได้ยินถึงกับอึ้ง นั่นคือตอนที่เราเข้าไปทำงานใหม่
พอทำไปสักพัก คุณพ่อแสนดีก็พาผู้หญิงอีกคนที่พอมีผลประโยชน์ให้ไปมีอะไรกันที่บ้าน
ซึ่งมีห้องนอนเดียว แล้วมาเล่าให้ที่ทำงานฟังว่า เมื่อคืนทำท่าไหน
ทำไปกี่ที
ที่ห้องรับแขก โดยที่ลูกชายที่เป็นวัยรุ่นนอนอยู่ในห้องนอน
แล้วคุณพ่อจะมาพูดอวดของเขาว่ามีกล้วยอันเดียว
ผู้หญิง ก็หลงแล้ว แหวนที่คุณผึ้งรัก
รู้สึกจะเป็นแหวนแต่งงานโดนผู้หญิงคนใดคนนึงยึดไว้ด้วยเช่นกัน
เห็นผู้หญิงคนนึงบ่นเพราะเขาบอกว่าให้ไกรสรไปเยอะ ฉันไม่คืนหรอก
เราทำงานกับคุณพ่อแสนดี แล้วก็ช่วยสอนการบ้านน้องบ้างเพราะสงสาร
สำหรับเรา น้องเป็นเด็กดี พูดครับตลอด แต่แววตาเขานั้นเศร้าตลอดเวลา
เช่นกัน จะกินอะไรต้องรอคนในครัวตวาดมาถาม ว่าจะะกินอะไร
เพราะเหมือนไปเพิ่มงานให้เขา คุณพ่อก็ช่วยสมทบว่ากินอะไรก็กินง่ายๆ หน่อย
อย่าเรื่องมากนัก คุณพ่อนั้นชอบงานสบาย เขาก็คือพนักงานเสริฟในร้านคนนึง
แต่มีพ่วงว่าเป็นกิ๊กกับคนใหญ่โตในร้านก็เลยนั่งเฉยๆ ซะเยอะ
เวลาปิดบัญชีเขาจะรับหน้าที่ปิดเพื่อโกงทิป จับได้กับมือว่าโกงเรา $2
อนาจใจเหลือหลาย สุดท้ายโดนกิ๊กเขาสั่งไม่ให้เรายุ่งเรื่องปิดบัญชี
ก็เลยไม่รู้ว่าโดนโกงไปอีกเท่าไร
มีวันนึงเราลืมของวิ่งกลับเข้าไปในร้านปรากฏว่ากำลังหิ้วโค๊กของร้านกลับ
บ้าน แพ็กประมาณ 10 กระป๋อง ไข่ไก่อีก ประมาณนึง โอ้แม่เจ้า
ไม่เจอไม่เชื่อจริงๆ ไกรสร แสงอนันต์
ตัวเขาก็เคยเล่าว่าตอนที่คุณผึ้งงานเยอะมากๆ เขาเบื่อก็บินมาลาสเวกัส 4
วัน หมดไป 4 ล้าน (15-20 ปีที่แล้ว) ขนหน้าแข้งยังไม่ร่วง
แต่ตอนนี้เขาต้องเอาลูกมาเรียนฟรี
(ที่อเมริการให้เรียนฟรีได้ถ้ามีคนอุปการะเด็ก)เพื่อประหยัดเงิน
เดี๋ยวเขากลับเมืองไทยจะลำบาก ก่อนกลับเมืองไทย เขาดูลายมือแล้วบอกเราว่า
กลับไปเมืองไทยเขาจะสบาย คงเพราะน้องเพชรแน่ๆ เขาจะเอาไปเข้าแกรมมี่
แล้วจะไปหาสาวไทยโง่ๆ ตามต่างจังหวัดมาเป็นเมียไม่จดทะเบียน
จะได้คอยดูแลบ้าน ประหยัดเงิน ไม่ต้องไปจ่ายเงินให้โสเภณี เสี่ยงด้วย
(เฮ้อ) อันนี้ย่ิงชั่วกว่า เขา ไปเบิกเงินบริษัทบัตรเครดิตไว้ไม่ตำ่กว่า
10 ใบ เบิกเงินสด ที่นี่เขาเรียก cash advance ซึ่งดอกเบี้ยแพงมาก
บริษัทละประมาร $1000-$5000 แล้วก็บินกลับเมืองไทย
คงคิดว่าจะไม่กลับมาอีก เรารับโทรศัพท์จากแบงค์ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ราย
ซึ่งพนักงานเขาเป็นคนบอกเองว่า
ฉันจะไปตามเขาได้ที่ไหนเขาเบิกเงินสดไปเท่านี้ เราได้แต่บอกว่า
เขาอยู่ไทยแลนด์ ก็คิดว่าเขาตามไปเก็บไม่ได้
เพราะเห็นไกรสรก็อยู่สุขสบายดี แบบอย่างทุเรศอย่างนี้ พูดจาอย่างนี้
เราไม่เคยโทษเด็กเลย
อยากให้น้องเพชรกลับมาอยู่ที่อเมริกาดีกว่าอยู่ให้ผู้ใหญ่ที่เมืองไทยทึ้ง
เอาอย่างนี้ สงสารน้องจริงๆ คะ
จากคุณ : น้องนู๋ - [ 17 มิ.ย. 52 09:20:27 A:75.6.235.156 X: TicketID:220485 ]
ที่พี่โพสวันนี้ก็แค่อยากให้กำลังใจน้องเพชรค่ะ...............
ถึงน้องเคยเสียอะไรมาตั้งมากมาย แต่ถ้าน้อง"ไม่เสียกำลังใจ"
พี่ว่าน้องจะต้องก้าวต่อไปได้อย่างแน่นอน
อย่าไปคิดมากเลยค่ะ เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป........
ผ่านไป..........แล้วก็ผ่านไป...............................
วันนี้ถ้าน้องก้าวผ่านจุดนี้ไปได้
ต่อไปในภายภาคหน้าถ้าน้องย้อนกลับมาดูเรื่องราวในอดีต น้องจะรู้ว่า
สิ่งที่น้องเพชรทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถึงจะไม่ดีที่สุดในสายตาใคร ๆ ก็ตาม
เกิดเป็นมนุษย์ ก็อย่างนี้แหละค่ะ มี รัก โลภ โกรธ หลง
ถ้าน้องเพชร "เข้าใจ" ตัวเอง และ "ตัดใจ" ในเรื่องบางเรื่อง
พี่คิดว่าน้องจะอยู่อย่างมีความสุข
ใครก็ตามที่ไม่เคยขาดแม่ ขาดความอบอุ่น..................
ไม่ รู้หรอกค่ะว่ามันเจ็บปวดสักแค่ไหน ยิ่งถ้าคนที่อยู่ข้างหลัง พ่อ
ญาติพี่น้อง ไม่รักไม่เข้าใจอีก ก็เท่ากับว่าเพิ่มความเจ็บปวดเป็นทวีคูณ
สงสาร เห็นใจ เข้าใจ ค่ะ ถึงพี่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของน้องเพชร
แต่ความรักของคนเราก็แบ่งปันกันได้ใช่ไหมคะ
ก้อย
อยากให้น้องเพชรอโหสิกรรมให้คนเป็นพ่อซะ ถึงแม้จะเป็นพ่อที่แย่มั๊กๆ
ปล่อยให้เวรกรรมตามชำระเขาเองเถอะ น้องควรอยู่นิ่งๆ เงียบๆ
ไม่ต้องต่อปากต่อคำ สังคมส่วนใหญ่เขาน่าจะรับรู้ได้ว่าใครเป็นยังไง
พี่อยากให้น้องมีชีวิตที่ดี ถ้าเราบริสุทธิ์ใจมารก็ทำอะไรเราไม่ได้
อีกอย่างคำว่าพ่อมันไม่สามารถลบทิ้งได้ เพียงแต่เราไม่อาจอยู่ร่วมกันได้
ก็ต่างคนต่างอยู่
การอโหสิกรรมเป็นทานอันยิ่งใหญ่ถ้าทำได้จะดีกับตัวน้องเอง
พี่เชื่อเสมอว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วเป็นสัจจธรรมที่จริงแท้
ถ้าน้องทำดี คิดดี ขอผลบุญส่งให้น้องและทุกคนในครอบครัว (ใหม่)
ทุกๆคนจงประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ปรารถนา โดยเฉพาะหุ่นของแม่พุ่มพวง
ถ้าบริสุทธิ์ใจขอให้สร้างได้สำเร็จในเร็ววัน สาธุ
ญไทย
เราอยู่ข้างน้องเพชรนะ เพราะมีพ่อสร้างภาพเหมือนกัน
แต่วันนี้ได้ยินว่าขอช่วยบริจาคแล้วเกิดความไม่เห็นด้วย
เรา มองว่าเพชรเป็นคนมีต้นทุนทางสังคมดีกว่าคนอื่น มีชื่อเสียง
มีความสามารถระดับหนึ่ง
เพชรน่าจะลงแรงทำงานออกมาสักชิ้นแล้วหารายได้จากตรงนั้น
คนที่มีกำลังช่วยในวงการย่อมมี ออกเป็นอัลบั้มการกุศลก็ได้
อาจได้เงินช้าหน่อย แต่สง่างามกว่าขอรับบริจาคนะ
เพราะสิ่งที่เพชรทำคือทำเพื่อแม่ใช่ไหม แฟนๆทุกคนก็อยากช่วยอยู่แล้ว
แต่อย่าลืมว่าคนไทยตอนนี้ก็ไม่ได้มีเงินร่ำรวยเสมอไป
ทุกคนต่างมีเรื่องเดือดร้อน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ
ใครรักใคร่ให้ไปก็ตามใจเขา ถือว่าเขารักแม่พุ่มพวงและอยากช่วยเพชร
แต่เพชรควรพยายามด้วยตัวเองก่อน
เหมือนกับคนไทยที่ีไม่มีต้นทุนสังคมเหมือนเพชร แม้จะเดือดร้อน
อย่างชาวบ้านตาสีตาสาเจ็บป่วยและไม่มีปากเสียงมาขอบริจาคใครได้
เขายังต้องสู้่ด้วยตัวเองน่ะ
ขอได้แล้วมีคนใจดีมอบให้ คนให้ไม่ผิดหรอก แต่ก่อนจะขอ
ลองพยายามด้วยตัวเองก่อนดีไหม?
ขอให้โชคดี
ขออนุญาตน้องเพชร ถ้าข้อความนี้เป็นข้อความส่วนตัว
(พี่ไม่ได้รู้จักน้องเป็นการส่วนตัว)
แต่ พอดีเคยหาข้อมูลทางเวบแล้วเคยไปเจอข้อมูลที่น้องเพชรเคยโพสไว้นานแล้ว
ตั้งแต่ปี 49 (ถ้าไม่เหมาะสม ช่วยแจ้งลบด้วยนะคะ) พอดีเซฟข้อความไว้
เพราะอ่านแล้วชอบความคิดบางอย่าง อาจเพราะโตมาคล้ายๆกัน
แต่พี่โชคดีกว่าน้องมาก ยังมียายที่รักหลาน คอยปกป้อง คุ้มครอง
เผื่อ จะมีใครเข้าใจบ้าง ว่าบางที แต่ละครอบครัวก็ไม่เหมือนกัน
เด็กแต่ละคนก็พบเจอมาไม่เหมือนกัน พฤติกรรมและการแสดงออก
ก็จึงแตกต่างกันแบบนี้ เด็กคือผ้าขาวจะเป็นอะไร ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่
คนในครอบครัวปั้นแต่ง
*************************************
ข้อความของน้องเพชร
วันนี้วันพ่อ !!!
วันนี้ เป็นวันพ่อ เด็กสองคนที่ไร้พ่ออย่างเพชรกับอ้อยก็เศร้าทั้งคู่ครับ
แต่เราสองคนก็ยังดีใจที่ถึงวันนี้เราสองคนจะไม่มีพ่อแต่เราก็มีแม่กับยายที่
คอยดูแลและเลี้ยงดูเราสองคนเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะเพชรที่ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกหลายแท้ๆ
ของแม่กับยายแต่แม่กับยายก็เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเพชรจนเป็นคนดีได้แบบเพชร
เป็นลูกหลานแท้ๆ เพชรดีใจที่ได้มีครอบครัวเหมือนอย่างวันนี้
ถึงแม้วันนี้จะรู้สึกเจ็บปวดใจแต่ก็ดีใจที่ยังมีครอบครัวยืนเคียงข้างและคอย
ปลอบใจเพชรเสมอมา ขอบคุณอ้อยที่คอยเป็นกำลังใจและซับน้ำตาให้เพชรมาตลอด
จริงๆ แล้วเมื่อคืนอ้อยบอกให้เพชรโทรหาพ่อหรือส่งการ์ดให้พ่อแต่เพชรว่าอะไรๆ
มันไม่เหมือนเดิมแล้วครับทุกคน หัวใจมันสลายไปแล้ว
สิ่งที่เพชรจะให้พ่อได้ดีที่สุดตอนนี้คือเพชรจะพยายามลืมในสิ่งที่เคยเกิด
ขึ้น เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า แล้วสิ่งที่เพชรอยากจะขอจากพ่อในวันนี้คือ
อย่าทำลายครอบครัวของเพชรอีกเลยนะครับพ่อ !!!
เพชรเชื่อว่าแม่ พุ่มพวงดีใจที่เพชรกลับตัวเป็นคนดีได้อย่างทุกวันนี้
แล้วเพชรสัญญานะครับหม่าม๊าว่าเพชรจะไม่กลับไปทำตัวแบบเมื่อก่อน
เพชรจะดีเพื่อครอบครัวที่หม่าม๊าส่งมาให้เพชร
จะไม่ทำให้พวกเค้าเสียใจแบบที่เผ่านมาอีก
เพชรไม่มีอะไรที่จะตอบแทนพวกเค้า พวกเค้าไม่เคยร้องขออะไร
แต่สิ่งที่เพชรจะให้พวกเค้าได้ก็คือสิ่งที่พวกเค้าให้กับเพชร
นั่นก็คือความรัก รักที่ไม่หวังผลตอบแทน
รักบริสุทธิ์ที่เพชรไม่เคยพบเจอมาก่อน วันนี้เพชรเจอมันแล้ว
และเพชรจะรักษามันให้ดีที่สุด
ถึงวันนี้เพชรจะไม่มีพ่อแล้วแต่เพชรเชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาเพชรจะเป็น
พ่อที่ดีของลูกเพชรให้ได้ครับหม่าม๊า " เพชรสัญญา " !!!
ธาร
"เพชร" ท้าพิสูจน์ ไม่ได้บ้า เข้าตรวจสุขภาพจิตแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2552 22:55 น.
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072147
"เพชร" โร่พิสูจน์ตัวเองไม่ได้บ้า เข้าตรวจสุขภาพจิตกับแพทย์ที่
รพ.ศิริราช เบื้องต้นตรวจร่างกายแล้ว ขั้นตอนต่อไปรอหมอนัดตรวจทางจิต เผย
ไม่มีความกังวลใจใดๆ แต่ที่ยอมมาตรวจเพราะอยากให้ความจริงกระจ่าง
หลังจากวานนี้(24 มิ.ย.) "ไกรสร แสงอนันต์"
ดิ่งเข้าโรงพยาบาลสวนปรุง ที่จังหวัดเชียงใหม่
เพื่อให้หมอตรวจสุขภาพจิตให้ตามที่เคยประกาศไว้
ซึ่งผลปรากฏว่าไม่มีอาการป่วยใดๆ
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้(25) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "เพชร สรภพ
ลีละเมฆินทร์" ก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช
เพื่อตรวจสุขภาพจิตตามที่ผู้เป็นพ่อเรียกร้องไว้บ้าง
ทั้งนี้เจ้าตัวเผยว่า การตรวจครั้งนี้ไม่ได้แจ้งใครเป็นพิเศษ
ทำทุกอย่างเหมือนมาตรวจสุขภาพทั่วไป พร้อมบอก ที่ยอมมาก็เพราะพ่อขอไว้
ที่สำคัญอยากให้เรื่องราวคลี่คลาย และพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้บ้า
ซึ่งเบื้องต้นคุณหมอได้ตรวจร่างกายไปแล้ว
แต่ขั้นตอนตรวจสุขภาพจิตต้องรอหมอนัดอีกที ซึ่งก็คงเป็นเร็วๆ นี้
ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใจใดๆ เนื่องจากรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้บ้า บอก
ถ้าผลการตรวจออกมาเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป
Wednesday, June 24, 2009
ทนายชี้ "หมอ" ไม่มีสิทธิ์แถลงว่าใครบ้า ส่วน "ไกรสร" ถ้าใช้มรดกหมดเตรียมหามาคืน "เพชร" ได้เลย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ทนายเตือน "หมอ" ไม่มีสิทธิ์มาแถลงว่า "เพชร" บ้า แย้ง
ยิ่งถ้าไม่มีผลการตรวจมายืนยัน เพชรมีสิทธิ์ฟ้องเอาผิดได้ ส่วนกรณีที่
"ไกรสร" ฟ้องหมิ่นลูกชายฐานกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ ทนายแย้ง
ถ้าคิดว่าลูกบ้าแล้วฟ้องทำไม เพราะกฎหมายเอาผิดคนบ้าไม่ได้
ส่วนเรื่องมรดก เพชรมีสิทธิ์ฟ้องได้
ต่อให้ทางไกรสรใช้หมดก็เตรียมหามาใช้หนี้ได้เลย
เป็นที่พูดถึงอย่างมากทีเดียว กับกรณีที่ "ไกรสร แสงอนันต์"
ลุกขึ้นมาประกาศฟ้อง "เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์" ลูกชายสุดที่รักที่เกิดกับ
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ในข้อหาหมิ่นประมาทฐานกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ
กรณีไม่พอใจที่เพชรให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ไม่สามารถอยู่กับพ่อได้
เป็นเพราะถูกพ่อกระทำมาตั้งแต่อายุ 12 แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องอะไร
เนื่องจากบอกไปสังคมก็รับไม่ได้ เป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ผู้คนรังเกียจ จึงจำเป็นต้องลุกขึ้นมาฟ้องดังกล่าว
ทั้งนี้ไกรสรยังอ้างอีกว่ามี
หมอหลายคนโทร.มาบอกว่าเพชรน่าจะมีปัญหาทางจิต
และแนะนำให้ตนฟ้องศาลเพื่อเอาลูกไปตรวจรักษา
พร้อมเตรียมแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวในวันนี้ (22 มิ.ย.)
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ จังหวัดเชียงใหม่
ซ้ำยังจะเอาหมอมาร่วมแถลงด้วยเพื่อยืนยันความน่าจะเป็นดังกล่าว
เนื่องจากเคสนี้อยู่ในความสนใจ และไม่ค่อยจะมีปรากฏมากนัก ทาง
"ASTVผู้จัดการออนไลน์" จึงได้ติดต่อไปยังทนาย "สาคร ศิริชัย"
ทนายชื่อดังที่ว่าความให้ "หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม" คดีฟ้องนักร้องสาว
"ลีเดีย ศรัณย์รัชต์" รวมไปถึงคดีที่ "ไผ่ วันพ้อยท์" ฟ้อง "บ๊วย
เชษฐวุฒิ" และ "เอ๋ พรทิพย์" ข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง
กรณีพูดในรายการ "คันปาก" ช่อง 7 ถึงกระแสข่าวลือ "หยาดทิพย์ ราชปาล"
นางเอกช่อง 3 มีข่าวไปอัพยาที่บ้านไผ่ วันพ้อยท์
เพื่อสอบถามถึงการฟ้องร้องดังกล่าว
ทั้งนี้ทนายสาครชี้ว่า หมอไม่มีสิทธิ์จะมาแถลงว่าใครเป็นบ้า
นอกจากจะผิดจรรยาบรรณแพทย์แล้ว
ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์มาชี้ชัดว่าเพชรเป็นบ้าจริง
ส่วนการที่ไกรสรฟ้องหมิ่นลูกชายนั้น ทนายแย้ง
ถ้าคิดว่าลูกบ้าแล้วฟ้องทำไม เพราะกฎหมายเอาผิดคนบ้าไม่ได้
"ถ้ามีหลักฐานปรากฏชัดว่าคุณเพชรหรือบุคคลอื่นใดพูด
ซึ่งเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงหรือเป็นการขายข่าว
ถ้าเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงทำให้คุณไกรสรเสียหายก็ฟ้องได้ในข้อหาหมิ่น
ประมาท หรือถ้าลงตีพิมพ์ก็สามารถฟ้องหนังสือพิมพ์ได้
ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้ามีการพูดว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ
หรือการกระทำที่เสียหายอื่นๆ ถือเป็นการใส่ความผู้อื่น
สามารถฟ้องหมื่นประมาทได้เลย"
"ในรูปคดีคุณไกรสรได้เปรียบ เพราะเรื่องนี้ทำให้เขาเสียหายมาก
ผู้หมิ่นประมาทที่พูดออกไป ถึงอีกฝ่ายจะมีหลักฐานมาพิสูจน์หักล้างได้
เพราะถ้าพิสูจน์หักล้างแล้วมันไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ศาลห้ามพิสูจน์
แม้เรื่องมันจะจริงก็ตาม แต่มันทำให้เขาเสียหาย
แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว"
"เท่าที่ผมเห็นน้องเพชรให้สัมภาษณ์
ผมยังไม่เห็นว่าน้องเขายืนยันว่าพ่อทำอะไร
เขาบอกแค่ว่าขอยุติไม่พูดเรื่องดังกล่าว และขอหยุดเขาพยายามตอบเลี่ยงไป
อย่างนี้ยังไม่เข้าข้อหา ดูแล้วยังไม่มีข้อหาที่ว่าเขาผิด
เพราะเขาไม่ได้ระบุชี้ชัด คือจะต้องเอาข้อความนั้นมาวิเคราะห์ดูว่า
มันเป็นการยืนยันหรือไม่ หนึ่งยืนยันว่าเพชรหมายถึงคุณไกรสรหรือไม่
สองข้อความนั้นทำให้เขาเสียหายหรือไม่
ถ้ามีสองข้อนี้ก็จะเป็นความผิดหมิ่นประมาท
แต่ถ้าเขาให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อได้ล่วงละเมิดทางเพศเขาตั้งแต่อายุ 12
และจะไม่ขอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว อย่างนี้เพชรผิดครับ"
"คือเท่าที่ผมฟังถ้อยคำที่เพชรให้สัมภาษณ์ก็ยังก้ำกึ่ง
เพชรก็ยังไม่ยืนยันอยู่ดี
แต่ถ้าถามว่าถ้าฟ้องไปแล้วในขั้นตอนการไต่สวนจะมีมูลมั้ย
ซึ่งที่เพชรบอกว่า ถูกพ่อกระทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้นั้น
มันอาจจะมีหลายเรื่อง เช่น พ่ออาจจะใช้วิธีที่รุนแรงในการอบรมสั่งสอนลูก
นี่คือสมมตินะ เพราะมันก็มีหลายสาเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้
แต่ที่ทำให้คนเข้าใจไปว่าน่าจะเป็นเรื่องนั้น
เพราะมันมีประเด็นนั้นขึ้นมา"
"เหมือนคดีที่ผมฟ้องคุณบ๊วย เชษฐวุฒิ กับ คุณ เอ๋ พรทิพย์
สื่อก็เข้าใจกันไปเองว่าเป็นหยาดทิพย์ แต่ที่คุณนุ้ย(ดีเจ EFM)
พูดไปสืบต้นตอจริงๆ คุณนุ้ยไม่ได้ระบุอย่างนั้น
เขาไม่ได้พูดว่านางเอกชื่ออะไร และไปอัพยาบ้านใครชื่ออะไร
แต่ผู้สื่อข่าวเขาไปคิดเอาเองว่าเป็นนายก. นายข. นายค. แล้วก็มาพูดนี่ผิด
ถามว่าเพชรพูดอย่างนี้มันผิดมั้ย มันไม่ถึงขนาดว่าผิด
แต่ถ้าสื่อเอาไปลงชัดเจน สื่อจะผิดเอง
เหมือนอย่างคุณบ๊วยคุณเอ๋ที่เอาไปพูดในรายการ
แล้วมีการเสริมถ้อยคำระบุชัดเจนลงไปว่าคือใคร แบบนี้ก็เลยฟ้องได้ครับ"
"ดูเจตนาเพชรเขาแล้ว เขาเองก็พยายามจะเลี่ยงไม่พูดถึง
แต่มันเป็นคำถามของสื่อที่พยายามเจาะเพื่อเอาข้อมูล
แต่เพชรเขาก็เลี่ยงที่จะตอบ เจตนาลึกๆ ของเขาก็ไม่ได้อยากพูด
คดีนี้ถ้านำสืบจริงๆ ก็ฟ้องได้ มีมูล แต่ว่าเพชรไม่ได้ระบุนี่
ว่าคุณพ่อล่วงละเมิดทางเพศเขา เป็นถ้อยคำของผู้สื่อข่าว
ที่ไปตีความและเข้าใจกันเอง ทีนี้ก็ต้องสู้กันด้วยหลักฐานครับ
แต่กรณีที่สื่อเอาไปลงแบบมีการระบุชัดเจน
ถ้าคุณไกรสรจะฟ้องสามารถฟ้องเล่มที่ลงได้เลย"
ในกรณีที่ไกรสรฟ้องหมิ่นประมาทเพชร ฐานกว่าหาล่วงละเมิดทางเพศ
และเห็นว่าลูกน่าจะจิตไม่ปกติ จึงอยากฟ้องเพื่อเอาลูกมารักษานั้น
ทนายชี้ว่า หากเพชรไม่มีหลักฐานที่จะเอามาสู้คดี
เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานหลายปี
ทางเดียวที่เพชรจะสู้ได้ก็คือ....
