Sunday, August 20, 2006

วังบัวบาน, สถิตย์อยู่แต่ชั่วดี- พุ่มพวง ดวงจันทร์

วังบัวบาน
พุ่มพวง ดวงจันทร์
Db

สถิตย์อยู่แต่ชั่วดี
พุ่มพวง ดวงจันทร์
Fm

Bars10.7.8.
9.วังเอ๋ยวังบัวบานสุสานเทวี
ผู้มีความรักอันเหนือใคร
ฝังร่างฝังรักฝากรอยอาลัย
เอาวังน้ำเย็นเช่นเรือนตาย
วิญญาณเวียนว่ายในน้ำวัง
จากเขาลำเนาไพรสู่ในเวียงฟ้า
เกิดมาไม่พ้นอนิจจัง
เพราะซื่อถือนักว่ารักจีรัง
ไม่มีระแวงไม่เคยระวัง
ชีพนางจึงฝังสังเวยธาร
เหลือเพียงชื่อไว้เหลือเพียงดอกไม้
คล้ายหรีดมาลา
ไหลมาบูชาบัวบาน
นับวันนี่หนอที่ก่อเหตุการณ์
นี่แหละคือสุสาน
เปรียบดังสถานโลงทอง
ยินเสียงน้ำตกซ่าแว่วมาน่าฟัง
เปรียบดังแตรสังข์เสียงกลอง
เสียงหริ่งระงมลมพริ้วเป็นทำนอง
ดุจดังเสียงเพลงกล่อมเมรุทอง
ให้ผู้เจ้าของวังบัวบาน
solo...
..ยินเสียงน้ำตกซ่าแว่วมาน่าฟัง
เปรียบดังแตรสังข์เสียงกลอง
เสียงหริ่งระงมลมพริ้วเป็นทำนอง
ดุจดังเสียงเพลงกล่อมเมรุทอง
ให้ผู้เจ้าของวังบัวบาน
End


Bars9.6.7.
8.ชีวิตคนเรานั้นประหลาดล้น
ชีวิตของคนพิกลยอกย้อน
ฉากชีวิตเปลี่ยนแปรไม่แน่ไม่นอน
หากจะเปรียบหนังละคร
มีบทตอนก้าวก่ายสับสน
ชีวิตคิดไปพิเรนสิ้นดี
ชีวิตบางทีเข้าตาอับจน
จากยากแค้นกลับรวยก็มีมากคน
รวยเงินทองแล้วก็จน
ต้องอดทนตามบทตอน
ละครชีวิตปิดฉากสุดท้าย
คือฉากความตายเศร้าโศกอาวรณ์
ตายดีตายร้ายไม่มีอุธรณ์
อนุสรณ์เหลือแต่ชั่วดี
ไม่เห็นจีรังยั่งยืนสักครั้ง
ไม่พ้นต้องตายฝังปฐพี
ร่างเน่าเหม็นเปื่อยเน่าเป็นเถ้าธุลี
สถิตย์อยู่คือชั่วดี
ประดับไว้ในโลกเอย
so.lo..
..ไม่เห็นจีรังยั่งยืนสักครั้ง
ไม่พ้นต้องตายฝังปฐพี
ร่างเน่าเหม็นเปื่อยเน่าเป็นเถ้าธุลี
สถิตย์อยู่คือชั่วดี
ประดับไว้ในโลกเอย..
...............End



No comments:

Post a Comment