Thursday, September 6, 2007

ถมทราย สายน้ำ สะพาน และความหลัง (from mblog "บทกวีเคียงข่าว")

(เช้านี้ขอแห้งอีกสักชามนะ เป็นบันทึกที่เขียนไว้เมื่อสองสามเดือนก่อน
ที่เว็บเพื่อนนักเขียนคนหนึ่ง...มีโยงไปถึงเพลง"แม่ค้าตาคม" ที่ท่าน
11arrows จัดให้...ใครอยากใช้บริการโปรดไปเยี่ยมพูดฉอเลาะ
ออดอ้อนเอาเอง...)

..ถมทราย สายน้ำ สะพาน และความหลัง...

..

(ชื่อยังกะเรื่องสั้นสมัยหนึ่งที่นิยมตั้งกัน..เท่มั้ย...)

@ผมมีกิจวัตรขับรถไป ตลาดนัดจตุจักรทุกวันเสาร์ตั้งแต่ตีสาม ถึง
เจ.เจ.ตีห้า เสร็จธุระขึ้นตึกใบหยกเที่ยง บ่ายคล้อยไปดูไซต์งานที่
แถวสะพานนนทบุรี หรือสะพานนวลฉวี
ไซต์งานเป็นงานถมทรายสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานเมืองนนท์นั้น
เพื่อบรรเทาแทรฟฟิกแจม...

สะพานนี้จะเสร็จราวปลายปีหน้า เฉพาะงานถมทรายใช้ทรายทั้งสองฝั่ง
คือฝั่งกรุงเทพและฝั่งปทุมวัดชินวราราม ประมาณ สามแสนคิวบิกเมตรขึ้น
...ตอนนี้ส่งงานไปได้สิบกว่าเปอร์เซนต์แล้ว
สนุกสนานและมีปัญหาตามแบบงานหนักทั่วไป...

ทรายมาจากอยุธยาทางเรือลาก มาเป็นพวง ๆ ละหลายร้อยคิว
ผมไปนั่งกับน้อง ๆ เจ้าของบริษัทรับเหมา ที่น้องเขาตั้งผมเป็น
เอ็ม เอ มีหุ้นบ้างนิดหน่อย ที่ภัตตาคารปากคลอง ที่มีรถเสิร์ฟเป็นเรือ
ใช้ ดี.ซี.มอเตอร์ขับและก่อนรายการเก็บตกไปถ่ายมาออกรายการ

ร้านนี้บรรยากาศเงียบผมนั่งคุยกับสถาปนิก และเสธ.เจ้าของบริษัท
ในบรรยากาศ...แม่น้ำ สายลม และแดดยามเย็น
ผมคุ้นแต่แม่น้ำแม่กลอง และท่าจีน ฉากแม่กลองและคลองย่อยอยู่
ในนิยาย(...)
ฉากแม่น้ำท่าจีนอยู่ในนิยายขนาดสั้น 4 ตอน ตีพิมพ์ในนิตยสารสตรี
ฉบับหนึ่ง..ของผม เอามาใช้บ่อย...

สะพานที่สร้างใหม่นี้ผมมีส่วนร่วมสร้างแน่นอน ผมเห็นทรายที่ถมคอ
สะพานทั้งสองด้านตั้งแต่เริ่มแรก ผมมองทรายไม่เป็น ทรายถม
ทรายขี้เป็ด ทรายแม่น้ำ รู้แต่ว่าทรายสะอาดเป็นทรายที่สะท้อนแดด
สีทอง งามดั่งทอง...
เป็นทรายที่สวย
......
กว่าจะเป็นทราย เป็นกรวด เป็นเพชร เป็นพลอย คงใช้เวลาไม่ต่างกัน

นั่งมองเรือลากโยงลิบ ๆ ลับคุ้งเจ้าพระยาแทวเมืองปทุมฯ
นาน ๆ มีเรือด่วนมาลำ ตอนไปลุ้นซีไรต์ปีที่ตัวเองมีสิทธิ์ แอ้ม..
.ที่โอเรียลเต็ล
(อกหัก...ได้แห้ว..กลับมาหาบเบ้อเร่อ)....
ผมไปทางเรือ เห็นเรือด่วนมากมาย

เดี๋ยวนี้เรือด่วนทางไกลไม่รู้มีอยู่หรือเปล่า ที่เห็นมีแต่เรือโยงลากจูง
ลากทรายถม
เรือเหล่านี้...ผมจ้างมาขนทราย ตอนนี้ผมเป็นนายเขา บางครั้งนึกเขื่อง
ผมไม่ได้ไปดูท่าทรายที่อยุธยา น้องเสธ.เขาไป ไปเสร็จต้อง
ไปดูม็อบพีทีวีที่สนามหลวง ยามว่างเขามาดูเรือทราย เย็นไปดูม็อบ
ถ้าจะเขียนเรื่องม็อบผมจะเอาข้อมูลจากเสธ. และถ้าผมลงทุนถมทราย
ผมก็ลงทุนกับเสธ.เหมือนกัน

แล้วผมให้แนวคิดอะไรกับเสธ. ผมคงให้ได้แต่ว่า แม่น้ำสายนี้
คือชีวิตของเราชาวไทย
ผมกับเสธ.เป็นญาติกัน แม่เขาเป็นน้องแม่ผม เป็นน้าที่เคยเลี้ยงผม
เคยพาไปวัด ไปเที่ยวงานสงกรานต์มีก่อเจดีย์ทราย
ครอบครัวน้ายามออกเรือนไปก็ยังผูกพัน พ่อกับแม่เสธ ไปอยู่หุบรัก
(ฉากในนิยาย...)
ผมยังอยู่ที่บ้านไร่หมู่บ้านอีกแห่ง ห่างกันแค่ขี่จักรยานอึดใจเดียว

เรามาร่วมสร้างฉากสะพาน ถมทราย ผมเคยขนทรายเข้าวัดหว้าเอน
วัดประจำหมู่บ้าน วัดหว้าเอนเป็นวัดน้องของวัดโพรงมะเดื่อ

ทรายเป็นพวง ๆ จะมาขึ้นที่ตีนท่าวัดชินววราราม และอีกฝั่งถ้าจำไม่ผิดคือ
วัดดาวดึงษ์ เป็นวัดในจังหวัดปทุมธานีมีชาวมอญมาก ผมยังไม่ว่างสำรวจ
คุ้นแต่กับมอญแถวโพธาราม

หลวงพ่อวัดดาวดึงษ์โทรหาสถาปนิกให้เอื้อเฟื้อทรายตรงลานใน
วัดที่ไหนสักแห่ง ผมเห็นเขาตอบรับ บอกว่าไม่มีปัญหา
ผมดีใจ วัดจะมีหลักฐานเพราะบ้านช่วย
วัดอยากได้ลานทราย...
เครื่องมือหนักเรามีมาก ไม่ถึงอึดใจเป็นเสร็จ ไม่ต้องรอเทศกาล
สงกรานต์ที่ต้องใช้หนุ่มสาวร่วมแรงร่วมใจขนทรายเข้าวัด...
ซึ่งเดี๋ยวนี้...
คงไม่มีแล้ว...

ที่มา http://weblog.manager.co.th/publichome/ba-ang%20bughamton/Default.aspx

No comments:

Post a Comment