"ถ้าเพชรจะสู้ได้ ก็ในลักษณะที่ว่าเขาได้รับการกดดัน เช่น
เขาเคยพูดว่าพ่อให้ตังค์ใช้วันละ 5-10 ดอลล่าร์
อันนี้ก็ดูเป็นความกดดันอย่างหนึ่ง
ซึ่งอันนี้คนอื่นฟังแล้วอาจจะคิดว่าพ่อไปกดดันลูกหรือเปล่า
แต่เขาไม่ได้ไปบอกว่าพ่อข่มขืนเขา แต่เป็นถ้อยคำของผู้สื่อข่าว
การฟ้องต้องเจาะถ้อยคำอย่างนี้เลย ถ้าจะสู้ก็ต้องสู้ในแง่ที่ว่า
เขาได้รับการกดดันจากการเลี้ยงดู การสั่งสอน การที่ไม่ให้อิสระ
เพราะจากการสัมภาษณ์เขาหมายความอย่างนั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาระบุเอง ตรงนี้เพชรเอามาสู้ได้
แต่เขาไม่ได้พูดว่า พ่อไปทำอะไรแบบนั้นเขา"
ส่วนการที่ไกรสรอ้างว่า ที่ฟ้องเพราะอยากเอาลูกกลับมารักษาตัว
เนื่องจากเห็นว่าลูกชายพูดจาเหมือนคนจิตไม่ปกติ
เวลาให้สัมภาษณ์หรือการกระทำบางอย่างเหมือนคนไม่มีสตินั้น ทนายแย้งว่า
ยังมองไม่เห็นประเด็นว่าจะสามารถทำได้ เนื่องจากเป็นแค่การกล่าวหา
ซึ่งในทางกฎหมาย
การจะบังคับใช้ตรงนี้ต้องมีใบรับรองจากแพทย์ก่อนว่าเพชรจิตไม่ปกติจริง
ถึงจะดำเนินการได้
"เท่าที่ดูตอนนี้นี้ยังไม่มีประเด็นนะ
ว่าจะฟ้องแล้วเอามาพิสูจน์ได้ยังไง
ถ้าจะฟ้องเพราะเห็นว่าจำเลยมีความผิดปกติทางจิต แต่ถ้าจะฟ้องหมิ่นประมาท
เพื่อที่จะนำสืบว่าเขามีความผิดปกติทางจิตอย่างนั้น
มันไม่มีประเด็นที่จะทำได้เลย ถ้าจะฟ้องอย่างนั้นมันกฎหมายครอบครัว
กรณีแย่งสิทธิ์อำนาจปกครอง แต่ปรากฏว่าคุณเพชรก็บรรลุนิติภาวะแล้ว
กฎหมายครอบครัวก็ใช้บังคับเขาไม่ได้
มันก็ยังไม่มีประเด็นเรื่องจะเอาตัวเขามาพิสูจน์ได้ยังไง
ผมยังคิดไม่ออกนะครับ มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ในฐานะนักกฎหมายผมคิดว่า
เขาอาจจะมีช่องทางอื่นนะ
เพราะเท่าที่เห็นนี่ยังไม่เห็นช่องทางที่เขาจะเอาลูกมาพิสูจน์ได้ยังไง
ถ้าตัวเขาไม่ยินยอมที่จะไปตรวจ เพราะเขาก็ยืนยันว่าเขาปกติ
และมันก็ไม่มีกระบวนการที่จะไปทำด้วยครับ เขายังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา
และตัวเขาเองก็ไม่ได้ยอมรับว่าตัวเองผิดปกติ"
"ถ้าจะฟ้องเพื่อเอาไปพิสูจน์ทางจิตได้ ก็ต้องอย่างคดีของจิตรลดา
ที่ไปแทงเด็กในโรงเรียนเซนต์โยเซฟ แล้วเขาต่อสู้ว่าเขาทำไปเพราะความบ้า
เขาทำไปเพราะตัวเองมีโรคทางจิตเภท
เพื่อที่จะหลักเลี่ยงการรับโทษทางกฎหมาย
ซึ่งในทางกฎหมายคนที่ทำไปเพราะความผิดปกติทางจิต หรือถือว่าเขาป่วย
ถ้าเป็นอย่างนั้นจะต้องยุติการพิจารณาคดี
แพทย์ต้องให้ความเห็นก่อนว่าคนนี้ผิดปกติทางจิตจริง ศาลก็จะยุติ เอาคนๆ
นี้ไปรักษาทางจิตก่อน จนกว่าจะหายค่อยเข้ามาสู่กระบวนการพิจารณา"
"แต่ทีนี้พอเข้าสู่กระบวนการพิจารณา
ถ้าพิสูจน์ได้ว่าในขณะที่จำเลยกระทำความผิดเขาเป็นโรคนี้อยู่จริง
กฎหมายเขาก็ไม่ลงโทษ อย่างนี้เรียกว่าการเอาไปตรวจพิสูจน์
แต่ที่ทางคุณไกสรฟ้องเพื่อเอาไปตรวจพิสูจน์
ผมมองว่ายังไม่มีประเด็นที่จะเอาไปตรวจยังไง
ผมฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาไปตรวจยังไง"
"เท่าที่ผมดูตอนนี้ก็ยังไม่มีช่องทางอื่น ที่ผ่านมาที่เขาจะเอาไปตรวจ
เอาในคดีอาญาก่อนถ้าสมมติ ผมหรือคุณทำผิด
แต่ในส่วนของคุณมันเป็นความผิดที่วิปริตร้ายแรงมากๆ
ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างคุณหรือผมจะทำได้
สมมติไปฆ่าคนตายหรือไปแทงเขาอย่างคุณจิตรลดานะ
เขาก็จะต่อสู้คดีว่าในขณะที่เขาทำ เขาเป็นโรคจิตเภท
เขาจะต่อสู้เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องรับโทษ เขายืนยันว่าตัวเองบ้า
แต่สังคมคิดว่าเขาเป็นคนดี แล้วมาทำผิด
ตัวคุณจิตรลดาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าในขณะที่เขาทำเขาบ้า
เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ว่าเขาบ้า เพื่อเอามาสู้คดี
อันนี้คือหลักที่เขาทำกันทั่วไป"
"แต่อยู่ๆ จะไปกล่าวหาว่าคนโน้นคนนี้บ้า แล้วจับเขามาตรวจ
กระบวนการผมยังมองไม่เห็น แล้วที่เขาจะฟ้องหมิ่นประมาท
ผมยังมองไม่เห็นประเด็นเลย เพราะถ้าจะฟ้องหมิ่นประมาท
แล้วหาว่าเพชรบ้าเพชรผิดปกติทางจิต เพชรก็ต้องไม่มีความผิดสิ
เพราะเพชรบ้าอยู่ ถ้าเขาพูดเรื่องนั้นในขณะที่เขาบ้า เขาก็ไม่ผิด
เพราะคุณมาอ้างว่าเขาบ้า"
บอก การที่จะมีแพทย์ออกมาร่วมแถลงข่าวพร้อมกับไกรสร
ในวันพรุ่งนี้(22 มิ.ย.) เพื่อยืนยันความน่าจะเป็นว่าเพชรจิตไม่ปกตินั้น
ทนายเตือนต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง แต่ถ้าเป็นตนจะฟ้องหมอ
ที่มากล่าวหาโดยที่ไม่มีหลักฐาน
"หมอจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาจะพูดออกไปว่าเพชรบ้า
เพราะคุณหมอเองยังไม่ได้ตรวจตามหลักกระบวนการทางแพทย์เลย
ซึ่งมันต้องใช้ระยะเวลา เพราะกระบวนการที่ศาลเคยพิจารณา
มันต้องผ่านกระบวนการค่อนข้างเยอะ
แค่ดูที่พฤติกรรมที่เขาให้สัมภาษณ์ทางสื่อแค่ 4-5 วัน
แล้วมาบอกว่าคนนั้นคนนี้บ้า อันนี้คุณหมอต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด
แต่ต้องดูตอนเขาแถลงอีกทีนะครับว่าหมอจะพูดยังไง แต่ถ้าเขาพูดว่าเพชรบ้า
อันนั้นเขาต้องรับผิดชอบครับ"
"ถ้าเป็นแพทย์ทางจิตมาพูด
เขาก็น่าจะมีหลักการตรงนั้นที่น่าเชื่อถือมาพูดยืนยันได้ แต่ถ้าอยู่ๆ
ว่าพูดว่าเพชรบ้า โดยหลักจรรณยาบรรณมันไม่น่าจะถูก
คือการที่จะว่าใครบ้าหรือไม่บ้า ไม่ใช่อยู่ๆ ดูจากการสัมภาษณ์ไม่กี่ครั้ง
เท่าที่ทราบมันต้องมีหลักในการตรวจพิสูจน์ บางทีศาลก็ไม่เชื่อนะ
บางคนแกล้งฉี่กลางศาล เขาก็ไปตรวจ ว่าไอ้นี่ไม่บ้าหรอก
มันแกล้งทำอย่างนี้เป็นต้น"
"ถ้าผมเป็นน้องเพชร ผมฟ้องคุณหมอนะ
ถ้าหมอมาพูดชัดเจนว่าเขาผิดปกติ ทั้งที่เขาไม่เป็นอะไรเนี่ย
คุณหมอจะพูดอะไรต้องระวังนะ เพชรมีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีได้
ถ้าคุณไปพูดออกสาธารณะยืนยันว่าเขาบ้า
นี่ชัดเจนเลยว่าผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา"
"ผมไม่มีความรู้ทางแพทย์นะ
แต่ถ้าคุณหมอฟังจากการที่เพชรให้สัมภาษณ์ไม่กี่ถ้อยคำ
มันไม่น่าจะวินิจฉัยได้ว่าเขาบ้าหรือไม่บ้า
กระบวนการตรวจสอบทางการแพทย์มันน่าจะมีมากว่านั้น
ไม่ใช่มาฟังเฉพาะคำพูดของเขา เพชรต้องผ่านบททดสอบทางการแพทย์ก่อนนะครับ
ต้องมีหลักฐานทางวิชาการอย่างถูกต้องเท่านั้น
และถึงแม้คุณจะตรวจพิสูจน์ว่าเขาบ้าจริงๆ
การที่คุณเอามาเปิดเผยต่อสาธารณะผมว่า
จรรณยาบรรณขอบแพทย์ก็น่าจะมีควบคุมอยู่ สมมติผมไปตรวจแล้วหมอบอกว่าผมบ้า
หรือผมเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
แล้วเอามาเปิดเผยต่อสาธารณะมันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ถ้าผมเป็นคนไข้ผมฟ้อง เพราะคุณเอาความลับส่วนบุคคลมาเปิดเผย"
"สรุปคือโอกาสที่พ่อจะฟ้องลูกในข้อหาหมิ่นประมาท สามารถทำได้
แต่ว่าคุณเพชรเขาก็มีข้อต่อสู้
ส่วนบุคคลอื่นก็ต้องดูที่ข้อความว่าเขาพูดยังไง แต่ประเด็นที่ชัด
สามารถฟ้องได้เลยก็กรณีที่ภรรยาของคุณไกรสร ไปให้ข่าวว่าคุณอ้อย
ธิดารัตน์ ใจแตกเป็นผู้หญิงไม่ดี
เคสนี้ฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาได้เลย
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็พูดไม่ได้ครับ"
เผย คดีแบบนี้ต่อให้คำพิพากษาจะเป็นอย่างไร ในแง่ของความรู้สึก
สังคมมักจะเห็นใจผู้เป็นพ่อมากกว่า
เนื่องจากวัฒนธรรมไทยลูกต้องเคารพบุพการี
"คดีแบบนี้ผมยังไม่เคยเจอนะ แต่เอาภาพรวมคือ
พื้นฐานของสังคมไทยกรณีที่พ่อฟ้องลูก ลูกฟ้องพ่อ
พื้นฐานสังคมไทยเด็กเคารพผู้ใหญ่ เคารพกันตามระบบอาวุโส
เราอยู่กันเป็นครอบครัว เราไม่เหมือนฝรั่ง เมื่อคดีนำสู่ศาลไปแล้ว
ศาลท่านเองก็มองในรูปของคดีเหมือนกันว่า ทำไมลูกถึงจะต้องมาฟ้องคุณพ่อ
แล้วทำไมพ่อต้องมาฟ้องลูก
โดยหลักแล้วศาลจะทำการไกล่เกลี่ยว่าทำไมถึงมาฟ้องกัน ถ้ามองในรูปคดีแล้ว
ศาลเองก็มองเหมือนสังคม คือคุณพ่อคุณแม่ยังไงก็ต้องเป็นผู้มีพระคุณ
ที่เราต้องเคารพนับถือ"
"ตามหลักทั่วไปของสังคมไทย
พ่อกับแม่ยังไงก็จะไม่ทำในสิ่งที่เป็นเรื่องเสียหายกับลูก
ถ้าคุณมากล่าวหาว่าคุณพ่อมาทำอย่างโน้นอย่างนี้
คุณจะต้องพิสูจน์หนักมากกว่าปกติ เพราะว่าคนทั่วไป
เขาจะไม่เชื่อว่าพ่อจะทำในสิ่งที่ละเมิดกฎหมายกับลูกได้ขนาดนั้น
หน้าที่ของพ่อกับแม่มีหน้าที่จะต้องเลี้ยงดูบุตร อุปการะให้การศึกษา
นอกเหนือจากข้อกฎหมายเป็นเรื่องของศีลธรรมด้วย
เพราะกฎหมายกลั่นกรองมาจากศีลธรรม
ศาลจะต้องพินิจพิเคราะห์ดูว่าความเป็นธรรมมันอยู่ตรงไหน
คือคำพิพากษาของศาล เขาจะถือเอาความเป็นธรรมเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่มันก็จะย้อนกลับไป
เพราะกฎหมายมันก็ร่างมาจากศีลธรรมนั่นเอง ซึ่งเป็นแบบนี้แล้ว
สังคมก็จะเห็นใจทางฝ่ายพ่อมากกว่า"
ระบุ กรณีที่ไกรสรประกาศจะฟ้องคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นต้นเหตุทำให้เพชรเปลี่ยนไป พูดจาไม่มีสตินั้น
ตามกระบวนการที่จะพิสูจน์ในชั้นศาล ก็ทำได้ยากเหมือนกัน
"หนึ่งเพชรเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว
ถ้าจะฟ้องว่าเอาลูกตัวเองไปปั่นสมองมันก็ไม่ได้
แล้วฟ้องแล้วมันจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเขาล้างสมองลูกคุณ
ตัวคุณเพชรเองเขาก็มีสิทธิ์ในฐานะบุคคลคนๆ นึง
ที่มีสิทธิเสรีภาพเหมือนคนอื่นๆ ตามที่ประชาชนคนไทยคนนึงพึงมี
เขามีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ได้
ไม่ใช่ว่าคนเราเกิดมาต้องเชื่อแต่คำพูดที่คุณพ่อสั่งสอนมา
มันอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เมื่อเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว
เขาก็มีสิทธิ์ที่จะใช้วิจารณญาณที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อใครก็ได้"
"ฉะนั้นมันไม่มีประเด็นที่จะฟ้องเขาได้เลยนะ
คือประเด็นมันไกลเกินไปที่จะพิสูจน์ได้
เป็นการฟ้องที่เราคิดเอาเองว่าเราเสียหาย
แต่กระบวนการที่จะพิสูจน์ในศาลมันทำได้ยาก ถ้าจะฟ้องมันก็ทำได้
แต่ศาลจะเอาอะไรมาเชื่อว่าลูกคุณถูกล้างสมอง เด็กหนีออกจากบ้าน
สาเหตุมันมีตั้งเยอะแยะ เขาอาจจะถูกกดดันในเรื่องอื่นๆ ก็ได้
อย่างไม่ชอบในสิ่งที่เขาอยู่เขาเจอ มันอาจจะไม่ใช่การถูกล้างสมอง"
ส่วนในเรื่องของมรดก แม้ว่าพุ่มพวงจะไม่มีการเขียนพินัยกรรมไว้
แต่เพชรในฐานะที่เป็นลูกชายโดยสายเลือดย่อมมีสิทธิ์ในส่วนแบ่ง
แม้ว่าหากในกรณีที่มรดกนั้นจะถูกใช้ไปหมดแล้ว
เพชรก็สามารถฟ้องเอากับผู้จัดการมรดกให้ชดใช้คืนในส่วนที่พึงจะได้ทุกบาททุก
สตางค์
"มันต้องไปดูที่เงื่อนไข ในกรณีที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้นะ
สิทธิทั้งหลายทั้งปวงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมรดกนี้มีอยู่ 3 คน
ในกรณีที่จดทะเบียนสมรส คุณไกรสร
ในฐานะเป็นสามีก็จะเป็นทายาทผู้มีสิทธิ์ในมรดกนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
มีสิทธิ์ไดรับมรดก บุคคลที่สองก็คือทายาทชั้นหนึ่งก็คือคุณเพชร
กับคุณแม่ของคุณพุ่มพวง ก็คือคุณยายเล็ก จิตรหาร ส่วนคุณไกรสร"
"สมมติว่าทรัพย์มรดกตรงนี้เป็นสินสมรสทำมาหาได้
ในระหว่างที่หลังจากเขาจดทะเบียนสมรสกัน สินสมรสจะถูกหัก
สมมติว่ามีเงินอยู่ 50 ล้าน หลังจากที่คุณพุ่มพวงเสียชีวิตลง 25
ล้านที่เป็นสินสมรสจะถูกหารครึ่งหนึ่ง หมายความว่า 25
ล้านจะเป็นของคุณไกรสรทันที ส่วนอีก 25 ล้าน จะต้องมาแบ่งเท่าๆ กัน
ระหว่างแม่คุณพุ่มพวง คุณเพชร และคุณไกรสร อันนี้คือการแบ่งมรดกตามกฎหมาย
ฉะนั้นคุณเพชรสามารถฟ้องได้ ในส่วนที่เขาพึงมีพึงได้
ตามส่วนที่เขาควรจะได้ทุกอย่างเลย"
"เพชรเขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องเรียกคืนจากผู้จัดการมรดกได้
สมมตมีที่ดินที่ใส่ชื่อคุณพุ่มพวงเป็นเจ้าของมรดก เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
การจะไปโอนมันต้องอาศัยคำสั่งของผู้จัดการมรดก
ฉะนั้นก็ต้องไปดูว่าเขาไปโอนหรือยัง แบ่งหรือยัง
แต่ถ้าแบ่งไม่ถูกต้องเพชรสามารถฟ้องได้ ผู้จัดการมรดกยักยอกทรัพย์มรดก
ทำการแบ่งมรดกไม่ถูกต้อง ก็ไปฟ้องได้"
"แต่ถ้าเป็นกรณีที่ถ้ามรดกถูกใช้ไปหมดแล้ว หรือถูกใช้ไปแล้ว
เขาก็ต้องฟ้องบังคับให้คุณไกรสรเอามาคืน
เพราะคุณไกรสรมีสิทธิ์เอาไปใช้ได้แค่ในส่วนของเขาเท่านั้น
อย่างที่แจงให้ฟังถ้ามีเงินอยู่ 50 ล้าน ถ้าคุณใช้เกินสิทธิ์ที่คุณพึงได้
เขาก็สามารถฟ้องคุณข้อหายักยอกทรัพย์ได้
แล้วคุณก็ต้องเอามาชดใช้ในส่วนที่เอาไปเกิน"
ที่มา http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000070039
โรคหรือโลกที่คร่าชีวิตพุ่มพวง/ต่อพงษ์
โดย ต่อพงษ์ 21 มิถุนายน 2552 14:16 น.
ผมเขียน ต้นฉบับนี้ขณะอยู่ในรถซึ่งมันนิ่งและไม่ขยับมา 40
นาทีแล้ว บอกตามตรงว่าวันนี้ (จันทร์ 15 มิ.ย.) ติดนรกเอามากๆ สำหรับผม
ยิ่งฝนเจ้ากรรมเทลงมาด้วยแล้วต้องบอกว่าเซ็ง
โชคดีที่มีเสียงเพลงของพุ่มพวงเป็นเพื่อนขณะรถติด
ผมชอบเพลงลูกทุ่งอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะของ ศรคีรี ศรีประจวบ ชาย
เมืองสิงห์ และที่แน่นอนที่ต้องมีติดรถไว้เสมอก็คือ พุ่มพวง
เหตุเพราะเพลงของเธอมันมีรสชาติเหนือกว่าเพลงของนักร้องลูกทุ่งหญิงคนอื่น
อีกทั้งความหลากหลายในลีลาเพลงซึ่งมีครบนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแหล่
เพลงเศร้า เพลงซึ้ง เพลงตลก เพลงหยอก เพลงร็อก เพลงจีน ชนิดที่เรียกว่าใน
1 เทปคาสเซ็ตต์ของเธอนั้น เราจะฟังได้ออกอรรถรสตั้งแต่เพลงแรกหน้าเอ
ยันเพลงสุดท้ายหน้าบีกันเลย
พอเปลี่ยนจากยุคเทปคาสเซ็ตเป็นยุคซีดีผมก็ต้องไปตามซื้องานของพุ่มพวงมาเก็บ
ไว้ในรถอีก
ในยุค 80
เพลงของพุ่มพวงนี่ดังมากไม่ใช่เฉพาะแฟนเพลงลูกทุ่งเท่านั้นนะครับ
เพราะในแวดวงของผมที่เคยฟังเพลงของเธอก็เนื่องจากไปเล่นสเก็ตหรือชอบไป
ดิสโก้เธค เพลงอย่างเขยิบเข้ามาซิ หรือ อื้อฮือหล่อจัง สาวนาสั่งแฟน
คนดังลืมหลังควาย นี่เปิดบ่อยนะครับ
และส่วนหนึ่งที่เปิดบ่อยก็น่าจะเป็นเพราะโครงสร้างของเพลงนั้นฟังดูแล้วมัน
เหมือนกับยกเพลงฝรั่งที่เปิดในเธคดังๆในยุคนั้นมาแปลง
โดยเฉพาะ "อื้อหือ หล่อจัง" นี่ฟังแล้วจะพบวิญญานของ Talking In
Your Sleep โดย The Romantics วงดังในเธคของยุค 80 เขาล่ะครับ
คนเรียบเรียงเขาปรับแต่งอย่างโคตรเนียนให้เข้ากับลีลาแบบพุ่มพวงและลีลาเพลง
ลูกทุ่งของบ้านเรา
และถ้าผมจำไม่ผิดเพลงนี้ถูกเอาไปเป็นดนตรีแบ็คกราวด์ของเพลง 2 legit 2
Quit ของ เอ็มซี แฮมเมอร์ ในยุค 90 เสียด้วย
เพราะแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบที่พอได้รับรู้เรื่องราวสุดขยะแขยงของ
ครอบครัวพุ่มพวง ผมก็เลยรู้สึกอินเป็นพิเศษ พูดก็พูดนะครับ
ไอ้โรคเอสแอลอีที่พุ่มพวงเป็นนั้น
เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นแล้วตายกันทุกรายนะครับ
เพราะอย่างคนบันเทิงบ้านเรา ถ้าผมจำไม่ผิดคุณเอ๋ นรินทร ณ บางช้าง
ก็เป็นโรคนี้อยู่ได้ เพื่อนผมคนหนึ่งก็เป็นแล้วก็ยังมีชีวิตอยู่
จะมีที่เปลี่ยนไปก็แค่ความบวมที่เพิ่มเข้ามา เพราะ ไตมีปัญหาเท่านั้น
ว่ากันว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เป็นโรคนี้ก็คือ
กำลังใจและการทำให้คนไข้สบายอกสบายใจตลอดเวลา
อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เธอกระทบจิตใจอยู่เรื่อยๆ
จะเร่งชีวิตให้เธอตายเร็วขึ้น
สัปดาห์ ที่ผ่านมาพอได้ฟังเทปลับก็เลยเกิดบางอ้อขึ้นมา เพราะ
มันฟ้องเราว่า โรคภายในนั้นไม่ร้ายเท่ากับโลกภายนอก
โดยเฉพาะโลกที่หมุนอยู่รอบๆ ตัวของพุ่มพวง
ผมออกจะเข้าใจอยู่กับสิ่งที่พระเพชรตะโกนออกมาตามข่าวที่บอกว่า
โลกรอบตัวของแม่ของเขานั้นร่วมกันฆ่าเธอ เพราะไอ้โรคแบบนี้
ถ้าสิ่งแวดล้อมมันแย่ โดยเฉพาะการไม่มีใจและกำลังใจให้กันนั้น
ก็ต้องฟันธงกันไปว่า โลกรอบตัวเธอไม่ได้ช่วยยื้อชีวิตเธอกันไว้เลย
มีแต่จะช่วยกันเพิ่มความเข้มข้นเคมีของโรคให้มากขึ้นๆ
ผลงานจากเทปลับนั้น ส่งผลให้จำเลยอันดับหนึ่งนั้นไม่มีใครเกิน
ไกรสร แสงอนันต์ สามี
ซึ่งแกก็เป็นจำเลยต่อสังคมในกรณีของพุ่มพวงตั้งแต่เจ๊ผึ้งยังไม่ตายแล้วครับ
ข่าวความสัมพันธ์ของไกรสรกับผู้หญิงอื่นก็มีหลุดออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ใน
ขณะนั้น จนบัดนี้ในสายตาของแฟนพุ่มพวงก็ยังไม่เห็นว่าแกจะแก้ต่างได้
ต่อให้แกบีบน้ำตาต่อหน้าสื่อ
ผมว่าความรู้สึกของคนที่มีต่อแกก็ไม่แตกต่างไปจากเดิมนัก
จุดอ่อนที่สุดของเรื่องนี้อยู่ที่พุ่มพวงไม่รู้หนังสือ
เธออ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
คำถามทั้งหมดก็เลยตรงไปหาคุณไกรสรที่เป็นสามีและผู้จัดการส่วนตัวว่าได้
จัดการกับเรื่องมรดกและทรัพย์สินกันไว้อย่างไรบ้าง
มรดกที่พุ่มพวงทิ้งเอาไว้นั้นตกมาถึงพระลูกเพชรซักกี่มากน้อย
ถ้ายังมีอยู่เมื่อไหร่พระลูกเพชรถึงจะได้สิ่งที่แม่เขาทิ้งไว้ให้...ที่หนักก็
คือ เรื่องแบบนี้พระลูกเพชรเขารับรู้กันแบบไหนกันโดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลนั้นหา
ง่ายแบบนี้?
ส่วนญาติๆ ก็ต้องโดนลูกหลงกันไป
เพราะถือว่าเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ดูแลพุ่มพวงก่อนที่นักร้องดังจะเสียชีวิต
เรื่องราวของพุ่มพวงนั้นทำให้ผมนึกถึงเพลงๆ หนึ่งของเธอ
พุ่มพวงนั้นร้องไว้ได้เจ็บมาก เพลงมีชื่อว่า "นักร้องลูกทุ่ง"
เนื้อหาพูดถึงความยากลำบากของคนที่ดิ้นรนจะเป็นนักร้องลูกทุ่ง
มีท่อนหนึ่งเขาบอกว่า
"ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่า ให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้อง ให้เขาล้วง
มันเจ็บในทรวง ไม่หาย ไม่เด่น ไม่ดังจะไม่หันหลัง กลับไป
ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่ จะโชคดี"
ผลพวกจากเทปลับนี่บอกเรานะครับว่า
เธอไม่ได้โดนคนอื่นล้วงให้ช้ำทรวงหรอกครับ
แต่โลกรอบตัวนี่แหล่ะครับที่ช่วยกันล้วงให้เธอจากไปแบบไม่มีที่พักใจแบบนั้น
แฟนเพลงแบบผมนั้นติดใจอยู่เรื่องเดียวละครับว่า
ก่อนหน้านี้มีหุ่นพุ่มพวงตั้งเยอะ
แถมหุ่นแต่ละตัวยังหน้าตาประหลาดยังกับหุ่นร้านเสื้อไม่เห็นเหมือนพุ่มพวง
เลยซักนิด แต่ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ตุ๊กตาพุ่มพวงที่ผู้เกี่ยวข้องทำขายก็มีอยู่
แถมพุ่มพวงยังถูกทำให้เป็นเจ้าแม่พุ่มพวงที่มีอิทธิฤทธิ์ในเรื่องหวยเสีย
ด้วย มีเหรียญเจ้าแม่พุ่มพวงอีกด้วย
ถ้าจะมีการสร้างหุ่นอีกสักทีก็หวังจะให้ดูเหมือนเธอหน่อยนะครับ
แล้ว แทนที่จะสร้างให้เธอมุ่งเน้นไปเรื่องหวยนี้อย่างเดียว
ขอให้มีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิแจกทุนให้เด็กเรียนหนังสือจะดีกว่า
เพราะถ้าเธอเธอรู้หนังสือกันซักนิด
เธอคงไม่พบจุดจบที่น่าเศร้าแบบนี้นะครับ
from http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000069902
Tuesday, June 23, 2009
Saturday, June 20, 2009
เชิญชมคอนเสิร์ต คีตสุนทรียารมณ์บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ Kita soontree Concert
วันอาทิตย์ที่12กรกฎาคม 2552 ขอเชิญชมคอนเสิร์ต
"คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ
ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ นิด้า เวลา18:00-23:00น.
พบกับศิลปิน วงหงา-หว่อง คาราวาน ,อี๊ด ฟุตปาธ ,เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
,หรั่ง ร็อกเคสตร้า ,คุณนัฐ ยลตรรักษ์และคุณพ.วงเดือน ,ไก่ แมลงสาบ
,กำปั่น บ้านแท่น ,สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ,การแสดงสี่ภาค
พบกับผู้อภิปรายกิติมศักดิ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ,คุณไพศาล พืชมงคล
,ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
จองบัตรได้ที่ "กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน"081-4057233 ,
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย 089-7172215
สำนักงาน สปท.089-7428282,www.padmusic.org นางสาวสรัญญา อรรคราช
ผู้ประสานงานคอนเสิร์ต "คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ
Friday, June 19, 2009
ประชาสัมพันธ์คอนเสิร์ต "คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ
"คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ
ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ นิด้า เวลา18:00-23:00น.
พบกับศิลปิน วงหงา-หว่อง คาราวาน ,อี๊ด ฟุตปาธ ,เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
,หรั่ง ร็อกเคสตร้า ,คุณนัฐ ยลตรรักษ์และคุณพ.วงเดือน ,ไก่ แมลงสาบ
,กำปั่น บ้านแท่น ,สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ,การแสดงสี่ภาค
พบกับผู้อภิปรายกิติมศักดิ์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ,คุณไพศาล พืชมงคล
,ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
จองบัตรได้ที่ "กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน"081-4057233 ,
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย 089-7172215
สำนักงาน สปท.089-7428282,www.padmusic.org นางสาวสรัญญา อรรคราช
ผู้ประสานงานคอนเสิร์ต "คีตสุนทรียารมณ์"บนเส้นทางสู่สันติและมิตรภาพ
Thursday, June 18, 2009
17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" พิสูจน์รักไกรสร
17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" พิสูจน์รักไกรสร
ิัby ASTV ผู้จัดการออนไลน์
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" รู้จักกับ "ไกรสร แสงอนันต์"
เมื่อเล่นภาพยนตร์ด้วยกันเรื่อง "มนต์รักนักเพลง" ของรังสี ทัศนพยัคฆ์
ทั้งคู่เป็นเงาของกันและกันมานาน ข่าวลือต่างๆ ล้วนแต่ออกมาเป็นระยะ
แหล่งข่าวปูดที่สำคัญนั้นมาจากคนในวงการเพลงด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นข่าวการซื้อสามีของพุ่มพวง ดวงจันทร์
ไปจนถึงข่าวไกรสรในลักษณะที่เป็นแมงดาคอยเกาะเมียกิน และอื่นๆ อีกมากมาย
"ลูกผู้ชายจะมีเมียสักคนทำไมต้องรังแกกันอย่างนั้น
แล้วทำไมถึงได้มองว่าผมมาเกาะผึ้ง ไม่น่าเขียน
ผมก็มีกินมีใช้อยู่อย่างสบาย ผึ้งก็ทำงานผมก็ทำงาน เราก็แบ่งหน้าที่กันทำ
มันเจริญก้าวหน้าขึ้น เหนื่อยกันทั้งคู่"
แรกนั้นพุ่มพวง ดวงจันทร์ยืนยันว่าไม่ได้รักไกรสร แสงอนันต์
ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเล่นหนังมักแสดงบทในการเอารัดเอาเปรียบผู้หญิง
ในกองถ่ายแรกๆ นั้น นอกเหนือบทบาทการแสดงแล้ว
เธอไม่ยอมคุยและไม่เคยเรียกให้นั่ง
ถึงแม้ว่าเขาย่างก้าวเข้ามาในชีวิตแล้ว
เธอบอกเล่าเพียงแค่มีทัศนะที่ตรงกันหลายอย่าง แค่ชอบบ้าง
แต่ไม่ถึงขนาดที่ว่ารัก และจะมารักอย่างจริงๆ จังๆ ในช่วงหลัง
ร่ำลือกันในวงการบันเทิงว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์
เป็นคนใจง่ายและมีสัมพันธ์กับพระเอกหนุ่มในวงการหลายคน ไม่ว่าจะเป็นทูน
หิรัญทรัพย์ ธีระพงศ์ เหลียวรักวงศ์ ฯลฯ สำหรับไกรสร แสงอนันต์
นั้นมายอมรับกับเธอว่า อยากจะลองดูว่าเหมือนที่ร่ำลือกันมั้ย พุ่มพวง
ดวงจันทร์ เลยใช้ไม้เด็ดหลอกไกรสรไปเดินสายตามต่างจังหวัด
เพื่อที่จะดูว่าสามารถไปกินอยู่กับคนลูกทุ่งเยี่ยงนั้นได้หรือเปล่า
เพราะโดยภาพของเขานั้นค่อนข้างที่จะสำอางในสายตาเธอและคนรอบข้าง
และอีกอย่างเพื่อเป็นการพิสูจน์คำพูดของเขาว่า
เลิกกับเมียเก่านั้นจริงแค่ไหน
"แรกเริ่มเดิมทีนั้น ตอนที่ผึ้งอยู่กับพี่ปุ้มใหม่ๆ
ก็มีข่าวออกมาในทำนองว่า เราสองคนจะอยู่ด้วยกันไม่ยืด
หาว่าพี่ปุ้มจะมาปลอกลอก หรือมาหวังผลประโยชน์ในตัวผึ้งบ้างล่ะ
มาหวังเพื่อเงินทองบ้างล่ะ ผึ้งเก็บความรู้สึกเสียใจมาโดยตลอด
แล้วเราสองคนก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า
เรายังอยู่ด้วยกันเพราะความรักไม่ใช่ผลประโยชน์แบบอื่นอย่างที่คนเข้าใจกัน"
แต่กระนั้นไม่ว่าเธอจะพยายามแบ่งปันให้กับคนอื่น
ใช้ไปส่วนหนึ่งและเก็บไว้ส่วนหนึ่งสำหรับครอบครัวใหม่
แต่ก็ไม่วายที่จะมีสมบัติเหลือให้คนมานั่งทะเลาะกัน
เรื่องราวความขัดแย้งของลูกเขยกับครอบครัวจิตรหาญกลายเป็นเรื่องสลับซับซ้อน
และยากเกินกว่าที่บุคคลภายนอกจะเข้าใจได้แจ่มชัด
กลายเป็นเรื่องของคนรอบข้างมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของคุณความดี
และคุณธรรมเป็นเลิศของพุ่มพวง ดวงจันทร์
ดูเหมือนว่าภาพของไกรสร แสงอนันต์
เป็นภาพลบในสายตาของญาติพี่น้องพุ่มพวงมาตั้งแต่แรก
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านไปกี่ปีก็ตาม ภาพเหล่านั้นก็มิได้ดีขึ้น
"หนูบอกแม่ว่า หนูโตแล้ว ทุกวันนี้ทุกคนมีฐานะหมดแล้ว
หนูยังไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรก็แล้วแต่หนูจะตัดสินใจเอง
เขามีเมียหรือไม่มีเมีย หนูจัดการเองได้ ผึ้งรัก ส่งเสีย
อดทนทุกสิ่งทุกอย่างมาตลอดก็เพื่อครอบครัว เพื่อน้อง
ทุกวันนี้ทุกคนเขาดีขึ้นแล้ว เขาไม่ลำบากกันแล้ว
เค้าเคยต้องลำบากเหมือนผึ้ง ทุกคนเขาไม่ได้ถางทางมาเอง
อย่างผึ้งต้องถางต้องฟันฝ่ามาทุกอย่าง"
"น้องสาวผึ้งนี่ แหม พอเขาร้องเพลงเป็นเขาก็อัดเสียงเป็นสลักจิต
ดวงจันทร์เลย โดยที่พี่สาวมีวงอยู่แล้ว นั่งเบนซ์เลยไม่ได้ลำบาก
ผึ้งถึงว่ากลัวน้องจะต้องเจอปัญหาต่างๆ เหมือนอย่างที่เคยคิดเกิดกับผึ้ง
แต่ว่า เขาจะทนได้อย่างผึ้งหรือเปล่า เพราะเขาไม่เคยผ่านมาอย่างเรา
น้องเรามันก็เด็ก พูดง่ายๆ ผึ้งรักครอบครัว แม่นี่ผึ้งรักมาก
น้องเป็นจุดสำคัญ แล้วผึ้งต้องการให้พ่อแม่สบายก่อน ที่ดินก็พอมีซื้อไว้
แต่ให้แม่ซื้อ บ้านหลังที่อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นของแม่
รถบัสอะไรต่อมิอะไรก็ยกให้เขาหมด"
...
