คมเคียวคมปากกา-ตำนานพลิกลูกกระเดือก

ที่มา นสพ.คมชัดลึก 26 สิงหาคม 2550

ก ารปรับเปลี่ยนแนวเพลงแบบพลิกลูกกระเดือกที่จริงก็เป็นเรื่องไม่แปลก แต่ว่าเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับตัวศิลปิน โดยเฉพาะในแง่การยอมรับของแฟนเพลง การพลิกการเปลี่ยนในแง่บวกก็ว่าเป็น พัฒนาการ เช่นเคยร้องได้ดีแต่เพลงช้า ก็มาร้องเพลงเร็วได้ดีด้วย เคยร้องแต่เพลงตลก ก็พลิกมาร้องเพลงเศร้าซึ้งได้อารมณ์ หลายคนประสบความสำเร็จตลอดกาลโดยไม่เปลี่ยนแนวเพลงหรือแนวการร้องเช่น ส มยศทัศนพันธ์, ชาญ เย็นแข, ทูล ทองใจ, สุนทราภรณ์, วินัย จุลบุษปะ, สุเทพ ว งศ์กำแหง, ผ่องศรี วรนุช, ศรคีรี ศรีประจวบ, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, ระพิน ภูไ ท, สายัณห์ สัญญา ฯลฯ นักร้องคนที่พลิกลูกกระเดือกอย่างชัดเจนลือเลื่องที่สุดสุรพลสมบัติเจริญ สุรพลสมบัติเจริญ เริ่มต้นจากร้องเพลงลูกทุ่งสำเนียงลาวเมื่อปี 2496 เป็นเพลงรำวง เลียนเสียง เบญจมินทร์ ราชาลูกทุ่งอีสานจากอุบลราชธานี จากนั้นสุรพลก็คลี่คลายมาเป็นเพลงรำวงในร่องเสียงของตัวเองเช่นในยุคเพลงเสียวไส้ (ขาขาวๆ ก็พอไหว...) แ ล้วพัฒนามาเป็นสุรพลสมบัติเจริญ แบบคลาสสิก รุ่นเพลง 16 ปีแห่งความหลัง เป็ นเพลงบลูส์ประยุกต์ เศร้า ช้า กินใจ เป็นเพลงในยุคก่อนสุรพลเสียชีวิต การพลิกลูกกระเดือกแบบสุรพลครบเครื่อง นี่เองที่ทำให้ผู้คนยอมรับเป็น ราชาเพลงลูกทุ่ง อย่างไม่ลังเล น ักร้องลูกทุ่งรุ่นคลาสสิกก่อนสุรพล สมบัติเจริญ คือคำรณ สัมบุณณานนท์ นั้นเ ริ่มต้นจากเพลงโห่ สมัยร้องประกวดงานวัด เป็นเพลงเร็วสนุกๆ แบบเพลงคาวบอย แ ล้วจึงพลิกลูกกระเดือกมาร้องเพลงเพื่อชีวิต เป็นเพลงช้า เนื้อหาเคร่งเครียด อย่าง ชายสามโบสถ์,กรรมกรรถราง ฯลฯ ค รั้นถึงยุคเพลงรำวงของเบญจมินทร์ และสุรพล สมบัติเจริญ ทำให้คำรณต้องหันมาร ้องเพลงรำวงบ้าง เช่น รำวงเมียสาวเมียแก่, รำวงมีคู่เสียเถิด (แต่งโดย สำเน ียง ม่วงทอง) แต่คำรณก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่ายุคก่อนๆ นั่นคือตำนานการพลิกลูกกระเดือกของสุรพล-คำรณ อีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนแนวเพลงเช่น สรวงสันติ, สุชาติ เทียนทอง เปลี่ยนจากแนวเพลงหวานมาเป็นเพลงสนุกได้ดี การปรับเปลี่ยนแสวงหาความสำเร็จของศิลปินไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องของการค้นคิดและมุ่งมั่นฝึกฝนพยายาม โดยทั่วไปความสำเร็จมีที่มาไม่มั่ว มีเหตุผลมากกว่าการแทงหวย ไผ่เสี้ยว นาน้ำใส