ความรักบนชั้น 16 สยามคอนโดฯ
"ผมอยู่กินกับพุ่มพวงมาทั้งหมด 9 ปี ช่วงใช้ชีวิตร่วมกันใหม่ๆ
ค่าใช้จ่ายในครอบครัวทุกบาททุกสตางค์ ผึ้งเขาจ่ายหมด ซื้อไร่ ซื้อรถไถ
รถเก๋งให้ครอบครัวผมก็ไม่ได้แสดงอะไรเพราะรู้ว่า ผึ้งเป็นคนกตัญญู
เมื่อเรามีลูกก็เป็นครอบครัวของเราขึ้นมา รายได้ต่างๆ
ก็ต้องเก็บออมไว้เผื่อเวลาที่เราทำงานไม่ได้ก็จะมีเงินใช้จ่าย
มีค่าเล่าเรียนลูก การใช้จ่ายเงินทองต้องระมัดระวังกว่าแต่ก่อน"
"เงินที่เกื้อกูลครอบครัวจากที่เคยให้มากๆ ก็ลดจำนวนลง
ในฐานะเป็นสามี ผมจำเป็นต้องพูดกับผึ้งแล้วผึ้งก็เห็นด้วย
เพราะอย่างนี้จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทางญาติฝ่ายเขาไม่พอใจผม"
"ตอนนี้รักแล้ว ผึ้งเป็นคนโผงผางนะ
ตอนแรกเขามานอนอยู่ที่บ้านเนี่ย ชวนไปเดินสายกลับมา
พอดีลูกน้องโดนรถชนตายคืนนั้น พอมาถึงบ้านเค้าจะกลับบ้านเขา
ผึ้งก็บอกอย่ากลับเลย อยู่เป็นเพื่อนคุยกันก่อน ตีสี่แล้วนี่
เดี๋ยวก็สว่างแล้ว ก็ให้เขาอาบน้ำ เค้าไม่มีเสื้อผ้าอะไรมา
ผึ้งก็หาชุดนอนผึ้งใส่แล้วก็ ยังไงล่ะ
คนเรารู้จักกันเป็นสิบวันแล้วที่จะอยู่ในห้องลำพังสองคนชั่วเวลา 2-3
ชั่วโมง แล้วก็ไม่ได้ล็อกห้อง ผึ้งให้เขานอนด้วย
นอนบนเตียงแต่ถูกตัวผึ้งไม่ได้นะ"
"พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ
ผึ้งอยากดูว่าเขามีความอดทนมั้ยเพราะคนเราเนี่ย พูดกันอย่างไม่อาย
ลองได้มีโอกาสนอนด้วยกันลำพัง มันไม่เหลืออยู่แล้วใช่มั้ย ผึ้งก็ลองดู
ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาบอกว่าขอกอดหน่อยได้มั้ย ผึ้งบอกได้ แต่กอดเฉยๆนะ
ก็นอนปรับทุกข์คุยกันเรื่องอะไรๆ เชื่อหรือเปล่าว่า
นอนด้วยกันแบบนี้เกือบเดือน"
...
พุ่มพวง ดวงจันทร์-มีแต่ให้กับให้
ชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์
ประดุจดั่งลวดข้อสุดท้ายที่เกี่ยวร้อยรัดบางสิ่งและหลายอย่างไว้
ลวดข้อสุดท้ายนี้เกี่ยวรัดความเป็นลูกทุ่งแห่งยุคสมัยดั้งเดิมกับลูกทุ่งสมัยใหม่ไว้
ลวดข้อสุดท้ายนี้อีกเช่นกันที่เกี่ยวร้อยความรักและความห่วงใยแห่งชีวิตครอบ
ครัวเข้าด้วยกัน เป็นข้อที่เกือบจะขาดของความรักระหว่างเธอกับไกรสร
แสงอนันต์ ส่วนเกือบจะขาดด้วยสาเหตุใดนั้นคงเป็นปริศนาอยู่
และลวดข้อนี้อีกเช่นกันที่ครอบครัวจิตรหาญจะต้องวิ่งไขว่คว้าไว้
ด้วยเหตุผลที่คงรับรู้อยู่ว่า เมื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่นั้น
ทุกคนในครอบครัวล้วนได้รับแต่การให้จากเธอทั้งสิ้น
"ที่แน่ๆ ทำงานเก็บเงินเก็บทองไว้ดีกว่า
มีสตางค์แล้วจะทำอะไรก็ได้ก็ใช้ไปทำไปมันมีความสุข
ไม่ใช่ประเดี๋ยวตายไปไม่รู้จะเอาไปไหนอีก คือเห็นนะคะ
เห็นคนอื่นที่ทำอย่างเดียว งก เก็บอย่างเดียว ไม่กิน ไม่เที่ยว
ไม่อะไรสักอย่าง ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แถมคนอยู่ข้างหลังยังทะเลาะกันอีก
ผึ้งก็มาได้คิดว่า คนเราทำไมไม่ทำ แล้วเราก็ใช้ พอใช้ พอเก็บพอกิน
อะไรอย่างนี้ ให้ชีวิตมันมีความสุขนะคะ
"พี่ปุ้ม เขาเป็นคนไม่มีปัญหากับใคร อ่อนหวานและพูดจาเพราะ
และที่สำคัญเขาจริงใจ เขาไม่เคยมาแอบอิงทางด้านการเงินและการงาน
เราต่างคนต่างทำงานของตัวเองไป
ผึ้งสงสารเขามากเวลาที่มีคนพูดหรือเขียนว่าพี่ปุ้มเขามาเกาะผึ้ง
มีแต่ผึ้งเสียอีกหยิบของเขามาใช้บ้าง
เพราะเงินทองของผึ้งให้แม่หมดอยู่แล้ว"
ท้องแรกของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เด็กชาย เพชร ลีละเมฆินทร์
อยู่ในท้องถึง 10 เดือนเต็ม จากการบำรุงและกินอาหารได้มาก
ทำให้เด็กตัวใหญ่ถึงขั้นต้องผ่าออก น้ำหนักแต่เดิมเพียง 50 กิโลกรัม
เพิ่มขึ้นเป็น 68 กิโลกรัม
แม้ว่าเธอจะมีสถานภาพทางการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
แต่เธอก็หมั่นศึกษาหาความรู้จากประสบการณ์
การหาความรู้เรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกนั้น เธอศึกษาจากหนังสือบ้าง
วิดีโอบ้าง หรือดูจากรายการทีวีบางรายการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลและเลี้ยงดูเด็ก
"พี่เขาเป็นคน ยังไงก็ได้ เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่
ทั้งผู้จัดการ บางทีก็คอยแนะนำในสิ่งที่เราคิดไม่ถึง
คอยแนะนำคอยบอกในทุกๆ ด้าน อย่างเช่น เรื่องลูกเขาไปเจอข้อเขียนที่ไหนดีๆ
ก็จะมาเล่าให้ฟัง"
เธอยอมรับว่า การมีลูกทำให้เธอมีความสุขขึ้นเยอะ
ใฝ่ฝันที่จะให้ลูกไปอยู่เมืองนอกเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเหลือตัวเอง
ในลักษณะที่ว่า ซึมซับเอาวัฒนธรรมไทยและฝรั่งเข้าไว้อย่างละครึ่ง
"ผึ้งเขาทำหน้าที่ของเขาได้ดี ถ้ามีเวลา เขาทุ่มเทให้กับลูกมาก
เรื่องการบ้านการเรือน ว่างๆ เขาไม่ได้ไปไหน อย่างวันหยุด
เขาจะทำกับข้าวให้ทาน เขาทำแกงป่าเนื้ออร่อย"
"อย่างเมื่อคืน ผึ้งกลับตอนตี 4 ตอนเย็นก็ไปรับเขาที่โรงเรียน
คือกลางวันเราก็เจอกัน พอช่วงกลางคืนเขาหลับแล้ว เราถึงไปทำงาน
แต่ถ้าต้องไปค้างก็จะโทรศัพท์มาคุยด้วยทุกวัน
ทำให้เขามีความรู้สึกว่าได้อยู่กับเราตลอด แล้วเสาร์-อาทิตย์
ถึงแม้บางทีจะไม่ไหว ก็ต้องพาเขาไปเที่ยว ไปเล่นเกมจนเขาถามว่า
แล้ววันเด็กเขาจะเล่นอะไร ผึ้งก็บอกกับเขาว่า
วันเด็กก็ทุกวันอยู่แล้วสำหรับน้องเพชร เล่นหมดทุกอย่างแล้ว
พาไปเที่ยวจนไม่รู้จะพาไปไหนอีกแล้ว ผึ้งเห็นคนใกล้ๆ ตัว
เขาบอกว่าไม่มีเวลาให้ลูก ผึ้งว่าเขามี
แต่พอมีเวลาว่างกลับเอาไปทำอย่างอื่น ซึ่งดูแล้วได้แต่ปลง
ตอนนั้นยังไม่มีลูกก็มีความคิดว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้นะ
เพราะผึ้งเป็นคนรักเด็ก ในที่สุดวันนั้นก็ถึงผึ้ง ซึ่งผึ้งให้เขาเต็มที่
นับจากวันแรกที่เด็กชายเพชรลืมตาดูโลก พุ่มพวงถนอมรักและห่วงใย
เคยตีเพียงครั้งเดียวเนื่องจากความดื้อ
แต่หลังจากที่เธอตีลูกแล้วเธอกลับหันหลังร้องไห้เสียใจ
"ผึ้งอยู่ด้วยกันมาท่ามกลางเสียงดูถูกว่า จะไปกันรอดหรือ
ผึ้งก็รักกันอยากมีลูกกับพี่ปุ้มด้วย เราจะหาเงินกันสักพัก
ถ้าไม่ไปอยู่เมืองนอก ก็จะไปปักหลักอยู่ที่เมืองเหนือ
บอกตรงๆว่าผึ้งไม่ชอบกรุงเทพฯ ค่ะ
เพราะทุกวันนี้ผึ้งก็เรียกว่ามีความสุขโดยได้ซื้อไร่อ้อย และรถไถ
พร้อมรถบรรทุก กับบ้านให้แม่เสร็จแล้ว น้องๆ
ก็มีเงินได้ร่ำเรียนเพื่อชดเชยที่ผึ้งได้เรียนน้อยกว่าเพื่อน"
ความตั้งใจของสามีภรรยาคู่นี้ที่จะไปอยู่อเมริกาสักพักก็มีอันต้องร่นลงมา
เป็นการพักผ่อนแค่ 2 เดือน เนื่องจากอาการป่วยของพุ่มพวงเริ่มส่อเค้า
...
ยุทธการทำลายพุ่มพวง
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ
ที่ผ่านประสบการณ์แห่งการต่อสู้ดิ้นรนมาสารพัด
และน้อยคนนักที่จะย่างก้าวอย่างไม่แคร์ใครได้เช่นเธอ
นอกเหนือจากการสู้เพื่อครอบครัวและญาติพี่น้องแล้ว
ส่วนของงานเธอเองก็กร้าวและพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรี
โดยเฉพาะในหลายกรณี ไกรสร แสงอนันต์ ผู้สามี
ซึ่งอยู่ในฐานะของผู้จัดการส่วนตัว
มีส่วนเข้าไปจัดวางระบบความคิดไปจนถึงความเพียรพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้
พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีความแตกต่างจากนักร้องลูกทุ่งคนอื่นๆ
ในขณะที่สามีเก่าของเธอ ธีระพล แสนสุข
ก็มีส่วนสร้างชื่อและพาเธอเข้ามาเรียนรู้วงจรแห่งกระแสเสียงบนเวทีที่เป็น
ลูกทุ่งจริงๆ แต่สำหรับไกรสร
แสงอนันต์ก็พาเธอให้ก้าวล่วงพ้นจนกลายเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
นอกเหนือจากนี้ยังเข้ามามีส่วนปกป้องเธอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นกรณีการดึงตัวพุ่มพวงออกจากบริษัทอโซนาฯ ไปหาไพจิตร ศุภวารี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่อตัวศิลปินในสังกัด
ไปจนถึงการเข้าหาผู้ใหญ่ในวงการต่างๆ
เพื่อเป็นเกราะมิให้ถูกพวกมาเฟียลูกทุ่งคุกคาม
ในช่วงทื่ธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่งของพุ่มพวงยังดำเนินการภายใต้การบริหารวงโดย
ธีระพล แสนสุขอยู่นั้น
หน้าที่การรับจ้างร้องเพียงอย่างเดียงของเธอก่อให้เกิดภาพที่ไม่พอใจแก่
กลุ่มวัฒนธรรมดั้งเดิมลูกทุ่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า "กลุ่มมาเฟีย" นั่นเอง
"ธุรกิจการเงินของลูกทุ่งมันเงินสดทั้งนั้น
สมัยก่อนครั้งที่ผึ้งยังไม่อยู่กับผม เขาก็เจอมาเยอะแยะ
แล้วเขาก็เป็นเด็กบ้านนอกลูกทุ่งก็ไม่มีใครรู้จัก
ผมเข้าไปก็ไม่ใช่ว่าผมรู้จักใครหรอก หากแต่อาศัยความดังของเขานั่นแหละ
พร้อมกับประสบการณ์ของผมที่ว่ามีความรู้หน่อยดึงเข้าหาผู้ใหญ่เลย
ฝ่ายตำรวจเราก็ไปถึงระดับผู้ใหญ่อีกเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นพวกมาเฟียแหยงไปเยอะ ไม่กล้าเลย
คิดว่าพวกมาเฟียชอบขู่คนที่ไม่มีความรู้ ขู่ลูกทุ่ง ขู่คนที่ขู่ได้"
"ถ้าหนูไม่สู้ หนูคงยืนอยู่ไม่ได้จนถึงปัจจุบัน ถ้าหนูท้อแท้
หนูคิดหลายหนว่า หนูจะเลิก ถ้าขืนหนูเป็นอยู่แบบนี้
รถนี่เหมือนกันคือต้องวิ่งทุกๆ วัน ชีวิตหนูแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ตูมตามไปหนูก็ตายเพราะใช้ความเร็ว
และปัญหาที่หนูจะต้องต่อสู้กับวงการลูกทุ่ง คนนั้นก็จะสร้างนักร้องใหม่
คนนี้ก็จะสร้างนักร้องใหม่ แต่ขึ้นไม่ได้เพราะติดหนูคนเดียว
ทำวงขึ้นมาทำได้ไปเล่นแล้วแต่ไม่มีคนดู
คนดูไปดูแล้วสู้หนูไม่ได้ก็ต้องกลับมาดูหนู ก็เสียผลประโยชน์
หนูเป็นคนปากกล้าสู้ในสิ่งที่ไม่น่าสู้ คือทุกอย่างมันเป็นบทเรียน
และมันฝึกหนูมาตั้งแต่เด็ก"
"เขามีหน้าที่จัดการดูแลใช่มั้ยคะ
เช่นว่าเขาบอกไม่ได้นะงานอย่างนี้ไม่รับ
ผมไม่ต้องการให้แฟนผมออกไปร้องงานอย่างนี้ แฟนผมเป็นนักร้องระดับไหน
ทุกวันนี้มีเกียรติแล้ว ควรจะพอกันได้แล้วสำหรับงานแบบนั้น
ไอ้งานกระจอกงอกง่อยก็ไม่อยากให้ไปร้อง ก็เกิดปัญหาว่า ขัดผลประโยชน์"
จากอโซน่าฯ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ย้ายมาอยู่ภายใต้บารมีของ ไพจิตร
ศุภวารี แห่งซีบีเอสและพีดีโปรโมชั่น
หนนี้เองที่ไพจิตรพยายามจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของนักร้องลูกทุ่งตามงานวัดให้
เป็นศิลปินเดี่ยวโชว์งานคอนเสิร์ต
เปลี่ยนสีสันของดนตรีลูกทุ่งด้วยการให้ ศรายุทธ สุปัญโญ
และทีมอินฟินิตี้ ทำดนตรีใหม่ ทุ่มทุนทำวิดีโอที่ไปถ่ายทำถึงเมืองจีน
แหวกแนวตลาดลูกทุ่งด้วยแดนเซอร์เพียง 4-5 คนแทนที่หางเครื่องนับร้อย
แต่ทั้งหมดกลายเป็นว่า ไม่มีใครรับพุ่มพวง ดวงจันทร์ในงานเพลง
"ตั๊กแตนผูกโบว์"
ฉะนั้นเมื่อไม่มีใครรับ งานเพลงต่อไปจึงกลับเข้าไปสู่บทเดิม
ด้วยสูตรลพ บุรีรัตน์-ประยงค์ ชื่นเย็น และพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในงานเพลง
"หนูไม่รู้" และ "หนูไม่เอา"
ส่วนด้านการรับจ้างร้องเพลงนั้น หลังการเสียชีวิตของธีระพล
แสนสุข ไกรสร และ พุ่มพวงทำต่อพักหนึ่งจึงส่งต่อไปให้กลุ่มธุรกิจของ
สรรเสริญ รุ่งเสรีชัย จากนั้นตกมาเป็นของ มานิตย์ และ มุนี อังกินันท์
...
นักสู้เพื่อศักดิ์ศรีและวงการ
เป็นธรรมดาอยู่เองที่นักร้องสาวและดังถึงขนาดนี้จะต้องมีใครต่อใครหมายจะ
เด็ดดมและเชยชม แต่เธอยังหนักแน่นอยู่กับความรักและคนรักเรื่อยมา
เพราะการหลงระเริงอย่างนั้นมิใช่ความสุขและยังผลให้ชื่อเสียงไม่ยั่งยืน
"พวกไอ้เข้ พวกมีเงินเยอะๆ เขาชอบมาสนใจหนู
หรือเจ้าของอาบอบนวดเป็นบางที่ ซื้อของมาให้ เรียกไปโชว์ตัวที่โน่นที่นี่
ถามว่าเงินที่ลงทุนที่วงเท่าไร สามล้านพอไหม หนูบอกว่า หนูทำเองได้
ขอบคุณ หนูไม่เคยยุ่งกับคนประเภทนี้เลย"
"ผึ้งหยิ่งในตัวเอง ผึ้งรักศักดิ์ศรีตัวเอง
แล้วเหตุการณ์แบบนี้ผึ้งก็เคยเห็นอยู่ว่า
ผู้หญิงบางคนต้องไปยอมเขาเพื่อให้ตัวเองได้มีคนเชียร์ โอเค
ถ้าผึ้งจะยอมใครสักคน ผึ้งจะยอมเฉพาะคนที่ผึ้งรัก ผึ้งพอใจเท่านั้น
ไม่ใช่เอาเงินมาซื้อมาแลก ทำกับผึ้งไม่ได้หรอก (เธอเริ่มปาดน้ำตา)
อย่างซื้อบ้านหลังนี้มีคนออกปากนะว่า
ตัวคนเดียวลำบากอย่างนี้เขาช่วยได้นะ จะออกค่าบ้านให้ ซื้อรถให้
คือจะอุปถัมภ์ ผึ้งบอกว่าผึ้งขอเป็นหนี้ดีกว่า แล้วอย่ามายุ่งกับผึ้งอีก
อย่ามาพูดอย่างนี้ หาเองดีกว่า ยอมเหนื่อย"
"จริงอยู่วันนี้เราสาว เราสวย คนเขาก็ต้องการเรา
แล้วสักวันหนึ่งเมื่อเขาไม่ต้องการเราล่ะ
ในเมื่อเขาเบื่อแล้วก็จะต้องมีคนที่สวยกว่าเรา
เขาจะทำอย่างไรกับเราก็ได้เมื่อเขาไม่ต้องการน่ะ
ผึ้งได้เห็นประสบการณ์แบบนี้บ่อยไป เขาเอาสิ่งพวกนี้มาล่อ
มาให้ผึ้งได้เห็นอยู่ตลอดเวลา เพราะผึ้งเป็นเด็กบ้านนอก
ผึ้งลำบากมาตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าจะล่อหลอกได้ ใครจะมาอ้างไม่ได้ว่า
นี่ฉันซื้อให้เธอ อันนี้ของฉันนะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาไม่ฟันผึ้งยับไปแล้วเหรอ ใช่มั้ย"
...
คงเหลือไว้แต่นาม
แม้ว่าจะเป็นเด็กสาวบ้านนอกเข้ามายังดินแดนศิวิไลซ์
หยอกล้อกับแสงสีด้วยเสียงเพลงสนั่นวงการ ชื่อเสียง เงินทอง
เกียรติยศทั้งของจริงและจอมปลอมวิ่งเข้าออกชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์
เป็นว่าเล่น แต่ใช่ว่านั่นจะทำให้คุณค่าแท้ของเธอแปรเปลี่ยนไป
เธอยังคงเป็นรำพึง จิตรหาญ ผู้เปี่ยมไปด้วยแรงกตัญญูอันแรงกล้า
สืบทอดความไม่มีในตัวเองไปสู่ความมีของคนอื่นๆ ในครอบครัวอยู่เนืองๆ
จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ชื่อของเธอมิเพียงแต่จะจารจำอยู่ในหัวใจของคนข้างเคียงเท่านั้น
หากแต่อณูแห่งคุณความดีนั้นจะแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจของแฟนเพลงนับไม่ถ้วน
เพราะนับจากนี้ไป แม้จะไม่มีตัวตน
แต่ก็ยังมีเสียงเพลงเห่กล่อมพร้อมกันนั้นในทางรูปธรรม
เธอไม่ต้องทำหน้าที่ ดูแลและช่วยเหลือคนรอบข้างต่อไปอีกแล้ว
แต่ในทางนามธรรมนับจากนี้ เธอจะเป็น "ผู้ให้" โดยผ่านองค์การกุศล
ในรูปแบบของ "มูลนิธิพุ่มพวง ดวงจันทร์" และดอกผลแห่งความดีนั้น
จะทำให้ชื่อเสียงของเธอสถิตย์อยู่กับความมั่นคงไม่รู้เลือนในสายตาของ
ประชาชนทั่วไป
...
ผลงานพุ่มพวง ดวงจันทร์
ปี 2525 พุ่มพวง ดวงจันทร์ เข้าสู่ค่ายอโซน่า โปรโมชั่น
เธอสร้างสรรค์ผลงานไว้มากก่อนจะย้ายตัวเองมาอยู่ภายใต้การดูแลของพีดี
โปรโมชั่น และ ซีบีเอส เร็คคอร์ด (ประเทศไทย) อาจารย์ไพจิตร ศุภวารี
เพื่อพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองให้ทันกระแสความนิยมของดนตรีสตริงในยุค
นั้น แต่เมื่อสไตล์นั้นไม่เป็นที่ยอมรับของ "คอลูกทุ่ง"
เธอจึงหันไปทำงานร่วมกับท็อปไลน์มิวสิค
สร้างผลงานที่สร้างความนิยมให้กับเธอมากมาย
ต่อมาเธอจึงเริ่มรับจ้างร้องเพลงให้กับอาร์เอส โปรโมชั่น
เมโทรเทปและแผ่นเสียง และแฟนตาซี ไฮคลาส
จากปี 2525-2535 เธอได้สร้างผลงานไว้มากมายดังนี้
มิ.ย. 2525 จะให้รอ พ.ศ.ไหน, ดวงตาดวงใจ / 2526 สาวนาสั่งแฟน,
นัดพบหน้าอำเภอ / 2527 ทิ้งนาลืมทุ่ง / 2528 คนดังลืมหลังควาย , อื้อฮื้อ
! หล่อจัง / 2529 ห่างหน่อย - ถอยนิด,ชั่วเจ็ดที-ดีเจ็ดหน,
เรื่องของสัตว์โลก / 2530 คิดถึงน้องบ้างนะ
พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีผลงานกับอโซน่าฯ ทั้งสิ้น 11 ชุด โดยเฉพาะ 3
ชุดหลังคือ ชั่วเจ็ดที-ดีเจ็ดหน, เรื่องของสัตว์โลก, คิดถึงน้องบ้างนะ
เป็นผลงานที่ออกวางแผงเทปหลังจากที่ พุ่มพวง ดวงจันทร์
ได้ออกจากค่ายอโซน่าฯ แล้ว โดยผลงานที่มีคนรู้จักมากที่สุดก็คือ
ชุดชั่วเจ็ดที-ดีเจ็ดหน
แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรหากเทียบกับผลงานเพลงชุดแรกๆ
ส่วนชุดสุดท้ายของพุ่มพวงที่อโซน่าทำออกมาคือ "คิดถึงน้องบ้างนะ"
เป็นงานคัดเพลงเก่าจากชุดต่างๆ มารวมไว้
หลังจากออกจากอโซน่าโปรโมชั่นแล้ว พุ่มพวงอยู่ในความดูแลของ
อ.ไพจิตร ศุภวารี ต่อจากนั้นก็เข้าไปอยู่ในสังกัดของท็อปไลน์มิวสิก
ซึ่งมีผลงานออกมาอีกมากมายที่ได้รับความนิยมเช่นชุด ตั๊กแตนผูกโบว์,
กล่อม และ ทีเด็ดพุ่มพวง
จากนั้น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้เข้ามาร่วมงานกับท็อปไลน์มิวสิค
ปรากฏผลงานเพลงชุดต่างๆ ดังนี้ หนูไม่รู้, หนูไม่เอา, พี่ไปดู หนูไปด้วย
และนำผลงานเก่ามามิกซ์รวมกัน เช่น พุ่มพวงหลาย พ.ศ. (ตลับทอง
และตลับเพชร), ขอให้รวย, น้ำผึ้งเดือนห้า, ซูเปอร์ฮิต 1 และ 2
มนต์เสียงเพลง ( 2533 ร้องคู่กับสายัณห์ สัญญา)
ผลงานเพลงชุดนี้จัดทำโดย แฟนตาซีไฮคลาสของ มุนี-มานิตย์ อังกินันทน์ ให้
ท็อปไลน์มิวสิค เป็นผู้โปรโมต และไดมอนด์เป็นผู้จัดจำหน่าย
เดือนมิถุนายน 2535 เดือนที่พุ่มพวงเสียชีวิต
ค่ายท็อปไลน์และค่ายอโซน่า ก็นำเอาเพลงชุดต่างๆ
ของพุ่มพวงออกวางจำหน่ายอีกครั้ง
สำหรับท็อปไลน์นั้นได้มีการทำปกขึ้นมาใหม่อีก คือ คิดถึงพุ่มพวง, ส้มตำ,
คอนเสิร์ต โลกดนตรี
โดยเฉพาะชุดส้มตำนี้เป็นเทปพิเศษที่จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการจัดงานพระราชทาน
เพลิงศพฯ มีคำบรรยายเกียรติประวัติพุ่มพวง พร้อมเพลงตามลำดับดังนี้
ส้มตำ, กล่อม, ฉลองวันเศร้า, รักคุด, แล้วจะทนเพื่ออะไร,
ของขวัญที่ฉันคืนเธอ, หัวใจทศกัณฐ์, เขานอนบ้านใน, หนูไม่รู้, แฟนพุ่มพวง
เป็นต้น
นอกจากนี้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ยังมีผลงานกับค่ายอาร์เอสฯ
เช่นลูกทุ่งท็อปฮิตมาตรฐาน
เป็นการนำเพลงดังของอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดังอย่าง บุปผา สายชล, เตือนใจ
บุญพระรักษา, วิภารัตน์ เปรื่องสุวรรณ, เรียม ดาราน้อย มาร้องใหม่
นอกจากนี้ยังมีค่ายเมโทรฯ ที่ได้ลิขสิทธิ์งานเพลงชุด "ส่วนเกิน" อีก 1
ชุด
...
รางวัลเกียรติยศ
ชีวิตการร้องเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์
เคยได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3
ครั้ง คือ
2521 รางวัลแผ่นเสียงทองคำ เพลง "อกสาวเหนือสะอื้น" (ผลงาน -
ธีระพล แสนสุข)
2532 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 เพลง
"สาวนาสั่งแฟน" ( ผลงาน - วิเชียร คำเจริญ)
2534 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2 เพลง
"สยามเมืองยิ้ม" (วิเชียร คำเจริญ)
...
ผลงานด้านการแสดง
ในปี 2526 พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่กำลังโด่งดังสุดขีด
ถูกผู้กำกับอินเตอร์ ฉลอง ภักดีวิจิตร ชักชวนให้ก้าวสู่วงการแสดงในฐานะ
"นางเอกภาพยนตร์"
และหลังจากนั้นก็มีผลงานด้านการแสดงทยอยออกสู่สายตาประชาชน ดังนี้
สงครามเพลง, รอยไม้เรียว, ผ่าโลกบันเทิง, นักร้อง นักเลง, นางสาวกะทิสด,
มนต์รักนักเพลง, ลูกสาวคนใหม่, อีแต๋น ไอเลิฟยู, หลงเสียงนาง, จงอางผงาด,
ขอโทษทีที่รัก, คุณนาย ป.4, อาจารย์เด๋อเจอพุ่มพวง, สาวนาสั่งแฟน,
เสน่ห์นักร้อง, นางสาวยี่ส่าย (ภาพยนตร์โทรทัศน์) เป็นต้น
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000068341
พระลูกชายสิน่าสงสารมากที่สุด..กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่มีเพื่อน ไม่มีที่ปรึกษา เพราะชีวิตนี้เขาไว้วางใจใครไม่ได้....
ไม่ได้แม้แต่พ่อผู้บังเกิดเกล้า.........
จะหันไปหาญาติฝ่ายแม่ก็ไม่ได้
คนที่อยู่ในสภาพเช่นนี้....จิตใจเขาจะเป็นเช่นใด...ขมขื่นว้าเหว่ เศร้าและเหงา..
อย่า ไปรบกวนพระท่านอีกเลย...ปล่อยให้ความสงบในร่มเงาผ้าเหลือง
ให้ความคิดพระท่านได้ตกผลึกด้วยตนเองเถอะ...ท่านรับกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อมา
นานมากแล้ว..
สื่อเองควรจะเสนออะไรควรจะระวังมากกว่านี้..อย่าเห็นเป็น
เพียงข่าวที่ขายได้
โดยไม่ได้คิดคำนึงถึงว่าจะมีใครเสียหายมากเพียงไรจากข่าวที่ตนเองนำมาเล่น
ลุงชุบ
++
ดวงใจล้านดวง ในทรวงล้านคน
มีใครหลีกพ้น ฤทธิ์พิศวาสบาดดวงใจ
แปลกนักความรักยิ่งใหญ่ หนึ่งเดียวอยู่เหนือใดใด
ใครสมชีวีมีรสโอชา ใครมีเคราะห์กรรมโดนรักทำเอา
เป็นความอับเฉาเพราะมัวแต่เฝ้าใฝ่ฝันหา
อันความรักแรงคล้ายไฟป่าไหม้ใครให้ร้อนชีวา
ทนทุกข์ทรมาน สิ้นดี
ก็รู้ยังไม่วายอยากเจ็บ
จะแตกเย็บก็ทนสู้ยอมกายพลี
จะสิ้นชีวิตล้มลงขอลองดูที
อยากจะมีคู่คิดชิดกลม
เช่นฉันเททุมใจเพียงเธอ
สม่ำเสมอเพ้อคอยละเมอทานทน
จะแหลกจะยับพับลงเพราะเธอจะทน
ไม่กังวลข้นแค้นคิดคลอนคลาย
??
++
อ้ายคนที่ชอบวิจารณ์ว่าลูกชายพุ่มพวง ไม่ผูกพันธ์ไม่คิดถึงเเม่
ไม่รักเเม่หรอก พ่อเลี้ยงมาต้องกตัญญูรักพ่อเทิดทูนพ่อเซ่
เเม่ๆคนพวกนี้มันดังระดับตำนานเหมือนเเม่เค้าป่าวหว่ะ
ลูกชายเค้่ารักเเม่เค้าได้โดยไม่ต้องจับเนื้อต้องตัว
วิดีโอ เสียงพูด เสียงเพลง ลีลาการละเล่น การเเสดงบนเวทีของเเม่เค้า มีให้ดู เพียบ
ขนาดไม่ใช่ลูกใช่โคตรได้ดูก็เหมือนเค้ายังอยู่เล้ย
ประสาอะไรกับคนเป็นลูกเเท้ๆจะไม่รู้สึกโหยหาอาลัย
คิดถึงเมื่อไรเปิดดูได้เมื่อนั้น ผนวกบวกกับ ชีวิตโคตรรันทด
จะไม่คิดถึงเเม่ได้ไง จะไม่อยากหอมเเม่กอดเเม่ได้ไงหว่ะ
คิดเด้อซิเด้อ โอ้ยยยยย เอามาตรฐานหัวใจ้บ่มิ๊ตัดสินลูกเค้า
เข่าข่างพ้อฉั่วชั่ว จั๊กซี่ล่ะ โอ้ยยยยยยย
เชื่อว่า พระลูกเพชร คิดถึงเเม่จริงๆ โหยหารักจากเเม่ จริงๆ
++
คำโบราณว่า
ขาดแม่เหมือนแพแตก
ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก
จำได้อยู่
++
จริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก
การที่จะตัดสินได้ว่าใครผิดหรือถูกมันไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าฝ่ายพ่อ
หรือฝ่ายลูก เมื่อเหตุการณืมันเกิดขึ้นแล้วและยากที่จะประสานให้ดีได้เหมือนเก่า
ก็ลองลดระดับ ปรับให้มันดีที่สุด คือทั้ง 2 ฝ่าย หยุดซะเถอะ
ให้เห็นแก่คุณพุ่มพวง
ถ้าเธอสามารถรับรู้ได้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเธอคงจะเสียใจมาก
ถ้าลูกไม่มีความสุข
หรือยังทำใจไม่ได้ก็ปล่อยเค้าให้เค้าได้ดำเนินชีวิตของเค้าไป
ห่วงก็ได้แต่ทำอยู่ห่าง ส่วนลูกไม่ควรจะก้าวร้าวเรื่องมันผ่านมานาน
ยากจะแก้ไข ปล่อยวางใช้ประโยชน์จากการที่ได้ใกล้ชิดพระธรรมให้เกิดประโยชน์
ไม่ว่าใครจะกระทำสิ่งใดที่ถือว่าผิด กรรมจากการกระทำจะสนองเขาเอง
เพราะฉะนั้นควรหยุดได้แล้วให้ประชาชนจดจำพุ่มพวง ว่าเป็นราชินีลูกทุ่ง
ไม่ใช่นักร้องที่สามีและลูกทะเลาะกันแบบนี้
คิด1
++
อยากจะบอกว่า เกือบ 17 ปี ที่ใช้ชีวิตคู่กับสามี และลูกสาววัย 14 อีก 1
คน เห็นใจทั้งคุณไกรสรในฐานะพ่อ และพระเพชร ในฐานะลูก
ชีวิตครอบครัวเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา
มันสามารถกลายเป็นปัญหาได้ทั้งนั้น ถ้าขาดสติ และสำนึกในหน้าที่ของตนเอง
โดยส่วนตัวแล้วเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าไม่มีใครในโลกที่รักและปรารถนาดีกับ
เรา โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เหมือนพ่อแม่
แต่พ่อแม่ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่มีทั้งด้านมืด ด้านสว่าง
ในสิ่งที่พ่อแม่เราต่างไปจากพ่อแม่ของคนอื่น
อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราน้อยใจ หรือ เสียใจ แต่เราก็ไม่ควรก้าวร้าวท่าน
ทั้งทางกาย วาจา ใจ ขออนุญาตยกคำกล่าวของแม่ชีศันย์สนี
"ลูกคืออนุสาวรีย์ของพ่อแม่ ถ้าลูกประพฤติดี
ผู้คนก็จะพากันเคารพยกย่องอนุสาวรีย์นี้ แต่ถ้าลูกประพฤติชั่ว
ก็เปรียบเหมือนเป็นอนุสาวรีย์ที่ประจานพ่อแม่"
คุณไกรสรอาจจะไม่ใช่สามีที่ดีที่สุดในโลก
แต่เชื่อว่าเค้าก็ไม่ใช่พ่อที่เลวที่สุดแน่นอน
น้องๆ(เชื่อว่าอย่างนี้)ที่แสดงคห.ในทางสนับสนุนให้พระเพชรไม่นับถือคุณพ่อ
ไม่น่ารักเลยนะคะ วันนึงที่พวกคุณเป็นพ่อเป็นแม่เองแล้ว
จะรู้ว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีเลิศประเสริฐศรีในทัศนคติของลูกน่ะ
มันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน เด็กที่พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน
ก็บอกว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ เด็กที่พ่อแม่ไปรับ-ส่งที่โรงเรียนทุกวัน
ก็บอกว่า พ่อแม่ไม่ไว้ใจ เด็กที่เกิดในครอบครัวมีเงิน
ก็บอกว่าอยากได้ความรักความอบอุ่นมากกว่า
ความต้องการของมนุษย์มันหาจุดสิ้นสุดได้ยาก
อยากให้พวกน้องๆที่ยังมีสถานะเป็นเพียงลูกทุกคนทราบว่า
พ่อแม่ทุกคนต่างก็หวังจะเป็นคนที่ดีที่สุดในสายตาลูกด้วยกันทั้งนั้น
พยายามทำทุกอย่าง รวมถึงยอมเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต เพื่อลูก
ตั้งแต่เล็กจนโตเฝ้าอบรม ดูแลสั่งสอน และเพาะบ่มต้นไม้แห่งความดีในใจลูก
หวังเพียงให้ต้นไม้นั้นแตกกิ่งก้านสาขา เติบโตไปพร้อมๆกับลูก
เพื่อที่วันนึงข้างหน้า ลูกจะสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
และเผื่อแผ่ร่มเงาให้ความร่มเย็นกับผู้อื่นได้บ้าง
พ่อแม่หวังเพียงเท่านี้จริงๆค่ะ
แม่คนหนึ่ง
++
ผมขอตอบแบบเป็นกลางเท่าที่จะทำได้นะครับ คือจะไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งนั้น
1. ขอให้พวกเราตัดประเด็นที่ว่า พ่อน้องเพชร หรือ คุณไกสร
นั้นนิสัยส่วนตัวเป็นอย่างไรให้เป็นประเด็นตกไปก่อนเพราะมันต่างกรรมต่าง
วาระกัน ถ้าหยิบเรื่องหลายสิบปีมาพูดหรือมารื้อฟื้นเหมือนเป็นการไม่ให้โอกาสกันและ
เป็นการจับแพะมาโยงแกะ ด้วยความอคติ .....เช่น ประโยคที่ว่า พ่อน้องเพชร
นั้นเจ้าชู้ แต่เจ้าชู้ก็ส่วนเจ้าชู้นี่ครับ ถึงพ่อเป็นนักโทษประหาร
หากให้ข้าวลูกกิน3มื้อ ก็นับว่าเป็นพ่อของตัว
เราจะปฎิเสธความเป็นพ่อไม่ได้หรอกครับ
2. การที่คุณไกสร หากินด้วยชื่อเสียงคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
นั้นถือเป็นผลประโยชน์พลอยได้ของอดีตสามี คงคล้ายๆ
อดีตภรรยาของนักร้องดังๆที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเมื่อนั่นไม่ใช่ความผิด
สิ่งที่คุณไกสรทำก็ไม่น่าจะเป็นความผิดนี่ครับ
ก็คงคล้ายๆผมไปซื้อที่ดินข้างบ้าน แล้วเผลอมีต้นมะม่วง ให้ผลดกงาม
การที่ผมจะเด็ดมะม่วงนั้นมากินฟรีๆ ก็เป็นสิทธิ์มิใช่หรือ??
3.การ ที่คุณไกสรและครอบครัวคุณพุ่ม ใช้เงินที่คุณพุ่มหามาจนหมด
ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของคู่สมรส นะครับ เพราะตามกฎหมายนั้นคุณไกสร
ถือว่าเป็นบุคคลที่1 หากคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
เสียชีวิตไปจะเป็นคนแรกที่ได้เงินมรดกก้อนนั้นไป และ
เงินก้อนนี้นี่แหละที่เอาข้าวใส่ปากน้องเพชรทุกวันจนโต
ส่วนจะมีความสุขหรือไม่ ก็อีกเรื่อหนึ่ง
4.การที่น้องเพชร พร่ำพรรณา ถึง มารดาที่จากไป ทำให้อดสงสัย ไม่ได้ว่า
ตลอดระยะเวลาที่เติบโตมา น้องเพชรรู้เรื่องได้อย่างไร และ
ประติดประต่อเรื่องราวประหนึ่งนั่งอยู่ในเหตุการณ์ได้อย่างไร
ทั้งๆที่ตอนแม่น้องเพชรเสียชีวิตไปนั้น น้องเพชรอายุเพียง 5 ขวบ
คนอายุ5ขวบ จำอะไรไม่ค่อยได้หรอกครับ แล้วที่บอกว่ารักแม่มาก
คิดถึงแม่ทุกลมหายใจ ทั้งๆที่แม่อยู่กับน้องเพชรเพียง 5 ปีนี่นะ?
ตอนเราๆท่านๆ 5 ปี เราพอจำอะไรได้บ้างหรือเปล่าครับ?
ความรู้สึกที่มีต่อแม่มันมี แต่คงลืมๆไปบ้างแหละ อย่าโอเวอร์เลยน้องเพชร
เพราะขนาดพ่อเลี้ยงมาตั้ง18ปี ยังบอกว่าพ่อเลี้ยงไม่ดีเลย
5.การที่ น้องเพชรบอกว่า พ่อเลี้ยงไม่ดี เป็นเหตุแห่งให้หนีออกจากบ้าน
นั้น ผมไม่รู้ว่าเลี้ยงไม่ดีอย่างไร พ่อแม่ทุกคน ผมเชื่อว่า
ต้องมีบ้างแหละที่เคยทำให้ลูกเสียใจ หรือ ผิดหวัง
เราเลือกเกิดไม่ได้นี่ครับ ถ้าพ่อเลวแต่เขาเลี้ยงน้องเพชรจนโต
จะเลวก็ช่างเขา แค่น้องเพชรไม่ทำตามนิสัยเลวๆ ก็น่าจะพอแล้วนี่?
การอ้างว่าพ่อไม่ดีเลยหาเหตุ ติดยา มั่วสารเสพติด
จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง แล้วพวกที่เกิดมาไม่เคยเห็นพ่อเลย
เขายังไม่เป็นเด็กเกเรก็มี บางคนแม้ไม่เคยเห็นพ่อก็ยังเฝ้าเพียรตามหาพ่อ
อย่างกรณีน้อง เคอิโงะ นั่นไง อีกอย่างเรายังไม่รู้ได้ว่าพ่อไม่ดี หรือ
ตัวลุกเองก็ไม่ดี อยากให้ฟังหูไว้หูนะครับ
ไม่ใช่จับแพะโยงแกะแล้วใส่ความเกลียดชังลงไป ผมว่า พอๆจะดีกว่า
6.ส่วนเรื่องน้องเพชร จะทำหุ่นขี้ผึ้งแม่ตัวเอง
ส่วนตัวคิดว่าเห็นด้วยที่ควรกระทำ และ มีสิทธิ์ทำ
69
++
Wednesday, June 17, 2009
เปิดเทปลับ ใครกันแน่ที่ฆ่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์"?
เปิดเทปลับ ใครกันแน่ที่ฆ่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์"?
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 มิถุนายน 2552 17:47 น.
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีสำหรับกรณีการมีปากเสียงกันระหว่าง
"พระสรภพ ลีละเมฆินทร์" หรือพระลูกเพชร ทายาทของอดีตราชินีลูกทุ่ง
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" (รำพึง จิตรหาญ) กับญาติๆ ที่ประกอบไปด้วยบิดา "ปุ้ม
ไกรสร แสงอนันต์", ลุง รวมไปถึงน้าสาว กลางงานรำลึกครบรอบ 17
ปีการเสียชีวิตของพุ่มพวง ณ วัดทับกระดาน สุพรรณบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 13
มิถุนายนที่ผ่านมา
เรื่องราวที่เป็นประเด็นสำคัญในการโต้เถียงกันนั้นก็อันเนื่องมาจากการที่
ทางทายาทของราชินีเพลงลูกทุ่งบวชรวมถึงจัดทำหุ่นของผู้เป็นมารดาขึ้นมาพร้อม
เปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงิน ซึ่งทางญาติๆ ส่วนใหญ่นั้นไม่เห็นด้วย
ล่าสุด ทางพระสรภพที่ได้บอกกล่าวถึงเรื่องนี้ผ่านทางรายการ
"เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 โดยบอกว่าความจริงตั้งใจที่จะสึกวันนี้
แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่สบายใจจึงขอเลื่อนออกไปก่อน
ส่วนที่บวชก็เพราะตั้งใจไว้ว่าเมื่อบวชแล้วจะนำเงินที่แฟนเพลงของโยมแม่
มาสร้างหุ่นขี้ผึ้ง แต่ทางโยมน้า พ่อ
และลุงก็มาขัดว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะสร้าง
แถมยังพูดจาดูหมิ่นในทำนองว่าวิญญาณของโยมแม่ไม่มีจริง
อย่าเอาโยมแม่มาหากิน
จึงได้ถามกลับไปว่าแล้วที่แฟนเพลงเขามากราบไหว้อยู่ทุกวันนี้คืออะไร
แล้วที่บ้านของโยมยาย ก็มีหุ่นของโยมแม่
ขณะที่โยมน้าเองก็เคยพูดออกรายการว่า โยมแม่ผึ้งมาหา
ตอนนี้ทำไมถึงบอกว่าโยมแม่ไม่มีจริง
"อาตมาไม่เข้าใจว่าทางนั้นจะมาขัดอาตมาทำไม
ตั้งแต่อาตมาออกมาจากบ้าน ไม่เคยเอาเงินของโยมพ่อมาใช้แม้แต่บาทเดียว
เงินที่โยมแม่ผึ้งหาไว้ให้ก็ไม่เคยเอามาใช้เลย
ตรงนี้อาตมาไม่เข้าใจว่าพวกเขาเดือดร้อนอะไร"
พระสรภพยังบอกต่อไปด้วยว่าเหตุที่ไม่ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก็เพราะ
รู้ว่าพูดไปก็ต้องทะเลาะกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังก็รู้สึกอึดอัดใจมากๆ
ตลอดเวลา 17 ปีที่ผ่านมาที่ได้รับรู้เรื่องราว "เทปลับ"
ที่ผู้เป็นมารดาบันทึกเอาไว้ เมื่อครั้งที่ล้มป่วยในปี 2535
ขณะที่ตนมีอายุ 5 ขวบและได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
ซึ่งทุกคนอาจจะคิดว่าคงจะจำความอะไรไม่ได้ พร้อมยืนยันว่า
ที่พูดออกไปว่าโยมพ่อ โยมน้าๆ เป็นคนฆ่าแม่ผึ้งนั้นไม่ได้ตั้งใจ
แต่เป็นเพราะกดดัน
"ในเทปโยมแม่พูดว่า โยมแม่ว้าเหว่
ท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต และก็ได้ร้องเพลงสุดท้าย คือ
เพลงขอที่พักใจ เป็นเพลงของโยมพี่มาลีวัลย์ เจมีน่า ซึ่งโยมแม่ชอบมาก
เป็นเพลงเดียวที่โยมแม่รู้สึกว่าโดนที่จิตใจของโยมแม่ ก็เลยร้องออกมา
แต่ร้องได้ไม่จบ ไม่รู้ว่าถูกตัด หรือเทปหมดไปก่อน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายนั้นทางผู้ดำเนินรายการได้นำเอาเทปบันทึก
เสียงดังกล่าวมาเปิดออกอากาศด้วยโดยมีใจความสำคัญว่า...
"ไม่รู้จะพูดยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่สบายหนัก แต่ว่าสามีไม่ค่อยใส่ใจ
เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ เกิดอายัดเงิน อายัดทองกันเข้า
แต่ว่าถ้าไม่ทำมันก็ไม่ถูก เพราะว่าเราป่วยมาเป็นปี เขาไม่เคยใส่ใจ
เขาไม่เคยดูแล ดูเหมือนกัน แต่ดูแบบ ตายก็ดี อยู่ยังไงก็ได้"
"ซึ่งในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์อายัดกันเข้า ซึ่งได้ทำใจไว้แล้ว
ถามแล้ว ว่าอยากให้หายหรืออยากให้ตาย รู้ไหมคำตอบเขาบอกว่าไง
แล้วแต่จะคิด แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่า จะทำให้จุดชนวนที่เราจะต้องเลิกกัน
เพราะเรามีลูก แต่เหตุการณ์มันก็หนักขึ้นๆ
ในเมื่อคนป่วยนอนป่วยอยู่ที่นี่ แต่ก็ผู้ป่วยไม่เคยได้เห็นลูก
คนพูดนี้คือ ดิฉัน พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นนักร้อง ทุกคนคงพอรู้จัก"
...
รอยร้าวพ่อ-ลูก
จะว่าไปแล้วนับตั้งแต่ที่ราชินีเพลงลูกทุ่งได้จากไป
จนถึงก่อนที่จะมีเรื่องราวเช่นทุกวันนี้
จากข่าวที่ออกมาความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกอย่าง "ไกรสร-สรภพ"
ต้องถือว่าเป็นไปด้วยดี
แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนเป็นระยะเวลานานนับสิบปีก็ตาม
ทว่าหลังกลับจากมาอยู่ที่เมืองไทย เดือนธันวาคม พ.ศ.2548
ชื่อของทั้งสองก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งทางหนังสือพิมพ์
เมื่อทางนายไกรสรได้ออกมาให้ข่าวแจ้งถึงการหายตัวไปของลูกชายเป็นเวลาร่วม
สองอาทิตย์หลังจากที่มีข่าวว่าทายาทของราชินีเพลงลูกทุ่งเตรียมที่จะเดินตาม
รอยเท้าแม่ด้วยการเป็นนักร้องไม่นาน
ก่อนจะระบุถึงหญิงสาววัย 23 ที่ชื่อ "น้ำอ้อย ธิดารัตน์ "
ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าลูกชายรู้จักกับผู้หญิงคนดังกล่าวผ่านทางอินเทอร์เน็ต
และน่าจะอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ครั้งนี้
พร้อมได้นำภาพถ่ายและประวัติส่วนตัวของอีกฝ่ายมาโชว์
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักทางด้านของ "น้ำอ้อย"
ก็ได้ออกมาโต้นายไกรสรว่าตนไม่ใช่แฟนของน้องเพชร
ความสัมพันธ์แค่พี่สาวที่รู้จักกันเท่านั้น พร้อมยืนยันไม่เคยยุยง
หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสัญญาของค่ายเพลงตามที่อีกฝ่ายกล่าวหา
แต่ยอมรับลูกราชินีเพลงลูกทุ่งนั้นเคยขอความช่วยเหลือขณะหนีออกจากบ้านจริง
นับตั้งแต่เกิดเรื่องดังกล่าวความความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ก็เปลี่ยนไป
ทันที มีข่าวในทางที่ไม่ดีออกมาอยู่เนืองๆ
โดยครั้งหนึ่งที่ทายาทของราชินีเพลงลูกทุ่งไปออกรายการทีวีพร้อมบอกว่าที่
ผ่านมาตนเองเกือบตายมาแล้วเพราะไม่สบาย โดยที่พ่อไม่สนใจไยดี
แต่ขณะที่กำลังจะตาย วิญญาณของแม่ก็ได้ไปบอกกับเพื่อนให้มารับไปโรงพยาบาล
จนทำให้รอดชีวิตมาได้
ขณะที่ผู้เป็นพ่อก็ออกมาให้ข่าวถึงเรื่องดังกล่าวโดยยืนยันว่าสิ่งที่บุตร
ชายพูดนั้นเป็นเรื่องโกหก
เสมือนเหยียบหัวพ่อให้ตัวเองเด่นดังเป็นการเรียกคะแนนสงสารในการขายเทป
พร้อมบอกว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ปล่อยให้ลูกตายต่อหน้าต่อตาอย่างแน่นอน
และเป็นตนเองที่นำตัวลูกชายไปส่งโรงพยาบาลพร้อมกับเฝ้าดูแลอยู่ตลอดเวลา
2 ปีต่อมาพ่อลูกคู่นี้ได้มีโอกาสออกทีวีร่วมกันในรายการ "ตีสิบ"
โดยทางทายาทของพุ่มพวงได้กล่าวขอโทษผู้เป็นบิดาพร้อมทั้งก้มลงกราบที่ตักแต่
ทั้งหลายทั้งปวงก็ดูจะเป็นเพียงแค่ภาพแห่งความประทับใจที่ถูกสร้างขึ้นในจอ
โทรทัศน์เท่านั้น
เพราะนับตั้งแต่การไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของนาง "สุพรรณี
สุกระกาล" มารดาของ "น้ำอ้อย" (ปัจจุบันทั้งสองคบหาดูใจในฐานะแฟนกัน)
ในฐานะบุตรบุญธรรม
ทางด้านผู้เป็นบิดาที่แต่ก่อนมีข่าวในทำนองที่ว่าไม่ค่อยจะลงรอบนักกับทาง
ญาติๆ ของครอบครัว "จิตรหาญ" ก็ดูจะญาติดีกับทางด้านลุงและน้าๆ
ลูกชายตนเองมากขึ้น
โดยว่ากันว่าเป้าหมายของทั้งสองก็คือทางครอบครัวใหม่ "สุกระกาล"
ซึ่งนอกจากจะถูกมองว่าทำให้ลูก-หลานของตนเปลี่ยนไปแล้ว
ก็ยังรวมไปถึงเรื่องของผลประโยชน์จากชื่อเสียงของราชินีเพลงลูกทุ่งนั่นเอง
คงจะต้องใช้เวลาอีกพักเพื่อที่จะได้รับรู้กันว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่
วัดทับกระดานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ตลอดจนการออกมาจุดประเด็นเรื่องเทปลับในครั้งนี้จะจบลงเช่นไร
แต่ ที่ไม่ต้องรอเลยในตอนนี้จากเรื่องต่างๆ ก็คือคำถามที่หลายๆ
คนส่วนใหญ่คงคิดเหมือนๆ กันว่าระหว่าง "โรคเอสแอลอี"
ที่พรากเอาชีวิตของคนชื่อ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ไป
กับบรรดาคนรอบข้างที่ก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมานี้
อะไรที่น่ากลัวกว่ากัน?
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000067495
คนที่ว่าพระเพชรข่าวเมื่อวานเป็นยังไงล่ะ
พวกคุณไม่เคยเจอชีวิตแบบเขาพวกคุณไม่เข้าใจหรอก
แม่ตัวเองตายแต่ญาติกลับมาคอยหากินกับชื่อเสียงของแม่
ถามตัวเองกันนะว่าเป็นคุณจะโมโหไหม ถึงมีผ้าเหลืองก็เถอะ !!!
ถึงเป็นพ่อผมแต่ถ้าทำไม่ถูก หากินกับแม่ผมที่ตายไปแล้ว
และเอาเงินไปใช้ชีวิตกับเมียใหม่
ผมก็ด่าเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นพ่อก็เถอะ !!!
อะไรๆก็ว่าพระเพชรไม่สำรวม แต่ผมมองกลับว่า พระเพชร
ปกป้องโยมแม่มากกว่านะ ทนไม่ได้ที่เห็น ญาติๆ หากินกับแม่แบบนี้
ถ้าเป็นแม่พวกคุณ คุณจะโกรธไหม
++
ผมเห็นใจฝ่ายพระมากกว่าแฮะ
เพราะ ท่านเองก็เป็นลูกในไส้
พี่น้องญาติๆ เกิดจากคุณพุุ่มพวงหรือไง ก็เปล่า
ถามเลย ใครผูกพันลึกซึ้งกว่ากัน แล้วทำไมถึง
ไม่ยอมให้สร้างใหม่ คุณพุ่มพวงผมก็ยกย่อง
ในฐานะบุคคลที่มีความสามารถ แต่ไม่ใช่ในฐานะ
เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนละเรื่อง งมงายไปเองหรือไง
ถึงสร้างใหม่ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อีกอย่าง
เป็นความประสงค์ของผู้เป็นลูก มันผิดตรงไหน?
คนที่ขาดความอบอุ่น พ่อก็เลว แม่ก็จากไปแล้ว
ความรู้สึกอยากเจอแม่อีกครั้ง จะมีใครเข้าใจบ้าง?
ที่พระสติขาดต้องทำความเข้าใจก่อน เป็นพระก็คนนะ
แล้วคนเพิ่งบวช คุณคิดว่าจะเป็นพระอรหันต์ ตัดกิเลส
ตัดอารมณ์ได้เลยหรือไง? คนที่ว่าพระน่ะ
เคยบวชกันกี่คนครับ คนเรามันมีลิมิต ยิ่งเจอเรื่อง
จี้ใจดำใครจะไปทนไหวครับ ว่ามั๊ย?
ก่อนจะว่าพระต้องเข้าใจโลกของพระก่อนมั๊ยครับ
AnanT
++
พระเพชร สู้ๆๆ นะครับ
ด้วยความคิดความอ่าน ผมเข้าใจพระท่านดีครับ
ถึงเวลาที่เราต้องเข้มแข็งแล้วครับ เราต้องมั่นคงและเคารพในสิ่งที่เราตัดสินใจครับ
ในมุมของผม ถ้าผมเป็นพระเพชร
1. โตมาแต่เด็ก โดยที่โดนบิดเบือนความเป็นจริงมาตลอด ว่า ในความเป็นจริง
มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราก็ต้องยอมรับความจริงครับ
ถึงแม้ว่าความเป็นจริงบ้างอย่างมันอาจจะเจ็บปวด แต่ต้องสู้ครับ
2. รักตัวเองดีที่สุด ถึงแม้ว่าบ้างทีอาจจะ เดินทางผิดบ้าง
เดินทางถูกบ้าง แต่ขอให้มีสติ ไม่ว่าจะด้าน ความคิด หรือ การกระทำ
อะไรต่างๆๆนาๆๆ
3. อยู่แบบพอเพียง คือ พอใจในสิ่งที่ตนมี
4. ในเรื่องสร้างรูปปั้น คุณ แม่ ถ้าตนเอง คิดว่า ทำแล้วดี
แล้วมาจากความคิดของตนเอง ผมสนับสนุนให้ทำครับ ใครจะมาว่าเราว่า
หาเงินเข้าตนเอง ผมว่ามันก็ไม่ผิดนะ เราไม่ได้ไปขโมยเค้า แล้ว
เงินนั้นก็มาจาก การที่คนเค้าศัรทธาแม่เรา (กี่ปีแล้ว ที่คุณแม่
โดนเอาเปรียบ โดนการอ้างชื่อ มาหากิน)
พี่เป็นคนหนึ่งที่จะสนับสนุนการสร้างรูปปั้นครับ เพราะ ในความคิดผม
ถ้าผมคิดอยากจะทำบุญ ผมสามารถมั่นใจได้ว่า บุญที่ทำ คือ
ถึงตัวคุณแม่น้องโดยตรง คือเชื้อสายคุณผึ้งโดยตรง(คือตัวน้องครับ)
ไม่เห็นจะต้องใส่ใจเลยว่า เงินที่ได้ น้องจะเอาไปทำอะไร
มุมมองวัยรุ่นคนนึง
++
ตามไปดูคลิปข่าวแล้วรู้สึกแย่มากๆ
http://www.youtube.com/watch?v=7WdrXAwHGZU
เฮ้อ ....
อยากให้กำลังใจ และอยากบอกพระเพชร ครับ
อะไรที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ปล่อยวางซะเถอะนะครับ
อย่าไปเสียใจอะไรมากมาย
เราอาจจะโชคไม่ดีที่มีคนในครอบครัว เป็นแบบนี้
ในเมื่อเราไปเปลี่ยน ไปแก้อะไรเขาไม่ได้
ก็ถอยห่างออกมาซะดีกว่าครับ
อย่าให้เรื่องร้ายๆติดอยู่ในใจนานเกินไป
ดูแลหัวใจตัวเองให้ดี ให้เข้มแข็ง อดทน
เพราะน้องยังมีอนาคตอีกยาวไกล
ให้หยาดเหงื่อ แรงกาย และจิตใจที่ดี เป็นแสงสว่าง นำน้องไปสู่ความสุข ความสำเร็จ
คิดถึงอนาคตที่ดี ที่จะทำให้คุณพุ่มพวงภาคภูมิใจ
เรื่องทางวัตถุ เงินทอง ปล่อยให้คนโลภ มันทะเลาะกันต่อไปเถอะครับ
เชื่อเถอะ ... อีกไม่นานก็เสื่อม
ให้กำลังใจครับ
++
เราคิดว่าพระเพชรมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ที่จะทำหุ่นแม่ของตัวเอง
จะทำเพื่อประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ แต่ก็มีสิทธิ์ ดูอย่างที่ดารา
หรือนักร้องคนอื่นๆ ก็ยังทำหุ่นพุ่มพวงเพื่อโปรโมทตัวเอง
สร้างชื่อเสียงหรือกระแสให้ตัวเองได้ นับประสาอะไรกับลูกแท้ๆ
ที่มีสิทธิ์เต็มที่ แล้วคนที่เข้ามาขัดพระเพชร ก็บอกว่า
พวกเขากลัวว่าถ้าสร้างขึ้นมาใหม่ กระแสการกราบไหว้ ที่จะก่อให้เกิดรายได้
หรือค้าขายสิ่งของต่างๆ ภายในวัด หรือที่ไหนก็ตาม
ก็จะมีการวิ่งไปทางพระลูกเพชรมากกว่า นี่แหละคือ ทำไมถึงขัด
dm.
++
ถ้าจะมานับอย่างงี้ก็ผิดหมดนั้นแหละ ผิดตั้งแต่ออกมาเป็นคนแล้ว
ไม่ว่าพุ่มพวง หรือลูก หรือแม่ น้าพี่ชาย ทำไมไม่เดินไปข้างหน้า
เอาแผลเก่ามาเปิดใหม่ มันก็ผิดด้วยกันหมดนั้นแหละ พุ่มพวงเองก็ผิด
ผิดที่เลือกคนไม่ดี ผิดเองที่ไม่ได้จัดแจง อะไร ๆ ไห้เสร็จ ๆ
ถ้าจะมาโทษกันไปโทษกันมา แล้วมันยิ่งทำไห้ทุกอย่างแย่ลง
ทำไมคนที่มีสิทธิ์ หรือญาติพี่น้อง ไม่ทำไห้มันดีขึ้น ทำไมต้องแย้ง
กันด้วย อะไรที่เลวร้ายก็ปล่อยมันไป
รื้อฝื้นมันก็ไม่มีประโยชน์มีแต่เสียกับเสีย
เรื่องนี้ต้องให้คนภายในแก้ไขกันเอง คนไหนที่พยายาม เป่าหู พระเพชร
คนนั้นยิ่งบาป เข้าไปใหญ่
122
++
ไม่เข้าใจคนส่วนใหญ่ยุยงให้พระเพชรเกลียดพ่อ ยิ่งจะทำให้เขาบาปมากขึ้น
จะดีช่วอย่างไรพ่อก็เลี้ยงมาตั้งแต่แม่ตาย
ตั้งแต่สี่ห้าขวบยังช่วยตัวเองไม่ได้ ถ้าเมียพระเพชรปอกลอกอีก
วันนั้นพระเพชรจะหันหน้าไปพึ่งใคร ปริญญาก็ไม่มี อายุก็จะมากขึ้นไปทุกวัน
แล้วเงินบริจาคสร้างหุ่นจะโปร่งใสได้อย่างไร ตัวเองจะต้องวุ่นวายไม่รู้จบ
ให้อภัยพ่อเถิด
++
สิทธิของลูกโดยสายเลือดย่อมทำได้มากกว่าทุกคน
แม้นแต่สามียังแสดงสิทธิได้น้อยกว่าเพราะเลิกกันก็เป็นคนอื่น
ยังไงเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ลูกจะสร้างหุ่นแม่ของตัวเอง
ห้ามเพราะมีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง
เพราะต่อไปเงินบริจาคจะไปตกที่ลูกชายคนเดียว
คณะกรรมการ ที่มีพี่ ป้า น้า อา สามี อาจต้องโมฆะ
และลูกชายอาจเป็นประธาน เงินก้อนนี้แทน
ผลประโยชน์แอบแฝง
++
..........
มันเกิด จากความกดดันตั้งแต่เด็ก ตัวพ่อก็ทำตัวไม่น่านับถือ
เมียตัวเองป่วยบั้นปลายชีวิตแทนที่จะพาลูกมาเยี่ยมและสร้างกำลังใจ
ให้ลูกกับแม่ได้เจอกัน ให้แต่หนีไปอยู่กับเมียใหม่(เลว)
ที่เลี้ยงดูลูกส่วนหนึ่งเพราะผลประโยชน์จากแบรด์พุ่มพวงที่กินได้ตลอด
โฉลดก็ถือไว้กับตัวเอง พอเด็กมันโตขึ้นมีความคิดเองและเลี้ยงตัวเองได้
ผมว่าไม่เห็นจะผิดตรงไหนหากลูกคิดอยากจะทำหุ่นให้แม่ตัวเองที่เกิดจากความ
คิดตัวเองทำ (ผลประโยชน์มันไม่ร่วมกันมั้ง)
จะสำเร็จไม่สำเร็จก็ถือเป็นการให้เขาทำเพื่อแม่เขา
แล้วพอ่พาญาติไปประชุมกันที่วัดและโต้เถียงกัน
ผมว่าพระเพชรได้ระบายความกดดันที่ผ่านมาในชีวิต
ดีแล้วเพราะชีวิตมันต้องพูดออกมา(บางคนก็รู้ว่าไกรสรเป็นอย่างไร?แต่มาปิด
บังตลอด ทีนี้ลูกตัวเองพูดเอง) ดูข่าวเมื่อวาน ตัวพอ่เองทำไม่ถูกเลย
มีเรื่องทะเลาะกับลูกตัวเองแล้ว ยังไปให้สัมภาษณ์ และออกที่คาร์เฟ่
กล่าวหาลูกตัวเอง พ่อแบบไหนว่ะ ลูกจะคิดผิดถูก
พ่อต้องเงียบและหาทางคุยกันตอนเย็นลง ไม่ใช่มาให้ข่าวแบบนี้
ลูกตัวเองยังบวชอยู่จะมาโต้ตอบก็เสีย พ่อเป็นผู้ให้กำเนิดจริง
แต่ไม่ได้หมายความว่า พ่อทำอะไรถูกทุกอย่าง?? ยิ่งเป็นคุณไกรสร....
AIRFORCE1
++
ดูแล้วสงสารพี่ผึ้ง
คนที่สร้างรอยยิ้ม มอบความบันเทิงให้กับพวกเรา
ชั่วชีวิตจนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่นึกถึงพุ่มพวง
เรานึกถึงท่าเต้นที่สนุกสนาน รอยยิ้มที่ร่าเริงบนเวที
และมันเศร้ามาก ที่เบื้องหลังรอยยิ้มของคนทั้งประเทศ
พี่ผึ้งซ่อนคราบน้ำตาของตัวเองเอาไว้
ข่าวนี้ไม่บันเทิงเลยค่ะ แต่อย่างน้อยคลิปสุดท้ายนี้
เป็น อาณิสงฆ์ที่ทำให้ดิฉันและอีกหลายๆ คนแผ่เมตตาภาวนาทุกครั้งที่ทำบุญ
ขอให้พี่ผึ้งมีความสุขเท่าทวีคูณกว่าความสุขที่พี่ผึ้งมอบให้กับพวกเรา
ขอบคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ค่ะ
banana
++
ฉันเป็นแฟนเพลงพุ่มพวงตั้งแต่เพลงแรกๆ
ติดตามผลงานมาตลอดไม่เคยสนใจในเรื่องส่วนตัวของเขาแต่มาสะกิดใจตอนแต่งงาน
กับไกรสร มีบางอย่างบอกตัวเองว่าผู้ชายคนนี้ต้องการสูบเงินจากพุ่มพวงทั้งๆที่ตัวเอง
ก็เป็นดาราเราอาจคิดไปเอง แต่พอพุ่มพวงตายเห็นกระเตงลูกเหมือนรักนักหนา
ด้วยความรู้สึกของความเป็นแม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องใช้ลูกหากินแน่ๆ
น่าสงสารเด็กที่วาสนาดีได้เกิดเป็นลูกคนดังแต่โชคร้ายที่มีพ่อที่ไม่น่าจะ
เป็นพ่อ มีพี่ป้าน้าอาที่ไม่น่าจะเป็นที่พึ่งได้
ตอนนี้เธอเติบโตรับรู้และคิดได้ด้วยตัวเอง
คนที่น่าเชื่อถือที่สุดคือเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่เลวๆที่จ้องแต่จะหาผลประโยชน์
พวกนั้น เห็นด้วยกับลูกชายพุ่มพวงทุกประการ
mama1111
++
น่าสงสารคุณผึ้งจัง
ตอน ที่คุณผึ้งมีลูกเรายังไม่โตมากแต่ก็พอจำได้ว่าคุณผึ้งรักลูกมาก....แต่ก็
ต้องมาจากไป ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงรู้กันว่าใครคือคนที่คุณผึ้งห่วงมากที่สุดเพราะคุณผึ้ง
ต้องโตมาและชีวิตทั้งชีวิตทำงานหาเงินมาเพื่อคนอื่นทั้งชีวิตเพราะฉะนั้นคุณ
ผึ้งย่อมพอรู้ชะตากรรมลูกตัวเองว่าต้องอยู่กับเสือ สิงห์กระทิง แรด
เลยทำให้ยิ่งห่วงมาก ไม่อยากคิดเลยว่าคุณผึ้งตายอย่างไม่สงบเพราะห่วงลูก
ขอ ให้น้องเพชรเป็นคนดีนะคะ
ถึงจะจำไม่ได้แต่อยากให้รับรู้ว่าคุณแม่คุณรักคุณมากแค่ไหนและอยากให้คุณ
เป็นคนดีและประสบความสำเร็จชีวิตคนนึง
คุณนี่แหละที่จะเป็นคนทำให้ราชินีในตำนาน พุ่มพวง ดวงจันทร์ไปอย่างสงบได้
เป็นคนดี หนักแน่นเพื่อคุณแม่นะคะ
++
"ไกรสร" หวั่น "เพชร" โดนของ! สุดช้ำโดนลูกด่า บ่น "ผึ้ง"
ก็กตัญญูทำไมลูกเป็นแบบนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มิถุนายน 2552 01:19 น.
"ไกรสร" น้ำตาคลอ เปิดใจลูกชายเปลี่ยนไป
หลังหนีออกจากบ้านไปอยู่กับแม่แฟนเมื่อหลายปีก่อน กลายเป็นเด็กก้าวร้าว
ด่าพ่อด่าน้องแม่ตัวเอง แอบหวั่นลูกโดนของ พร้อมเคลียร์ กรณีคลิปลับที่
"พุ่มพวง" ตัดพ้อไว้ก่อนตาย ว่าไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากอดีตสามี
แถมยังกีดกันไม่ให้พบลูก ยอมรับสำนึกผิดแล้ว
กลายเป็นประเด็นบานปลายที่ระอุขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับกรณีการมีปากเสียงกันระหว่าง "พระสรภพ ลีละเมฆินทร์" หรือ
"พระลูกเพชร" ทายาทของอดีตราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" กับญาติๆ
ที่ประกอบไปด้วยบิดา "ปุ้ม ไกรสร แสงอนันต์" รวมไปถึงลุง และน้าสาว
กลางงานรำลึกครบรอบ 17 ปีการเสียชีวิตของพุ่มพวง ณ วัดทับกระดาน
สุพรรณบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เนื่องมาจากการที่ทางทายาทของราชินีเพลงลูกทุ่ง
บวชแล้วไม่ยอมบอกพ่อบังเกิดเกล้า
รวมถึงการจะจัดสร้างหุ่นของผู้เป็นมารดาขึ้นมา
พร้อมเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงิน ซึ่งทางญาติๆ ส่วนใหญ่นั้นไม่เห็นด้วย
เนื่องจากมีความเคลือบแคลงใจหลายอย่าง
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(15 มิ.ย.) ทางพระสรภพ
ได้เดินทางมาเปิดเผยถึงเรื่องราวความบาดหมางภายในครอบครัว ผ่านทางรายการ
"เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3
พร้อมกับชี้แจงเรื่องคลิปลับของราชินีเพลงลูกทุ่ง ที่ทำการบันทึกไว้
เมื่อครั้งที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อ 17 ปีก่อน
โดยเนื้อหาเป็นการตัดพ้อต่อว่าอดีตสามีไกรสร ว่าไม่เหลียวแล
แถมยังกีดกันไม่ให้เจอลูก ทั้งๆ ที่ตนนอนป่วยต้องการกำลังใจ
จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ล่าสุดเป็นทางฝั่งของ "ไกรสร" ออกมาชี้แจงผ่านรายการ
"ไนท์เอ็นเตอร์เทน" ทางช่อง9 บ้าง โดยงานนี้
ก็ทำเอาเจ้าตัวเปิดใจน้ำตาคลอ ด้วยความน้อยใจลูกชายที่ทำตัวแบบนี้
"เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมา คือวันเสาร์ที่ผ่านมา(13
มิ.ย.) ที่เกือบจะทำให้เกิดเรื่องรุนแรง
ผมแค่อยากถามว่าทำไมถึงไม่บอกพ่อเรื่องบวช
และก็ถามเรื่องหุ่น(หุ่นของพุ่มพวง)แต่เรื่องมันมารุนแรงเพราะเขาคุ้ยเรื่อง
เก่าๆ มาพูด ต่างฝ่ายต่างขุดคุ้ยมา แต่ผมเปล่านะ ทางโน้นเริ่มมาก่อน
ทางญาติพุ่มพวงก็เลยโต้ตอบไป แล้วทีนี้แย้งกันไปมา
เหตุการณ์มันก็เริ่มไปกันใหญ่ มากเข้าเลยกลายเป็นว่า
น้องฆ่าแม่พี่ชายพี่น้องฆ่าแม่ เท่านั้นแหละญาติพุ่มพวงทนไม่ได้
เพราะว่าเขาเป็นคนกตัญญู เลยพูดขึ้นมาทันทีว่า
ลูกต้องกราบขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้ แต่ต่างคนต่างไม่ยอม
เลยเป็นเหมือนภาพที่เห็นในข่าวครับ"
"ผมก็ไม่รู้ว่าปมเรื่องพ่อฆ่าแม่ พี่น้องฆ่าแม่
ยายฆ่าแม่ไปอยู่ในหัวเขาได้อย่างไง ผมก็อยากรู้
ไอ้พวกใส่ข้อมูลมันเป็นไวรัส ญาติพี่น้องพุ่มพวงก็อยากจะรู้
ว่าปมนี้ไปอยู่ในหัวเขาได้อย่างไง ตอนนั้นอายุเขาแค่ 4-5 ขวบด้วยซ้ำ
ผมลองนึกดูแล้วนะ ถ้าไม่มีคนสอน ไม่มีคนชี้แนะ คือผมเลี้ยงมา 18 ปี
ดีมาตลอด เพิ่งมาเสียคนเมื่อสามปีนี้เองเป็นเพราะอะไร
เป็นเพราะอยู่กับใคร อย่างที่ข่าวเคยบอก
ว่าเพียงไม่กี่เดือนเขาก็ด่าพ่อด่าแม่ แล้วก็กลายเป็นอย่างนี้
ไม่รู้ว่าอะไรทำไมทำให้คิดอย่างนี้ เจอกันแค่เพียงไม่กี่วัน กับ 18
ปีทำไมถึงเป็นแบบนี้"
"คือไม่อยากจะพูด เพราะมันจะยิ่งแย่ไปใหญ่ที่เอามาพูด
ยืนยันได้คำเดียวว่าไม่ใช่สมองของน้องเพชร น้องถูกครอบงำ
เชื่อเขามาแน่นอน เชื่ออย่างโบราณก็ถูกของ ถูกอะไรก็ว่าไปครับ(หัวเราะ)"
ถามถึงเหตุผล ที่ทำไมไม่เห็นด้วยที่ลูกชายจะสร้างหุ่นพุ่มพวง
เจ้าตัวชี้แจงว่า เพราะเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลหลายๆ อย่าง
กลัวลูกชายถูกหลอกเป็นเครื่องมือ
"ผมไม่เห็นด้วยเพราะว่าหนึ่ง เขาไม่มาปรึกษา สองชัดเจนก็ไม่ชัดเจน
สร้างไม่รู้มูลค่าเท่าไหร่ สร้างยังไง สร้างแล้วเอาไปไว้ที่ไหน
แล้วเรื่องเรี่ยไรเงินประชาชน แล้วทางญาติพุ่มพวงมาปรึกษาผม
แต่ว่าถ้าน้องเพชรมาคุยกับทางผม หรือทางญาติสักนิด
เรายินดีที่จะช่วยกันด้วยซ้ำไป ว่าทำให้มันดีๆ ไปเลยนะ มีผู้สื่อข่าวนะ
ใครก็ตามแฟนเพลงพุ่มพวงจะสร้างให้อย่างดีที่สุด แต่จะมางุบงิบสร้างกัน
คือเราคิดกันอย่างนี้ครับ ว่าลูกถูกหลอกแน่นอนในเรื่องของการทำหุ่น"
พร้อมโต้กลับ เรื่องที่แม่แฟนของลูกชาย
บอกว่าได้โทร.มาแจ้งเรื่องพระเพชรจะบวชแล้ว แต่จำเบอร์ไม่ได้
จึงได้โทร.ไปที่บ้าน แต่ทางภรรยาใหม่ของไกรสรไม่ยอมบอกเอง
"มันต้องมีหลักฐานนะ เบอร์นี้ผมกลับมาจากเมืองนอก
ใช้อยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่เขาบอกว่า เขาจำเบอร์ไม่ได้ ไม่เป็นไร
แต่เขาบอกว่าเขาโทรเบอร์บ้าน เผอิญพระเจ้าช่วยผม
เบอร์บ้านเสียมาได้สองเดือนแล้ว
และผมได้ไปแจ้งที่องค์การโทรศัพท์ว่ามันเสียมานานแล้ว ถ้าเขาเคยโทร.มา
ขอดูหลักฐานเพราะว่ามันมีอยู่แล้ว จะที่บ้านหรืออะไร
แล้วที่เขาบอกว่าภรรยาผมที่บ้านไม่แจ้ง
นี่ไงผมถึงบอกว่าโทรศัพท์ผมเสียนานแล้ว
เพราะฉะนั้นที่เขาพูดไม่เป็นความจริง"
"ปกติกับทางแม่บุญธรรม(แม่แฟนแต่เรียกเป็นแม่บุญธรรม)
ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่เคยคุยกันอยู่แล้วครับ ไม่เคยเจอเขา
เขาไม่เคยโทรศัพท์หาผมแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนผมจะโทร.หาลูกโดยตรง
ได้คุยแต่คุยแค่สองสามวินาทีก็วาง แต่ถ้าเขาไม่อยู่ ก็ได้คุยกันนานหน่อย
แต่ถ้าอยู่กับพวกนั้นก็ไม่ได้คุย(เขากีดกันหรือเปล่า?) ก็คิดกันเองเอง
ไม่ได้ว่าเขากีดกันนะ แต่ผมก็ไม่ได้คุยกับลูกเท่าที่ควร"
ยอมรับ ว่าเทปลับที่พุ่มพวงตัดพ้อต่อว่าตน ไม่ยอมดูแล
แถมยังกีดกันไม่ให้เจอลูก ทั้งที่นอนป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล
คงมีส่วนทำให้ลูกชายเกิดปมในใจ
"เทปลับอาจจะมีส่วนนะ ตอนนี้ผมก็ได้พูดกับไก่
น้องสาวของคุณผึ้งแล้ว ไก่ก็เป็นคนสารภาพกับผมเอง
ว่าเขาเป็นคนให้เทปลับกับหลานไป เพราะว่าตอนนั้นที่เพชรหนีออกจากบ้านไป
เขาก็ไปขอความช่วยเหลือจากน้า แต่ผมคิดว่าเขาหนีไปกับผู้หญิงหรือเปล่า
ซึ่งมารู้ทีหลัง ว่าเขาไปอยู่กับน้า น้าเขาเห็นใจ ก็เลยให้เอาเทปไป
เผื่ออะไรก็แล้วแต่ อันนี้เขาสารภาพกับผมเอง
หนูก็ทำไปเพราะว่าเผื่อเพชรจะเอาไปทำอะไร แต่มารู้ทีหลัง
ว่าเขาพูดอะไรเพชรไม่เชื่อฟังเขาทั้งนั้น ไม่เชื่ออะไรเขาเลย
เชื่อแต่สามคนนั้น(ทางครอบครัวแฟน)อย่างเดียว ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไรนะ
พี่เข้าใจนะไม่เป็นไร"
"ซึ่งตอนแรกผมคิดว่า เด็กหนีร้อนมาเพิ่งเย็น น้าก็คงดูแลไป
ผมยังอุ่นใจด้วยซ้ำไป ว่าหลานมาอยู่กับน้า น้าเขาต้องดูแลแน่นอน
แต่ไม่ใช่เป็นอย่างนั้น ทุกอย่างกลับตาลปัตร น้าเขา เขาก็ไม่สน
หน้ามืดตามัวไป คือทุกคนเอาไม่อยู่ครับ"
ยืนยันเรื่องที่พุ่มพวงตัดพ้อผ่านเทป ว่าไม่ได้รับการดูแลจากสามี
"ไกรสร" ทั้งที่นอนป่วยหนัก ไม่เป็นความจริง
แจงเป็นแค่เรื่องของสามีภรรยา ที่อาจจะมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ้าง
"มันก็เป็นเรื่องผ่านมานมนานแล้วนะ
คนสองคนอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างเป็นของธรรมดา
แต่ใครจะมารู้ดีเท่าเราสองคน หาเงินหาทองมายังไง ช่วยกันยังไง
จะมีทรัพย์สินอะไร จะเป็นหนี้ใครไม่มีใครรู้ เรื่องที่เราไม่ได้ดูแล
มันก็เป็นช่วงที่เราทะเลาะกัน ต่างคนต่างแรง
ถ้าผมจะเข้าไปตอนนั้นมันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
ผมก็เลยมอบให้ครอบครัวเขาดูแล
ผมคิดว่ายังไงครอบครัวเขาก็ต้องดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ก็หายห่วง
ก็ไปหาบ้างหรือบางทีก็โทรศัพท์บ้าง
แต่สมัยก่อนโทร.ก็ไม่ได้คล่องเหมือนทุกวันนี้ ลูกปิดเทอมผมก็พาไปหาบ้าง
มันก็มีความจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพชรอาจจะมีความน้อยอกน้อยใจ
แล้วผมก็ยอมรับผิด ทุกคนมันก็มีทำผิดกันได้
แล้วในเมื่อผมสำนึกผิดกลับมาสำนึกตัว สังคมก็ให้อภัย"
ผู้สื่อข่าวแย็บถามถึงข่าวที่บอกว่า ตอนราชินีลูกทุ่งเสียชีวิต
มีเงินถึง 50 ล้านบาท จริงหรือไม่ แล้วตอนนี้เงินเหล่านั้นหายไปไหนหมด?
เจ้าตัวแจงว่า...
"เงิน 50 ล้านไม่มี ตั้งแต่สมัยไหนแล้ว เขาอาจจะมาตีราคาที่ดิน
อย่างผมซื้อที่มา 3 ล้านเขาก็ตีไป 20 ล้าน คอนโดซื้อมา 2 ล้านตีไป 7-8
ล้าน แล้วคนก็อาจจะตีจากการขายเทปอะไรต่างๆ ซึ่งจริงๆ มันไม่ขนาดนั้น
ใครเขาจะมองว่า เงินที่ผึ้งสร้างมาเยอะ ก็มองไปเถอะครับ
มันไม่ได้เยอะครับ มันก็ยังเหลือทรัพย์สินพอมีบ้านหลังเล็กๆ
อยู่มีบ้านชั้นเดียว และที่ดิน 20 ไร่ ที่ลำพูนเท่านั้นเอง
ต่อไปเป็นของน้องเพชรแน่นอน ก็เขียนยกให้เขาไปแล้ว
ผมตายก็มาเอาไปแต่ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อน้องเพชร
ทรัพย์สินเดิมยังไม่หมดครับ ผมก็พยายามประคองเก็บไว้กิน
เผื่อลูกไม่ดังมา"
"ตอนนี้ผมทำพินัยกรรมแล้วครับ ทำมานานแล้วด้วย
สมบัติก็ใช้ไปขายไปบ้าง ไม่รู้ว่าเหลือเท่าไหร่
จะหนี้ท่วมหรือเปล่าไม่รู้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเหลืออยู่เท่าไหร่
เพราะอยู่มาผมก็ทำกิจการไปพังบ้างอะไรบ้าง แต่ว่าใครอยากอยู่กับเพชร
อยากได้มรดกก็มาฆ่าผมให้ตายไปแค่นั้นเอง"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000067537
สมัยก่อนเรื่องของชาวบ้าน ชาวเมืองก็จะรู้ไปทั่ว สังคมมันเเคบกว่านี้
ช่วง พุ่มพวง ดังสุดขีด คนรวยคนจนไฮโซ ผู้มีบุญหนักมีศักดิ์ใหญ่
ผู้มีชาติมีตระกูล ล้วนรู้จักเเละชื่นชมผลงาน
ความสามารถเฉพาะตัวของ"พุ่มพวง ดวงจันทร์"ด้วยกันทั้งนั้น
พุ่มพวง ดวงจันทร์ ใสๆซื่อๆ ร้องได้เต้นได้ พรสวรรค์จริงๆ
สา มีก็เเปลก ไม่สนับสนุนส่งเสริมเมียเรื่องการศึกษา
เอาเเค่ให้เมียเขียนได้อ่านออก ก็ไม่ทำ เอาเเค่สอนเมียเขียน
สอนเมียอ่านได้ ก็ไม่ทำ ปล่อยให้เมียจมปลักกับการไม่รู้หนังสือ
อ้างเพียงว่าไม่มีเวลาให้เมียได้ร่ำได้เีรียน เมียพรสวรรค์
ความจำเป็นเลิศ ฟังเพลงจำเพลง ร้องออกมาเป็นเพลง ผลประโยชน์
ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายทั้งปวง เมียรู้จักเพียงปั้มนิ้วโป้ง
ปั้มเเปะเอกสารสำคัญทางการงานเเละการเงิน เเปลกดีนะ มันเเปลกดีมั้ย
เมีย รักครอบครัวเเละ่ก็รักผัวมาก ณ วันนั้น ครอบครัวไม่เอาผัว
ผัวไม่เอาครอบครัว เมียดีๆลูกดีๆพี่ดีๆก็คิดมาก ไกรสร ดังมากช่วงนึง
พอขาลงก็ เกาะ พุ่มพวง ติดหนึบ ทำตัวเป็นปลิง เป็นหมัดเห็บ เกาะเมียกิน
ภาษาชาวบ้านหยาบคายหน่อยก็ต้องพูดว่า ไกรสร คือ เเมงดาดีๆนี่เอง
เอา ผัวมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว ตัวเองก็ไม่รู้หนังสือ
ทำเเต่งงานหาเเต่เงิน ผัวก็เข้าบ่อนเป็นนักพนันตังยง
บ่อน(เถื่อน)บ่อนวิ่งทุกเเห่งรู้จักชื่อเสียงดี ละเลงเงินทุกวัน
หมดเงินไปกับการพนันเเละมั่วหญิงมากมาย เมียที่ไหนก็ช้ำใจด้วยกันทั้งนั้น
ป่วยกายพอพยุงไปได้ มาป่วยใจด้วยอีก ช้ำใจพาร่างกายทรุดหนัก เหตุเพราะ
เเมงดาตัวนี้ตัวเดียวจริงๆ
ไกรสร พูดจาเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น อ้างว่าเด็กห้าขวบไม่รู้ความ
นั้นไม่จริง เด็กขาดรักมาโดยตลอด ตัวเอาลูก
เพียงเพื่อเป็นเครื่องกำบังทรัพย์สิน ที่หลงเหลือจากการละเลงเล่นการพนัน
ตัวเองไ่ม่ต้องเเบกภาระหารายได้เข้าบ้าน ไม่ต้องกลุ้มไม่ต้องเครียด
เมียคือสินค้าขายดีขายได้ งานทุกวันคือจัดคิวเก็บตังค์เข้าบ่อนมั่วหญิง
กั๊กเงินซื้อคอนโดไว้มั่วหญิง กั๊กเงินไว้จ่ายต้นจ่ายดอกการพนัน
วันๆทำงานเหนื่อยมากเลยนะ เเมงดาไกรสร
เอาลูกไปอเมริกาอ้างว่าส่ง เสียลูกให้เรียนดีๆ ความจริงลูกเพชร เรียนฟรี
ไกรสร ดูถูก ผู้รู้ผู้อ่าน อยู่อเมริกาก็มีหญิง
ลูกก็เลี้ยงให้โตไปวันๆเท่านั้นเอง
ลูกเพชรจึงโตมาได้ด้วยความคิดของเค้าเอง เค้าทำผิดถูก คิดผิดถูก
โทษเด็กไม่ได้เลย คำว่ารักลูกไม่สอดคล้องกับพฤติกรรม เด็กต้องมีวันโต
คนโตต้องมีวันตาย จำไว้ ปุ้ม !!
คนที่เคยรักใครมากๆสักคนคงเข้าใจดี พุ่มพวง ไม่ได้โง่หลงผัว
เเละเเม้ตัวจะรักลูกมากเเค่ไหน เเต่บางทีรักบังตา ช้ำจำทน ถึงจุดๆนึง
ก็มีส่วนทำให้ร่างกายทรุดหนัก ถึงจุดที่ ความรักลูกที่มีมากเเค่ไหน
ก็ฉุดรั้งดึงร่างกายที่จมทุกข์จมช้ำ ให้ลุกขี้นมาอีกครั้งไม่ได้
ขนาดช่วงท้ายของชีวิต
พุ่มพวงยังไม่ตำหนิผัวตัวเองรุนเเรงให้สมกับสิ่งที่ได้กระทำไว้
โรคที่เป็นก็เรื่องนึง รักษาไม่หายก็เรื่องนึง
เเต่โรคทางใจกับเเมงดาตัวนี้ มีส่วนสำคัญต่อการจากไปของ พุ่มพวง
ดวงจันทร์ @__@
ด้วยความปรารถนาดี หยุดซะ ไกรสร เเสงอนันต์ ลีละเมฆินทร์
++
อ่อ ขอนิดนึงนะคะ ข้องใจมากค่ะ ตกลงนับถือศาสนาไรแน่คะเนี่ย
บอกว่า พระเจ้าช่วยผม --- คริสต์
บอกว่าลูกโดนของ --- พุทธ
ถ้านับถือพระเจ้าเค้าไม่พูดเรื่องโดนของอะไรพวกนี้หรอกค่ะคุณขา
เพราะพระเจ้าไม่ได้สอนให้เชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ
สังเกตุหลายทีแล้วนะคะ ทำไมเวลาคุณให้สัมภาษณ์เนี่ย
แววตาคุณดูเสแสร้งมากเลยนะคะ ดูไม่จริงใจเลยค่ะ
อีก อย่างนึงนะคะ ถ้าลูกคุณโดนของเนี่ย เค้าจะยอมบวชเหรอคะเนี่ย
ดิฉันงงจริงๆค่ะ ไม่เคยเห็นใครโดนของแล้วยอมบวชเลยอ่ะ
เพราะถ้าโดนของจิงๆพระก็คงหน้าตาหมองคล้ำแล้วนะคะ แต่เท่าที่เห็นเนี่ย
พระท่านก็หน้าตาสดใสดี ท่าทางสำรวมด้วยค่ะ สายตาก็มั่นคงกว่าคุณอีก
แล้ว มันผิดด้วยเหรอคะที่ลุกคนนึงอยากทำอะไรเพื่อเป้นการรำลึกถึงแม่น่ะค่ะ
ลูกบางคนพอพ่อแม่ตายไป ก็รวบรวมเงินกันสร้างพระประธาน
สลักชื่อพ่อแม่ตัวเองเอาไว้ใต้ฐานพระ
เพื่อความอุ่นใจค่ะว่าเค้าได้ทำอะไรเพื่อคนที่เค้ารักนะคะ
พระท่านแค่อยากสร้างหุ่นของแม่แค่นั้นเองค่ะ
ก็เลยบอกว่าจะขอรับบริจาคเงิน แค่นี้ผิดเหรอคะคุณขา
เรื่องเงินแค่นี้เองค่ะ
เวลาคุณเอาเงินเค้าไปผลาญเนี่ยไม่เห็นจะสะเทือนเลยนี่คะ
แล้วอย่ามาว่ารักลูก จะยกทุกอย่างให้ลูกเลยค่ะ
แค่คุณทำตัวเป็นพ่อที่ดีแค่นี้ก็พอแล้ว
ลูกคุณคงจะไม่หนีออกจากบ้านหรอกค่ะ ลองคิดดูหน่อยนะคะ
ความจริงก็คือความจริงค่ะ
ทุกคนในครอบครัวตอนนั้นก็ใช้เงินคุณผึ้งกันทั้งนั้น
ไม่เห้นทำอะไรกันเป็นชิ้นเป็นอันเลย
เวลาคุณผึ้งเสียก็มาทะเลาะกันเรื่องเงินอีก สงสารพระท่านค่ะ
พอมาตอนนี้พระท่านเอาเทปออกมาก็หาว่าเข้าใจพ่อผิด
คุณผู้หญิงทุกคนคงจะทราบดีนะคะว่าความรู้สึกของการถูกทอดทิ้งเป็นยังไง
ณเวลานั้นคุณก็รู้ว่าคุณผึ้งคอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว แต่คุณก็ยังทอดทิ้งเธอ
นี่หรือคะเข้าใจผิด ......ใครเห็นด้วยช่วยโหวตหน่อยค่ะ
puak
++
ก็คุณพี่ไกรสรนั่นแหลพค่ะคือ"ของ"ที่ว่า
สิ่งที่คุณกระทำกับลูกคุณนั่นแหละเรียกว่า"โดน"
รวมกันเป็น"โดนของ" ความเลวของพ่อที่ทำกับแม่ไงเลยส่งผลกรรมมาลูก
"โง่"หรือบ้าค่ะที่พูดออกมา
อย่ามาไร้สาระเฉไฉ ความจริงคือคุณมันเลว
ฟังคลิปคุณผึ้งแล้วจะร้องไห้
รักมากเพราะตอนเด้กๆน้องดาวใช้เพลงป้าผึ้งประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆบ่อย
รับไม่ได้ที่ได้ยินแบบนั้น ป้าผึ้งแกพูดออกมาด้วยความปวดร้าวมากๆ
ถ้าคุณยังเป็นคนก็ควรจะสำนึกจุดนี้บ้างนะ
ดาวอยากติดลบ
++
ผัวเป็นชู้กับน้องสาวเมีย
แถมยังมีเมียเก็บเล็กๆอีกเป็นฝูง
แล้วผัวตัวดีก็เอาเงินเมียไปถลุงทีละหลายๆล้าน
พอเมียป่วยก็ให้กินยาหม้อ ทั้งๆที่มีเงินเยอะมาก
ไปรักษาเมืองนอกอยู่ได้หลายๆปี สบายๆ
บรรดาพี่น้องทั้งหลายไม่สนใจพุ่มพวงเลยซักนิด
ได้แต่ไถเงินอาศัยเพลงพี่สาวหากินไปวันๆ
พอรู้ว่าใกล้ตายก็แห่กันมารุมเหมือนอีแร้ง
พอตายก็ฮั้วกับวัดแบ่งเปอร์เซนต์จากต้บริจาค
หุ่นทุกตัวล้วนแบ่งตามจำนวนหัวที่ต้องหารเงิน
พอลูกจะสร้างรูปปั้นบ้าง ก็หาว่าจะมาแย่งเงินค่าบริจาค
...คนตายไปแล้วยังเอามาหากิน ทำตัวเหมือนพวกขอทาน
เวรกรรม
ู^
^
^
Copy มา
ลองสมมติว่า ถ้าคุณเป็นพระเพชร คุณจะรู้สึกยังไงครับ
Copy
++
ขอให้ทุกคนมีสตินะครับ สังเกตข่าวดีๆ จะเห็นได้ว่า ทั้งพ่อและลูก
รวมทั้งญาติๆ จะเทาะเลาะกัน ขนาดที่ว่าลุงด่าพระที่เป็นหลาน
หลานที่บวชเป็นพระด่าลุงกับพ่อตัวเอง
และมีภรรยาและแม่ภรรยาของพระร่วมผสมโรงด้วย
เพราะเรื่องสร้างหุ่นน้าพุ่มพวง เพื่ออะไร? เพื่อรับเงินบริจาคจากแฟนเพลง
ย้ำแฟนเพลงที่ยังรักน้าพุ่มพวงไม่เสื่อมคลาย ตลอดจนคนที่ขอหวย
แล้วเงินบริจาคปีหนึ่งเท่าไหร่ เข้าวัดเท่าไหร่ ไปอยู่กับใครอีกเท่าไหร่
แล้วมีใครจะมาขอมีส่วนร่วมแป่งปันเงินบริจาคใหม ใครเป็นคณะกรรมการ
บัญชีรายรับรายจ่ายเท่าไหร่? ทำไมไม่ทำในนามมูลนิธิพุ่มพวง
เพื่อความโปร่งใส นี่คือสิ่งที่เราแฟนเพลงพี่พุ่มพวงอยามถามและอยากรู้
นี้คือสิ่งที่สื่อสารมวลชนจะต้องตีแผ่ความจริงออกมา
ไม่ใช่เป็นช่องทางให้เกิดปรากฎการณ์ปิงปองระหว่างพ่อกับลูก
ที่ความจิงนี้เรารู้กันอยู่แล้ว
แต่ประเด็นที่ทะเลาะกันใช่เรื่องนี้หรือไม่
เอเอสทีวีจะต้องตีแผ่ความจริงออกมา
จากคนรักน้าพุ่มพวง
++
ตามกฎหมาย สามี ภรรยา ถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน
ใครจะเกาะใครเราคน นอกอย่าเข้าใจแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนคนเดียวกัน
เรื่องของครอบครัว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าใครไม่อดทน
ก็จะอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน เพราะทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้
ความรักจริงๆ จากมนุษย์ไม่มีหรอก
เพราะมนุษย์เราหากขาดคุณธรรม ก็จะขาดความอดทน
รักพ่อแม่ รักพี่น้องและรักแฟนหรือคนรัก จะต่างกันโดยสิ้นเชิง เปรียบเทียบกันไม่ได้
"พระเพชร จากพฤติกรรมผู้ใหญ่เรียกว่า เด็กอกตัญญู ลูกอกตัญญู คำคำนี้ไม่ต้องอธิบาย
อดีตที่ผ่านมามันแก้ไขไม่ได้ แต่อนาคตเราสามารถกำหนดได้ โดยการวางแผนในปัจจุบัน
ครอบครัวนี้ถือว่ายังมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะทางบวก หรือลบ
เราคนนอก อย่าไปตำหนิเขาเลย เพราะคนเราสามารถพลาดกันได้ คุณไกรสร
ทำผิดเขาก็ยอมรับ เรื่องก็น่าจะจบ
ลูก ชายบวช...ไม่เห็นจะปล่อยวาง..ก็ถือว่าบวชครั้งนี้สูญเปล่า
ไม่ได้อะไรเลย ตราบใดที่เขายังไม่ไม่ปลง แลไม่ปล่อยวาง...รักและให้อภัย
เท่านั้นที่ครอบครัวนี้จะพบกับสันติสุขอีกครั้ง อย่าพูดถึงอดีต...จบ
ก็คือ จบ
คนเดียวกัน****
++
เงินมรดกคุณพุ่มพวงตอนที่เสีย ได้กว่า 50 ล้านบาท
มาวันนี้ ไกรสร บอกว่าหมดไปตั้งนานแล้ว
อ้าว แล้วทำไมไม่เหลือไว้ให้ลูก
เงินของแม่ พ่อเอาไปหมดเลย
แล้วมาวันนี้ มาแฉลูกตัวเองอีก
คิดจะสร้างภาพไปถึงไหนกัน ถึงแม้คุณจะเป็นนักแสดงมาก่อน
แสดงละครเก่ง แต่อย่าลืมว่า สายตา บ่งบอกนะ
แฟนเพลงพุ่มพวงไม่มีใครชอบไกรสรเลย
++
ไกรสรเป็นผู้จัดการให้พุ่มพวง
เพราะพุ่มพวงเขียนหนังสือไม่เป็น
รายได้ทุกอย่าง ไกรสรจัดสรร
โดยไม่ได้ทำงานอะไร แต่ทุกวันนี้
ไกรสรมีกินทุกอย่าง...จากสมบัติ
พุ่มพวงหรือไม่? ลูกชายเขาได้
อะไรบ้าง...
สมบัติ ลูกชายได้อะไร
นอกจากนั้น พุ่มพวงยังทำแต่งาน
แล้วเงินเธอหายไปไหนหมด...
กำก
++
นักร้องลูกทุ่งเดินรุ่นพุ่มพวง เป็นธรรมดาที่เดินสายเเทบจะรายวัน
รายได้ที่หักค่าใช้จ่ายเเล้วตกที่ละ30000(อ่่านจากประวัติพุ่มพวง
ที่ห้องโน้น)
พุ่มพวงเป็นนักร้องดังระดับในขณะนั้น
มีความเป็นไปได้สูงที่พุ่มพวงจะมีเงินเก็บไม่ต่ำกว่า50ล้านบาทก่อนจากไป
กิน อยู่ใช้ดีๆ17ปีผ่านไป ดอกเบี้ยดอกผลต้องมี
ที่ดินทรัพย์สินราคาต้องขี้นลงบ้าง
เเต่ไงก็ไม่ถึงขนาดขาดทุนเพราะที่เเต่ละเเ่ห่งก็ไม่ใช่ที่ตาบอดหรือคอนโด
กลางป่าหินดินทราย
เงินหายไปไหน??ทรัพย์สินเครื่องเพชรเครื่องทองเงินสด??
น่าคิดเหมือนกันนิ??
ลูกชายอาจจะไม่เคยคิดหรือคิดเเต่ทำอะไรไม่ได้?? พอทำได้ก็เลยคิดที่จะทำ ??
เด็กโตอเมริกา18ปี เป็นเอกเทศไม่จำเป็นต้องขี้นกับพ่อเเม่
เค้าก็คงคิดของเค้าเเบบนั้น(พ่อเองก็บอกเองนิ ว่าเลี้ยงดูเเบบฝรั่ง)
เเล้ว เเหมๆ จะไปหวังอะไรมากมายกับลูกโตเเบบฝรั่งอ่ะนะ
คงโตมาเเบบอึดอัดค้างคาใจได้ที่
เลยเเถมก้าวร้าวกับทวงสิทธิ์ที่พึงมีพึงชอบของเค้าซะเสียงดัง
คนฟังรับไม่ได้
เค้าเป็นทายาทสายตรงคนเดียว ทุกอย่างก็ต้องเป็นของเค้า
ส่วนเค้าจะเอาไปทำอะไรมันก็เเล้วเเต่สติปัญญาบุญพาดวงชะตาโชคลาภวาสนากรรมเวรของเค้า
ก็ให้ๆเค้าไปเถอะเพราะมันเป็นของๆเเม่เค้า=เป็นของๆเค้า
คนอื่นก็โกยไปเยอะเเระ อายๆถอยๆกันมั่งเหอะ
เรื่องจะได้จบไม่เป็นขี้ปากชาวบ้าน(สงสารพุ่มพวง)
อ้างไปว่าเป็นพ่อเป็นน้าเป็นยายเป็นญาติ บอกว่าห่วงเค้ารักเค้ามันก็เเค่นั้น
ผิดชอบชั่วดี ความชอบธรรมทางกฎหมายความถูกต้องทางสายเลือด
สมบัติก็ควรต้องตกไปที่ลูกของพุ่มพวงคือพระเพชร .. จบข่าว !
ชีวิตใครชีวิตมันเลือกสรรกันตามสบาย เงินใครเงินเค้า คืนเค้าไป
++
น่าสงสารพระเนีอะ...อายุแค่นี้เองต้องมารับรุเรื่องราวเลวๆของคนในครอบครัว..อยากรุอ่ะว่าคัยดีจิงมายจิง
แต่พุ่มพวงตายไปแร้วแทนที่เค้าจะด้ายไปดี สงบสุข
แต่ กลับต้องมารับรุเจอเรื่องราวมายดีๆแบบนี้อีกน่าสงสารอ่ะ...ทามมัยกันน่ะ
ก้อพระอยากรำลึกถึงแม่มันผิดตรงไหนกันมัยทราบแร้วที่บอกว่าโดนของอ่ะรุแน่
แค่ไหนกันห่ะ...เค้าตาสว่างแร้วบ้างเหอะ..เอาความจิงมาพูดแร้วรับมายด้ายหรอ
ห่ะ..เปนพ่อป่ะสาอ่ะรัยอ่ะ...มายด้ายเรื่องเรย
พุ่มพวงแทนที่จะสงบกลับมาต้องทุกข์เพิ่มขึ้นอีกที่มีแฟนเปนแบบนี้
กลับตัวกลับจัยซะน่ะ
ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป..ขอบอก
ด้วยความเหนจัยน่ะถึงบอก
สงสารพุ่มพวงจังเรยค่ะ
.............
++
เราก็คนนึงที่ช้ำใจกับพ่อ ใครที่ไม่มีพ่อที่ชอบพูดเอาดีใส่ตัว
พูดโยนชั่วให้ลูกกับเมีย(ตัวเองมีเมียใหม่ เจ้าชู้มากเมีย)
เราก็รักนับถือพ่อเราไม่ลืม แต่บางทีพ่อก็ทำเกินไปมาก จนสุดจะทนเหมือนกัน
ขอสรุปว่าเราเห็นใจลูกคุณพุ่มพวง เขาขาดแม่ที่รักเขามากที่สุดในโลก
เหลือแต่พ่อที่เป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน
ทางที่ดี น่าจะปล่อยเขาไปให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเองกับคนที่เขารักและรักเขา
ไม่ควรไปเรียกร้องอะไรอีก
หรือหวังว่าแก่ตัวจะเกาะลูกกินเหมือนที่เคยเกาะคุณพุ่มพวกกินล่ะ.......หรือเปล่า????????
ใครไม่เจอไม่มีวันรู้
++
อันนี้ไม่ได้เข้าข้างพระเพชร
แต่ที่มีคนโพสต์ ว่าบวชทำไมในเมื่อไม่สงบ พระเพิ่งบวชได้ ไม่ถึง 15 วันดี
การเรียนรู้ธรรมมะก็ยังไม่ถึงแก่นแท้ ต่อให้บวชมา สัก 1 พรรษา
แต่สำหรับบุคคลที่ภาวะจิตใจเป็นแบบนั้น โดนกระทบแบบนั้น
การที่ท่านไม่พูดอะไรเลย มันเป็นไปไม่ได้ แต้ด้วยวัยและพรรษาที่น้อย
จึงทำให้ท่านหลุดอากัปริยาเช่นนั้น แต่ถ้าท่านได้ดูตอนมาออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้
จะ เห็นว่าพระลูกเพชรอยู่ในอาการสงบตลอด ต่างจากบรรดาญาติๆ
และไกรสรที่พยายามจะพูดแบบใช้อารมณ์อยากให้ใช้ใจเป็นกลางในการตัดสินคนๆ
หนึ่งค่ะ
phoopha2549@hotmail.com
++
บาปลูกก็บาปลูก บาปพ่อก็บาปพ่อ
บุญใครบุญมัน กรรมใครกรรมมัน
บุญกรรมตามทัน คือสัจธรรม
บาปพ่อ
ชะรอยกรรมเวรตั้งเค้าเข้าถาโถมเเต่ยังลุ่มหลงกุมสมบัติ
บาปลูก
ขออย่าให้เจอกรรมชนิดเดียวกับที่เเม่เคยเจอ
ขออย่าให้เป็นอย่างที่เเม่เึคยเป็น
ขออย่าได้ถูกกรรมซัดใส่จนชีวิตซวนเซเหมือนเเม่ก็เเล้วกัน
อาการลากใส้เพราะต้องการเเบ่งกรุ เเย่งสมบัติ ด้วยกันทั้งสิ้น
++
"รักพุ่มพวง ดวงจันทร์ จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะอีกกี่สิบปีผ่านไป
เธอจะอยู่ในใจเราตลอดกาล"
เธอคงอยู่บนสวรรค์
ด้วยความดีงามที่สร้างเพื่อคนทั้งประเทศให้ได้มีรอยยิ้ม
มีความสุขจากเสียงเพลงของคนไม่รู้หนังสืออย่างเธอ
... ลูกเอ๋ย รักแม่ คิดถึงแม่บ้างก็พอแล้ว
อย่าเป็นอีกส่วนที่ให้เขาดึงแม่มาทำร้ายได้อีกเลย
.. แม่รักลูกมาก รักแม้จะไม่ค่อยได้เจอ แต่แม่คือแม่
แม่ที่ให้ลูกได้ทุกอย่าง แม่รักลูก ด้วยหัวใจของความเป็นแม่
ที่มีลูกเป็นดวงใจและชีวิต
ลูกอย่าให้ใครทำร้ายแม่ได้แม้ในวันนี้ที่แม่ไม่ได้อยู่กับลูกแล้ว...รักแม่มากๆ
นะลูกเพชร
เธอคือดวงจันทร์ในใจของคนที่รักในเสียงเพลง
++ ถ้าใครได้ติดตามข่าวคุณพุ่มพวงจริงๆ
ตั้งแต่ครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่และตกลงปลงใจว่าจะแต่งงานอยู่กินกับผู้ชาย
คนนี้ จะเห็นได้ว่ามีแต่คนไม่สนับสนุน
เพราะทุกคนรู้คุณพุ่มพวงเธอไม่ทันเหล่เหลี่ยมคนๆ นี้แน่ๆ
เค้าไม่ได้รักเธอจริง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินของคุณพุ่มพวง
เธออ่านหนังสือไม่ออก ให้เซ็นเอกสารอะไรก็เซ็นหมด เพราะเชื่อผัว รักผัว
ไม่คิดว่าจะมาหลอกกัน และแล้วในวันที่เธอรู้ว่าเธอป่วย
คนที่เหลียวแลเธอจริงๆ คือ ญาติพี่น้อง ไอ้ผู้ชายคนนี้ นานๆ มาที่
แล้วยังมาทะเลาะเรื่องแบ่งสมบัติ มรดกอีก มันได้สิทธิ์ไปเต็มๆ
เพราะมันหลอกให้เธอเซ็นไว้ให้มันหมดแล้ว บาปกรรมมีจริงๆ ลูกจะเนรคุณ
ก้าวร้าวกับไกรสรหรือเปล่า ไม่มีความเห็น
แต่เชื่อว่าสิ่งที่ไกรสรทำไว้กับพุ่มพวง กำลังเป็นเหมือนวงเวียน กงจักร
วิ่งเข้ามาหาตัวเอง กรรมมันติดจรวดน่ะ แล้วคุณพุ่มพวงก็คงรักลูกมากๆ
ถึงได้ปกป้องมาจน ณ บัดนี้
เกลียดปลิง
++
ถ้าคุณให้ความรักลูกจริงๆอย่างที่คุณว่า ถ้าลูกออกนอกทางบ้างก็จะกลับมา
เพราะฐานของใจลูกผูกพันธ์กับคุณ
พ่อแม่สมัยก่อนตีลูกหนัก แต่ตีด้วยความรัก
พอ โตมาเด็กก็รู้เพราะความรัก ความห่วงใย
ถูกซึมซับมามากกว่าพ่อแม่ที่ไม่ตีดุ แต่ไม่ทุ่มเท
มัวแต่สร้างภาพว่าเป็นพ่อแม่ยุคใหม่ ให้ในสิ่งที่ลูกไม่ต้องการ
อยากให้เด็กกตัญญู ก็ควรให้เด็กคิดเองว่าเขามีความสุขที่ทำ มากกว่ามาทวง
หรือว่าร้าย
อย่างไรพ่อแม่ก็คือผู้ให้ และก็มีความสุขที่จะให้สิ่งดีๆสำหรับลูกตลอดชีวิต
พ่อแม่
++
ทนไม่ไหวคะ ขอเล่าบ้างแล้วกัน สงสารน้อง
น้องเพชรน่าสงสารจากที่ได้เคยช่วยดูแลตอนอยู่อเมริกา
น้อง ถูกทิ้งไว้ที่ร้านอาหารหลังจากเลิกเรียน ​(ไฮสคูล)
ร้านอาหารที่นี่จะเปิดดินเนอร์ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม
พ่อไปเสพสุขกับเมียชาวบ้านเขา พอกลับเข้าร้านมา 3-4 ทุ่ม การบ้านไม่เสร็จ
เพราะต้องรอคนเสริฟอาหารช่วยสอน ในห้องอาหารไฟสลัว ก็โดนคนที่เป็นกิ๊กพ่อ
(เมียคนอื่น) ด่าว่าสอนเท่าไรไม่รู้จักจำทำไม โง่เป็นวัวเป็นควายอย่างนี้
ลูกฉันสอนครั้งเดียวก็รู้เรื่อง น้องเพชรได้แต่มองพ่อ
ซึ่งไม่ได้ปกป้องอะไรเลย แถมยังเสริมท้ายผู้หญิงคนนั้นว่า ใช่ๆ
สอนไม่รู้จักจำ เราได้ยินถึงกับอึ้ง นั่นคือตอนที่เราเข้าไปทำงานใหม่
พอทำไปสักพัก คุณพ่อแสนดีก็พาผู้หญิงอีกคนที่พอมีผลประโยชน์ให้ไปมีอะไรกันที่บ้าน
ซึ่งมีห้องนอนเดียว แล้วมาเล่าให้ที่ทำงานฟังว่า เมื่อคืนทำท่าไหน
ทำไปกี่ที
ที่ห้องรับแขก โดยที่ลูกชายที่เป็นวัยรุ่นนอนอยู่ในห้องนอน
แล้วคุณพ่อจะมาพูดอวดของเขาว่ามีกล้วยอันเดียว
ผู้หญิง ก็หลงแล้ว แหวนที่คุณผึ้งรัก
รู้สึกจะเป็นแหวนแต่งงานโดนผู้หญิงคนใดคนนึงยึดไว้ด้วยเช่นกัน
เห็นผู้หญิงคนนึงบ่นเพราะเขาบอกว่าให้ไกรสรไปเยอะ ฉันไม่คืนหรอก
เราทำงานกับคุณพ่อแสนดี แล้วก็ช่วยสอนการบ้านน้องบ้างเพราะสงสาร
สำหรับเรา น้องเป็นเด็กดี พูดครับตลอด แต่แววตาเขานั้นเศร้าตลอดเวลา
เช่นกัน จะกินอะไรต้องรอคนในครัวตวาดมาถาม ว่าจะะกินอะไร
เพราะเหมือนไปเพิ่มงานให้เขา คุณพ่อก็ช่วยสมทบว่ากินอะไรก็กินง่ายๆ หน่อย
อย่าเรื่องมากนัก คุณพ่อนั้นชอบงานสบาย เขาก็คือพนักงานเสริฟในร้านคนนึง
แต่มีพ่วงว่าเป็นกิ๊กกับคนใหญ่โตในร้านก็เลยนั่งเฉยๆ ซะเยอะ
เวลาปิดบัญชีเขาจะรับหน้าที่ปิดเพื่อโกงทิป จับได้กับมือว่าโกงเรา $2
อนาจใจเหลือหลาย สุดท้ายโดนกิ๊กเขาสั่งไม่ให้เรายุ่งเรื่องปิดบัญชี
ก็เลยไม่รู้ว่าโดนโกงไปอีกเท่าไร
มีวันนึงเราลืมของวิ่งกลับเข้าไปในร้านปรากฏว่ากำลังหิ้วโค๊กของร้านกลับ
บ้าน แพ็กประมาณ 10 กระป๋อง ไข่ไก่อีก ประมาณนึง โอ้แม่เจ้า
ไม่เจอไม่เชื่อจริงๆ ไกรสร แสงอนันต์
ตัวเขาก็เคยเล่าว่าตอนที่คุณผึ้งงานเยอะมากๆ เขาเบื่อก็บินมาลาสเวกัส 4
วัน หมดไป 4 ล้าน (15-20 ปีที่แล้ว) ขนหน้าแข้งยังไม่ร่วง
แต่ตอนนี้เขาต้องเอาลูกมาเรียนฟรี
(ที่อเมริการให้เรียนฟรีได้ถ้ามีคนอุปการะเด็ก)เพื่อประหยัดเงิน
เดี๋ยวเขากลับเมืองไทยจะลำบาก ก่อนกลับเมืองไทย เขาดูลายมือแล้วบอกเราว่า
กลับไปเมืองไทยเขาจะสบาย คงเพราะน้องเพชรแน่ๆ เขาจะเอาไปเข้าแกรมมี่
แล้วจะไปหาสาวไทยโง่ๆ ตามต่างจังหวัดมาเป็นเมียไม่จดทะเบียน
จะได้คอยดูแลบ้าน ประหยัดเงิน ไม่ต้องไปจ่ายเงินให้โสเภณี เสี่ยงด้วย
(เฮ้อ) อันนี้ย่ิงชั่วกว่า เขา ไปเบิกเงินบริษัทบัตรเครดิตไว้ไม่ตำ่กว่า
10 ใบ เบิกเงินสด ที่นี่เขาเรียก cash advance ซึ่งดอกเบี้ยแพงมาก
บริษัทละประมาร $1000-$5000 แล้วก็บินกลับเมืองไทย
คงคิดว่าจะไม่กลับมาอีก เรารับโทรศัพท์จากแบงค์ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ราย
ซึ่งพนักงานเขาเป็นคนบอกเองว่า
ฉันจะไปตามเขาได้ที่ไหนเขาเบิกเงินสดไปเท่านี้ เราได้แต่บอกว่า
เขาอยู่ไทยแลนด์ ก็คิดว่าเขาตามไปเก็บไม่ได้
เพราะเห็นไกรสรก็อยู่สุขสบายดี แบบอย่างทุเรศอย่างนี้ พูดจาอย่างนี้
เราไม่เคยโทษเด็กเลย
อยากให้น้องเพชรกลับมาอยู่ที่อเมริกาดีกว่าอยู่ให้ผู้ใหญ่ที่เมืองไทยทึ้ง
เอาอย่างนี้ สงสารน้องจริงๆ คะ
จากคุณ : น้องนู๋ - [ 17 มิ.ย. 52 09:20:27 A:75.6.235.156 X: TicketID:220485 ]
ไปเจอมา
เรื่องจริงเพราะอยู่ใกล้ ๆ
+++
พระเพ็ชรตอนเป็นเด็กคงมีชีวิตที่น่าสงสารมาก เพราะมีแต่ผีกระสือรายล้อม
เมื่อท่านได้มีโอกาสบวช ท่านได้
ศึกษาธรรม ท่านคงทราบดีว่าสัจจะธรรมของชีวิตเป็นเช่นไร
เกิดเป็นมนุษย์มีแต่ทุกข์ พิจารณาได้จากชีวิตของ
โยมแม่และของตัวท่านเอง บางทีท่านอาจเบื่อหน่ายใน
โลกียวิสัย บวชไม่สึกเพื่อหาทางพ้นจากทุกข์ก็เป็นได้
mo
+
คิดว่าน่าตำหนิทุกฝ่าย เรื่องภายในครอบครัวไม่ควรสาวไส้ให้กากิน
ที่เกิดเป็นเรื่องเพราะกิเลส โลภ-โกรธ-หลง
เท่าที่เคยผ่านประวัติคุณพุ่มพวงมา ชีวิตลำบากแต่เด็ก สู้
อดทน-มานะ-สร้างฐานะ และก็เป็นคนรักครอบครัว รักแม่ รักน้อง
สร้างฐานะจนโด่งดัง แต่ความโลภของญาติ
เห็นแก่ผลประโยชน์ จึงน่าจะเป็นไปได้ที่พระเพ็ชรพูด
พ่อและน้าๆทำลายแม่ เพราะดูประวัติแล้วก็น่าจะเชื่อได้
บ้าง ส่วนพระเพ็ชรในฐานที่อยู่ในระหว่างการบวช ก็คิด
ว่าท่านต้องสำรวมให้มากกว่านี้ แต่ให้อภัยในแง่ที่ท่านก็
เป็นพระสมมติ คือจากฆราวาสมาบวชเพื่อขัดเกลากิเลส
ดังนั้นอารมณ์ต่างๆก็ยังติดมา และอีกประการหนึ่งน่าสงสารท่าน
ชีวิตในวัยเด็กของท่านคงไม่มีความสุขแน่ๆ
ที่ได้รู้ได้เห็นความเป็นไปในครอบครัว ที่มีแต่คนเอาเปรียบแม่มาตลอด
ทั้งๆที่แม่ก็เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว
แต่ไม่มีใครให้ความรักที่แท้จริงกับแม่ คงสงสารแม่มาก
แต่ การตำหนิพ่อหรือด่าพ่อก็ไม่ถูกต้อง
เพราะถึงอย่างไรก็เป็นผู้บังเกิดเกล้า ทางศาสนาพุทธถือว่าเป็นบาป
ฆ่าพ่อฆ่าแม่บาปหนัก เป็นอนันตริยกรรม พระท่านคงทราบดี
เพียงแต่ระงับอารมณ์ไม่อยู่ เพราะเก็บกดมาตั้งแต่เด็กแล้ว
เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงถูกต่อยมานานแล้ว
หน
++
ถ้าผมเป็นคุณไกรสรและญาติๆ...ผมจะไม่แถลงข่าวเอาชนะคะคานในขณะที่ลูกหลานของตัวเองอยู่ในร่มกาสาวพัสต์
ถ้าผมเป็นแม่เลี้ยงและแฟนของพระเพชร...ผมจะไม่ยุยงส่งเสริมให้พระเพชรเกลียดชังบุพการีของตัวเอง
ถ้าผมเป็นพระเพชร...ผมจะไม่แสดงกริยาก้าวร้าวกับบุพการี
ผม เป็นคนนอก ผมไม่เก่งขนาดไปฟันธงเป็นฉากๆได้หรอกครับว่าใครผิดใครถูก
สารพัดเรื่องในรอบยี่สิบปีมานี้ คงไม่มีขาวหรือดำ
แต่สิ่งที่ผมจะไม่ทำแน่ๆ
คือการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนให้ลูกแสดงกริยาก้าวร้าวต่อบุพการี
ผม ได้แต่หวังว่าซักวันหนึ่งพระเพชรกับคุณไกรสรจะกลับมาคืนดีกัน
พ่อกับลูกอย่างไรก็ตัดกันไม่ขาด และหวังว่า"คนนอก"
คงไม่แสดงความเห็นหรือยุยงให้ลูกต้องกลับไปด่าพ่ออีกเลย
land
++
พยายามหยิบยืมพุทธสุภาษิตเอามาด่าว่าคนอื่น
แต่ก็จำได้ไม่ครบ .. ลืมคำสำคัญไป
คงบกพร่อง ขาดๆ หายๆ ไปตามสภาพสมอง
ที่ครบถ้วนถูกต้อง จะต้องกล่าวว่า
" นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา
ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี "
ที่จดจำได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน
เพราะนี่เป็นพุทธภาษิตประจำโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
อาจารย์ท่านสอนอยู่เสมอว่า ความรู้คู่ความดี
อย่างไรก็ตาม เรียนจบที่ไหนไม่สำคัญ
แต่การอวดความรู้ที่ตนเองไม่มี อวดความดีที่ยังบกพร่อง
สมควรแล้วที่สังคมประณาม
ตัว land อยู่ในโพรงไม้ กบอยู่ในกะลา
-----------------------------------------------------
คำว่า " นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา"
ไม่ใช่เป็นพระพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าค้นดูได้
จากพระไตรปิฎก เป็นเถระภาษิตของสมเด็จ
พระสังฆราชสา ของประเทศไทย
และภาษิตนี้เป็นภาษิตที่มีเงื่อนไง การที่ลูกรู้คุณบิดา
มารดา แล้วตอบแทนคุณของบิดามารด้วยการเลี้ยงดูท่าน
เป็นสิ่งที่ถูกต้องควรทำ จัดว่าเป็นคนดี และเป็นเครื่อง
หมายคนดี ถูกต้อง
แต่ถ้าลูกไป ลัก วิ่ง ชิงปล้น เขามาเลี้ยง บิดามารดา
จะเรียกว่า จะเรียกว่าเป็นคนดี และเป็นเครื่องหมายคนดี
ได้หรือ ?
ภาษิตแบบนี้พระพุทธเจ้าไม่ตรัส เพราะผูอื่นโต้แย้งได้
วิญญูชน
+++
เราไม่ได้เข้าข้างใครนะ มองข่าวนี้ด้วยความเป็นกลาง
เพราะเราก็เป็นคุณแม่ที่มีลูกชายคนเดียวเหมือนกัน พยายามเข้าใจทั้ง 2
ฝ่าย
แต่แล้วความจริงก็ปรกฏขึ้น
-วันจันทร์ที่ 15 มิย. พระเพชร มาออกรายการเลรื่องเล่าเช้านี้
โดยการสัมภาษณ์โดยคุณสรยุทธ์...ก็ออกมาพูดเรืองราวต่างๆ
-วันอังคารที่ 16 มิย. รายการเรื่องเล่าเช้านี้โทรศัพท์สัมภาษณ์คุณไกรสร
ซึ่งเป็นคุณพ่อ เพื่อความเป็นธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย
เนื้อหา ตอนหนึ่ง สรยุทธ์อ้างถึงคำพูดของพระเพชรที่กล่าวถึง
พ่อกับผู้หญิงคนใหม่ของพ่อ ที่มีอยู่ตอนนั้นทั้งที่แม่ก็ยังป่วยอยู่ที่
รพ.
คุณไกรสรตอบว่า ไม่เป็นความจริง (เค้าใช้คำว่าโกหกด้วยซ้ำ)
เค้าเจอกับแม่เลี้ยงน้องเพชรหลังจากพุ่มพวงเสียชีวิตแล้ว 2-3 ปี
-เช้า วันนี้ วันที่ 17 มิย.
รายการเรื่องเล่าเช้านี้ก็ยังรายงานข่าวเรื่องนี้ต่อ โดยคุณกฤติกา
เป็นผู้อ่านเนื้อข่าว ว่า แม่เลี้ยงได้ให้สัมภาษณ์ที่เชียงใหม่ว่า
ตนดูแลน้องเพชรอย่างดีมาโดยตลอด ตั้งแต่พุ่มพวง ยังไม่เสียชีวิตด้วยซ้ำไป
พูดเหมือนกัน 2 คน เรื่องผู้หญิงคนใหม่ของไกรสร
แค่นี้ก็รู้แล้วนะ
อย่าทำร้ายลูกอีกต่อไปเลยคุณไกรสร
ที่สำคัญนะ ปากบอกว่ารักลูก ต่อให้พระเพชรเป็นเด็กไม่ดีจริงๆ
ก็ไม่ควรสาวไส้กันขนาดนี้ จะทำร้ายลูกไปถึงไหน
เราคนนึงล่ะ ต่อให้ลูกเป็นคนเลว เราก็จะไม่ว่าลูก โจมตีลูก
ให้สังคมรับรู้ขนาดนี้หรอก
มัน เป็นเรื่องในครอบครัวนะ ที่สำคัญ เป็นครอบครัวของคนที่มีชื่อเสียง
สมควรแล้วหรือ ที่จะให้เป็นอย่างนี้ หนำซ้ำ คนตายไปแล้ว
วิญญาณก็จะไม่สงบนะ....คิดดีๆ
คิดดีๆ
+++
ฟังได้นะ แต่รอนานหน่อย คาดว่าคงมีคนโหลดรอฟังกันเยอะ
จับใจความได้ว่า
1. น้าสาวของพระเพชร สตอเบอรี่ ไม่มีความจริงใจ เจอน้าของน้องน้ำ
แฟนพระเพชร พูดว่าไม่มีความจริงใจ ที่จะขอหนังสือพิมพ์ที่พาดหัวข่าว
ถึงกับอึ้ง แล้วนิ่ง แล้ววางสายไปเลย
คาดว่าคงไม่มีจริงหนังสือที่แก้ข่าวฉบับนั้น
2. ครอบครัวน้องน้ำ ถือว่าเป็นตัวแปลที่จะทำให้ครอบครัวญาตพระเพชร
ถูกมองว่าเป็น "ครอบครัวคนตอแหล" เพิ่มเข้าไปอีก
3. ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า "ครอบครัวคนตอแหล"
มีน้ำหนักมากขึ้นว่าเชื่อไม่ได้ เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น
4. พระเพชร ถ้าหลุดพ้นบ่วงกรรมนี้ได้ และได้มรดกคืนผมว่าตัดไปเหอะญาติ
แบบนี้เป็นผม ๆ ก็ไม่นับญาติ ยิ่งถ้ามีพ่อแบบนี้
ก็ถือไว้ว่าเคยมีพ่อละกัน แต่จะเคารพหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเอง
แต่ไม่ควรไปด่าว่า ปล่อยเฉย ๆ ให้เค้าสำนึกผิดไปเอง แล้วเค้าจะรู้ว่าญาติ
ๆ รวมทั้งตัวเอง ทำในสิ่งที่ผิดไปในอดีต
เด็กผี(แบบเป็นกลาง)
++
ญาติ "พุ่มพวง" ร้องไห้ยกบ้าน กราบขอโทษ "พระเพชร" ยันไม่ได้ฆ่าแม่
ด้าน "ไกรสร" ไม่รับไม่ปฏิเสธกรณีลูกชายเตรียมแฉเรื่องความผิดปกติทางเพศ
"ไกรสรไ ปล่อยโฮ ก้มกราบขอโทษแม่ "พุ่มพวง" ที่ทำให้เดือดร้อน
ด้านแม่พุ่มพวงร่ำไห้ กราบขอโทษ "พระเพชร" ลั่น ไม่ได้ฆ่าแม่พระเพชร
ขณะที่ "ไก่ จันทร์จวง" เผย ญาติดีกับไกรสรนานแล้ว
ส่วนกรณีที่เอาเทปลับให้หลานฟัง เพราะหลานอยากรู้เรื่องราวของพ่อกับแม่
ไม่มีเจตนายุแยงให้เกลียดพ่อ เพื่อจะได้ฟ้องเอามรดก ด้านไกรสรถึงกับเหวอ
หลังทราบข่าวพระเพชรเตรียมแฉเรื่องผิดปกติทางเพศ
เจ้าตัวบ่ายเบี่ยงเคลียร์ บอกรอฟังจากปากลูกชายก่อน
ยังคงเป็นเรื่องราวที่สังคมกำลังให้ความสนใจ
สำหรับศึกสายเลือดระหว่าง "พระสรภพ ลีละเมฆินทร์" หรือ "พระลูกเพชร"
ทายาทเพียงคนเดียวของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" กับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ
"ปุ้ม ไกรสร แสงอนันต์" และกับบรรดาญาติตระกูล "จิตรหาญ"
อันประกอบไปด้วยลุง และน้าสาว ที่ไปทะเลาะกันกลางงานรำลึกครบรอบ 17 ปี
การเสียชีวิตของพุ่มพวง ณ วัดทับกระดาน สุพรรณบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 13
มิถุนายน ที่ผ่านมา
ซึ่งชนวนเหตุเกิดจากไกรสรไม่พอใจ ที่ "พระเพชร" บวชไม่ยอมบอกพ่อ
รวมถึงการที่พระเพชรจะจัดสร้างหุ่นของผู้เป็นมารดาขึ้นมา
พร้อมเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงิน
ซึ่งทางพี่น้องพุ่มพวงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
เนื่องจากเห็นว่ามีความไม่โปร่งใส และตั้งข้อสงสัยว่าครอบครัวของแฟนสาว
"อ้อย ธิดารัตน์ อรรถรัตน์" อยู่เบื้องหลังชักนำหรือเปล่า?
จนเป็นเหตุให้พระเพชรตบะแตก หลุดปากจวกพ่อบังเกิดเกล้า
และญาติฝ่ายแม่ว่าเป็นคนทำให้พุ่มพวงต้องเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากจะทำเอาหลายคนช็อคแล้ว
ยังเป็นการสุมไฟให้ความขัดแย้งที่มีระอุขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกับเกิดคำถามและข้อกังขาต่างๆ ตามมา
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (16 มิ.ย.) ทางฝั่งของแฟนพระเพชร
ได้ออกมาตอบโต้ ว่าเรื่องที่ครอบครัวพระเพชรกล่าวหาไม่เป็นความจริง
พร้อมยังทิ้งระเบิดว่า รอให้พระเพชรสึกก่อน
แล้วจะออกมาเปิดโปงเรื่องราวทุกอย่างด้วยตนเอง
โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องหนีออกจากบ้าน
ว่าเป็นเพราะรับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ รร.ริชมอนต์ รัตนาธิเบศร์ ทาง "ไกรสร"
รวมทั้งน้าสาวทั้งสาม ซึ่งได้แก่ ไก่ จันทร์จวง, โอ๋ สลักจิตร, จิ๋ม
ดวงใจ พร้อมด้วย "คุณยายเล็ก" แม่ของ "พุ่มพวง"
ก็ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวบ้าง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัว
พร้อมประกาศญาติดีกันแล้ว ยันไม่ใช่การจัดฉาก
เพื่อเล่นงานทางครอบครัวแฟนพระเพชรแต่อย่างใด
ไก่ "จริงๆ แล้วเราไม่ได้อยากจะมีปัญหา
วันนี้เป็นวันแรกที่เราพูดเต็มถึงสิ่งที่ผ่านมา
เราเองเราไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะว่ามันรวดเร็วมาก
มีเพียงแค่เรื่องหุ่นที่เรายังไม่ได้บอกประเด็น ว่าเราจะไม่ให้หลานสร้าง
มันถึงขนาดว่าต้องเอาทุกๆ อย่างสิ่งที่มันบอบช้ำกลับมาพูด
กลับมาทำร้ายคนแก่ที่มีอายุเจ็ดสิบห้า
กับครอบครัวปัจจุบันที่ตอนนี้มันก็อยู่ยากกันอยู่แล้ว
มันถึงได้บอกว่ามันต้องทำกันขนาดนี้เลยเชียวเหรอ
ส่วนเรื่องของคนอื่นเราก็ไม่ขอตอบ"
ปุ้ม "ที่นัดสื่อมาแถลงวันนี้อยากจะให้เข้าใจทุกประเด็นและจบไปทีเดียว
ไม่อยากจะให้โต้กันไปโต้กันมา ให้มันเป็นประเด็นที่มันเสียหาย
กับครอบครัวเราเท่านั้นเอง ไม่มีใครเสียหายเท่ากับสองครับครัวเราแล้ว"
โอ๋ "จริงๆ แล้วข่าวการรวมตัว มันไม่ได้เป็นการสร้างภาพ
ปรุงแต่งหรือว่าจัดสรรอะไรทั้งสิ้น เป็นการที่เจอะเจอกันด้วยความบังเอิญ
เมื่อวันที่ 13 ที่วัดทับกระดานต่างหาก เพราะว่าไปเจอหลานที่นั่น
เป็นวันครบรอบ 17 ปี ทางคุณไกรสรไปหาลูกเพราะลูกบวช
พวกเราก็ไม่ได้ไปเหมือนกัน อันนี้พูดเลยว่าหลานไม่ได้บอก แล้วก็ไปเจอหลาน
ทางน้ากับคุณพ่อเราก็ไม่ได้นัดหมายกัน แล้วไปเจอที่นั่น
แล้วเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดขึ้น
จนถึงวันนี้พวกเราก็เลยต้องมานั่งรวมตัวกันตรงนี้
เพราะเหตุการณ์มันเป็นเหตุการณ์วันเดียวกัน
ไม่ใช่เป็นการรวมตัวที่จะมานั่งดูว่าทำไมพ่อเข้าข้างนี้
หรือทางญาติเข้าข้างพ่อ"
ไก่ "อดีตคนจะเข้าใจว่า ครอบครัวนี้มีปัญหา แล้วก็ทะเลาะกัน
ไม่ถูกกันมาตั้งนานแล้ว แล้วทำไมถึงมาดีกัน ดีกันเพราะอะไร
เพราะผลประโยชน์รึเปล่า หรือว่ามารุมทำร้ายหลาน แต่จะบอกว่าเราจะดีกัน
เราจะทะเลาะกันเราก็ไม่ได้บอกทุกคนอยู่แล้ว แต่ที่มาเข้าใจกันมากขึ้น
ก็คือสามสี่ปีที่พี่ปุ้มมีปัญหากับลูก
นี่คือสิ่งที่พี่ปุ้มเข้ามาปรึกษากับแม่ แล้วเข้ามาคุยกับน้องๆ
ทุกคนบ่อยขึ้น มันก็เลยได้เข้าใจอะไรกันมากขึ้น
หลังจากที่ผ่านมาเราคุยกันน้อย"
"ไกรสร" แจง สองครอบครัวดีกันตั้งแต่ที่ "พระเพชร" ออกจากบ้านแล้ว
แต่ไม่ได้บอกสื่อ พร้อมปล่อยโฮยอมรับผิดกับอดีตที่ผ่านมา
และได้เข้าไปกราบตักยายเล็กแม่ ของพุ่มพวง
และแม่ของตนกับสิ่งที่เคยทำผิดพลาดมาในอดีต เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับ
"พระลูกเพชร"
ไกรสร "ผมกับพระลูกเพชรตลอดระยะเวลา 18 ปี
ผมเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด เทปลับหรือไม่ลับที่ท่านได้ฟังกันนั้น
เปิดมาแล้วเมื่อสองสามวันนี้ เปิดมาแล้วเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ความเจ็บช้ำ
ความอะไรก็ตามที่ผมได้รับขนาดนั้น ไม่มีใครรู้สึกได้เท่าผม
ผมเองเลี้ยงลูกมา 18 ปี ก็เลี้ยงมาด้วยความทะนุถนอม
เลี้ยงมาด้วยความรักก็ไม่อยากจะให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น"
"เหตุการณ์เมื่อครั้งก่อน ผมยอมรับว่าผมผิด
จะเพราะอะไรเรื่องอะไรด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผมยอมรับว่าผมผิด
และผมก็ได้กราบขอโทษคุณแม่เล็กไปแล้ว แต่ไม่มีใครทราบ
ได้บอกกล่าวกับทางญาติๆ น้องๆ ของพุ่มพวงแล้วก็ยังไม่มีใครทราบ
ไม่ได้ไปร้องแร่แหกระเชิง จะพูดให้คนอื่นฟังว่าเราดีกันแล้ว
มันก็ไม่จำเป็น"
"แต่ที่มาครั้งนี้ก็อยากจะมาเรียนให้ทุกท่านทราบ
ว่าเหตุการณ์เมื่อ 17 ปี ก่อนบางคนก็ยังเล็กๆ อยู่
บางคนก็ยังเป็นนักศึกษาบางคนก็ยังไม่รู้อะไรเลย ผมก็ต้องบอกว่าลูกเอง
ไม่เคยได้รับรู้สิ่งที่ผมเจ็บปวดมาก่อน เพราะผมรักพุ่มพวงมาก
ลูกเป็นคนเดียวที่เรามี สิ่งที่สูญเสียที่สุด (ร้องไห้)
ก็คือพุ่มพวงจากไปและ ณ ขณะนี้ผมก็ได้สูญเสียลูกคนนึง
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าลูกจะรู้ว่าผมเป็นพ่อเมื่อไหร่"
"ผมทำให้ทุกคนเดือดร้อนครอบครัวจิตรหาญเดือดร้อน
ครอบครัวผมเดือดร้อน ญาติพี่น้องผมก็แย่
เขามีส่วนร่วมที่จะเดือดร้อนรับรู้ปัญหาทุกปัญหาต่างๆ
ที่ผมได้ก่อขึ้นเพียงคนเดียว วันนี้ผมก็จะทำอีกครั้งนึงให้สื่อมวลชน
ให้พี่น้องชาวแฟนเพลงทุกคนได้ทราบ ว่าผมได้ทำอะไรลงไปบ้างในอดีต
วันนี้ก่อนที่จะพูดเรื่องราวต่อไปผมต้องขอโทษน้องๆ ทุกคน
ขอโทษญาติทุกคนโดย เฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีคนที่เจ็บปวดอีกคนนึง
นั่นก็คือแม่เล็ก ผมต้องขอโทษ (ลุกจากเวทีไปกราบขอโทษแม่เล็ก(แม่พุ่มพวง)
แต่และของไกรสร)"
"คือความจริงแล้วผมกราบขอโทษแม่มานานแล้ว
และก็วันนี้ก็ประกาศให้คนได้รู้ว่า ครอบครัวเราไม่มีอะไรกันมานานแล้ว
สิ่งนี้ก็อยากจะฝากไปถึงพระเพชรด้วย คนที่ทำผิดอย่าเอาผิด
เพราะการให้อภัยคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สังคมยอมรับ ทุกคนยอมรับ
ป๊าทำผิด สารภาพผิด ยอมรับผิดกับทุกคน ถ้าพระเพชรได้ฟังป๊า
ได้ฟังพ่อครั้งนี้แล้วครอบครัวเราทุกคนอยากจะให้เพชรสำนึก"
"ไม่เป็นไรลูกจะทำกับป๊าขนาดไหน จะทำกับน้าๆทำกับยายขนาดไหน
ทำกับครอบครัวเราขนาดไหนถ้าเพชรกลับใจ
ทุกคนก็ให้อภัยนี่คือความเป็นครอบครัว ความเป็นลูก
เป็นลูกหนึ่งเดียวของมาม้าพุ่มพวง
ป๊าทำทุกวันนี้ทำแบบนี้เพื่อให้ลูกได้กลับมา
ไม่ใช่ว่ายายไม่ควรจะมีหลานเพชรคนเดียว ก็ไม่ใช่
มีหลานหลายคนทำไมต้องเป็นเพชร
เพราะเพชรเป็นลูกเพชรของแม่ผึ้งแล้วมีคนเดียว
ถ้าลูกได้ยินเห็นภาพนี้แล้วลูกคิดให้มากนะ ลูกนะ ทุกคนรอการกลับมาของลูก
(ร้องไห้อย่างหนัก)"
ด้านยายเล็ก ยาย "พระเพชร" ร่ำไห้ บอกจะให้กราบก็ยินดี
หากหลานจะกลับมาเป็นคนเดิม
ส่วนน้าทั้งสามบอกขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
และหากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้สถาบันผ้าเหลืองต้องเสื่อมเสีย
ไก่ "คือยายอยากจะถามพระหลานว่า พระหลานพูดได้อย่างไรว่า ยาย
ครอบครัวของคุณยาย และพ่อฆ่าแม่ของหลาน หลานเอาอะไรมาคิด
หลานเอาอะไรมาพูด ตลอดระยะเวลาที่ 17-18 ปีที่ผ่านมา
เรื่องราวทุกอย่างมันบอบช้ำด้วยกันทั้งคู่ ณ วันนี้แม่เอง
พี่ปุ้มเองครอบครัวเอง ก็เพิ่งจะรู้สึกดีขึ้น ถ้าถามว่าย้อนเวลากลับไปได้
แม่แก้ไขอะไรได้ พี่ปุ้มแก้ไขอะไรได้ ไม่มีใครอยากให้มันเกิด ถาม ณ
วันนี้ปัจจุบันนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้"
ยายเล็ก "จริงๆ แล้วลูกหลานเรา เราก็รักไม่ใช่ว่าเราไม่รัก
แล้วก็รักมากด้วย แต่เวลามันก็ยาวนานมาถึง 17-18 ปีแล้วทุกคนก็ยังคิดถึง
ยังรักอยู่ แต่ว่าไอ้คำพูดที่ว่ายายทำร้าย พ่อทำร้าย น้าๆ ทำร้าย
เราก็รู้สึกว่าเสียใจหรือว่าหลานมีความคิดไปเป็นอย่างอื่นก็ไม่รู้นะ
แต่ถ้าหากว่ายายทำดีได้ หรือว่าหลานทำดีได้ ให้มันนอกเหนือไปกว่านี้
แล้วจะให้ทำยังไงเพื่อให้หลานจะดียิ่งกว่านี้
ให้ยายขอโทษแล้วกราบเลยรึเปล่า(ร้องไห้)"
ไก่ "น้าๆ ทุกคนก็ขอโทษ
เพราะทุกคนก็ร่วมรับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่น้าๆ
ทุกคนก็ยอมรับว่ามันแก้ไขตรงนั้นไม่ได้ ก็ต้องขอโทษนะคะ
ถ้าอดีตมันทำให้หลานเจ็บช้ำ
และรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ไม่ได้ ขอโทษด้วย"
ยายเล็ก "ฉันกราบผ่านสื่อ กราบทุกคนไปขอโทษ
คือกราบทุกคนที่เป็นสื่อขอโทษเขาให้ (ยกมือขึ้นไหว้แล้วร้องไห้)
ยายไม่เคยคิดไปฆ่าแม่เขา ไม่ได้จะทำอะไรสักสิ่งสักอย่างเลย
ขอโทษถ้าจะทำให้หลานดีขึ้นไปอีก กราบขอโทษอีกครั้ง
(ยกมือพนมแล้วเอามือกุมที่หน้า ด้านโอ๋โผร้องไห้เข้ากอด)"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000068174
คนที่ร้องไห้ไม่ได้แปลว่าเป็นฝ่ายถูกเสมอไป
คนที่ร้องไห้ไม่ได้แปลว่าสำนึกแล้วเสมอไป
จากประสบการณ์ชีวิต..
ของคนแก่ๆคนหนึ่ง
++
ที่พระเพชรพูดว่า พ่อ และญาติๆ ฆ่าแม่
เขาไม่ได้หมายความว่ามีใครเอาปืนมายิงแม่ให้ตาย หรือกระทำการใดๆ
ทางร่ายกายให้ถึงแก่ชีวิตหรอก ลองคิดดีดี พระเพชรอาจจะหมายถึงว่า
ผู้คนเล่านี้ฆ่าแม่ให้ตายเร็วขึ้นด้วยวิธีการที่ทำร้ายทางจิตใจมากกว่า
ตีความ แยกไปคนละประเด็น
ยายของพระเพชรไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
(ในเทปที่ได้ฟังเอ่ยถึงยายฆ่าแม่เขาด้วยเหรอ เดี๋ยวต้องไปลองฟังใหม่ซะแระ
แต่เท่าที่ฟังไม่เห็นได้ยิน) อ้ายพวกน้าๆ กับพ่อนี่ซิ
เอายายเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไม
กลายเป็นว่าพวกคุณหัวตะบวยเหล่านี้กำลังสร้างกระแสให้พระเพชรตกเป็นจำเลยซะ
งั้น มันคนละประเด็นกันเลยนะ อีกหลายๆ
ประเด็นที่ผู้คนประชาชนแฟนเพลงที่รักคุณพุ่มพวงอยากรู้ทำไมพวกคุณไม่ตอบให้
เคลีย...ทรัพย์สินเงินทองของคุณพุ่มพวงตอนนี้ใครเป็นผู้ครอบครอง?
กระจัดกระจายไปให้ใครบาง?
มีเมียน้อยก่อนคุณพุ่มพวงจะเสียชีวิตอีกจริงไหม?
พวกน้าๆที่โมดิฟายหน้ามาแย่งสามีจริงหรือไม่?
เงินบริจาคในแต่ละปีทั้งหมดที่ผ่านมา 17 ปี ยอดเท่าไหร่
แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?.....
คนดีชอบแก้ไข คนจัญ...ชอบแก้ตัว
++
แหม ! มารุมกินโต๊ะหมู่กันเร็วจริงๆนะ ทำเป็นข่าวรายวันเลย
ผู้ใหญ่ตระกูลนี้ก็แปลกจริงๆ จะไม่ให้ว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กยังไงไหว
ทำไมไม่รอให้พระท่านสึกออกมาก่อน อ่านตอนแรกเหมือนให้สัมภาษณ์เสียดี
ทีไหนได้ก็ยังออกมาซัดกลับกับพระลูกเพชรเหมือนเคย...
ใน อีกห้องข่าวบอกว่าจะมาแถลงว่าตลอดเวลาเอาเงินไปทำอะไรบ้าง
ไปสูบเค้ามาอย่างที่สังคมกังขาอยู่หรือไม่ ..เอาเข้าจริง
แถลงข่าวก็ยังไม่ตอบเรื่องเงินอยู่ดี
ดีแต่พรรณาในเชิงความรู้สึกกันอย่างเดียว
ฟังไม่ค่อยขึ้นวะ...เหมือนกับผู้ใหญ่แก๊งค์นี้จะเล่นสงครามจิตวิทยากับเด็ก
อีกรอบ
เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณๆผู้ใหญ่แก๊งค์นี้ก็จะออกมาให้สัมภาษณ์รายวันอีก
สื่อก็ยิ้ม เล่นข่าวกันเข้าไป เล่นกันไม่เลิกเลยนะ
สุด ท้ายแล้ว ยังไม่อยากให้พระลูกเพชรสึกออกมาเลย
อยากให้ศึกษาธรรมะให้จิตใจสงบต่อไปอีกหน่อย สภาวะมารผจญอย่างนี้
เหมือนแผลหนองที่รอใกล้แตกเต็มทน ถ้าเป็นไปได้
เด็กอย่างพระลูกเพชรซึ่งจริงๆก็ไม่ใช่ว่าจะทำถูกไปเสียทั้งหมด
หลังสึกออกมาหรือระหว่างที่บวชถ้าคิดได้ คิดตก
คิดอโหสิกรรมและให้อภัยโยมพ่อ
และพี่ป้าน้าอาญาติของตัวเองที่ร่วมสร้างเวรทำกรรมต่อกันและกันไปได้
จะเป็นกุศลกรรมที่ยิ่งใหญ่มาก และที่อยากจะบอกคือ มันจะดีมาก
สง่างามและเท่ห์กว่าการกระทำของผู้ใหญ่จิตใจแคบพวกนี้มากมายนัก
เพราะที่สุดแล้วการให้อภัยสูงสุดกว่าการให้ทั้งปวง
เรื่องของครอบครัวเขา เราไปยุ่งอะไรด้วย
++
ได้เห็นคลิปเต็มๆ สงสารพระลูกเพชร Y_Y สงสารพุ่มพวง สุดๆ
พระลูกเพชรท่านเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปในทางที่ดีขี้น
พระต่อปากต่อคำกับฆราวาส กับ ฆราวาสรุมทึ้ง กดดันพระให้ตอบโต้ ทำให้พระท่านน้ำตาตก
.......... ใครผิด ใครบาป .......... ?????????
.......... ญาติโก โหติกา ........... ทั้งหลาย !!!!!!!!!!!
ทำตัวเหมือน เปรต กระสือ กระหัง อสูรกาย
ืท่าทางกิริยาวาจา ก้าวร้าวหาเรื่อง
จ้องที่ร่างพระท่าน เหมือนต้องการสูบบบบบบบ เลือด
จ้องดูด จากร่าง"คนเป็น เเละ คนตาย" ด้วยกัน ทั้งสิ้น
เเม่ลูก นอกเลือด เป็นโฆษกพระลูกเพชร ได้ทันมือทันปากกันจริงๆ
+++
น่าสงสารพระเพชรทำเพื่อแม่แท้ๆ ดูก็รู้ว่าพวกญาติกับพ่อ
มาพูดเพราะมันเรื่องเงินทั้งนั้น ลูกจะทำเพื่อแม่มันผิดตรงไหน
แล้วลูกทำแล้วได้เงินตรงนี้มันผิดตรงไหน เค้าเป็นลูกแท้ๆ สายเลือดแท้ๆ
แล้วญาติกับพ่อจะสอใส่เกือกทำไม ตอนแม่ผึ้งพุ่มพวงอยู่
ไอ้ไกสรก็ใช่ว่าจะดูแลแม่ผึ้งดี แถมเอาลูกห่างจากหัวอกคนเป็นแม่อีก
ตอนนี้แม่ผึ้งเสียไปแล้ว
ตัวไอ้ไกสรมรึงก็มีครอบครัวใหม่ก็ถือว่ามรึงเป็นคนอื่นไปแล้วไม่มีสิทธิ์
เกี่ยวกับแม่ผึ้งอีก นอกจากกับลูก ลูกโตแล้วคิดได้แล้ว
จะทำอะไรก็เรื่องของลูกสิ
นี่ขนาดลูกบวชนะปล่อยให้ญาติมานั่งว่าด่าพระอยู่ได้ นี่หรอคนเป็นพ่ออ่ะ
เลวจริงๆ พวกไอ้อีน้าลุงนี่ก็กระไร พระบวชอยู่นะ จะให้ศึกก่อนก็ไม่ได้
แค่เรื่องเงินแค่นี้ทำได้ขนาดนี้ สงสารเด็ก
คนเป็นลูกสายเลือดโดยตรงเค้าจะสร้างจะบวชจะทำอะไรเพื่อแม่ก็เป็นสิทธิ์
ญาติพี่น้องเป็นคนอื่นมาเกี่ยวอะไรไม่ทราบ มีอะไรก็ไปฟ้องร้องกฏหมายสิไป
เห็นแล้วทุเรศสงสารเด็ก หัวเดียวกระเทียมลีบ รุมกันใหญ่
ไอ้พ่อก็เลวเหลือเกินถ้ารักลูกอย่างปากว่าจริงก็ต้องช่วยลูกเสะ
ปล่อยให้ลูกโดนรุม มีแต่คนอื่นที่ช่วยและเข้าข้างลูกตัวเอง
คนเป็นเมียเป็นแม่เมียกับเข้าข้างลูกตัวเอง
แต่คนเป็นพ่อนั่งอมสากเงียบอย่างเดียวปล่อยให้ลุกโดน
แล้วอยากจะบอกไอ้ไกสรนะ ที่บอกว่าพระเพชรโดนของอ่ะ
คนโดนของเค้าจะใส่ผ้าเหลืองบวชพระได้ไง อย่าพูดอีกเลยเพ้อเจ้อ
คนพิดโลก
++
ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆนะ
ญาตินี่แบบตอแหลมากๆ เป็นอะไรที่ดูแล้วทุเรศลูกกะตาสุดๆ
ปากก็บอกว่ารัก !! แต่การกระทำที่แสดงออกมามันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ทำไมลูกจะสร้างหุ่นให้แม่ไม่ได้ล่ะ ?? ปัญญาอ่อนรึป่าว
ลูกนี่แหละ มีสิทธิยิ่งกว่าญาติอย่างพวกแกอีก
เห้อ ~ เหนื่อยแทนพระเลย มีญาติแบบนี้ซวยหน่อยละกัน
แต่อย่างว่า ความโลภมันไม่เข้าใครออกใครหรอก
ใครทำอะไรไว้เดี๋ยวมันก็ได้รับผลตอบแทนเองนั่นแหละ
เราคิดว่าพระควรจะอยู่เฉยๆดีกว่า
ขืนพูดออกไปก็มีแต่เสียกับเสีย มันไม่ได้ดีขึ้นมาเลย
ใครผิดใครถูกก็ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ
พอพูดออกสื่อต่างคนก็ต่างบอกว่าตัวเองดี
แบบนี้แหละหนาที่เค้าเรียกกันว่า '' มนุษย์ ''
ตอแหล
++
1 ถ้าไม่มีครอบครัวอื่นมาเสี่ยมสอนให้โกรธพ่อตนเองซึ่งเป็นเรื่องเก่าเมื่อ
17ปีที่แล้ว และเป็นเรื่องเก่า ไม่เกี่ยวรุ่นลูก เรื่องก็คงไม่เกิด
2 ถ้าพระเพชรไม่ใช่ลูกของพุ่มพวง 2แม่ลูกก็คงไม่เอามาเลี้ยงให้เสียเวลา
3 พระเพชรหัวอ่อน และยังอ่อนต่อโลก ในขณะที่2แม่ลูกดูลักษณะแล้ว เจนสังเวียน
4 การสร้างหุ่นพุ่มพวง เพื่อผลปรโยชน์เป็นหลัก
ไม่งั้นจะสร้างไว้เกะกะหรือไง พระเพชรต้องการสร้างเพื่อระลึกถึงแม่
นั่นจริง เพราะจิตใจแก่ซื่อจนเกินไป
จนไม่รู้เท่าว่าต่อไปหุ่นที่สร้างนั่นแหละคือที่มาในการหากินในอนาคต
ซึ่ง2แม่ลูกไม่มีสิทธิ์สร้างจึงต้องผลักดันพระเพชรออกโรงแทน
การที่จะทดแทนบุญคุณแม่มีทางอื่นถมไป ทำไมต้องสร้างหุ่น
และการสร้างหุ่นครั้งนี้แทนที่จะปรึกษาพ่อ หรือยายซึ่งเป็นแม่ของแม่ก่อน
แต่กับไว้ใจให้คนนอก โดยไม่รู้ว่า
หุ่นที่จะสร้างแค่ในนามของพระเพชรเท่านั้น
แต่ลึกๆต่อไปอาจจะกลายเป็นสิทธิ์ของ2แม่ลูกไปในอนาคต
นี่คือที่มาของการต่อต้านสร้างหุ่นพุ่มพวง
ที่คนภายนอกครอบครัวอยากหากินกับเรื่องแบบนี้
5 น้องพุ่มพวงกำลังโต้เถียงกกับ2แม่ลูก
แต่ด้วยโทษะที่พระเพชรเห็นโต้เถียงกันเลยตระโกนด่าพ่อและน้าตนเองว่าเป็นคน
ฆ่าแม่ ซึ่งเป็นพระไม่ควรกระทำต่อบิดาเช่นนั้น
6 น้าของพระเพชรก้บันดาลโทษะเพราะ พระเพชรก้าวร้าวต่อบิดาตนเองแทนคนอื่น
เรื่อง ในอดีตเป็นเรื่องของผัวเมียที่มีปัญหากัน
แล้วคนตายก็เสียชีวิตมานานถึง17ปี
เป็นลูกที่ดีต้องให้ความเคารพต่อบุพการี
ไม่ควรเอาเรื่องของพ่อแม่มาประจานให้คนอื่นรู้
และในเหตุการณืพ่อพระเพชรก็ไม่ได้ว่าอะไรรุนแรง
แต่กริยาอาการคนห่มผ้าเหลืองกับทำร้ายบิดา
ผิดแต่แรกที่ไม่ไปขอขมาลาโทษต่อบิดาและยายที่จะลาไปบวช
แต่กลับเชื่อฟังคนอื่น จนการบวชครั้งนี้เต็มไปด้วยบาป แทนที่จะได้บุญ
เพราะมีทั้ง กิเลส ตัณหา เข้ามาเกี่ยวข้อง
ศีลธรรมเสื่อม
++
แฟนโต้ เหตุที่เอา "พระเพชร" มาอยู่ด้วย ไม่ใช่เรื่องเงิน
แต่เพราะเจ้าตัวรับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000068097
แฟนสวนกลับ เหตุที่เอา "พระเพชร" มาอยู่ด้วยเพราะสงสาร ไม่ใช่หวังเงิน แฉ
สาเหตุที่พระเพชรหนีออกจากบ้าน เพราะรับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้
แต่ปัดบอกว่าเรื่องอะไร บอก รอให้พระสึกแล้วจะเปิดโปงด้วยตนเอง ค้าน
"ไกรสร" หาว่าทำลูกชายเสียคน บอกแท้จริงแล้วเจ้าตัวเป็นคนเด็กเที่ยว
เจ้าชู้ กินเหล้าสูบบุหรี่ มาตั้งแต่สมัยอยู่เมืองนอกแล้ว
โต้กันไปโต้กันมา กลายเป็นศึกสายเลือดที่สังคมให้ความสนใจ
สำหรับกรณีการมีปากเสียงกันระหว่าง "พระสรภพ ลีละเมฆินทร์" หรือ
"พระลูกเพชร" ทายาทของอดีตราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
กับพ่อบังเกิดเกล้า "ปุ้ม ไกรสร แสงอนันต์" และ ญาติๆ ที่ประกอบไปด้วยลุง
และน้าสาว กลางงานรำลึกครบรอบ 17 ปีการเสียชีวิตของพุ่มพวง ณ
วัดทับกระดาน สุพรรณบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากการที่ ทางทายาทของราชินีเพลงลูกทุ่ง
บวชแล้วไม่ยอมบอกพ่อ รวมถึงการจะจัดสร้างหุ่นของผู้เป็นมารดาขึ้นมา
พร้อมเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงิน ซึ่งทางญาติๆ ส่วนใหญ่นั้นไม่เห็นด้วย
เนื่องจากมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนิสัยที่เปลี่ยนไปของลูกชาย
ที่ตั้งแต่หนีไปอยู่กับทางครอบของแฟนสาวที่ชื่อ "อ้อย ธิดารัตน์
อรรถรัตน์" ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากเด็กกตัญญูเป็นลูกเนรคุณ
เหมือนคนโดนของ
ซึ่งกับคำกล่าวหาดังกล่าวก็ทำให้ทาง "อ้อย" แฟนสาว และผู้เป็นแม่
นาง "สุพรรณี สุประการ" ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ลุกขึ้นมาโต้กลับทันควันในรายการ "Next station พรหมพร" ทางช่อง 5
ว่าสิ่งที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังทิ้งระเบิด
ว่ารอให้พระเพชรสึกออกมาก่อน แล้วสังคมจะได้รับรู้ความจริง
ที่เป็นเรื่องน่าเกลียดของผู้เป็นพ่ออย่าง "ไกรสร"
ซึ่งสังคมไม่มีทางรับได้
อ้อย "อ้อยเป็นเด็กเรียนมาโดยตลอด เป็นเด็กที่มีหัวนอนปลายเท้า
ไม่ได้เป็นเด็กแบบนั้น ไม่ได้เจอกันทางอินเตอร์เน็ตอย่างที่หลายๆ
คนเข้าใจ มีหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลยืนยัน เจอกันเพราะไปฝึกงานที่อาร์เอส
เพราะเป็นศิลปินฝึกหัด คือเราจบเกียรตินิยม
พระท่านก็เลยมาปรึกษาเรื่องเรียนมาตลอด
เพราะตอนนั้นท่านได้เกรดสูงสุดเท่าไหร่ไม่รู้ คือมันต่ำมาก
ท่านก็เลยถามว่าจะทำยังไงดี ถ้าเกิดเข้าวงการแล้วอายเขานะ
เกรดมันน้อยมากเลย ก็เลยได้มีโอกาสคุยกัน"
"เรารู้จักกันก็ตั้งแต่หนูอยู่ปี 4 จวบจนทุกวันนี้ ก็น่าจะประมาณ
5 ปีพอๆ กับตอนที่เป็นข่าว จริงๆ ตอนแรกไม่ได้คิดที่จะเป็นแฟนกันเลย
เพราะข่าวต่างหาก ที่ทำให้รู้สึกว่าเห็นใจและสงสารเขา
ถ้าคนภายนอกที่อยู่แถวบ้านเขาจะดูว่ายังวิ่งไล่จับเหมือนเป็นเด็ก
เหมือนเป็นพี่เป็นเพื่อนกันมากกว่า แต่คือวันนั้นเป็นวันวาเลนไทน์
แล้วพระท่านก็มาอยู่กับครอบครัวเราตั้งแต่ตอนนั้น
พระท่านก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีงานอะไรเลย ไปเด็ดดอกไม้หลังบ้านมา
แล้วก็เอามาสารภาพความรู้สึก"
แม่ "ตอนแรกไม่ใช้คำว่าเขาคบหากันด้วยซ้ำ
แม่ก็มาที่คอนโดมาหาลูกสาว ตอนนั้นแม่ยังไม่ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่
เพราะแม่ทำปั้มน้ำมัน พระมาอยู่เกือบ 5 ปีแล้ว ไม่ได้อยู่แค่ 3
ปีอย่างที่เป็นข่าว ไหนว่ารักลูกอยู่กันมา 18 ปี
นี่มาอยู่กับครอบครัวเราแค่ 2 ปี ทำไมถึงผูกพันกับครอบครัวเรา
และมาบอกว่าเราล้างสมอง"
เผย พระเพชรหนีออกจากบ้านเพราะเป็นเด็กมีปัญหา
ไม่ใช่เพราะหนีออกมาเพราะโดนหลอกลวงมา แฉ สาเหตุจริงๆ
รอให้ฝ่ายชายสึกก่อน แล้วจะเป็นคนมาเปิดโปงความจริงด้วยตนเอง ทิ้งระเบิด
ปมดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้
อ้อย "ออกจากบ้านมาเพราะมีปัญหา เพราะเพชรเป็นเด็กที่มีปัญหา
ไม่ใช่เด็กอกตัญญู มันเป็นปัญหาที่เดี๋ยวพระท่านสึกแล้ว
ท่านจะออกมาพูดเอง ซึ่งสังคมคงรับไม่ได้ด้วย
ไม่เกี่ยวกับเรื่องของมรดกอย่างที่ใครๆ เข้าใจ
แต่มันเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดกันมากกว่า
แล้วมันน่าเกลียดเกินกว่าที่จะพูดให้สังคมรับทราบ
พระท่านเหลือทนแล้วก็เลยต้องออกมา ตอนแรกไม่ได้คิดจะรับพระมาอยู่ด้วย
แต่พอฟังพระเล่าเรื่องนี้ก็เลยสงสารเห็นใจ"
แม่ "แม่เองก็เก็บเรื่องนี้มา 4-5 ปีแล้ว
ตอนแรกเขาก็จะกลับไปอยู่แล้ว เขาจะกลับตามพ่อไปแล้ว
แต่เผอิญว่าทางพ่อเขามาทะเลาะกันก่อนเขาก็เลยไม่กลับ"
ผู้สื่อยิงคำถามต่อ กรณีที่แหล่งข่าววงในออกมาลากไส้ ว่า
ปมที่ทำให้พระเพชรรู้สึกไม่ดีกับพ่อตัวเอง
เป็นเรื่องที่พ่อมีความผิดปกติทางเพศนั้น หมายความว่าอย่างไร?
งานนี้ทำเอาสองแม่ลูกอึกอัก บอกเพียงว่าให้รอพระเพชรสึกก่อน
แล้วทุกคนจะได้ทราบกัน
แม่ "ไม่ขอตอบละกัน ตอบไปแล้วเดี๋ยวจะไปหาว่าใส่ร้ายอีก
เพราะเรื่องนี้ เราถึงได้ยอมให้ลูกเขามาอยู่
ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นลูกพุ่มพวง
เขามาหาเราตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการและไม่มีเงินสักบาท
(เกิดจากการขืนใจหรือเปล่า?)
ไม่อยากพูด อยากให้พระพูด"
ยัน ตอนแรกที่พระเพชรออกจากบ้านมาไม่ได้มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดอย่างที่เป็นข่าว
แม่ "ตอนนั้นพระท่านจะกระโดดตึก พระลูกเพชรบอกว่าไม่อยู่แล้ว
ไปหาใครก็ไม่ได้ ไปหาใคร ใครก็ไม่เอา
ไปหาปู่ตอนนั้นปู่ก็ให้ตังค์มาสองพัน แล้วพอโทร.ติดต่อกลับไปอีก
เขาก็ปิดมือถือ ไม่มีที่ไปแล้ว เขามาพูดกับน้องอ้อยแบบนี้
แม่ก็เลยถามว่าเขาเป็นใคร น้องก็เลยบอกว่าลูกชายพุ่มพวง
แม่เห็นตอนแรกแม่ยังไม่คิดว่านี่เหรอลูกชายพุ่มพวง เหมือนคนติดยาเลย
นี่แม่พูดต่อหน้าพระนะสาบานได้"
"ตอนนั้นที่มอง เขาจะน้ำลายยืด แม่ก็เลยบอกว่าเราไม่คบดีกว่า
อ้อยเองก็กำลังจะรับปริญญาอยู่แล้วนะ แม่ดูแล้วตอนนั้นเขาเหมือนเด็กติดยา
ไหว้แม่เขาก็ไม่ค่อยไหว้ เขาจะเดินรอบๆ รถ
พอทีหลังแม่เริ่มรู้ปัญหาของเขา แม่ก็รู้สึกสงสาร
ตอนนั้นแม่ก็ไม่ได้ชวนเขามาอยู่ แม่ให้ตังค์เขาไปก่อน
ถามเขาว่ามีตังค์ใช้ไหมลูก เขาก็ไม่ตอบ เขาเฉยๆ แล้วก็เอามือกุมไว้
แล้วก็นั่งอยู่เฉยๆ แม่สงสาร แม่ก็ควักตังค์ให้เขาห้าพัน
ก็บอกว่าเอาไปใช้ก่อนนะลูกหรือไม่งั้นก็เอาไปเช่าหอ
เพราะแม่ก็ยังไม่สนิทกับเขา แล้วบอกกับลูกว่ายังไม่ต้องคบอะไร
เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมา"
"พอเขาออกจากบ้านมา เขาก็มาอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัดก่อน
แล้วช่วงนั้นคุณยายบุญธรรมจะโทรศัพท์มาหาเขา ตอนแรกๆ
เขาก็จะก้าวร้าวหน่อยไม่ยอมรับ ตุ๊กตาอะไรอยู่ในห้อง
เวลาที่เขาเครียดขึ้นมา เขาก็จะทุบตีทำลายข้าวของ
ทุบประตูห้องแล้วแม่บอกว่า ที่บ้านแม่ยอมรับไม่ได้นะ
สังคมเราไม่ได้เป็นแบบนี้"
อ้อย "จริงๆ ตอนแรกไปอยู่กับคุณน้าทางฝ่ายของแม่ผึ้ง
ชื่อน้าไก่(จันทร์จวง) คือทีแรกย้ายไปอยู่กับน้าก่อน
คือทางเราก็มีหลักฐานยืนยัน ว่ามีเทปเสียงของน้าเขาที่โทรศัพท์มา
จำไม่ได้แล้วว่านานเท่าไหร่คร่าวๆ คือหลังจากที่มีข่าวเราออกไป
เขาก็พาพระเพชรมาเจอที่คอนโด แล้วก็บอกว่าพาสื่อหนังสือพิมพ์เล่มนึงไป
แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวเราพาสื่อมาแล้วนะ คุณไม่ต้องกลัว
เดี๋ยวเราจะแถลงข่าวเองทีเดียว คุณไม่ต้องออกไปพูดอะไร
คุณไม่ใช่ดาราไม่ต้องรีบแก้ข่าวก็ได้ แต่พระท่านเองก็เหมือนอยู่ในวงการ
ท่านต้อรักษาภาพพจน์ เดี๋ยวเราจะติดต่อกับทางคุณไกรสร
ให้มาขอโทษกับทางเรา ทางน้าโอ่งเป็นคนพูดนะคะ หลังจากนั้นเราก็รอ"
+++
เเต่เรากลับมองว่าเเม่ลูกคู่นี้ไม่ได้เจ๋อสาระเเนเข้ามายุ่ง เเละไม่มองว่าเค้าขู่นะ
ก็ พระเพชร ไปอยู่บ้านเึ้ค้าตั้งเป็นปีๆ ไม่ได้ไปเช่าบ้านเค้าอยู่
เเต่ไปอยู่กินกะเค้าฟรีๆ
เค้าก็ดูเเลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด พระก็เหมือนคนในบ้านเค้าเเล้วไง
เค้าก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะพูดถึง พูดเกี่ยวกับคนในบ้านของเค้าไม่ใช่หรอ
เเละเค้าก็รู้จักครอบครัวพระเพชร เีีรียงลำดับจำตัวตนใครเป็นใครได้หมด
ได้พบได้เจอตัวเป็นๆของกันเเละกัน
มีการตัดสินใจ มีความขัดเเย้ง มีการออกความเห็นเกิดขี้น
มันก็็เกี่ยวข้องกันเต็มๆ เกี่ยวโยงเเบบที่สองฝ่ายก็รับรู้ถึงความเกี่ยวอ่ะเเหละ
ทางครอบครัวพระจะปฎิเสธความเกี่ยวโยงอยู่ฝ่ายเดียวไม่ถูกมั้งนะ
ที่เค้าออกมาพูด อาจเพราะถูกโจมตีจากครอบครัวพระเพชร เลยอยากอธิบายในส่วนของเึ้่ค้า
ตัวเเม่เค้าก็พูดถูกที่เค้าไม่ใช่คนนอก
เพราะเเบบนี้จะบอกว่าเค้าเป็นคนนอก มันก็ถูกเเค่ส่วนนึงเท่านั้น
ครอบครัวพระเองก็ปล่อยให้เค้าดูเเลพระเพชรจริงๆ พระเองก็อยากอยู่กับเค้าเอง
ทางเค้าก็มีีหลักฐานการดูเเลพระ
เเล้วจะว่าสองเเมู่ลูกเป็นคนนอกไปซะทีเดียว ก็ไม่ถูกต้องหร๊อก
ถูกอยู่เรื่องเดียว(ในความเห็นของเรา)คือ หากพระเพชร ไม่ใช่ลูกชายพุ่มพวง
เเม่เค้าจะให้อยู่ด้วยป่ะ
เเม่เค้าอาจจะต้องคิดเยอะ กว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อใครสักคนเเบบนี้(เพราะพระ
ไม่ใช่น้องหมาน้องเเมว ที่เเม่เค้าหิ้วอาหารไปเลี้ยงดูนะ)
เเต่ก็ไม่มีใครรู้ดีว่าเเม่ลูกคู่นี้ ตัวตนจริงๆเป็นไง
นอกจากพระเพชร(ซึ่งพระก็เลือกที่จะโยงกะเเม่ลูกคู่นี้เองนี่นะ)
ส่วนเรื่องนำเสนอความคิดเห็นเรื่องราว บลาๆส่วนตัวๆของเค้าสองคน
่จะว่าเค้าพูดเยอะ นำเสนอตัวเองมากไป
ก็เป็นได้ว่าอยากบอกให้คนอื่นรู้จักตัวตนเค้าสองคนมั้งนะ
ส่วน ใครพูดผิดถูก ใครทำผิดถูก พวกเราอ่ะคนนอกตัวจริง
เป็นเพียง"ชาวมุง"เท่านั้น ก็ได้ฟังได้ดูเพลินไปเเค่นั้น
เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของเรา พวกมวลชน"ชาวมุง"
พิจารณากันเชื่อไม่เชื่อใครกันเอง เอวัง
"ชาวมุง"สาระเเนได้ ออกความเห็นได้ เพราะเป็นข่าวสาธารณะ อิ อิ
++
นักข่าวนี่มารยาททรามจริงๆเลย นอกจากถามนำ ชี้นำคำถามคำตอบ
จนน่าเกลียดแล้ว (เช่นประเด็นปัญหาทางเพศของคนเป็นพ่อ
ถามนำซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นหละ คนตอบเค้าก็บอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ขอตอบ
แต่ให้พระตอบเอง) ตั้งคำถามได้สากกะเบือมาก
แล้วยังไม่รอให้คุณแม่หรือคุณอ้อยแกตอบเสร็จเลย ถามแทรกตลอดเลย ...เฮ้อ
!! งี่เง่าสุดๆ ต่อไปต้องไปสอนลูกหลานแล้วหละว่าเรียนไม่เก่งยังไงก็อย่าใฝ่ฝันไปเป็นนัก
ข่าวบันเทิงเลย เพราะเป็นอาชีพทีน่ารังเกียจมาก
ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรต่อสังคมเลย ไม่ได้เป็นอาชีพที่สร้างสรรอะไรเลย
ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมไม่ดีขึ้นในสังคมอีก
...น่าเศร้ามากไปอีกชั้นนึง นอกจากปัญหาครอบครัวของพ่อลูกตระกูลนี้แล้ว
จุดจุดจุด
++
เป็นกำลังใจให้น้องเพชรครับ
และขอขอบคุณน้องอ้อยและครอบครัวที่ให้โอกาสน้องเพชร ไม่อย่างนั้น
ไม่รู้ว่าชีวิตของน้องจะแย่ขนาดไหน
คน ที่ไม่เคยทีปัญหากับคนที่เรียกว่า "พ่อ"
ไม่รู้หรอกว่าเวลามีปัญหามันเจ็บปวดแค่ไหน สังคมก็เห็นเราอยู่ฝั่งตรงข้าม
แต่ความเป็นจริงแล้วควรมองให้ลึกซึ้งนะครับ ว่าถ้าไม่ถึงที่สุดแล้ว
ใครจะออกมาขนาดนี้
แฟนเพลงคุณพุ่มพวง
++
ถ้านายไกรสร แสงอนันต์และญาติโกโหติกา ปล่อยให้พระเขาเดินตามทางที่เขาเลือก
จะดีจะชั่ว ให้เขารับของเขาไปเอง คนอื่นไม่ต้องไปยุ่งกับเขา
เรื่องมันก็จบ..........
การที่มองว่าแม่ยายกับแฟนพระ อยากได้เงินทองของพระ
ต้องถามกลับ พระมีอะไรให้พวกเขาหรือ
ต่อให้เป็นนักร้องเต็มตัว ก็ไม่แน่ว่าจะดังทำเงินได้
การที่เขาจะเปิดรับบริจาคสร้างหุ่นแม่เขา ก็ช่างเขาสิทำดีก็ดี
ทำชั่วก็เสียทั้งตัวและเสียทั้งแม่เขาเอง
คนอื่นไปยุ่งอะไรกับเขาด้วย เท่าทีดู ทั้งพ่อทั้งญาติ
คงอยากจะให้พระเป็นพุ่มพวง2 หรือเปล่า
รีดได้ไถได้ตามใจชอบ เห็นพระเป็นตัวเงินตัวทองใช่หรือเปล่า
คนเราคิดยังไงก็จะมองคนอื่นแบบนั้น
ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองใช่หรือเปล่า ทางออกของปัญหาก็คือทุกคนน่าจะหยุดได้แล้ว
ผมก็หยุดแล้ว ถ้าพวกเราเลิกสนใจ ข่าวมันก็จะเก้อของมันไปเอง
++
ล้วไงต่อละทีนี้.........................
ตัวละครก็เริ่มเยอะและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนจะจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร งง
แต่ละคนก็ออกมาพูดฉอด ๆ อ้างเหตุอ้างผล
หลักฐานมั่วไปหมด
เดี๋ยวมีลุง ป้า น้า อา ยาย พ่อ แฟน แม่แฟน ฯลฯ
เต็มไปหมด ออกมากันทำไมเนี่ย............
ลองนับลำดับแล้วแต่ละคนหวังอะไรกัน
ก่อนตายพุ่มพวงเป็นหนี้แบงค์ สถาบันการเงินสัก 50ล้าน
ไม่ทราบว่าบรรดาท่าน ๆ ทั้งหลายที่กล่าวข้างต้น
จะออกมาไหมเนี่ย
พวกคุณ ๆ ทั้งหลายส่อเจตนานะครับ
จอมทัพ
++
ถ้าจะสกัด ไม่ให้สร้างหุ่น เพราะเหตุผลว่ามีเยอะแล้ว
ทำไมปล่อยให้มีมาได้ถึง 6 หุ่น
พอลูกแท้ๆ ที่คุณพุ่มพวงรักมาก จะเป็นคนริเริ่มสร้าง ทำไมถึงถูกกีดกันแทบจะตีกันตาย
เท่า ที่รู้ ที่ผ่านมา หลายเรื่องที่เป็นประเด็นอยู่
พระเพชรก้อไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มไปหาญาติก่อน
เค้าปลีกตัวออกมาแล้วเหมือนไม่อยากยุ่งด้วย
เพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ไม่ดีของพ่อ ของญาติแม่
ผู้ใหญ่ซะอีก ที่เป็นฝ่ายไล่ตามเด็ก
สมมติ ถ้าเรา ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติหรือรู้จักอะไรกับใครเลย
ต้องการสร้างบ้าง จะได้หรือเปล่า ก้อคงได้
เพราะเราไม่ได้มีอิทธิพลกับแฟนเพลงของคุณพุ่มพวง
และที่พ่อกับญาติๆ บอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สิน เงินทอง ผลประโยชน์
อยากทราบว่าเงินค่าลิขสิทธิ์ที่ได้ จากละครที่เคน ธีรเดชเล่น
จากอัลบั้มที่ใหม่เอาไปร้อง ใครเป็นคนรับเงินไป
ผู้จัดละครและแกรมมี่จ่ายเช็คให้ใครไป
ใครทราบบ้างอ่ะ
789
++
ดีค่ะ...ออกมาแฉออกมาพูดกันให้หมด นักข่าวก็ได้ข่าว
คนทั่วไปก็ได้รู้เรื่องชาวบ้าน พอเรี่องเงียบก็บ้านใครบ้านมัน
เราก็ยังทำมาหากินตามปกติ ส่วนตัวไม่ทราบหรอกค่ะใครผิดใครถูก
แต่อยากจะบอกว่าคำพูดและการกระทำมันทำลายพวกคุณต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นคุณไกสรหรือญาติพี่น้องคุณผึ้ง หรือครอบครัวแฟนลูกเพชร
ที่สำคัญตัวลูกเพชรเองก็โดนมองว่าไม่เคารพผู้ใหญ่
เพราะไม่ว่าจะดีชั่วยังไง พ่อก็คือพ่อวันยังค่ำ
จำไว้นะค่ะว่าท้ายสุดก็มีแต่พวกคุณที่เจ็บปวด เสียชื่อ
เมื่อไรพวกคุณจะหยุดค่ะ...คุณผึ้งเองก็หยุดไปตั้งนานแล้ว
เบื่อสื่อ
++
ก็ตระกูลพุ่มพวง กับไกรสรด่าเค้ามานาน แล้วมาหาว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้า
แฟนและแม่ก็มีศักดิ์ศรีนะ ควรจะออกมาปกป้องตัวเองบ้างแหล่ะดีแล้ว
ให้สัมภาษณ์ด่าเค้าตั้งแต่รอบที่แล้ว ไม่ได้ดูตัวเองกันเลย
ครอบครัวนี้แปลกตั้งแต่น้องสาวแย่งสามีพุ่มพวงแล้ว
แถมน้องชายยิงพี่เขยอีก เละขนาดนี้กลับมาว่าคนอื่น
แล้วจันจวงบอกว่าชี้หน้าด่าพระ รู้สึกตัวลอย ๆ เหมือนใครเข้าสิง
ไม่ใช้ตัวเองพูดจาเหมือนคนโง่เลย ฟังแล้วน่าสมเพชมากตอนแถลงข่าว
ขอออกมาพูดบ้างเหอะ
++
เรื่องราวส่วนตัวของพ่อยังไงลูกไม่สมควรเปิดโปงแฉเท่า
คนเนรคุณบิดาตนเองดีชั่วอย่างไรพ่อให้เกิดมาเป็นคน
ดีแล้วที่ไม่ได้เกิดเป็นหมูหมากาไก่พวกเดรัจฉานด้วย
ไม่มีโอกาสสร้างบุญกุศล ถึงสึกออกมาจากเพศพระ
แล้วมาลบลู่คุณบิดาตนเองระวังนรกกินกบาลไม่มีความ
เจริญเด็ดขาดเมื่อหนีออกจากบ้านมาแล้วฝังกลบอดีต
ไว้ดีกว่ามาทำลายพ่อตัวเอง ยืนหยัดสู้ชีวิตดีงามดีงาม
เมื่อเกิดมาเป็นลูกผู้ชายได้ใช้โอกาสบวชห่มผ้าเหลือง
ยิ่งไม่สมควรทำลายบุรพการีจะเป็นเวรกรรมติดตัว
ตรองคิดหลายเที่ยวหน่อยพระเพชร
++
2แม่ลูกที่เลี้ยง พระเพ็ชรมาดีที่สุดไกรสรณ์เป็นพ่อลูกยังหนี
แล้วตามคลิปที่มีผู้หญิงใส่เสื้อเหลืองจะเข้าทำร้ายพระเป็นใคร
แย่มากคงตกนรกแน่ ไกรสรณ์ คุณมมีความผิดปกติทางเพศจนลูกรับไม่ได้
มันเพศอะไร
อย่างก็ขอสรรเสริญแม่ลูก 2 คนที่เลี้ยงพระเพชรมา โดยไม่คิดอะไร
จะหาใครประเสริฐืเยี่ยงนี้ไม่มีแล้ว
สรุปก็คงเรื่องเงิน เลวมากผั่ง พวกไกรสรณ์ พุ่มพวงมาหักคอมันเลย
รักพุ่มพวง
++
ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเลย สงสารดวงวิญญานที่ล่วงลับไปแล้ว
และคนที่อยู่ ณ ปัจจุบันนี้
มีเรื่องทะเลาะกันทำไมต้องมาพูดว่ากันขนาดนี้ด้วย สงสารพระท่านด้วย
แทนที่จะได้บุญ หรือแทนที่คุณแม่พุ่มพวง จะได้เกาะชายผ้าเหลือง
ผลบุญที่ท่านทำจะได้ส่งไปถึงโยมแม่ท่าน
แต่ก็กลับกลายเป็นข่าวที่มีแต่เรื่องที่ยุ่งยากลำบากใจท่าน
แบบนี้จะได้บุญยังไง
และอีกอย่างน่าจะให้พระท่านศึกออกมาก่อนไม่น่าที่จะไป
กระทำสิ่งที่ไม่ดีต่อท่านทั้งที่ยังใส่ผ้าเหลืองอยู่แบบนี้ นะคะ
คือสรุปว่า ดิฉันไม่ขอเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เพราะว่าดิฉันก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนกันหรือว่าจะมากกว่าเหมือนกัน
แต่ติดตรงที่ว่า ดิฉันไม่ได้เป็นดารา
ทางสื่อก็เลยไม่ได้มาขอข่าวอย่างที่เป็นนี้ก็ได้
แต่ปัญหาก็มีทางออกเสมอนะคะ
พระท่านจะได้สงบรอให้ท่านศึกก่อนจะเป็นการดีนะคะ
เด็กอยุธยา
รักแม่พึ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสมอ และจะเป็นพุ่มพวง ในดวงใจของดิฉันตลอดไป
lovenem_manatsanun@hotmail.com
++
ขอชมครอบครัวคุณอ้อยและคุณแม่
ที่มีใจเมตตาช่วยเหลือผู้มีปัญหาเดือดร้อนด้วยจริงใจ
นี่ถ้าเขาไม่ช่วย...เรื่องเศร้าอาจเกิดขึ้น
คิดดู น้องเพชรเป็นวัยรุ่นเจอปัญหาหนักจากพ่อ
หาทางออกไม่เจอ...อะไรจะเกิดขึ้น
น้องเพชร ต้องเข้มแข็ง
ตั้งใจเรียนและมุ่งไปข้างหน้า
ปัญหาในชีวิต...เรียนรู้มันให้เป้นพลังใจที่จะเป็นคนดี
หยดเทียน
++
ดูแล้วเห็นใจสองแม่ลูก ทางฝ่ายหญิงพูด ทำ
ทุกอย่างเราแค่มองก็รู้ว่าเขาทำถูกต้อง ช่วยเหลือเด็กมีปัญหาคือพระเพชร
ส่วนคนที่ผิดเต็มร้อย คือไกรสร หลุดทำร้ายลุกคุณได้แล้ว
อย่าให้ลูกทุกข็ยิ่งกว่านี้เลย สงสารเขา นี่ถ้าเป็นลูกเรา เราจะปกป้อง
แต่นีพ่อดันไปบีบลูก เค้นลูก ระวังลูกทนไม่ได้
เพราะดูแล้วมีความกดดันจากความเลวของพ่อ เลยทำให้ลูกก้าวร้าว มีปัญหา
โชคดีที่มีแฟนดี เข้าใจ ฝากบอกสองแม่ลูก คุณทำถูกแล้ว
ช่วยพระเพชรต่อไปเถอะค่ะ ถ้าเขาได้อยูื่๋กับครอบครัวดีๆอย่างครอบครัวคุณ
มีความรัก ความเข้าใจ ไม่นาน เขาก็จะเป็นคนดีของคุณ ของครอบครัว ของสังคม
บอกไกรสอน หยุดได้แล้ว ถ้าคุณคิดจะปกปอ้งตัวเอง
ถ้าคุณกลัวจะถูกนำความลับในที่ืมืดมาเปิดเผย ก็จงหยุดบีบคั้นลูก
ให้นึกถึงอนาคตลูก อย่าให้สังคมมองว่าลูกชั่ว แต่จงมองความจริง
เขาชั่วเพราะมีพ่อชั่วๆ อย่างคุณ
++
Hot Vote
คลิปวิดีโอการแสดงคอนเสิร์ต ก๊อท จักรพันธ์|ตั๊กแตน ชลดา|พี สะเดิด| ไผ่ พงศธร|บิล กัลยาณี หลวงไก่ อันดา|เสถียร ทำมือ|จั๊กจั่น วันวิสา| แช่ม แช่มรัมย์|อรวี สัจจานนท์|มนต์สิทธิ์ คำสร้อย|สดใส รุ่งโพธิ์ทอง - สุนารี|อันนี่ ศรีอีสาน|ต่าย อรทัย|จินตหรา พูนลาภ
-------------------